การอ่านจับใจความโดยรวมมีวิธีการอย่างไร

          ความสามารถในการอ่านจับใจความ การวิเคราะห์สาระสำคัญและใจความสำคัญดังที่ได้อธิบายมานี้ จะเห็นว่าเราต้องใช้เหตุผลหลายอย่างประกอบในการพิจารณาและแม้จะมั่นใจว่ารอบคอบที่สุดแล้วก็ตาม ทั้งนี้เพราะถ้อยคำที่เราสื่อความหมายกันอยู่ทุกวันล้วนแต่มีหลายนัย ทำให้แปลความหมายกันไปได้ต่าง ๆ นานา ในขณะเดียวกันการจับใจความสำคัญหรือ หาสาระสำคัญให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของการอ่านก็จำเป็นต้องมีขั้นตอนเพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้อง จึงจะได้ผลตรงตามจุดประสงค์ ในด้านของการวิเคราะห์การใช้ภาษาซึ่งถือว่าการใช้ภาษาของผู้เขียนเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะถ่ายทอดความคิดไปยังผู้อ่าน การพิจารณางานเขียนนั้นผู้อ่านต้องพิจารณาทั้งความหมายที่ปรากฏตามตัวอักษรและความหมายที่แฝงอยู่เพื่อสามารถแปลความ ตลอดจนตีความเรื่องราวที่ผู้เขียนส่งมาได้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 35 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง

บทความนี้ถูกเข้าชม 243,760 ครั้ง

มันอาจถึงเวลาที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลงแล้ว ไม่ว่าจะเปลี่ยนเพื่อเริ่มต้นเส้นทางอาชีพใหม่ หรือแค่ต้องการมองหาความท้าทายก็ตาม ขั้นตอนในการลาออกจากงานเดิมนั้นก็ง่ายๆ แค่ยื่นใบลาออก อาจจะยื่นล่วงหน้าสักนิดก็ได้ แต่หากคุณอยากให้ทุกอย่างลื่นไหลไปด้วยดี และไม่มีผลกระทบต่อโอกาสทางหน้าที่การงานในอนาคตล่ะก็ คุณต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบสักหน่อย เพราะการลาออกอาจจะง่าย แต่การออกอย่างสง่างามนั้นอาจจะไม่ บทความนี้จะช่วยถ่ายทอดวิธีการลาออกอย่างราบรื่นและไร้ความกังวลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้แก่คุณ

ขั้นตอน

  1. ออกในขณะที่สถานการณ์ยังราบรื่น. หลายคนลาออกในช่วงที่ตนเองรู้สึกหมดเรี่ยวแรง หรือรับภาระในหน้าที่ของตนเองต่อไปไม่ไหวแล้ว ซึ่งอาการดังกล่าวย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง แน่นอนว่า เรื่องแบบนี้ก็น่าเห็นใจอยู่ แต่หากคิดจะลาออก คุณควรเก็บเรี่ยวแรงไว้ทิ้งทวนทำงานชิ้นสุดท้ายให้เจ๋งเป้งที่สุด เพราะในอนาคตคุณอาจจะต้องใช้จดหมายอ้างอิงการทำงานจากเจ้านาย (หรืออาจได้โคจรมาร่วมงานกันอีกครั้ง) ดังนั้น มันจะดีที่สุด หากพวกเขาจดจำคุณในฐานะพนักงานดีเด่นผู้ทุ่มเทจนวินาทีสุดท้าย

    • จงตระหนักว่าตนเองต้องได้รับอะไรชดเชยบ้าง เช่น หากคุณถูกเลิกจ้าง คุณก็ควรจะได้รับเงินชดเชย หรือทางเลือกในการได้รับผลตอบแทนอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มาในกรณีที่คุณยังไม่ได้หางานใหม่เตรียมไว้ แต่การลาออกด้วยตนเอง คุณอาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ จากบริษัทเลย ดังนั้น ในบางกรณี การรอรับสิทธิประโยชน์เหล่านี้ก่อนแล้วค่อยมองหางานใหม่ อาจจะดีกว่า

