คือ สมมติฐานที่ได้รับการตรวจสอบและทดลองหลายครั้ง จนสามารถอธิบายข้อเท็จจริงอื่นๆ ที่คล้ายกันได้ ทฤษฎีอาจเปลี่ยนแปลงได้หากได้รับข้อมูลหรือข้อเท็จจริงใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ทฤษฎีเซลล์ ทฤษฎีวิวัฒนาการ ทฤษฎีการคัดเลือกตามธรรมชาติกฎ (Law) คือ ความจริงพื้นฐาน สามารถทดลอบได้และได้ผลเหมือนเดิมทุกครั้งโดยไม่มีข้อโต้แย้ง เช่น กฎของเมนเดล กฎความทนของเชลฟอร์ด ในขั้นของการตรวจสอบสมมุติฐานจะต้องมีการตั้งตัวแปรเกิดขึ้นเพื่อตรวจสอบสมมุติฐานที่เราได้ตั้งไว้ในขั้นก่อนหน้า ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของ “ตัวแปร” กัน ตัวแปรต้น (ตัวแปรอิสระ) คือ ตัวแปรที่กำหนดให้ต่างกันเพื่อทดสอบสมมุติฐาน ตัวแปรตาม คือ ผลของตัวแปรต้น ตัวแปรควบคุม คือ ตัวแปรที่อาจส่งผลทำให้การทดลองของเราคลาดเคลื่อน ดังนั้นเราจึงต้องจัดให้ตัวแปรนี้เหมือนกันในทุกกรณีเพื่อไม่ให้กระทบต่อผลการทดลอง หลายคนยังสงสัยอยู่ใช่ไหมครับ ว่าไอ้สมมติฐานและตัวแปรทั้ง 3 ตัวนี้มีความหมายว่าอย่างไร ทำไมเราต้องรู้ มีความสำคัญอย่างไรกับงานของเรา ซึ่ง สมมติฐาน ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุม มีความสำคัญต่อการทำงานวิจัยอย่างมาก เพราะการตั้งสมมติฐานใด ๆ ต้องมีการตั้งตัวแปรทั้งสามตัว เพื่อทดสอบสมมติฐานของเรา ไปดูความหมายกันเลยครับ สมมติฐาน (Hypothesis) คือ: การคาดคะเนผลการทดลอง เพื่อตอบปัญหาวิจัย ซึ่งได้จากการศึกษาข้อมูลทฤษฎี เอกสารวิชาการ ตัวแปรต้น หรือ ตัวแปรอิสระ (Independent variable) คือ: ตัวแปรที่เรากำหนดให้มีความแตกต่างกันเพื่อทดสอบสมมติฐาน หลายคนคงสงสัยใช่ไหมคะว่าตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุมนั้นแตกต่างกันอย่างไรก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนค่ะว่า ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุม หมายถึงอะไร งั้นเราไปดูกันเลย ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุม หมายถึง การบ่งชี้หรือการบอกลักษณะตัวแปรที่มีในการทดลองนั้น ๆ พอเข้าใจแล้วใช่ไหมคะ ว่าแต่ละตัวแปรหมายถึงอะไร ดีเลยค่ะ แต่ถ้าให้ทายคงจะมีคนสงสัยอีกใช่ไหมคะ ว่า “ตัวแปร” คืออะไร นั้นไงจริง ๆ ด้วยไม่ต้องสงสัยนะค่ะ เพราะสิ่งที่จะได้รู้ต่อไปนี้จะไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับแต่ละตัวแปรเลยค่ะ 1. ตัวแปรต้น คือ สิ่งที่แตกต่างหรือไม่เหมือนกันในการทำการทดลอง ซึ่งตัวแปรนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติ 2. ตัวแปรตาม คือ ผลที่ได้จากการทดลอง จะอยู่ในขั้นสรุปผลการทดลอง 3. ตัวแปรควบคุม คือ สิ่งที่เหมือนกันในการทำการทดลอง ตัวแปรนี้จะอยู่ในขั้นที่บอกว่ามีอุปกรณ์ใดบ้างที่ใช้ในการทำการทดลอง