วิธี เช็ค ไอ โฟน มือ 1 หรือ มือ 2

เอาล่ะ! iPhone รุ่นล่าสุดก็ได้เปิดตัวให้หลายคนได้เตรียมตัวจับจองเป็นเจ้าของกันแล้ว  ใครที่กำลังจะถอย iPhone เครื่องใหม่หรือเพิ่งซื้อ iPhone มาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ อาจจะยังไม่ทราบวิธีการตรวจเช็กฟังก์ชันต่าง ๆ หรือข้อควรรู้ในจุดสำคัญก่อนเริ่มใช้งาน วันนี้ Wongnai Beauty  เลยลิสต์ข้อควรเช็กเมื่อซื้อ iPhone เครื่องใหม่มาฝาก ไม่ว่าจะสาวก Apple อยู่แล้ว หรือว่าคนที่กำลังจะเปลี่ยนทีม จะมีอะไรที่เราควรรู้บ้าง ไปติดตามกันเลยค่ะ

1. เช็กสภาพกล่องและอุปกรณ์ภายในกล่อง 

เมื่อซื้อ iPhone เครื่องใหม่ สิ่งแรกที่เราควรเช็กเลยก็คือ สภาพกล่องและอุปกรณ์ภายในกล่อง โดยสภาพกล่องที่หุ้มด้วยพลาสติกใสนั้นต้องไม่มีรอยแกะ คงสภาพใหม่เสมอ และอุปกรณ์ภายในกล่องที่เราต้องได้รับคือ ตัวเครื่อง, สาย USB-C to Lightning รุ่นยาว 1 เมตร, สติกเกอร์โลโก้ Apple 1 แผ่น, คู่มือใช้งานแบบย่อและเข็มจิ้มซิม หากได้อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ครบล่ะก็ ไม่ใช่ iPhone แท้แน่นอน โดยตัวเครื่องต้องคว่ำอยู่ในสภาพที่ใหม่เอี่ยม และจุดสำคัญที่เราต้องเช็กต่อมาคือสภาพของเครื่อง กระจกจอ ฝาหลังและเฟรมรอบตัวเครื่องต้องแน่นสนิท ไม่มีตำหนิ เลนส์กล้องและหน้าจอไม่มีรอยข่วนหรือแตกร้าว ปุ่มทุกปุ่มรอบตัวเครื่องต้องกดได้ตามปกติ ไม่จม ไม่ค้างหรือหลวม แนะนำสาว ๆ ลองเขย่าตัวเครื่องดูด้วยว่ามีเสียงดังจากข้างในหรือเปล่า เพราะหากมีเสียงหมายถึงการประกอบภายในเครื่องอาจไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เครื่องมีปัญหาในการใช้งานได้ค่ะ

2. เช็กข้อมูลของตัวเครื่องอย่างครบถ้วน

หลังจากเช็กสภาพกล่องและอุปกรณ์ภายในกล่องแล้ว ขั้นตอนต่อมาเรา ควรเช็กข้อมูลของตัวเครื่องต่าง ๆ ได้แก่ Software Version, Model Name, Model Number และ Serial Number (เลขประจำเครื่องหรือ IMEI) โดยเข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > About (เกี่ยวกับ) จะปรากฏหน้าที่แสดงข้อมูลเหล่านี้อย่างครบถ้วน ซึ่ง iPhone แท้นั้นต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเครื่องแท้ ถ้าเป็นเครื่องใหม่ Model Number จะต้องขึ้นต้นด้วยตัว M และ มีประกันคุ้มครอง 1 ปีเต็มจริง ทุกคนสามารถนำ Serial Number เข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของ Apple โดยคลิก ที่นี่ เลย วิธีเช็กข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ๆ เพราะเป็นการตรวจสอบว่าเครื่องที่เราได้มานั้นเป็น iPhone แท้หรือปลอมค่ะ

3. เช็กเครือข่ายสัญญาณและซิมการ์ด

ก่อนการใช้งานควรมีการเช็กก่อนเสมอว่า การใส่ซิมการ์ดและเครือข่ายสัญญาณสามารถใช้งานได้หรือไม่ โดยปกติ iPhone ส่วนใหญ่จะเป็นระบบ nano-SIM ส่วน eSIM นั้นสามารถเปิดใช้งานได้บางรุ่นและบางภูมิภาคเท่านั้นเช่น iPhone 12 ซึ่งวิธีเช็กว่าสามารถใช้งานเครือข่ายสัญญาณในซิมการ์ดได้หรือไม่นั้น ทำได้โดยทดสอบใส่ซิมการ์ดที่ต้องการแล้วตรวจเช็กสัญญาณตรง Control Center ว่ามีขีดสัญญาณแสดงเครือข่ายหรือไม่ และที่สำคัญสาว ๆ ควรเช็กการโทรเข้า โทรออก จากซิมการ์ดนั้น ๆ ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาณใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่เพียงแสดงขีดสัญญาณในเครื่องเท่านั้นค่ะ อยากใช้งานบน iPhone อย่างมีประสิทธิภาพต้องเช็กให้ละเอียดนะคะ

