Bitcoin มีประโยชน์ อย่างไร

และยังพูดถึง Blockchain เทคโนโลยีเบื้องหลัง Bitcoin ว่าไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์

นี่ไม่ใช่การออกมาแสดงความคิดเห็นธรรมดา เพราะเขาจัดทำข้อวิจารณ์ออกมาเป็นรายงานการศึกษาชื่อว่า “Bitcoin, Currencies, and Bubbles” ความยาว 6 หน้ากระดาษ แจกจ่ายให้กับผู้ติดตามของเขากว่า 7 แสนคน ใน Twitter ได้อ่าน

ข้อวิพากษ์ Bitcoin 4 ข้อ ของ Nassim Taleb จากรายงาน

  1. Bitcoin ไม่ใช่สกุลเงิน

Nassim Taleb วิพากษ์ว่า Bitcoin ล้มเหลวในการพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นสกุลเงินที่ไร้ตัวกลาง จริงๆ แล้ว แค่สกุลเงิน Bitcoin ก็ยังเป็นไม่ได้ด้วยซ้ำ 

แต่ผู้คนละเลยความจริงข้อนี้ เพราะมูลค่าที่เฟ้อเกินจริงของ Bitcoin และความผันผวนที่สูง สร้างกำไรได้มากพอที่จะทำให้ผู้คนละเลยถึงการพิจารณาอรรถประโยชน์จริงๆ ของ Bitcoin

  • El Salvador ประเทศแรกที่รับ Bitcoin
  1. Bitcoin เก็บมูลค่าไม่ได้

ข้อวิจารณ์ถัดมาพุ่งเป้ายังความสามารถในการเป็นเครื่องรักษามูลค่า (store of value) ของ Bitcoin โดย Taleb กล่าวว่า Bitcoin ไม่ได้เป็นเครื่องรักษามูลค่าทั้งระยะสั้นและระยะยาว 

เขาเปรียบเทียบ Bitcoin กับทอง (ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของเครื่องรักษามูลค่า) ว่า ในขณะที่ทองไม่ต้องดูแลรักษาและไม่เสื่อมค่าลงตามกาลเวลา พูดง่ายๆ คือซื้อแล้วถือไว้ได้เลยยาวๆ แต่ในเคสของ Bitcoin ที่ผันผวนสูง ต้องใช้เวลาในการดูแล (เทรดเข้า-เทรดออก) ตลอดเวลา

  1. Bitcoin ไม่ใช่สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง 

Taleb ยังคงเปรียบเทียบ Bitcoin กับทองที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง เพราะผู้สนับสนุน Bitcoin มักเปรียบเทียบว่า Bitcoin คือ ทองคำ 2.0 ที่เป็นหลุมหลบภัยด้านการเงิน

แต่ Taleb ก็ยกกรณีเดือนมีนาคม 2020 ขึ้นมาโต้แย้ง เขาบอกว่าสำหรับสถานการณ์ที่ยืนยันได้ว่า Bitcoin ไม่ใช่สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงไม่ต้องย้อนไปดูไกล ลองดูแค่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตลาดหุ้นแพนิคเกิดการเทขายครั้งใหญ่จนร่วงหนักในรอบหลายปี ประเด็นก็คือ Bitcoin ร่วงหนักกว่าตลาดหุ้นเสียอีก 

พูดง่ายๆ สำหรับ Taleb แล้ว Bitcoin ไม่ได้ช่วยป้องกันความเสี่ยง แถมยังเสี่ยงกว่าตลาดอื่นๆ อีก

  1. Bitcoin ไม่ได้ปลอดภัยจริงๆ

ส่วนใหญ่แล้วคนจะมองว่า Bitcoin ปลอดภัยเพราะไร้ตัวกลาง ไม่ต้องกังวลเรื่องภัยพิบัติหรือรัฐบาลเข้ามาแทรกแซง แต่ Nassim Taleb ก็ได้ยกตัวอย่างกรณีการโจมตีท่อส่งน้ำมัน Colonial Pipeline ทางไซเบอร์ จนต้องมีการจ่ายค่าไถ่หลักล้านดอลลาร์ให้กับกลุ่มแฮ็คเกอร์

แต่ประเด็นก็คือ FBI สามารถติดตามเส้นทางการเงินของ Bitcoin และกู้คืนเงินกลับมาได้ ผลก็คือในวันเดียวราคา Bitcoin ร่วงลงกว่า 9.9%

อ่านมุมมองของผู้ที่ไม่สนับสนุน Bitcoin และ Cryptocurrency เพิ่มเติม

  • World Bank งดช่วย El Salvador เรื่อง Bitcoin
  • Bill Gates เตือน ถ้าไม่รวยแบบ Elon Musk ให้ระวัง Bitcoin

ที่มา – Insider, MINT

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Share this:

  • Tweet

Related

  • TAGS
  • Bitcoin
  • Cryptocurrency
  • คริปโต
  • คริปโตเคอเรนซี่
  • บิตคอยน์

