ใครเล่าเรื่องเก่ง…คนนั้นชนะ! เรียนรู้เทคนิคการตอบคำถามสัมภาษณ์งานเมื่อถูกขอให้ ‘แนะนำตัวเอง’ เล่าประวัติงานยังไงให้ดูไม่น่าเบื่อดีนะ Show อย่าเพิ่งตาย…ชั้นเพิ่งเริ่ม! เหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการสัมภาษณ์งานไปแล้ว ที่เราทุกคนต้องโดนยิงคำถามให้แนะนำตัวเพื่อเปิดหัวข้อสนทนาอย่างเป็นทางการ ทำไมคำถามนี้จึงสำคัญนัก? ในมุมมองของผู้สัมภาษณ์แล้ว การแนะนำตัวเองเป็นการดึงเอาข้อมูลที่จำเป็นออกมาคุยกัน กลั่นกรองจากประสบการณ์การทำงานบนเรซูเม่ที่ยืดยาว สิ่งที่คุณพูดถึงจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาหัวข้อต่อไป พูดง่ายๆ ก็คือ ช่วยกรอบแนวทางการสัมภาษณ์และช่วยผู้สัมภาษณ์ยิงคำถามที่สงสัยในเรื่องเล่าของคุณเอง รูปแบบคำถามที่เป็นไปได้ : หัวใจสำคัญของการตอบคำถามเหล่านี้ ไม่ได้อยู่ที่เรา ‘อยากบอกอะไร’ แต่เป็นผู้สัมภาษณ์ ‘อยากได้ยินอะไร’ คุณต้องใช้โอกาสนี้อย่างชาญฉลาดต้อนให้ผู้สัมภาษณ์มีส่วนร่วมและอินกับคำตอบ เหมือนภาพยนตร์ที่เนียน Tie-in สินค้าเข้าไปยังไงยังงั้น โดยสูตรในการแนะนำตัวเอง ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ดังนี้ เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ1. Who You Are | คุณคือใครเนื่องจากเป็นคำถามแรกในขั้นตอนการสัมภาษณ์ คุณจึงต้องแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการสักหน่อย พอเป็นพิธีให้พวกเขารู้ว่า คุณเป็นใคร มาจากไหน โดยไม่จำเป็นต้องร่ายยาวเป็นอัตชีวประวัติตั้งแต่สมัยเด็ก ผู้สัมภาษณ์ไม่ได้อยากรู้พื้นเพขนาดนั้น ใช้เวลาส่วนนี้ไม่เกิน 30 วินาที ก็เพียงพอแล้วเพราะเป็นคำถามแรกสุดแต่ไม่ได้สำคัญที่สุด จบใหม่เริ่มจากการแนะนำตัวเองด้วย ชื่อ-นามสกุล รวมถึงชื่อเล่น ตามมาติดๆ กับประวัติการศึกษาที่เป็นระดับการศึกษาสูงสุด หากมีปริญญาหลายใบให้เรียงจาก ปริญญาตรี > ปริญญาโท > ปริญญาเอก ตามลำดับ เน้นชื่อสถาบันและคณะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานให้ชัดเจน มีประสบการณ์ตามหลักสากล ให้แนะนำ ชื่อ-นามสกุลตามด้วยชื่อเล่น (แต่กรณีที่เป็นตำแหน่งงานระดับผู้บริหาร หรืองานที่ต้องใช้ความน่าเชื่อถืออาจข้ามชื่อเล่นไปก็ได้) ปกติแล้วตำแหน่งงานที่ต้องการคนที่มีประสบการณ์มาไม่ได้เน้นสถาบันการศึกษาสักเท่าไหร่ ซึ่งการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็นสิ่งที่ทุกคน ‘ควรมี’ อยู่แล้วจึงไม่ต้องให้ความสำคัญมากนัก อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าบริบทสังคมไทยให้ความสำคัญกับการศึกษาในต่างประเทศและปริญญาโทหรือเอกขึ้นไป หากคุณมีคุณสมบัติข้างต้นก็ยังสามารถนำเสนอได้อยู่ 2. Expertise Highlight | คุณเก่งอะไรเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่ HR ตั้งหน้าตั้งตาคอยที่จะฟังคำตอบมากที่สุด เผลอๆ คุณแนะนำตัวยังไม่ทันจบดีก็ถูกยิงคำถามใหม่ๆ ซะแล้ว คุณควรใช้เวลาตรงส่วนนี้ให้มากแต่ยังคงไว้ซึ่งความกระชับ สั้น ได้ใจความ ภายในเวลา 1 – 2 นาที จบใหม่นำเสนอจุดแข็งของคุณจากการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ครอบคลุมทั้ง Soft-Skills (ทักษะทางสังคม) และ Technical Skills (ทักษะเฉพาะด้าน) ทำให้พวกเขาเห็นภาพว่าคุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้และในขณะเดียวกันก็ยังมีทักษะทางเทคนิคที่จำเป็นในตำแหน่งงานอันจะช่วยส่งมอบงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณอาจอ้างอิงผลงานในอดีตที่ผ่านมาอย่างชมรม กิจกรรมอาสา งานพาร์ทไทม์ ฟรีแลนซ์ หรือจากประสบการณ์การฝึกงานประกอบ ยกตัวอย่างสั้นๆ (เวอร์ชั่นของคุณสามารถจัดเต็มยาวกว่านี้ได้) เช่น
มีประสบการณ์ปัญหาหนักใจของคนที่ผ่านงานมาหลายที่ คือ ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นเล่าประวัติการทำงานจากที่ไหนก่อน มีปัญหาในการเรียงลำดับเหตุการณ์และการสื่อสารออกมาให้ผู้สัมภาษณ์เข้าใจดูเป็นเรื่องยาก เคล็ดลับในการเล่าเรื่องนั้นง่ายนิดเดียว เพียงคุณจำสูตรนี้ให้ขึ้นใจ Present > Past > Future (หัวข้อที่ 3) พูดถึงสถานประกอบการปัจจุบันก่อนแล้วย้อนกลับไปยังบริษัทก่อนหน้าที่มีผลงานโดดเด่นหรือมีความเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร/อุตสาหกรรมที่สอดคล้อง ก่อนจะสรุปด้วยสิ่งที่คุณกำลังมองหาในหัวข้อที่ 3 ต่อไป
3. Why You’re Here | ทำไมคุณมาที่นี่ปิดท้ายคำถามนี้ด้วยการสร้าง First Impression ให้กับผู้สัมภาษณ์แบบสวยๆ ทำไมคุณถึงมาสัมภาษณ์งานที่นี่…ตำแหน่งนี้ (คลิก) เป็นการสรุปใจความสำคัญที่คุณเล่ามาในหัวข้อที่ 1 และ 2 ได้อย่างลงตัวที่สุด ชิงบอกเป้าหมายในการสัมภาษณ์งานก่อนที่ผู้สัมภาษณ์จะถามใน 30 วินาที – 1 นาที จบใหม่เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีพาสชั่นในการทำงานอย่างคุณ ควรย้ำเตือนความสนใจในตำแหน่งงานที่สมัคร มีการวางเป้าหมายหรือเห็นตัวเองในอนาคตในสายงานนี้ ณ บริษัทแห่งนี้อย่างไรบ้าง คลายความสงสัยของ HR ว่าทำไมบริษัทถึงต้องรับเราเข้าทำงานนั่นเอง มีประสบการณ์จากหัวข้อที่แล้ว ส่วนนี้ถือเป็น Future โดยให้ระบุเป้าหมายในการมาสัมภาษณ์งานชัดๆ ให้พวกเขาเห็นภาพว่าหากคุณเข้ามาทำงานแล้วจะมีส่วนช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในด้านใด ซึ่งตามหลักแล้วแต่ละบริษัทจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งคือ
อยากพูดให้ไหลลื่นไม่ใช่เรื่องยาก การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คุณต้องฝึกพูดกับเพื่อนให้เกิดความลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากที่สุด พยายามอย่าพูดหรือท่องตามเรซูเม่แต่เป็นการเล่าเรื่องให้พวกเขามีส่วนร่วมในเรื่องเล่าของคุณ อันเป็นหัวใจหลักในการสัมภาษณ์ให้เกิดความประทับใจ |