แต่ที่ห้ามกันยาก เพราะเรามักมีเหตุผลในการซื้อเสมอ จำเป็นมากน้อย ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่สุดท้ายคือ "ของมันต้องมี" Show
"เงินเดือนเท่านี้ ซื้อรถมูลค่าเท่าไหร่ ผ่อนเดือนแค่ไหนดี ?"
1.ถ้ามีหนี้อื่น เช่น บ้าน หรือ อื่น ๆ ให้คำนวณก่อนว่ากี่ % แล้ว เช่น ผ่อนบ้านไปแล้ว 20% ไอโฟนตัวท็อปอีก 5% รวม 25% เราก็จะเหลือโควต้าในการผ่อนรถเพียง 15% เท่านั้น ซีซีได้แล้ว เนื่องจากไฟแนนซ์จะคิดยอดผ่อนต่อเดือนต้องไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ของรายรับที่ได้ในแต่ละเดือน นั่นหมายความว่า หากยอดผ่อนแต่ละเดือนประมาณ 7,500 บาท ก็สามารถเป็นเจ้าของรถได้ (เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทและสถาบันการเงินกำหนด)แต่ทั้งนี้ การที่ยอดผ่อนแต่ละเดือนจะลดลง นั่นหมายถึง คุณจะต้องเพิ่มเงินดาวน์ให้มากกว่าปกติด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากรถมีราคาประมาณ 605,000 บาท คุณควรดาวน์ไม่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นเงิน 121,000 บาท และผ่อนชำระเป็นระยะเวลา 84 งวด จะทำให้ค่างวดอยู่ที่ประมาณ 7,170 บาท ซึ่งก็ต่ำพอให้ไฟแนนซ์สามารถพิจารณาอนุมัติให้ได้อย่างไรก็ดี บริษัทไฟแนนซ์มักพิจารณารายรับต่อเดือนที่แน่นอน โดยเฉพาะ "ฐานเงินเดือน" ขณะที่รายรับอื่นๆ เช่น ค่าคอมมิชชั่น, โบนัส ฯลฯ บริษัทไฟแนนซ์บางแห่งอาจไม่นำมาพิจารณาเลยก็เป็นได้ ขณะที่อายุงานก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่บ่งบอกว่าคุณมีความมั่นคงเพียงพอ ไม่เปลี่ยนงานบ่อยเกินไปจนอาจทำให้รายได้ไม่มั่นคงการซื้อรถยนต์ใหม่ ไม่เพียงแต่พิจารณาถึงรายรับเพียงฉาบฉวยเท่านั้น หากคุณเป็นคนมีเงินเก็บหรือมีรายได้จากช่องทางอื่นอยู่เสมอ แม้จะได้เงินเดือนไม่มาก ก็ยังถือว่าไม่ตึงเกินไปนักที่จะผ่อนรถ แต่หากมีรายรับเพียงช่องทางเดียว และยังมีภาระอีกหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ การซื้อรถยนต์อาจส่งผลให้คุณเกิดการชักหน้าไม่ถึงหลังได้เพราะอย่าลืมว่ารถยนต์ นำไปสู่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น ค่าประกันภัย, พ.ร.บ., ค่าภาษี, ค่าบำรุงรักษาตามระยะ, ค่าซ่อม ฯลฯ จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนซื้อรถยนต์ใหม่และที่สำคัญ อย่าเข้าข้างตัวเองว่าจ่ายไหวอยู่แล้ว ควรลองหักรายได้ประจำเป็นจำนวนเท่าค่างวดในแต่ละเดือนเก็บเข้าบัญชี หากเก็บได้สัก 3 และที่สำคัญ อย่าเข้าข้างตัวเองว่าจ่ายไหวอยู่แล้ว ควรลองหักรายได้ประจำเป็นจำนวนเท่าค่างวดในแต่ละเดือนเก็บเข้าบัญชี หากเก็บได้สัก 3 เดือน โดยไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ก็พอที่จะบ่งบอกว่าคุณพร้อมซื้อรถใหม่ได้ครับ |