แต่บางทีอาจจะอยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติก็ได้นะค่ะ ต้องลองสังเกตดูค่ะ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่แตกต่างกันในแต่ละตัวแปรนะค่ะ แต่ถ้าเพื่อความเข้าใจและความแม่นยำในการที่จะนำไปใช้ เราต้องมาลองดูตัวอย่างการแยกแต่ละตัวแปรกันก่อนค่ะไปกันเลย ตัวแปร หมายถึง คุณลักษณะหรือคุณสมบัติของเฉพาะของสิ่งที่ได้จากการสังเกต วัด สอบถามจากหน่วยที่ศึกษาที่มีค่าได้หลายค่าและเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือสิ่งที่ไม่มีชีวิตก็ได้ เช่น อายุ เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ ตำแหน่งงาน เป็นต้น เมื่อหน่วยศึกษาแตกต่างกัน ข้อมูลที่ได้ก็แตกต่างกันออกไป เช่น ตัวแปร คือ อายุ ข้อมูลที่ได้จากหน่วยที่ศึกษาอาจมีอายุเป็น 18, 20, 30 เป็นต้น หรือ ตัวแปรคือระดับการศึกษา ข้อมูลที่ได้จากหน่วยศึกษาอาจเป็นระดับมัธยมศึกษา ปริญญาตรี ปริญญาโท เป็นต้น หากหน่วยที่ได้ศึกษาใดก็ตามให้ข้อมูลเหมือนกันหมดหรืออย่างเดียวจะไม่เรียกหน่วยศึกษานั้นว่าตัวแปร เช่น ความเร็วของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานเท่ากันหมด ความเร็วของเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ไม่จัดว่าเป็นตัวแปร เป็นต้น สำหรับตัวแปรทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความคิดเห็น ความพึงพอใจ การมีส่วนร่วม เป็นต้น ประเภทของตัวแปร โดยทั่วไปตัวแปรจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. ตัวแปรเชิงคุณภาพ (Qualitative Variable) 2. ตัวแปรเชิงปริมาณ (Quantitative Variable) ตัวแปรเชิงปริมาณ คือตัวแปรที่ประกอบด้วยข้อมูลที่เป็นตัวเลข เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นรูปธรรมสามารถวัดข้อมูลสามารถแสดงออกมาในรูปสถิติได้ ใช้แทนขนาดหรือปริมาณ เช่น อายุ ประกอบด้วยอายุต่าง ๆ หน่วยเป็นปี เป็นต้น ตัวแปรเชิงคุณภาพ หรืออาจเรียกว่าตัวแปรเชิงกลุ่ม คือ ตัวแปรที่ประกอบด้วยข้อมูลที่ไม่สามารถวัดออกมาเป็นตัวเลขได้ เช่น เพศ อายุ รายได้ เชื้อชาติ ความคิดเห็น เจตคติ ความคิดเห็น การมีส่วนร่วม ความเป็นผู้นำ ทัศนคติ ตัวอย่าง เพศ จะประกอบด้วยเพศต่าง ๆ ไม่มีหน่วยวัด แต่สามารถแทนค่าเป็นตัวเลขได้โดยไม่สามารถนำมาคำนวณแทนได้ เช่น เพศชายให้แทนค่าเป็นหมายเลข 1 เพศหญิงให้แทนค่าเป็นหมายเลข 2 เป็นต้น เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นนามธรรม ลักษณะและชนิดของตัวแปร ในการวิจัยผู้วิจัยจำเป็นต้องจำแนกตัวแปรตามการวิเคราะห์ว่าตัวแปรทั้งหมดกี่ตัว มีอะไรบ้าง และเป็นตัวแปรชนิดใดบ้าง ซึ่งสามารถจำแนกตัวแปรได้ ดังนี้ 1. ตัวแปรต้นหรือ ตัวแปรอิสระ (Independent Variable) คือตัวแปรที่เกิดขึ้นก่อนหรือเป็นตัวแปรที่เป็นเหตุ ทำให้เกิดผลตามมา 2. ตัวแปรตาม (Dependent Variable) คือตัวแปรที่เกิดขึ้นเนื่องจากตัวแปรต้น หรือเป็นตัวแปรผล อันเกิดจากเหตุ ตัวอย่างของตัวแปรอิสระกับตัวแปรตาม เช่น การศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมเชิงจริยธรรมของผู้นำท้องถิ่น ตัวแปรอิสระ ประกอบด้วย 1) เพศ มี 1 เพศ คือ เพศชาย เพศหญิง 2) ตำแหน่ง มี 3 ตำแหน่ง คือ นายก อบต. ประธานสภา อบต. ส.อบต. ตัวแปรตาม ประกอบด้วย 1) พฤติกรรมด้านการเสียสละ 2) พฤติกรรมด้านการมีวินัย 3) พฤติกรรมด้านความขยันหมั่นเพียร 4) พฤติกรรมด้านความซื่อสัตย์ 5) พฤติกรรมด้านความมีน้ำใจนักกีฬา 6) พฤติกรรมด้านการให้ความร่วมมือ 7) พฤติกรรมด้านการรู้จักช่วยตนเอง ตัวอย่างการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบการมีวินัยแห่งตนและผลสัมฤทธิ์ทางการอบรมผู้นำ ของ ส.อบต.ตำบลสะเดียง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างวิธีการอบรมแบบกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์กับการอบรมแบบบรรยาย ตัวแปรต้น คือ วิธีการอบรม ซึ่งมี 1 วิธี คือ 1) วิธีอบรมแบบกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ 2) วิธีอบรมแบบบรรยาย ตัวแปรตาม คือ 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการอบรมผู้นำ 2) ความมีวินัยแห่งตน 3. ตัวแปรควบคุม (Control Variable) เป็นตัวแปร คือ ตัวแปรที่เราต้องจัดให้เหมือนกันทั้งหมดในชุดทดลอง 4. ตัวแปรแทรกซ้อนหรือเรียกว่าตัวแปรเกิน (Extraneous Variable) เป็นตัวแปรที่ไม่ต้องการศึกษาของงานวิจัยเรื่อง หนึ่ง ๆ ในขณะนั้น มีลักษณะเหมือนตัวแปรอิสระ ตัวแปรแทรกซ้อนนี้จะส่งผลมารบกวนตัวแปรอิสระที่ศึกษา ทำให้ผลการวัดค่าตัวแปรคลาดเคลื่อนไปได้ ตัวแปรชนิดนี้จึงต้องทำการควบคุมให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ตัวแปรชนิดนี้ผู้วิจัยคาดการณ์ได้ว่าจะมีอะไรบ้าง จึงสามารถทำการควบคุมได้ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น ในการทดลองการอบรมที่กล่าวมาแล้ว เพื่อจะศึกษาว่า ผู้นำจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการอบรมแตกต่างกันหรือไม่ สิ่งที่เป็นตัวแปรแทรกซ้อนจะได้แก่ วิทยากร ถ้าใช้วิทยากรคนละคนอาจจะมีผลทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการอบรมของผู้นำต่างกันได้ ดังนั้นจึงต้องควบคุมโดยใช้วิทยากรคนเดียวกัน นอกจากนั้น พื้นฐานของผู้เข้าอบรม ทัศนคติและความสนใจของผู้เข้าอบรมที่มีต่อวิธีการอบรมกระบวนการวิชาที่ใช้อบรม เพศของผู้เข้าอบรม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแปรแทรกซ้อน ผู้วิจัยต้องทำการควบคุมตัวแปรเหล่านี้ให้เกิดมีขึ้นน้อยที่สุด เพื่อให้ตัวแปรตามที่วัด เกิดจากการกระทำของตัวแปรอิสระแต่เพียงอย่างเดียว