  2. วางแผนแจ้งลาออกล่วงหน้า. หากคุณต้องการลาออกอย่างดูเหมาะสมที่สุด ก็ไม่ควรปล่อยให้เจ้านายคุณเคว้งคว้าง หรือต้องวุ่นหาพนักงานมาแทนคุณกระทันหัน คุณควรยื่นหรือแจ้งลาออกล่วงหน้าอย่างน้อยสองสัปดาห์ (หรือระยะเวลาขั้นต่ำตามข้อสัญญาก่อนเริ่มงาน) เพื่อที่เจ้านายของคุณจะได้หาคนมาแทนคุณได้ หรือหาวิธีแก้ขัดอื่นๆ ได้ทันการไปก่อน

    • แม้ว่าในสัญญาจะไม่ได้กำหนดระยะเวลาขั้นต่ำเอาไว้ แต่คุณก็ควรยื่นลาออกล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพื่อแสดงน้ำใจต่อเจ้านายของคุณ การแจ้งหรือยื่นใบลาออกล่วงหน้าช้ากว่านั้น อาจทำให้พวกเขาหาคนมาแทนไม่ทัน แต่หากยื่นเร็วกว่านั้น อาจทำให้พวกเขาเห็นหน้าคุณแล้วสงสัยว่า ทำไมคุณยังมาป้วนเปี้ยนในออฟฟิศอยู่อีก

  3. อย่าเพิ่งป่าวประกาศ. หลังจากคุณตัดสินใจว่าจะลาออกแน่แล้ว อย่าไปประกาศทั่วออฟฟิศ ทุกชั้นทุกแผนก จนกระทั่งอาจไปเข้าหูหัวหน้างานโดยตรงของคุณ พยายามคิดล่วงหน้าเหมือนเรื่องอื่นๆ และจำไว้ว่าความรู้คือพลัง

    • ให้เวลาหัวหน้างานหรือนายจ้างของคุณได้ครุ่นคิดสักหน่อย เพราะหากพวกเขาประมวลการพิจารณาและเห็นว่าควรยื่นข้อเสนอพิเศษให้คุณอยู่ การไปป่าวประกาศเรื่องการลาออกไว้ล่วงหน้า จะทำให้บรรยากาศดูกร่อยที่สุด
    • ลองดูก่อนว่าทางแผนกของคุณ จะส่งข่าวเรื่องการลาออกให้คนอื่นๆ ในออฟฟิศรู้ด้วยวิธีใด หัวหน้าของคุณอาจจะใช้วิธีการส่งอีเมลแจ้งอย่างทั่วถึงในคราวเดียว หรือปล่อยให้คุณได้เขียนและส่งในแบบของตัวเองก็ได้ ดังนั้น อย่าเพิ่งไปป่าวประกาศบอกใครๆ จนกว่าจะได้ข้อตกลงในเรื่องนี้ก่อน

  4. เตรียมการส่งงานต่อ. สิ่งนี้เป็นการแสดงทั้งความเคารพและมีวุฒิภาวะ ซึ่งเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าของคุณย่อมจะซาบซึ้งใจ ดังนั้น พยายามทำงานที่ค้างอยู่ให้เรียบร้อยและจัดทำคู่มือในการทำงาน เพื่อส่งต่อให้ใครก็ตามที่อาจจะมาแทนตำแหน่งคุณ รวมถึงการจัดทำไฟล์เพื่อระบุตำแหน่งที่คุณเก็บเอกสารข้อมูลต่างๆ เอาไว้ ในกรณีที่เป็นงานระยะยาวต่อเนื่อง และข้อมูลใดๆ ก็ตามที่คุณคาดว่าคนที่มาแทนควรจะรู้ พยายามจัดเก็บตามลำดับ และติดป้ายเอาไว้ โดยเก็บในที่ๆ ค้นหาได้สะดวกที่สุด คุณคงไม่อยากรับสายโทรศัพท์จากพนักงานใหม่ที่กำลังหัวเสียจากการที่ค้นหาไฟล์ที่คุณเก็บไว้ไม่เจอ หลังจากที่คุณลาออกไปแล้ว

    • เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานแบบเป็นทีม หลังจากการแจ้งหรือยื่นใบลาออก ล่วงหน้าสองสัปดาห์แล้ว คุณควรนัดแนะกับทีมงานของคุณเกี่ยวกับการหาคนมาสืบทอดหรือมอบหมายงานด้วย