รชต สนิท

บาส รชต สนิท - นักข่าว นักเขียน ที่ Brand Inside | สนใจด้าน Future of Work, สิทธิคนทำงาน, สิ่งแวดล้อม, การเมืองโลก, ปัญหาทุนนิยม และ สิทธิมนุษยชน

อีกทั้งในต้นปี 2017 นั้น ราคาของบิทคอยน์ก็ไต่ขึ้นสูงอย่างน่าตกใจ เพราะมีราคาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากเดือนมกราคม ค.ศ. 2017 ที่มีราคา 1 BTC = 900 USD ซึ่งปัจจุบันเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2017 นั้นราคาก็เพิ่มขึ้นไปสูงถึง 2300 USD แล้ว(ราคาซื้ออยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทไทยต่อบิทคอยน์) ถ้าจะเปรียบเทียบบิทคอยน์ก็คงต้องเปรียบกับทองคำ ยิ่งมีคนต้องการมูลค่าของมันก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสกุลเงินบิทคอยน์นั้นออกแบบมาให้สามารถมีทศนิยมได้ถึง 8 ตำแหน่ง จึงเห็นได้ชัดเจนว่าผู้สร้างนั้นมีการคาดการณ์เดาไว้อย่างดีแล้วว่าในอนาคตข้างหน้านั้นราคาของบิทคอยน์จะสูงขึ้นได้เรื่อยๆ

สังเกตไหมว่า วงการคริปโตเคอเรนซี่นับวันยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ไม่เว้นแม้แต่นักเรียน นักศึกษาเอง นั่นเป็นเพราะตัวละครหนึ่งที่เกิดขึ้นมา แล้วทำให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นที่รู้จักอย่างมากมาย จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นอกจาก ‘บิทคอยน์’ พระเอกแห่งโลกคริปโท

แล้วคุณรู้จัก Bitcoin ดีหรือยัง? ในวันนี้เราจะพาคุณไปค้นหาคำตอบด้วยกันว่า เจ้าตัวเอกอย่าง Bitcoin มันคืออะไรกันแน่? รวมถึงเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับ Bitcoin ฉบับย่อ แต่เข้าใจได้แบบครบ จบในที่เดียว

Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ใช้แลกเปลี่ยนกันได้อย่างอิสระผ่านเครือข่ายที่เรียกว่า ‘บล็อกเชน’ ซึ่งทำงานแบบกระจายศูนย์ ไม่ต้องอาศัยคนกลางมาควบคุม แต่ผู้ใช้ทุกคนในเครือข่ายสามารถเข้าถึงและตรวจสอบทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชนนั้นได้

ถ้าพูดกันแบบง่ายๆ บิทคอยน์ก็เป็นเหมือนสกุลเงินที่สามารถใช้ซื้อ-ขายได้จริงผ่านอินเทอร์เน็ต เพียงแต่มันไม่มีรูปร่าง ไม่สามารถจับต้องได้ แต่เราสามารถรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวในบิทคอยน์ของเราผ่านระบบบล็อกเชนที่มีความปลอดภัยสูง โดยจากสถิตินับตั้งแต่ที่มีบล็อกเชนเกิดขึ้นบนโลก ก็ไม่เคยพบการถูกแฮ็คหรือทำลายข้อมูลใดๆ แม้แต่ครั้งเดียว

เปิดจุดเริ่มต้น ‘Bitcoin มาจากไหน?’

ถ้าบิทคอยน์มันทำงานได้เจ๋งขนาดนี้ คุณคงอยากเห็นโฉมหน้าผู้คิดค้น Bitcoin แล้วใช่ไหม? รวมถึงเรื่องราวเบื้องหลังที่กว่าจะมาเป็นบิทคอยน์แบบทุกวันนี้ เราจะเล่าให้คุณฟัง…

Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาโดยนักพัฒนาซอฟท์แวร์คนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่า “Satoshi Nakamoto” โดยเขาต้องการที่จะแก้ปัญหาการเงินที่มักถูกควบคุมและแทรกแซงกลไกตลาดจากคนกลาง จึงเกิดเป็นไอเดียที่จะสร้างสกุลเงินที่ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนกันอย่างอิสระได้ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง (Decentralised) แต่ใช้เทคโนโลยีหลังบ้าน (Blockchain) มาช่วยรองรับการทำงานแทน

นี่จึงเป็นสกุลเงินดิจิทัลชนิดแรกสุดที่เข้ามาบุกเบิกวงการคริปโตเคอเรนซี่ และถือเป็นต้นกำเนิดของการทำงานในระบบบล็อกเชน ซึ่งคริปโทอื่นๆ ในทุกวันนี้ต่างก็ใช้ระบบนี้เป็นพื้นฐานเหมือนกัน เช่น เหรียญคู่แข่งอย่าง Ethereum, เหรียญ Litecoin, หรือ Altcoins อื่นๆ อย่าง Ripple (XRP)