ผลการวิจัยจึงจะถูกต้องมากที่สุด ตัวอย่างเรื่อง ตัวแปร ตัวอย่างที่ 1 เด็กชายบอยต้องการศึกษาว่าดินต่างชนิดกันมีผลต่อความสูงของต้นพืชหรือไม่ ทำการทดลองโดยปลูกต้นถั่วเขียว ลงในกระถางที่มีขนาดเท่าๆกัน โดยกระถางแต่ละใบใส่ดิน 3 ชนิด คือ ดินเหนียว ดินร่วน ดินทราย รดน้ำปกติ ทำการทดลองเป็นเวลาสามสัปดาห์ ตัวแปรต้น คือ ชนิดของดินที่เราใช้ปลูกต้นถั่วเขียวนั่นเอง (เปลี่ยนชนิดของดิน เพื่อดูความสูงของต้นถั่วเขียวว่าเหมือนกันหรือไม่) ตัวแปรตาม คือ ความสูงของต้นถั่วเขียว (เป็นผลของการทดลอง เป็นสิ่งที่เราต้องเก็บค่า) ตัวแปรควบคุม คือ พันธุ์ของถั่วเขียวที่ปลูก, ปริมาณน้ำที่รด, ปริมาณแสง, ขนาดกระถาง เป็นต้น (เป็นสิ่งที่เราต้องทำให้เหมือนกัน เป็นสิ่งที่เราต้องควบคุม เพราะส่งผลต่อการทดลอง สมมติว่าถ้ากระถางหนึ่งรดน้ำ อีกกระถางหนึ่งไม่ได้รด ก็อาจทำให้ความสูงของต้นถั่วเขียวแตกต่างกันก็ได้ ) ตัวอย่างที่ 2 การสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านคำที่ใช้อักษร ร ล ว ควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตัวแปรต้น คือ แบบฝึกทักษะการอ่านคำที่ใช้อักษร ร ล ว ควบกล้ำ ตัวแปรตาม คือ ความสามารถในการอ่านคำที่ใช้อักษร ร ล ว ตัวแปรควบคุม คือ พื้นฐานของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 ตัวอย่างที่ 3 การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมของนักเรียนชั้นมัธยมปลาย โรงเรียนราชวินิต ในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่หน้าศูนย์ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์โดยใช้สื่อป้ายนิเทศแบบอินโฟกราฟฟิก ตัวแปรต้น คือ สื่อป้ายนิเทศแบบอินโฟกราฟฟิก ตัวแปรตาม คือ ความรับผิดชอบต่อสังคมของนักเรียนชั้นมัธยมปลาย โรงเรียนราชวินิต ตัวแปรควบคุม คือ ทัศนคติความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมของนักเรียน ตัวอย่างที่ 4 ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีที่มีอิทธิพลต่อลักษณะของการประกอบอาชีพในสังคมของคนชนบท ตัวแปรต้น คือ ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่ดี ตัวแปรตาม คือ ลักษณะของการประกอบอาชีพในสังคมของคนชนบท ตัวแปรควบคุม คือ เจตคติของคนที่อยู่ในสังคมชนบท ตัวอย่างที่ 5 การสำรวจความคิดเห็นเรื่อง นักเรียนที่ผู้ปกครองรับราชการ และนักเรียนที่ผู้ปกครองประกอบอาชีพเกษตรกรรมมีพฤติกรรมความเป็นผู้นำแตกต่างกัน ตัวแปรต้น คือ นักเรียนที่ผู้ปกครองรับราชการ และนักเรียนที่ผู้ปกครองประกอบอาชีพเกษตรกรรม ตัวแปรตาม คือ พฤติกรรมความเป็นผู้นำ ตัวแปรควบคุม คือ ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องความมีผู้นำของนักเรียน, การปลูกฝังทัศนะคติของนักเรียนจากทางบ้าน |