เวลาเข้าเกียร์ออโต้ต้องกดปุ่มไหม

อาการเกียร์ออโต้ค้าง เกียร์พัง! ถึงแม้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้ค่อนข้างน้อยแต่ถ้าเราใช้งานเกียร์ผิดวิธี เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดประเภท ก็อาจทำให้เกียร์พังได้เหมือนกัน แล้วไม่ว่าจะเป็นที่ตำแหน่งใดก็ตาม เช่น ตำแหน่งเกียร์ P R N D 2 L หรือตำแหน่งอื่นๆ ถ้าเกิดปัญหาเข้าเกียร์ไม่ได้ สามาถแก้ไขได้ตามนี้ 

1. ตรวจสอบระบบคลัตช์ก่อน

ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติ รถทุกคันล้วนมีคลัทซ์หมด! ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยในการขับเคลื่อนให้รถของเราขับไปได้ หากระบบคลัทช์เสียขึ้นมา นอกจากทำให้รถไม่สามารถขับต่อไปได้แล้ว ยังอาจทำให้ระบบเกียร์พังไปด้วย ซึ่งเราสามารถตรวจสอบคลัตซ์เบื้องต้นได้ตามนี้

• สตาร์ทรถ ในตำแหน่งเกียร์ P หรือ N 
• เหยียบเบรค ด้วยเท้าซ้าย และดึงเบรคมือจนสุด 
• ดึงคันเกียร์มาที่ R หรือ D4 (แนะนำเป็น D4 ดีกว่า) 
• เหยียบคันเร่งด้วยเท้าขวาให้เต็มที่ ห้ามปล่อยเบรคเท้าซ้ายเด็ดขาด! มิเช่นนั้นรถอาจพุ่งชนได้  

ในกรณีเครื่องดับทันทีแสดงว่าคลัทช์ดี แต่ถ้ารอบตกแต่ไม่ดับทันที แสดงว่าคลัทช์หมดแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว นอกจากนี้ปัญหาการเข้าเกียร์ยากนั้นอาจมาจากระยะแป้นคลัสซ์ที่ไม่เหมาะสม ทางที่ดีให้เราตรวจสอบน้ำมันในคลัสซ์ว่าอยู่ในระดับต่ำเกินไปหรือเปล่า และตรวจสอบว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ด้วย   

2. แก้ไขปัญหาที่น้ำมันเกียร์

เนื่องจากน้ำมันเกียร์ เป็นสิ่งที่ช่วยให้ระบบเกียร์มีความล่อลื่น ทำให้เกียร์ออโต้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าวันไหนที่รถของคุณเข้าเกียร์ยาก อาจเป็นไปได้ว่าน้ำมันเกียร์มีปัญหา เช่น น้ำมันเกียร์รั่วซึม ระดับน้ำมันในระบบไม่ได้ระดับตามที่กำหนด จะส่งผลให้เพิ่มแรงเสียดทานทำให้คลัตซ์ไม่สามารถส่งผลให้เกียร์ทำงานได้ตามปกติ เราต้องทำการแก้ไขด้วยการเติมน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 

ด้วยเหตุนี้เองเราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ เพื่อช่วยลดแรงเสียดทานในการขับขี่ และน้ำมันเกียร์ยังช่วยในการหล่อลื่นของระบบเกียร์ทำงานได้ดี ไม่มีสะดุดนั่นเอง

3. แก้ไขปัญหาท่อหายใจ

อย่างท่อหายใจของห้องเกียร์ ก็อาจมีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันภายใน ทำให้รถเข้าเกียร์ไม่ได้ ดังนั้นเราควรตรวจสอบท่อหายใจว่ามีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันหรือไม่ ถ้ามีควรกำจัดออกให้หมด เมื่อจัดการให้ท่อหายใจกลับมาเป็นปกติ การเติมน้ำมันเกียร์เข้าระบบก็ง่ายมากขึ้น

4. แก้ไขด้วยการตรวจสอบชุดเกียร์

แต่ถ้าให้ชัวร์ๆ ก็ให้นำรถตรวจสอบชุดเกียร์ที่ศูนย์บริการเลยดีกว่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบเบื้องต้นประมาณ 400 - 600 บาท  (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับศูนย์บริการนั้นๆ) จากนั้นทางเจ้าหน้าที่เช็กอุปกรณ์ชิ้นส่วนภายใน ว่ามีชิ้นส่วนใดเสียหายหรือชำรุดหรือไม่ หากมีชิ้นส่วนใดเสียหายก็จะได้ทำการแก้ไขทันที 

หากต้องซ่อมค่าเกียร์ขึ้นมาจริงๆ บอกเลยว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนเกียร์ใหม่ยกชุดมีราคาตั้งแต่หลักแสนขึ้นไป ไม่ว่าจะซ่อมแบบไหน ถ้าเกียร์พังขึ้นมาทั้งที ต้องมีค่าใช้จ่ายตามมาแน่นอน ทางที่ดีเราควรตรวจสอบ ดูแลระบบเกียร์อยู่เสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานรถ อุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ ภายในรถนั่นเอง

ซื้อประกันรถยนต์ กับ bolttech หมดห่วงเรื่องค่าซ่อมรถเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ ไว้วางใจด้วยอู่ซ่อมมาตรฐานในเครือบริษัทประกัน พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ขับขี่จะได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น