การทำการเกษตรแบบสมัยใหม่มีความสำคัญต่อการเกษตรอย่างไร

1.เกษตรอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิต เทคโนโลยีและนวัตกรรมการปลูกผักหรือพืชอายุสั้นด้วยเทคนิคใหม่ๆ เช่น การปลูกพืชไม่ใช้ การผลิตสาหร่ายเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ การทำฟาร์มแนวตั้ง (Vertical Farming) โดยใช้แสงจากหลอดไฟ LED ทดแทนแสงจากดวงอาทิตย์ ซึ่งในปัจจุบันมีรูปแบบในการพัฒนาการเพาะปลูกไปอย่างมากมาย ทำให้เป็นทั้งโอกาสและการหาโอกาสใหม่ๆ ได้อีกด้วย

2. เทคโนโลยีในการผลิตอาหารและเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานอาหาร เช่น การใช้ AI, Machine Learning, IoT, Big Data, เซนเซอร์ควบคุมภูมิอากาศ ที่ส่งผลให้สามารถผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ประหยัดน้ำ ลดใช้พลังงาน และนำไปสู่การจัดการแบบไม่เหลือทิ้งในภาคเกษตร (Zero Waste) ซึ่งปัจจุบันธุรกิจด้านเกษตรทั่วโลกมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องในแง่ของการนำเทคโนโลยีมาส่งเสริมผลิตภาพและประสิทธิภาพการทำงานตลอดห่วงโซ่อุปทานซึ่งเป็นแนวทางไปสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ที่มีความยั่งยืน

3. การปรับปรุงพันธุ์ (Plant Breeding) เทคโนโลยีด้านการศึกษาพันธุกรรมของพืชด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ หรือองค์ความรู้ที่เรียกว่าจีโนมิกส์ (Genomics) ซึ่งเป็นการศึกษารหัสพันธุกรรมทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต Genomics ประกอบด้วย การตัดต่อยีนหรือพันธุกรรม โดยในปัจจุบันการศึกษา Genomics ได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล ตั้งแต่เทคโนโลยีที่ใช้เก็บข้อมูลปริมาณมากที่รวดเร็วและแม่นยำ

ตลอดจนการนำวิทยาการด้านการปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์พืชมาเป็นส่วนเสริมสร้างให้เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ดีกว่าเดิม หรือตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากกว่าเดิม อาทิ เช่น การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวน้ำตาลน้ำที่เป็นที่ต้องการของผู้ป่วยเบาหวาน หรือในด้านปศุสัตว์ เช่น การพัฒนาสายพันธุ์โคเนื้อลายหินอ่อน 

ด้วยเหตุนี้ จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่เพียงส่งผลดีต่อเกษตรกร แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาวงการเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายทางสู่มือผู้บริโภค โดยการผลิตสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้ปัจจัยการผลิตน้อยลง หรือเกิดความคุ้มค่าสูงสุด  ปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


การทำการเกษตรแบบสมัยใหม่มีความสำคัญต่อการเกษตรอย่างไร


อย่างไรก็ตาม การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ ยังเป็นประเด็นที่เปิดกว้าง เนื่องจากจะต้องศึกษาในหลายๆ ด้านอย่างรอบคอบ แต่ก็พอจะให้คำจำกัดความได้คร่าวๆ โดยมี 3 ประเด็นหลักที่ควรพิจารณา คือ

1.เทคโนโลยี คือต้นทุน ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องเลือกเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงราคาเปรียบเทียบของปัจจัยการผลิต ชนิดต่างๆ รวมทั้งราคาเปรียบเทียบระหว่างต้นทุนกับราคาผลิตผล และที่สำคัญคือราคาในการดำเนินการส่วนต่างๆ ด้วย เพราะอย่าลืมว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยียังเกิดเป็นต้นทุนแฝง อาทิ การจัดการ ดูแลรักษาให้สามารถใช้งานได้สมบูรณ์

2.ความเหมาะสมตามขนาดฟาร์ม ขนาดเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะกับขนาดของพื้นที่ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพดิน สภาพน้ำ พืชที่ปลูก และยังต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของเกษตรกรด้วย

3.เหมาะสม ไม่ได้แปรว่าทันสมัย  ดังนั้น ความเหมาะสมในการเลือกลงทุนด้านเทคโนโลยีไม่ใช่เลือกเทคโนโลยีที่ดูทันสมัยที่สุด แต่ควรเลือกที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด โดยการนำข้อ1 และ ข้อ 2 มาพิจารณาประกอบ


การทำการเกษตรแบบสมัยใหม่มีความสำคัญต่อการเกษตรอย่างไร


เทคโนโลยีด้านเกษตรอะไรบ้างเกษตรกรสนใจ

ด้านการเตรียมปัจจัยและวางแผนการผลผลิต อาทิ การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อ วิเคราะห์คุณสมบัติของดิน น้ำ ปุ๋ย สภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศ การใช้ปัจจัย รวมถึงการจัดการภายในฟาร์มด้วย

ด้านการให้ปัจจัยและติดตามกระบวนการผลิต อาทิ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูกโดยไม่ใช้ดิน การคำนวณการให้ปัจจัยด้านการเติบโตแก่พืชที่เหมาะสม การควบคุมวัชพืช หรือแม้แต่การใช้แขนกล หุ่นยนต์ หรือ โดรน มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมถึงด้านปศุสัตว์ เช่น การใช้เซนเซอร์สามารถตรวจสุขภาพ พฤติกรรมการดื่มและกินอาหาร