4. เช็กระบบการสัมผัส Touch ID และ Face ID

ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อสำคัญเมื่อซื้อ iPhone เครื่องใหม่ต้องเช็กทุกครั้ง นั่นก็คือ ระบบสัมผัสทั้ง Touch ID และ Face ID โดยระบบการสัมผัสทั้งสองต้องสามารถใช้งานได้จริง เป็นวิธีเช็ก iPhone เครื่องนี้ว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่ หาก Touch ID และ Face ID ใช้งานไม่ได้ตามปกติก็เป็นไปได้ว่าไม่ใช่ iPhone แท้ หรือเครื่องมีปัญหาแน่นอน วิธีเช็กนั้นให้เข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า) > Touch ID & Passcode (Touch ID และรหัส) หรือ Face ID & Passcode (Face ID และรหัส) จากนั้นลงทะเบียนตามขั้นตอนให้สำเร็จ หากสามารถใช้ Touch ID และ Face ID ปลดล็อกหน้าจอได้ (สัญลักษณ์ลูกกุญแจบนหน้า Lock Screen ปลดล็อก) แสดงว่าเครื่องทำงานปกติเป็นเครื่องแท้แน่นอนค่า อย่าลืมเช็ก iPhone ของตัวเองก่อนการใช้งานนะคะ 

5. เช็กสุขภาพแบตเตอรีว่า 100 % เต็มไหม

วิธีเช็ก iPhone ของเราก่อนการใช้งานว่าเป็น iPhone แท้จริงหรือไม่อีกข้อก็คือ การเช็กสุขภาพแบตเตอรีว่า 100% เต็มไหม เป็นการเช็กว่า iPhone ที่เราได้มานั้นแบตเตอรีเสื่อมไหม เคยผ่านการใช้งานมาก่อนหรือเปล่า บอกเลยว่าเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะลืมนึกถึงข้อนี้ไป อย่างไรก็ควรตรวจสอบและเช็กข้อนี้ด้วยนะคะ เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งเราสามารถเข้าไปเช็กได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Battery (แบตเตอรี) > Battery Health (สุขภาพแบตเตอรี) หากเครื่องที่เราได้มามีสุขภาพแบตเตอรี 100 % เต็มแสดงว่าเครื่องไม่ผ่านการใช้งานมาก่อนค่ะ

6. เช็กกล้องถ่ายรูป ต้องสามารถใช้งานได้ทุกโหมด

เหตุผลสำคัญเมื่อเราซื้อ iPhone นั่นก็คือ การใช้งานกล้องถ่ายรูป สาว ๆ หนุ่ม ๆ ที่รักการเซลฟีกล้องหน้าและกล้องหลังควรตรวจสอบหรือเช็กข้อนี้ด้วยนะคะ เพื่อความสมบูรณ์แบบในการใช้งาน iPhone ของเรา การเช็กกล้องถ่ายรูปว่าใช้งานได้ดีหรือไม่นั้น สามารถเช็กได้ที่ฟังก์ชันการถ่ายรูปตรง ไอคอน Camera (กล้องถ่ายรูป) บนหน้าจอได้เลย โดยลองกดถ่ายรูปทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังในทุกโหมดว่าสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โหมดถ่ายภาพบุคคลกล้องหน้าและกล้องหลังเป็นภาพหน้าชัดหลังเบลอ หรือการถ่ายวิดีโอมีภาพและเสียงคมชัดด้วยหรือไม่ การใช้ iPhone ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ กล้องถ่ายรูปต้องคมชัดตามคุณสมบัติของแต่ละรุ่นค่ะ

