วิธีคุยกับลูกค้า ทางโทรศัพท์

ส่วนใหญ่แล้วแต่ละองค์กรหรือบริษัทมักจะต้องมีพนักงานรับโทรศัพท์ที่ค่อยติดต่อประสานงานหรือพูดคุยกับลูกค้าที่มาติดต่องาน พนักงานรับโทรศัพท์จึงเหมือนเป็นด่านแรกที่ต้องได้พูดคุยกับลูกค้าเมื่อมาติดต่อในเรื่องต่างๆ พนักงานรับโทรศัพท์จึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับองค์กร เพราะเป็นคนที่สามารถช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี บางครั้งลูกค้าอาจจะมาติดต่อซื้อสินค้าหรือมาใช้บริการของบริษัทก็เนื่องจากการได้พูดคุยกับพนักงานที่รับโทรศัพท์แล้วเกิดประทับใจ ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องคอยรับโทรศัพท์เพื่อให้ลูกค้าหรือบุคคลภายนอกติดต่อในเรื่องต่างๆ ของบริษัท ควรต้องทราบว่าคุณคือคนสำคัญที่สามารถทำให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการบริษัท คุณจึงควรรู้จักวิธีการพูดเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการรู้สึกประทับใจ พี่เเอปเปิ้ลเฮลสเตอร์มีวิธีการที่สามารถทำตามได้ง่ายๆดังต่อไปนี้

  1. พยายามรับโทรศัพท์ให้ได้เมื่อโทรศัพท์ดังครั้งที่สอง การรับโทรศัพท์เร็วเกินไปอาจทำให้อีกฝ่ายตั้งตัวไม่ทัน ส่วนการรับโทรศัพท์ช้าเกินไป อาจทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดได้เช่นกัน
  2. รับสายด้วยน้ำเสียงและถ้อยคำที่เป็นมิตร น่าฟัง อย่าลืมยิ้ม ยิ้ม และยิ้ม แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เห็นหน้าคุณก็ตาม
  3. ถามชื่อผู้ที่โทรเข้ามา เพื่อแสดงถึงความเอาใจใส่ที่คุณมีให้กับเขา และอย่าลืมว่า เมื่อทราบชื่อเขาแล้ว ควรเรียกชื่อเขาเวลาที่สนทนากันด้วย
  4. พูดให้ช้าและชัดเจน จะป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการสื่อสารจากการจับประเด็นไม่ได้ หรือไม่ครบถ้วน ที่สำคัญไม่ควรเคี้ยวหรืออมสิ่งใด ๆ ในปากขณะสนทนา
  5. ถ้าปกติคุณเป็นคนเสียงดัง ควรลดเสียงลงขณะสนทนาทางโทรศัพท์
  6. ถือโทรศัพท์ให้ห่างจากปากประมาณ 2 นิ้วมือกั้น
  7. เมื่อต้องการให้ผู้ที่โทรเข้ามารอสาย ควรขออนุญาตเสมอ และควรเตรียมคำตอบเอาไว้ด้วย หากอีกฝ่ายถามเหตุผล เมื่อสิ้นสุดการพักสาย ควรกล่าวขอบคุณเขาด้วยที่กรุณารอสาย
  8. เมื่อคุณโอนสาย และไม่มีผู้รับทราบ ควรบอกให้ผู้ที่โทรมาทราบ และถามว่าเขาต้องการฝากข้อความหรือไม่ ไม่ควรปล่อยให้ผู้ที่โทรมารอนาน
  9. หากผู้ที่โทรเข้ามาต้องการฝากข้อความ ควรจดบันทึกชื่อและหน่วยงานของเขา วันเวลาที่โทรเข้ามา หัวข้อที่ต้องการสนทนา หากเขาต้องการให้โทรกลับ ควรจดหมายเลขโทรศัพท์ของเขาไว้ด้วย
  10. ก่อนวางสาย คุณต้องมั่นใจว่า คุณได้ตอบคำถามของเขาครบถ้วนแล้ว
  11. ควรจบบทสนทนาให้น่าประทับใจเช่นกัน เช่น ยินดีรับใช้ครับ/ค่ะ
  12. สุดท้ายควรให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายวางหูก่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณไม่ได้อยากรีบวางสายของเขา

ถ้าคุณเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ที่สามารถทำสิ่งต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้วได้เป็นอย่างดี รับรองได้เลยว่าลูกค้าหรือผู้ที่ติดต่อเข้ามาจะต้องรู้สึกประทับใจคุณไม่รู้ลืม

เมื่อคุณต้องการหาลูกค้ารายใหม่ โดยเฉพาะวางการ B2B ที่เป็นการขายสินค้าหรือบริการไปยังธุรกิจอื่นๆ คุณจำเป็นต้องมีเทคนิคที่ดีในการสนทนา เพราะโอกาสที่จะถูกปฏิเสธมีสูงมาก ด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น

- คุณเป็นคนแปลกหน้า เป็นบริษัทที่ไม่เคยได้ยินชื่อ #Strangers

แน่นอนครับ ลองนึกภาพคุณเดินไปคุยกับคนที่ไม่รู้จักบนท้องถนน ขนาดเห็นหน้าเห็นตากัน ยังถูกปฏิเสธได้ง่าย ๆ เลย นับประสาอะไรกับการที่ได้ยินแค่เสียง ยิ่งไปเจอคนรับสายขี้รำคาญ หรือกำลังหงุดหงิด ยุ่งๆ อยู่นีจบเอาง่ายๆ

- บริษัทของคุณไม่มีชื่อเสียง #Reputation

ถ้าคุณเป็น บริษัท ซีพี หรือ บริษัทบุญรอด หรือบริษัท dentsu, ogilvy หรือ google, microsoft หรืออย่างน้อยคุณมีสินค้าของบริษัทเหล่านี้ไปแนะนำตัวก่อน แล้วโทรไปหาลูกค้า อย่างน้อยๆ ปลายสายต้องชะงักและพร้อมที่จะฟังบ้างหละ แต่นี่ไม่ใช่ บริษัทคุณคือ บริษัท A จำกัด หจก B จำกัด หรือสินค้าและบริการของคุณก็ไม่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแล้วใครจะสนใจคุณ

- คนรับสายปลายทาง ยุ่งมาก #Busy

หลายๆ บริษัท operator ทำหน้าที่เป็นพนักงาน GA (General Affairs) ด้วย เค้าเหล่านี้ก็จะมีหน้าที่ในการทำงานหลายอย่าง เช่น รับสายโทรศัพท์ เติมกระดาษถ่ายเอกสาร รับของจาก messenger ทำไฟล์วัสดุที่ต้องเบิกยืม ฯลฯ ดังนั้น เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะคุยแบบรีบคุยรีบวาง ยิ่งถ้าคุณดักทางไม่ถูกก็จบเลย

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อคุณมีข้อจำกัดและมีโอกาสที่จะต้องเจอกับคนปลายสายแบบนี้แล้ว ผมมี Tips เล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้การทำ Cold calling ของคุณได้ไปต่อใน step หรือขั้นตอนต่อไปได้ ดังนี้

#แนะนำตัวด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำเข้มนิดๆไม่ต้องรีบสุภาพแต่ก็อย่านอบน้อมจนกลายเป็นกลัว

ตั้งสติ ไม่ต้องกลัว คิดว่าเค้าไม่เห็นคุณ ไม่เคยเจอหน้าคุณ คุณก็ไม่เห็นเค้า และพวกคุณก็ไม่รู้จักกัน เพื่อไม่ให้ตื่นเต้น ค่อยๆ พูดแนะนำตัวไป เช่น

"สวัสดีครับ ผมโทรจากบริษัท........ อยากจะขอติดต่อกับแผนกไอทีครับ"

"สวัสดีคะ ดิฉันติดต่อจากบริษัท.......อยากจะติดต่อการตลาด.

ปล ห้ามแทนตัวเองว่า "หนู" เด็ดขาดแม้ว่าคุณจะเป็น "เด็กใหม่" พึ่งเรียนจบก็ตาม

ถ้าพูดด้วยรูปแบบหรือน้ำเสียงที่น้อบน้อมหรือนุ่มนิ่มเกินไป คุณจะถูกกดดันกลับ่ทันที คุณควรพูดแบบค่อนข้าง formal หรือให้เป็นทางการ เพื่อแสดงถึงความจริงจังในการติดต่อและเค้าอาจจะนึกว่าคุณเป็นผู้บริหารด้วยซ้ำ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

#วัตถุประสงค์ในการติดต่อต้องเตรียมให้ดี

ข้อนี้สำคัญมาก ปลายสายมักจะถามเสมอ ว่าติดต่อมาทำไม หรือบางคนก็จะถามเลยว่ามาเสนอสินค้าใช่ไหม สิ่งที่คุณจะตอบได้ตรงนี้ได้แก่

Sales: สวัสดีครับ ติดต่อจากบริษัท.......... รบกวนโอนสายฝ่ายไอทีครับ

ปลายสาย: ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรคะ ต้องการเสนอสินค้าหรือเปล่า

Sales: ทางเราต้องการอัพเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยฝ่ายไอทีลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีขึ้น 3 เท่่า ทางเรามีให้บริการกับบริษัทใหญ่ๆ ด้วย (รวมถึงคู่แข่งของบริษัทนี้ด้วยก็จะดีมาก)

Sales: สวัสดีครับ ติดต่อจากบริษัท.......... รบกวนโอนสายฝ่ายไอทีครับ

ปลายสาย: ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรคะ ต้องการเสนอสินค้าหรือเปล่า

Sales: ทางผมเองเคยติดต่อกับคุณ.....ในเรื่องเกี่ยวกับ.........พอดีว่าลืมขอเบอร์โทรติดต่อไว้ครับ รบกวนโอนให้ทีครับ

(ปล ข้อนี้คุณควรรู้ชื่อของบุคคลที่ต้องการติดต่อ ซึ่งอาจจะหาได้จาก linkedin หรือgoogle ส่วนมากจะเป็นระดับบริหารที่จะหาชื่อได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องเคยติดต่อมาก่อน ต้องคุยให้เหมือนเคยติดต่อมาแล้ว คุณถึงจะได้ไปต่อ)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

#ข้อควรระวังสำคัญ การตอบว่า "มาเสนอสินค้า" คือ คำตอบที่ง่ายและเป็นคำตอบที่มีโอกาสมากกว่า 90% ที่คุณจะไม่ได้ไปต่อ ด้วยวิธีการต่างๆ ของปลายสาย เช่น

ปลายสายจะเอาอีเมลกลางของบริษัท ซึ่งเป็นอีเมลที่แทบจะไม่มีใครเคยเปิดดู ให้คุณส่งข้อมูล

ปลายสายอาจจะให้ติดต่อกับจัดซื้อ ซึ่งก็คล้ายๆ กับข้อข้างต้น หรือต่อให้ได้ไปต่อ ก็เสียเวลามากขึ้น และอาจไม่เจอคนที่ใช่

ปลายสายอาจจะบอกเลยว่า ไม่สนใจ จบ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ไม่ง่าย และไม่ยากนะครับ สำคัญคือ script ที่คุณต้องเตรียมให้ดี และประสบการณ์ที่ต้องติดต่อบ่อยๆ เพื่อสร้างความคุ้นชิน และภูมิต้านทานในการถูกปฏิเสธ สู้ๆ ครับ