ด้านส่งเสริมการตลาด อาทิ การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรในรูปแบบแพลตฟอร์มทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือแม้แต่การใช้ Applicationเพื่อช่วยให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนระยะเวลาเพาะปลูกให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตรงกับช่วงที่ราคาดี สามารถจัดการความเสี่ยงทางการตลาด

รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานทำให้เกิดระบบบริหารจัดการสามารถวิเคราะห์และพยากรณ์ความเสี่ยงจากปัจจัยความไม่แน่นอน ทำให้เกษตรกรวางแผนเพาะปลูก แผนการตลาด และการจัดส่งให้เร็วและแน่นอนล่วงหน้าได้ และเพื่อลดการสูญเสีย

 

ประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกษตรกรควรนำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการเลือกที่จะปรับปรุง หรือพัฒนาการทำเกษตร สู่การทำเกษตรสมัยใหม่โดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความสามารถในการขายสินค้า และรวมทั้งเพิ่มรายได้จากมูลค่าของสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

เป็นที่ทราบกันดีว่าการทำเกษตรนั้นต้องพึ่งพาปัจจัยต่างๆ ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศ ปริมาณน้ำ ปุ๋ยต่างๆ ฯลฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นต้นทุนและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เกษตรกรรมแบบเก่านั้นได้รับผลกระทบอย่างมาก

โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ราคาสินค้าจำเป็นต่อการทำการเกษตรนั้นมีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามสถานการณ์เศรษฐกิจของโลก และภาวะเงินเฟ้อ เช่น ราคาปุ๋ยเคมี ซึ่งมีความจำเป็นในการทำการเกษตรแบบเดิมนั้นมีราคาแพงขึ้นเป็นเท่าตัว นำไปสู่ความจำเป็นในการปรับตัวของเกษตรกรจากการทำการเกษตรแบบดั้งเดิม ไปสู่การทำเกษตรยุคใหม่ที่ต้องอาศัยแนวคิด ความรู้ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเสริมจุดอ่อน

การทำการเกษตรแบบสมัยใหม่มีความสำคัญต่อการเกษตรอย่างไร

ซึ่งการนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการทำการเกษตรนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น การใช้เทคโนโลยี IOT หรือ Internet of thing เข้ามาสร้างจุดแข็งในการทำการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ IOT สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์การทำเกษตรทำให้ประหยัดเวลาในการทำงาน การใช้ IOT เทคโนโลยีช่วยแสดงผลการตั้งค่า เก็บข้อมูล และวิเคราะห์ผล ทำให้บอกค่าสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ และ IOT ทำให้เกษตรกรสามารถใช้แรงงานน้อยที่สุดแต่ยังสามารถเพิ่มผลผลิตมากยิ่งขึ้น

การทำการเกษตรแบบสมัยใหม่มีความสำคัญต่อการเกษตรอย่างไร

พรรคชาติไทยพัฒนานั้นสนับสนุนการใช้ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อมาพัฒนาการทำการเกษตรเป็นอย่างมาก เห็นได้จากแนวคิด Agri Tech With Root (ATR) ที่พรรคได้นำมาใช้เป็นแนวทางสำหรับการคิดนโยบายทางการเกษตร โดยแนวคิด Agri Tech With Root (ATR) นี้ เป็นเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ที่นำมาผสมผสานกับภูมิปัญญาปราชญ์ชาวบ้านในแต่ละท้องที่ เพื่อให้ตอบรับกับประเทศไทยที่มากด้วยทรัพยากรที่มีคุณค่า และเอามาใช้เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด

โดยเทคโนโลยี ATR นี้จะเกี่ยวข้องกับ การเรียนรู้ห่วงโซ่ความสัมพันธ์ทางด้านการเกษตร (AgriTech Supply Chain) ประกอบด้วยเทคโนโลยีกับการเพาะปลูก (Farming Tech), เทคโนโลยีกับการแปรรูป (Processing Tech), เทคโนโลยีกับการกระจายสินค้า (Distribution Tech) และเทคโนโลยีกับการจัดจำหน่าย (Retail Tech) การพัฒนาสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการแปรรูป, การกระจายสินค้า และการจัดจำหน่าย

การทำการเกษตรแบบสมัยใหม่มีความสำคัญต่อการเกษตรอย่างไร

นอกจากนี้ ATR ยังสามารถนำไปใช้กับการทำปสุสัตว์ และการประมงได้อีกด้วย

แนวคิด Agri Tech With Root (ATR) นี้ถือเป็นแนวคิดที่พรรคชาติไทยพัฒนาให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดย นายวราวุธ  ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ ได้กล่าวไว้ในเวทีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 พรรคชาติไทยพัฒนาว่า

การทำการเกษตรแบบสมัยใหม่มีความสำคัญต่อการเกษตรอย่างไร

"เราต้องหันมาปฏิรูปการพัฒนาเกษตรกรรมทั้งระบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก การผลิต การแปรรูป-เพิ่มมูลค่า ไปจนถึงการค้าขาย และการสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าเกษตรไทยในแต่ละท้องที่

เราจะเลิกตั้งเป้าส่งออกสินค้าให้ได้จำนวนมากที่สุด เลิกวัดผลเป็นเชิงปริมาณ แต่จะหันมาตั้งเป้าส่งออกสินค้าคุณภาพสูงที่เป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก เพื่อให้ได้ราคาสูงที่สุดแทน ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาสนับสนุนเกษตรกร ผนวกกับองค์ความรู้ปราชญ์ชาวบ้านในแต่ละท้องที่ ด้วยแนวคิด Agri-Tech With Root เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเพิ่มคุณภาพของสินค้า”