7. เช็กเสียงจากลำโพงว่าเสียงชัดไม่แตก

หากซื้อ iPhone เครื่องใหม่ การเช็กลำโพง ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันค่ะ iPhone แท้เสียงที่ออกจากลำโพงต้องชัดแจ๋วและเสียงไม่แตก หากมีอาการเสียงแตกขึ้นมาล่ะก็ แสดงว่าผ่านการใช้งานมาแล้วและอาจจะไม่ใช่เครื่องแท้ก็เป็นได้ค่ะ โดยทุกคนสามารถทดสอบเสียงจากลำโพงว่าชัดหรือไม่นั้นจากการเปิดเพลงหรือคลิปวิดีโอจาก YouTube และ Apple Music ดู หากเสียงคมชัดและไม่แตก ก็ถือว่าการใช้งานลำโพงมีประสิทธิภาพดีค่ะ ข้อแนะนำอีกอย่างในการเช็กลำโพงก็คือ การลองเพิ่ม-ลดเสียงจากปุ่มด้านข้างหรือที่ Control Center ดูค่ะ ว่าเสียงมีการเพิ่ม-ลดตาม และเสียงยังคงประสิทธิภาพที่ดีอยู่หรือไม่ หากไม่มีอะไรติดขัดแสดงว่าไม่มีปัญหาในการใช้งานแล้วค่ะ

8. เช็กการเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi และ Bluetooth

iPhone แท้ต้อง สามารถใช้งาน Wi-Fi และ Bluetooth ได้ปกติค่ะ หากไม่สามารถเชื่อมต่อได้แสดงว่าเครื่องที่เราซื้อมาใหม่อาจจะมีปัญหา ใครที่ไม่อยากเสียเวลาต้องมาเปลี่ยนเครื่องใหม่ในขณะที่เพิ่งตรวจพบว่าไม่สามารถใช้งาน Wi-Fi และ Bluetooth ได้ล่ะก็ ต้องรีบตรวจเช็กก่อนเลยค่ะ โดยการเข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า) > Wi-Fi (ไวไฟ) หรือ Bluetooth (บลูทูธ) แล้วเปิดการใช้งานดูว่าขึ้นโชว์สัญญาณใกล้เคียงหรือไม่ และลองเชื่อมต่อสัญญาณนั้น ๆ ดูว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือเปล่า หากสามารถใช้งานได้ตามปกติ แสดงว่าเครื่อง iPhone ของเราเป็นเครื่องแท้อย่างแน่นอนค่ะ 

9. เช็กหน้าจอ Dead & Bright Pixel

การเช็ก iPhone ว่าสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่เสื่อมประสิทธิภาพนั้น ต้องมี การทดสอบ Dead & Bright Pixel ด้วยค่ะ การทดสอบนี้เป็นวิธีเช็ก iPhone ว่าเครื่องของเราไม่มีจุด OLED ที่เสีย มีวิธีสังเกตง่าย ๆ คือ เมื่อเปิดดูภาพสีใดใน 5 สีคือ ดำ ขาว แดง เขียว และน้ำเงิน จาก ที่นี่  สีนั้นจะต้องแสดงเป็นสีเดียวกันทั้งหมด หากมีจุดสีขาวโผล่มาเรียก Bright Pixel และหากมีจุดสีดำโผล่มาเรียก Dead Pixel ถ้าซื้อ iPhone มาใหม่ แล้วพบว่ามี Dead & Bright Pixel ล่ะก็ ควรเปลี่ยนเครื่องนะคะ เพราะจอสีของเราอาจจะแสดงภาพได้ไม่ชัดตรงตามสีนั้น ๆ หรือเรียกว่าสีเพี้ยนนั่นเอง หากสาว ๆ อยากรู้ว่าสีเพี้ยนหรือไม่ควรเช็กตามวิธีที่เราบอกนะคะ 

10. เช็กการเสียบชาร์จไฟกับสายชาร์จ Lightning ในกล่อง

ข้อควรเช็ก iPhone ข้อสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้ข้ออื่น ๆ เลยก็คือ การเช็กสายชาร์จ Lightning ที่เราได้มาในกล่องว่าสามารถชาร์จไฟได้หรือไม่นั่นเองค่ะ วิธีการง่าย ๆ เลยก็คือ ทดสอบเชื่อมต่อสายชาร์จกับเครื่อง iPhone ดูว่ามีสัญญาณเชื่อมต่อไฟฟ้าหรือไม่ โดยดูตรงรูปแบตเตอรีจะมีรูปสัญลักษณ์ไฟฟ้าขึ้น หากมีการเชื่อมต่อแสดงว่าสายชาร์จทำงานได้ปกติ แต่ถ้าหากไม่มีการเชื่อมต่อขึ้นล่ะก็ สายชาร์จ Lightning ที่ได้มาอาจจะมีปัญหาหรือเป็นสายปลอมได้ค่ะ มีวิธีดูว่าเป็นสาย Lightning to USB Cable แท้หรือไม่มาฝากค่ะ คือหากผ่านการรับรองจะมีโลโก้ MFi (Made for iPhone iPod iPad) บนแพ็คเกจนะคะ ข้อนี้สำคัญมาก ๆ ต้องเช็กก่อนใช้งานทุกครั้งเพื่อการใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบค่ะ