  1. เข้าใจก่อนว่า ไม่ควรเขียนอะไรในจดหมายลาออก. คุณไม่ควรเขียนสิ่งที่เสื่อมเสีย หยาบคาย หรือไร้มารยาทใดๆ ก็ตามลงไป เพราะคุณอาจต้องติดต่อกับหัวหน้าคุณอีกในอนาคตก็ได้ (โอกาสที่จะกลับมาทำงานร่วมกับพวกเขาอีกก็มีอยู่) ดังนั้น จงเขียนด้วยความเคารพสักหน่อย ไม่งั้นข้อความอันน่ารังเกียจต่างๆ ในจดหมายดังกล่าวจะกลับมาหลอกหลอนคุณในสักวัน

    • ตัวอย่างของสิ่งที่ไม่ควรเขียน: “ถึง คุณอมร ผมจะออกแล้วนะ ผมเบื่อที่จะทำงานที่นี่ คุณมันงี่เง่าและยังหน้าตาอุบาทว์ เงินค่าคอมฯของผมที่ค้างอยู่ 80,000 บาท ก็ยังไม่เห็นให้ผมสักที คุณทุเรศมาก – จาก ต้อม”

  2. เขียนจดหมายลาออกอย่างประณีต. เส้นแบ่งระหว่างจดหมายลาออกที่ดีกับจดหมายลาออกที่แย่นั้น มีนิดเดียว ดังนั้น พยายามปฏิบัติตามขั้นตอนการเขียนต่อไปนี้

    • มาตรฐานของจดหมายลาออกทั่วไป จะมีข้อความประมาณนี้: “เรียน คุณพิชัย นับเป็นเกียรติอย่างสูงที่ผมได้ร่วมงานกับ บริษัท พิชัยพาณิชย์ มาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จดหมายฉบับนี้เป็นการแจ้งให้ทางบริษัททราบว่า ผมมีความประสงค์จะลาออกไปเริ่มงานในตำแหน่งใหม่กับบริษัทอื่น ในวันที่ (ระบุวันที่ ซึ่งล่วงหน้าก่อนส่งจดหมายนี้ ประมาณ 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย) กรุณารับคำขอบพระคุณและความซาบซึ้งใจของผมในโอกาสที่ได้ร่วมงานกันมา รวมถึงความปรารถนาดีของผมที่มีต่อคุณและบริษัท ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยความนับถือ นายสุชาติ แก้วสรรพ”

  3. เป็นกันเองแต่ให้ความเคารพ. หากคุณสนิทกับหัวหนาหรือนายจ้างมากพอ ก็อาจใช้คำพูดหรือสรรพนามที่เป็นทางการน้อยลงได้ ตามความเหมาะสม เพราะการเขียนแบบเป็นทางการเกินไปอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกเกร็ง และการเขียนด้วยถ้อยคำแสดงความสนิทสนมยังจะช่วยป้องกันความรู้สึกในทางลบที่อาจเกิดขึ้นด้วย

  4. แน่ใจว่าการลาออกเป็นทางเลือกที่ดีแล้ว. บางครั้งทางบริษัทอาจเสนอเงื่อนไขเพื่อให้คุณอยู่ต่อ ดังนั้น หากคุณต้องการลาออกจริงๆ ก็จงหนักแน่นเข้าไว้

    • คุณอาจระบุในการแจ้งหรือยื่นใบลาออกว่า “กระผม/ดิฉัน ขอแสดงความประสงค์ในการลาออกจากตำแหน่ง (ชื่อตำแหน่งของคุณ) ซึ่งจะมีผลในวันที่ (ระบุวันที่คุณทำงานวันสุดท้าย)”

  5. แสดงความรู้สึกว่าคุณซาบซึ้งใจในการทำงานที่นี่มากเพียงใด. แม้ว่าคุณจะเบื่องานของคุณทุกกระเบียดนิ้ว แต่จงมองหาบางอย่างมากล่าวคำชื่นชม โดยคุณอาจจะกล่าวประมาณว่า “ผมได้เรียนรู้มากมายจากการทำหน้าที่เป็นผู้ระดมทุนให้แก่มูลนิธิ…” (แม้ว่าจริงๆ แล้ว คุณอาจจะหมายถึง คุณได้ตาสว่างแล้วว่า แม้แต่งานมูลนิธิ ก็ยังมีเรื่องฉ้อฉลและคอรัปชั่นในองค์กร แบบที่คนภายนอกทั่วไปคาดไม่ถึง)