3 จุดเด่นที่ทำให้ Bitcoin มีความพิเศษ

อ่านมาถึงตรงนี้ คุณคงเริ่มเห็นภาพพระเอกของเราแล้ว ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงความพิเศษที่ทำให้ Bitcoin เป็นที่จับตามองและถูกพูดถึงมากที่สุดในบรรดาเหรียญดิจิทัลทั้งหมด

1. Bitcoin สามารถขุดขึ้นมาได้ แต่จำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ

ต้องขอเล่าก่อนว่า Bitcoin จะเพิ่มเข้ามาในตลาดเรื่อยๆ จากการขุด แต่มีปริมาณจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญทั่วโลก และเมื่อความต้องการซื้อยังคงมีเพิ่มเรื่อยๆ คุณลองนึกภาพตามดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น? แน่นอนว่ามูลค่าของ Bitcoin ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย นี่คือเสน่ห์ที่ทำให้บรรดาเทรดเดอร์ต่างเฝ้ารอซื้อ-ขายบิทคอยน์เป็นอันดับต้นๆ

2. ทำงานบนระบบที่ดี…Decentralised

ทุกๆ การเคลื่อนไหวใน Bitcoin ของคุณจะไม่ถูกควบคุมจากคนกลาง หรือแม้แต่สถาบันการเงินใดๆ ทำให้คุณสามารถแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ได้แบบอิสระในเวลาเพียงไม่กี่นาที แถมระบบยังสามารถย้อนเก็บข้อมูลตั้งแต่การทำธุรกรรมครั้งแรก ในวันที่คุณเริ่มเป็นเจ้าของ Bitcoin ได้อีกด้วย

3. ใช้ซื้อสินค้าและบริการได้จริง

รู้ไหมว่า นอกจากจะซื้อ Bitcoin เพื่อทำกำไรแล้ว ทุกวันนี้ในหลายๆ ประเทศยังสามารถใช้ Bitcoin สำหรับซื้อสินค้าและบริการได้เสมือนใช้เงินจริง เช่น ใช้ซื้อแอปฯ บน Windows ในอเมริกา หรือโรงเรียนสอนดนตรีบางแห่งในไทยก็รับชำระค่าเรียนด้วยบิทคอยน์แล้ว

อยากเล่น Bitcoin ต้องเริ่มยังไง?

คุณสามารถเลือกลงทุนหรือเล่น Bitcoin ได้ 2 วิธี นั่นก็คือ การขุดบิทคอยน์ โดยการซื้อเครื่องขุดมาเอง แต่อาจต้องคำนวณต้นทุนและความผันผวนของมูลค่าบิทคอยน์ให้ดี และอีกวิธีที่นิยม คือ การเทรดบิทคอยน์ ในตลาดคริปโท ซึ่งเปิดตลอด 24 ชม. ผ่านแพลตฟอร์มที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่าง Bitkub เริ่มเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่ได้ง่ายๆ เพียงสมัครบัญชีบนแพลตฟอร์มเทรดเหรียญดิจิทัลชั้นนำของไทยได้แล้ววันนี้

Bitcoin มีประโยชน์อะไร

Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ใช้แลกเปลี่ยนกันได้อย่างอิสระผ่านเครือข่ายที่เรียกว่า 'บล็อกเชน' ซึ่งทำงานแบบกระจายศูนย์ ไม่ต้องอาศัยคนกลางมาควบคุม แต่ผู้ใช้ทุกคนในเครือข่ายสามารถเข้าถึงและตรวจสอบทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชนนั้นได้

ทำไมต้องใช้ บิทคอยน์

จุดประสงค์ที่ซาโตชิ นาคาโมโตะพัฒนาบิตคอยน์ขึ้นมานั้นเพราะต้องการสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระจากการควบคุมไม่ว่าจากรัฐบาล ธนาคาร และสามารถซื้อขายกันได้อย่างสะดวกสบายทั่วโลกผ่านอินเทอร์เน็ตทำให้ค่าธรรมเนียมต่างๆนั้นถูกกว่าการแลกเปลี่ยนเงินตราทั่วไปนั้นเอง

Bitkub ทำอะไรได้บ้าง

Bitkub Exchange คือ ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ที่แลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีของคนไทยที่สามารถใช้เงินบาทซื้อคริปโทเคอร์เรนซีได้

Bitcoin คืออะไร มีข้อดี และข้อเสีย อย่างไร

เป็นเงินดิจิตอล 100 % จับต้องไม่ได้ •ไม่มีองค์กรใด หรือ มีรัฐบาล มาคอยควบคุมกำกับมูลค่าของมันไม่ได้ตกอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล ถือว่าเราเป็นเจ้าของเงินอย่างแท้จริง •มีมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการมากขึ้น ในขณะที่จำนวนบิทคอยน์เท่าเดิม •เสียค่าธรรมเนียมน้อยมากๆ •การทำธุรกรรมไม่จำเป็นต้องผ่านธนาคารไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร ...