โฟมเปลี่ยนสีผม อันตราย ไหม

น้ำยาย้อมสีผมนั้นมีสารเคมีที่พร้อมจะทำร้ายหนังศีรษะ เพราะมีฤทธิ์ความเป็นกรดด่างในการเปลี่ยนสีผม หากทำบ่อยเกินไปก็อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ แต่สำหรับคนที่จำเป็นต้องย้อมสีผมเพื่อเสริมบุคลิก หรือปิดผมหงอกนั้น ควรพิจารณาข้อมูลของสีทำผมก่อนว่ามีคุณสมบัติดังต่อไปนี้หรือไม่ เพื่อที่จะได้ลดอันตรายที่จะทำร้ายสุขภาพของคุณให้น้อยที่สุด

น้ำยาย้อมสีผม.. เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยมากที่สุด

1. ตรวจสอบส่วนผสมว่าไม่มีสารอันตรายรุนแรง

เช็คที่ส่วนผสมข้างกล่องก่อน โดยน้ำยาย้อมผมที่ดีจะต้องไม่มีส่วนผสมของเกลือ หรือสารเคมีที่อันตราย อย่างสารตะกั่วและปรอทเป็นส่วนประกอบหลัก เพราะสารเคมีเหล่านี้จะมาทำร้ายหนังศีรษะของเรานั่นเอง

2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก อย.

พิจารณาดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีเครื่องหมายจาก อย. หรือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือไม่ และอย่าลืมเช็ควันผลิต และวันหมดอายุให้ดีเสียก่อนด้วยนะคะ

3. ดูแหล่งซื้อที่สะอาดปลอดภัย

ยาย้อมสีผมมีจำหน่ายมากมาย ทั้งตามร้านทำผม ตลาดทั่วไป รวมไปจนถึงตลาดนัด ดังนั้นแล้วแหล่งซื้อก็มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจว่าสามารถไว้ใจได้ไหม มีที่มาที่ไปหรือเปล่า อย่าหลงซื้อเพราะราคาถูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

4. ไม่ควรย้อมสีผมบ่อยเกิน 9 ครั้งต่อปี

มีผลงานวิจัยเผยว่า การย้อมสีผมบ่อยเกิน 9 ครั้งต่อปี เสี่ยงทำให้เกิดโรคมะเร็ง สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยย้อมแนะนำว่าถ้าหากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรย้อมสีผมจะดีที่สุด

See Also

ควบคุมอาหาร

บอกต่อทริคเด็ด 12 สูตรดีท็อกซ์สลายพุง ทำเองได้ ง่ายเวอร์

5. ยิ่งหมักนานยิ่งได้รับสารเคมีมาก

ยาย้อมสีผมที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อหนังศีรษะน้อยต้องเป็นน้ำยาย้อมสีผมที่อยู่ในรูปแบบโฟม เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารเคมีน้อยกว่าน้ำยาย้อมสีผมรูปแบบน้ำ และขั้นตอนในการหมักผมก็ใช้เวลาน้อยกว่า จึงทำให้ได้รับสารเคมีน้อยกว่านั่นเอง

นอกจากเคล็ดลับการเลือกน้ำยาย้อมสีผมที่ลดความอันตรายที่กล่าวมาแล้ว ผู้ที่ไม่แนะนำให้ทำสีผมเลย ได้แก่ ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ หรือผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เพราะร่างกายจะยิ่งได้รับสารเคมีเข้าไปสะสม และอาจส่งผลทำร้ายสุขภาพให้แย่ลงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจย้อมสีผมก็ควรคิดให้ดีๆ ก่อนนะคะ

การเปลี่ยนสีผม เป็นกระแสนิยมที่เห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนสีผมตามแฟชั่น เสริมบุคลิกภาพ เพิ่มความโดดเด่นให้ใบหน้า ซึ่งมีทั้งแบบการที่เราซื้อผลิตภัณฑ์ย้อมผมมาเปลี่ยนสีผมเอง หรือเข้าร้านเสริมสวยให้มืออาชีพจัดการให้ 

การเปลี่ยนสีผมแม้จะได้ความสวยงามที่ต้องการ แต่หากใช้อย่างไม่ระวัง ไม่ทำตามที่ฉลากข้างผลิตภัณฑ์ระบุ หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ อาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้

ยาย้อมผมสุดมหัศจรรย์ เปลี่ยนสีได้ตามสภาพแวดล้อม

ผมหงอกก่อนวัย เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ต้องทำความเข้าใจ

ชนิดของผลิตภัณฑ์ย้อมผม
แบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลัก ๆ ได้แแก่
1.แบบชั่วคราว เป็นผลิตภัณฑ์ย้อมผมชนิดที่เคลือบสีไว้บนพื้นผิวของเส้นผม คงทนอยู่ได้ไม่นาน และอาจหลุดออกหลังสระผมเพียง 1-2 ครั้ง
2.แบบกึ่งถาวร เป็นผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่แทรกซึมลึกเข้าไปในเส้นผม และมีความคงทนนานระดับหนึ่ง โดยสีอาจหลุดออกหลังสระผมไปประมาณ 5-10 ครั้ง
3.แบบถาวร (ออกซิเดชัน) สีผมจะคงอยู่อย่างถาวรจนกว่าผมใหม่จะงอกขึ้นมา 

ดังนั้น เราจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ย้อมผม ควรปฏิบัติตามข้อระวังดังนี้
1.ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ ตามที่ระบุในฉลากผลิตภัณฑ์ เพราะอาจทำให้แพ้รุนแรง
       ตัวอย่างอาการแพ้น้ำยาย้อมผม
          -ผิวหนังบริเวณคอหรือหนังศีรษะเริ่มแสบ / คัน
          -มีแผลพุพองจำนวนมาก
          -ใบหน้าบวมเล็กน้อยหรือรุนแรง
          -มีผื่นแดงขึ้น
          -ปาก ลิ้น และคอบวม จนอาจหายใจหรือกลืนอาหารลำบาก
          -ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
          -หมดสติ เป็นต้น
     ซึ่งหากมีอาการแพ้รุนแรงควรพบแพทย์ทันที
2.อย่าให้เข้าตา เพราะอาจทำให้ตาบอดได้
3.อ่านฉลากและทำตามวิธีใช้อย่างถูกต้อง
4.สวมถุงมือ นอกจากจะป้องกันมือเราเปื้อนน้ำยาย้อมผม ยังเป็นการป้องกันการสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง ซึ่งอาจจะเกิดการแพ้ได้
5.ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี
6.ห้ามเกาศีรษะอย่างแรงระหว่างย้อมผม เพราะอาจเกิดรอยถลอกเป็นแผล หรือเม็ดผื่นแดง ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้
7.ห้ามใช้เมื่อหนังศีรษะมีแผล หรือมีรอยแดงที่ใบหน้า
8.ห้ามใช้ย้อมขนคิ้ว-ขนตา
9.ไม่ทิ้งน้ำยาย้อมผมบนหนังศีรษะนานเกินเวลาที่ระบุในฉลาก เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นอันตรายได้
10.หยุดใช้ทันทีเมื่อมีผื่น คัน ปวดแสบปวดร้อน เมื่อมีอาการ ต้องล้างออกด้วยน้ำทันที

ที่สำคัญ ก่อนซื้อทุกครั้ง ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่มีเลขที่ใบรับจดแจ้งจาก อย. และทดสอบการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง หากพบอาการข้างคียงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผม หยุดใช้และรีบไปพบแพทย์