  6. ทบทวนความสำเร็จของตนเอง. อย่ากล่าวเชิงโอ้อวด แต่ควรเปรยถึงชิ้นงานและโครงการที่คุณทำสำเร็จ และความภาคภูมิใจของคุณที่ได้ทำ เรื่องนี้มีส่วนสำคัญทีเดียว เพราะจดหมายลาออกของคุณจะถูกเก็บเข้าแฟ้มไว้ โดยมีความคิดเห็นจากผู้บริหารไล่ตั้งแต่หัวหน้าคุณขึ้นไป เขียนกำกับไว้ด้วย ซึ่งในกรณีที่คุณใช้บริการสมัครงานจากบริษัทจัดหางาน หรือหากในอนาคตคุณต้องการสมัครงานกับบริษัทในเครือเดียวกันนี้ ผู้มีอำนาจตัดสินใจก็จะดูข้อมูลจากจดหมายดังกล่าวของคุณเป็นอันดับแรก

  7. ปิดท้ายอย่างอบอุ่น. เปรยว่าคุณดีใจมากเพียงใดที่ได้ร่วมงานกับบริษัทนี้ และคุณซาบซึ้งจากใจจริงกับเพื่อนร่วมงานทุกคน รวมถึงหัวหน้าคุณด้วย

    • กล่าวประมาณว่า “ดิฉันคงจะไม่มีโอกาสได้ก้าวสู่เส้นทางการเป็นนักเขียนอย่างในปัจจุบันนี้ หากไม่ได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์และทักษะในธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์ จากการทำงานในสำนักพิมพ์แห่งนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา” คุณอาจจะเอ่ยถึงหัวหน้าหรือใครบางคนเพื่อขอบคุณเป็นการพิเศษด้วย

  8. เตรียมจดหมายดังกล่าวไว้กับตัว เวลาทำการแจ้งหรือยื่นใบลาออกต่อหัวหน้า. อย่าให้วิธีส่งอีเมล เพราะมันจะดูไม่เป็นมืออาชีพ ปรินต์ออกมาและยื่นให้หัวหน้าของคุณ ตอนที่ไปคุยกันแบบตัวเป็นๆ จะดีกว่า

  1. ขอเข้าพบกับหัวหน้า โดยระบุว่าต้องการแจ้งเรื่องสำคัญ. คุณอาจจะโผล่หน้าให้เขาเห็น และขอรบกวนเวลาในการพูดคุยสักนิดก็ได้ แค่ให้มันถูกกาลเทศะและใช้ความเคารพอย่างเหมาะสม เขาหรือเธออาจจะอยู่ในช่วงที่ไม่สามารถผละอกจากธุระที่ยุ่งอยู่ก็ได้ หรือคุณอาจจะถามหรือขอหัวหน้าว่า มีเรื่องขอพูดคุยปรึกษาในวันถัดไป เพื่อที่จะได้ช่วยให้พวกเขามีเวลาเตรียมตัวและเคลียร์งาน ก่อนที่จะต้องมาฟังข่าวสำคัญจากคุณ

    • หากเข้าหาในตอนที่พวกเขายุ่งมากเกินไป มันอาจจะทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจกันได้ ดังนั้น หากเป็นไปได้ คุณควรรอจนกว่าหัวหน้าจะมีเวลามากพอรับฟังการแจ้งหรือยื่นใบลาออกของคุณ

  2. เตรียมให้พร้อม ตรงไปตรงมา และสุภาพ. การซักซ้อมด้วยตนเองก่อนจะช่วยให้คุณพร้อมมากขึ้น ก่อนที่จะเข้าไปทำการแจ้งหรือยื่นใบลาออกกับหัวหน้า ผู้จัดการหลายๆ คนมักมีธุระยุ่ง ดังนั้น พวกเขาจะซาบซึ้งใจกว่า หากคุณใช้เวลาให้กระชับและตรงไปตรงมา อย่ามัวแต่หาถ้อยคำที่เหมาะสม วิธีชักแม่น้ำทั้งห้า หรือสรรหาพิธีรีตองใดๆ คุณแค่เริ่มด้วยการใช้คำพูดประมาณนี้ก็ได้:

