โรคที่เกิดกับระบบสืบพันธุ์เพศหญิง

โรคที่เกิดกับระบบสืบพันธุ์เพศหญิง

ศ.พญ.สายพิณ พงษธา

สูตินรีแพทย์

รหัสเอกสาร PI-IMC-329-R-00

อนุมัติวันที่ 28 มกราคม 2564

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คืออะไร

        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted infections) หรือเดิมเรียกว่า “กามโรค” (Venereal diseases) คือ กลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ โดยการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก แล้วมีการติดเชื้อขึ้น ซึ่งในบางโรคผู้ติดเชื้ออาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จึงทำให้ไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้ออยู่ และแพร่กระจายเชื้อไปสู่คู่นอนได้ โดยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย มีดังนี้

ซิฟิลิส (Syphilis)

        ซิฟิลิส เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema pallidum) โดยจะเริ่มแสดงอาการ 3-4 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ และพบผู้ติดเชื้อมากในกลุ่มของวัยรุ่น (ช่วงมัธยมศึกษา-มหาวิทยาลัย) โดยปกติจะติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งหากมีการติดเชื้อในสตรีตั้งครรภ์ อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้

อาการ

        พบแผลริมแข็ง (Chancre) ที่อวัยวะเพศ มักเป็นแผลสะอาด พื้นสีแดง แผลเดียว ขอบแข็งยกนูน อาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองโตได้ แผลสามารถหายเองได้ใน 2-8 สัปดาห์ จากนั้นเชื้อจะแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่างๆ โดยแสดงอาการเป็นผื่น (Macular rash) กระจายทั่วไป และมีผื่น (Targeted lesion) ที่ฝ่ามือฝ่าเท้า ผมร่วงเป็นหย่อม มีตุ่มนูน (Condyloma lata) ที่อวัยวะเพศ และอาจมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อร่วมด้วยได้ อาการเหล่านี้จะพบ 4-10 สัปดาห์ หลังจากพบแผลริมแข็ง นอกจากนี้หากไม่ได้รับการรักษา จะยังคงตรวจพบการติดเชื้อได้จากการตรวจเลือด ถึงแม้อาการต่างๆ จะหายไปแล้ว จนเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรค จะมีผิวหนังเป็นก้อนนูนแตกเป็นแผล กระดูกอักเสบ ตาบอด หูหนวก สมองพิการ เส้นเลือดใหญ่ที่หัวใจโป่งพอง และอาจเสียชีวิตได้

หูดหงอนไก่ (Condyloma accuminata)

        เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human papillomavirus) ทำให้เกิดการเจริญผิดปกติของเยื่อบุและผิวหนังบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์และทวารหนัก โดยอาจมีอาการหรือไม่มีอาการก็ได้ พบได้บ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย  

อาการ 

        หูดหงอนไก่จะมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อ หรือแผ่นนูนออกมาจากบริเวณผิวหนังหรือเยื่อบุ ลักษณะคล้ายหงอนไก่ หรือผิวตะปุ่มตะป่ำคล้ายดอกกะหล่ำ มีขนาดต่างๆ กัน สามารถพบได้ในหลายบริเวณ ได้แก่ ขาหนีบ ปากช่องคลอด ฝีเย็บ ผิวหนังรอบรูทวารหนัก ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และปากมดลูก อาจมีอาการคัน ระคายเคือง หรือเลือดออกบริเวณรอยโรค หรืออาจไม่มีอาการใดๆ เลยก็ได้

โรคเอดส์ หรือเอชไอวี (HIV)

        โรคเอดส์หรือเอชไอวี เป็นกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (Human immunodeficiency virus) ซึ่งสามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี (โดยไม่สวมถุงยางอนามัย) หรือติดต่อทางเลือด เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และติดต่อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์

อาการ

        หลังรับเชื้อประมาณ 2-4 สัปดาห์ อาจมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ จากนั้นอาจไม่มีอาการเลยหรือมีอาการเล็กน้อย จนเมื่อถึงระยะเอดส์เต็มขั้น ภูมิคุ้มกันจะลดลงรวดเร็ว มีการติดเชื้อและแสดงอาการ เช่น เชื้อราขึ้นสมอง วัณโรค ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วร่างกาย ปอดอักเสบ ท้องเสียเรื้อรัง ผื่นตามผิวหนัง น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว และมีอาการทางระบบประสาท เป็นต้น

หนองใน (Gonorrhea) 

        โรคหนองใน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ชื่อ Neisseria gonorrhoeae ซึ่งพบได้ในน้ำอสุจิและสารคัดหลั่งในช่องคลอด จึงถ่ายทอดผ่านการมีเพศสัมพันธ์เป็นหลัก รวมทั้งการสัมผัสโดยตรง เช่น ทารกที่คลอดผ่านทางช่องคลอดของมารดาที่ติดเชื้อ ทำให้เกิดการติดเชื้อที่เยื่อบุตา โดยโรคหนองในแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ โรคหนองในแท้หรือโกโนเรีย (Gonorrhoea) และโรคหนองในเทียม (Non Gonococcal Urethritis) หรือ NSU ซึ่งเป็นการอักเสบของท่อปัสสาวะที่เกิดจากเชื้อโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่หนองในแท้ 

อาการ      

        อาการจะเริ่มแสดงหลังได้รับเชื้อ 1-14 วัน โดยอาการในผู้หญิง ได้แก่ ตกขาวผิดปกติ เช่น ปริมาณมากขึ้น มีสีเหลืองหรือเขียว แสบเวลาปัสสาวะ ปวดท้องน้อย อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน เป็นต้น สำหรับอาการในผู้ชาย ได้แก่ มูกใสออกจากท่อปัสสาวะโดยไม่ใช่น้ำปัสสาวะหรือน้ำอสุจิ แสบเวลาปัสสาวะ ปวดที่อัณฑะ หรืออาจมีการอักเสบที่หนังหุ้มปลายองคชาตเป็นต้น นอกจากนั้น หากมีการติดเชื้อในทวารหนัก อาจทำให้เกิดอาการปวดหน่วงหรืออาจมีสารคัดหลั่งคล้ายหนองออกมาหรือการติดเชื้อที่เยื่อบุตา จะทำให้มีอาการเจ็บปวด ระคายเคืองและมีหนองได้

ข้อมูลอ้างอิง

- ผศ.พญ.กุณฑรี ไตรศรีศิลป์ หมื่นพินิจ . ซิฟิลิสในหญิงตั้งครรภ์ . ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ . แหล่งข้อมูล : https://sriphat.med.cmu.ac.th/th/knowledge-386 . ค้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564.

- อ.พญ.ชลัยธร นันทสุภา . หูดหงอนไก่ . ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ . แหล่งข้อมูล : https://sriphat.med.cmu.ac.th/th/knowledge-607 . ค้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564.

- พญ.ธัญญลักษณ์ วงศ์ลือชา . เอดส์ป้องกันได้ ไม่ติดง่ายอย่างที่คิด . ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ . แหล่งข้อมูล : https://sriphat.med.cmu.ac.th/th/knowledge-214 . ค้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564.

- อ.พญ.เจนจิต ฉายะจินดา และ พว.ขวัญจิตร เหล่าทอง . (พ.ศ.2557) . โรคติดเชื้อระบบสืบพันธุ์น่ารู้: โรคหนองใน . คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล . แหล่งข้อมูล : https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=895 . ค้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564.

โรคในระบบสืบพันธุ์เพศชาย มีอะไรบ้าง

5 โรคอันตราย ฝันร้ายของผู้ชายวัย 50 +.
1. โรคต่อมลูกหมากโต ( Benign Prostatic Hyperplasia) ... .
2. ภาวะฮอร์โมนเพศชายลดต่ำ (Male Hypogonadism) ... .
3. การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) ... .
4. โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ (Stones in the Urinary Tract) ... .
5. มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer).

ปวดช่องคลอดเกิดจากอะไร

เจ็บในช่องคลอด ที่พบบ่อยที่สุด คือ ช่องคลอดแห้ง ซึ่งอาจเกิดจากช่วงที่กระตุ้นเล้าโลมไม่ดี หรือความตื่นตัวยังไม่ดี จากการใส่ยาบางอย่างเข้าไปทำให้ระคายและแห้ง อาจเกิดจากการอักเสบในช่องคลอดจากเชื้อโรค หรืออาการช่องคลอดแห้งจากการขาดฮอร์โมนในวัยหมดระดู หรือหลังคลอดใหม่ๆ และช่วงที่กำลังเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือการเจ็บที่ช่อง ...

ระบบสืบพันธ์เพศหญิงมีอะไรบ้าง ร้อมทั้งอธิบายหน้าที่

ระบบสืบพันธุ์เพศหญิงประกอบด้วยอวัยวะซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายในร่างกายและรอบๆ บริเวณเชิงกรานซึ่งทำหน้าที่ในกระบวนการสืบพันธุ์ ระบบสืบพันธุ์เพศหญิงประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ช่องคลอดทำหน้าที่รองรับอสุจิจากเพศชาย, มดลูกซึ่งช่วยรองรับทารกในครรภ์ และรังไข่ทำหน้าที่ผลิตไข่ เต้านมก็เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในระยะการ ...

ระบบสืบพันธุ์บกพร่องจะเกิดผลอย่างไร

ผู้ป่วยมักจะมีปัสสาวะออกน้อยกว่าปกติ ปัสสาวะมักมีสีแดงเหมือนน้ำล้างเนื้อ หรือน้ำหมาก มีอาการบวมที่หน้า ตา เท้า และท้อง มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมักทำให้มีอาการหอบ เหนื่อย ชัก ความดันสูง