    • "ผมได้คิดเกี่ยวกับทางเลือกอื่นๆ ในเรื่องนี้มาสักระยะนึงแล้วครับหัวหน้า ตอนนี้ผมได้ข้อสรุปแล้วว่าต้องการที่จะออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ผมก็ซาบซึ้งใจที่ได้รับโอกาสมากมายจากการทำงานที่นี่ ตอนนี้ผมขออนุญาตแจ้งอย่างเป็นทางการล่วงหน้า"
    • หรือ... "หนูอยากแจ้งให้หัวหน้าทราบ เรื่องที่มีอีกบริษัทหนึ่งมาเสนองานใหม่ให้หนู ซึ่งได้ตอบตกลงไปก่อนหน้านี้แล้ว และจะขอยื่นจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการในโอกาสนี้ด้วย ไม่ทราบว่า หากหนูจะลาออกในวันที่ (นับจากวันที่ยื่นไป อย่างน้อยสองสัปดาห์) หัวหน้าจะอนุมัติหรือมีเหตุขัดข้องใดไหมคะ?"

  3. เตรียมตอบคำถามเกี่ยวกับสาเหตุการลาออก. เป็นไปได้ว่า คุณอาจร่วมงานกันมายาวนานระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะออกด้วยสาเหตุใด พวกเขาย่อมจะมีคำถามตามมา จงเตรียมคำตอบที่สั้นและกระชับได้ใจความเอาไว้ หากคุณลาออกเพราะเบื่องานที่นี่ พยายามหาคำตอบที่มันดูดีก็แล้วกัน แทนที่จะบอกว่า “หนู่ไม่ชอบทำงานที่นี่” คุณอาจจะบอกว่า “หนูว่างานนี้คงไม่เหมาะกับหนู หนูถนัดในสายงานอื่นมากกว่าค่ะ”

    การอ่านจับใจความสำคัญมีแนวทางอ่านอย่างไร

    คือ การอ่านที่มุ่งค้นหาสาระของเรื่องหรือของหนังสือแต่ละเล่มที่เป็นส่วน ใจความสำคัญ และส่วนขยายใจความสำคัญของเรื่อง ใจความสำคัญของเรื่อง คือ ข้อความที่มีสาระคลุมข้อความอื่นๆ ในย่อหน้านั้นหรือเรื่องนั้นทั้งหมด ข้อความอื่นๆ เป็นเพียงส่วนขยายใจความสำคัญเท่านั้น ข้อความหนึ่งหรือตอนหนึ่งจะมีใจความสำคัญที่สุด

    จับใจความสําคัญ อย่างไร

    การอ่านจับใจความสาคัญ หมายถึง การอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสาคัญหลักของ ข้อความ หรือเรื่องที่อ่าน เป็นข้อความที่คลุมข้อความอื่น ๆ ในย่อหน้าหนึ่ง ๆ ไว้ทั้งหมด

    การอ่านจับใจความมีความหมายว่าอย่างไร

    การอ่านจับใจความสำคัญ คือ การอ่านโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเก็บสาระสำคัญ ความรู้ข้อมูล ที่น่าสนใจ และแนวความคิดหรือทัศนะของผู้เขียนของเรื่องที่อ่าน อีกทั้งยังเป็นการอ่านที่ต้องการแยกแยะเรื่องที่อ่านให้ได้ว่าส่วนใดเป็นใจความหรือข้อความที่สำคัญที่สุด และส่วนใด เป็นข้อความประกอบ การจับใจความจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจว่าผู้เขียน ...

    ข้อใดคือสาระสําคัญของการอ่านจับใจความสําคัญ

    การอ่านจับใจความสำคัญ คือ การอ่านที่มุ่งเน้นค้นหาสาระสำคัญของข้อความหรือของหนังสือ เล่มนั้น ว่าส่วนใดเป็นใจความสำคัญที่ผู้เขียนนำเสนอและส่วนใดเป็นส่วนขยายใจความสำคัญให้ชัดเจน ยิ่งขึ้น ส่วนที่เป็นใจความสำคัญอาจอยู่ช่วงต้น ช่วงกลาง หรือช่วงท้ายของเรื่องหรือย่อหน้านั้น ๆ ก็ได้