กรมแรงงานไปต่างประเทศอิสราเอล2565

การไปทำงานต่างประเทศโดยถูกต้องตามกฏหมาย

การไปทำงานต่างประเทศโดยถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี

1.บริษัทจัดหางานจัดส่ง
2.กรมการจัดหางานจัดส่ง
3.เดินทางไปทำงานด้วยตนเอง
4.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงาน
5.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงาน

1. บริษัทจัดหางานจัดส่ง

  • ต้องแสดงใบอนุญาตการจดทะเบียนต่อกรมการจัดหางาน ไว้ในที่เปิดเผยและเห็นชัด ณ สำนักงานที่ได้รับอนุญาต
  • ต้องจดทะเบียนลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางานที่ทำงานให้บริษัทไม่ใช้สายหรือเป็นนายหน้าเถื่อน
  • เรียกเก็บค่าหัวตามกฏหมายและออกใบเสร็จรับเงินให้คนหางานไว้เป็นหลักฐาน
  • เรียกเก็บเงินล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วันก่อนเดินทาง ถ้าไม่ส่งไปทำงานตามกำหนด ต้องคืนเงินให้ทันที
  • ต้องส่งคนงานไปตรวจโรค ณ สถานพยาบาลตามที่กรมการจักหางานประกาศรายชื่อไว้
  • ต้องส่งคนหางานไปทดสอบฝีมือ ณ สถานทดสอบฝีมือตามที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานอนุญาต
  • ต้องพาคนงานเข้ารับการฝึกอบรมจากเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางานก่อนเดินทาง
  • ต้องพาคนหางานเดินทางออกไปทำงานต่างประเทศผ่านด่านตรวจคนหางานของกรมการจัดหางาน
  • ติดต่อ : บริษัทจัดหางานที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน

2. กรมการจัดหางานจัดส่ง

เป็นบริการของรัฐที่ส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ต้องเสียค่าบริการ นอกจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าภาษี สนามบิน ค่าสมาชิกกองทุนฯ ค่าที่พักสำหรับเตรียมตัวก่อนเดินทาง

  • โครงการจัดส่งโดยรัฐ
    • โครงการจ้างตรง : ไต้หวัน
    • โครงการ IM : ประเทศญี่ปุ่น
    • โครงการ EPS : สาธารณรัฐเกาหลี
    • โครงการ TIC : ประเทศอิสราเอล

3. เดินทางไปทำงานด้วยตนเอง

คนหางานติดต่อนายจ้างต่างประเทศด้วยตนเองหรือคนงานที่ทำงานครบสัญญาจ้างแล้วได้ต่อสัญญาจ้าง เมื่อเดินทางกลับมาพักผ่อน ในประเทศไทยและจะเดินทางกลับไปทำงานอีก ต้องแจ้งต่อกรมการจัดหางานก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วัน

  • ขั้นตอนและเอกสารสำหรับแจ้งการเดินทาง

4. นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงาน

นายจ้างในประเทศไทยที่มีบริษัทในเครืออยู่ในต่างประเทศ หรือประมูลงานในต่างประเทศได้ ส่งลูกจ้างที่อยู่ในประเทศไทยไปทำงานต้องขออนุญาตต่อกรมการจัดหางาน

  • เอกสารประกอบการยื่นขออนุญาต

5. นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงาน

  • กรณีไม่เกิน 45 วัน
  • กรณีเกิน 45 วัน

** การยื่นแบบแจ้ง นายจ้างที่ประสงค์จะส่งลูกจ้างไปฝึกงานในต่างประเทศไม่เกิน 45 วัน ให้ยื่นแบบแจ้งตามแบบ จง.46

กรณีนายจ้างมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ยื่นแบบแจ้ง (จง.46) ณ สำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ หรือสำนักงานจัดหางานเขตพื้นที่ที่ตั้งสำนักงาน

กรณีนายจ้างมีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัดอื่น ให้ยื่นแบบแจ้ง (จง.46) ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดนั้น

กรณีลูกจ้างที่นายจ้างจะส่งไปฝึกงานทำงานอยู่ ณ สำนักงานใหญ่ ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้ง (จง.46) ต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบสำนักงานที่ลูกจ้างทำงานอยู่ เช่น

  • ลูกจ้างทำงานอยู่ ณ สำนักงานใหญ่ หรือสำนักงานสาขาซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ให้นายจ้างยื่นแบบจ้าง (จง.46) ณ สำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ
  • ลูกจ้างทำงานอยู่ ณ สำนักงานใหญ่ หรือ สำนักงานสาขาซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพฯ ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้ง (จง.46) ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดนั้น

46196

ดูบทความกกจ. เปิดรับสมัคร คนไทยไปทำงานภาคเกษตรที่อิสราเอล

กกจ. เปิดรับสมัคร คนไทยไปทำงานภาคเกษตรที่อิสราเอล

กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัคร และคัดเลือกคนหางานเพื่อไปทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน” (TIC) ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤศจิกายน 2563 นี้

กรมแรงงานไปต่างประเทศอิสราเอล2565

นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้กรมการจัดหางานจะเปิดรับสมัครและคัดเลือกคนหางานเพื่อไปทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน” (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) ครั้งที่ 15 ตำแหน่งคนงานภาคเกษตร ซึ่งจะมีระยะเวลาการจ้างงาน 2 ปีแต่ไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการต่ออายุใบอนุญาตการจ้างแรงงานต่างชาติของนายจ้างและวีซ่าการทำงาน ตามข้อกำหนดของกฎหมายรัฐอิสราเอล โดยคนหางานจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษีเดือนละ 5,300 เชคเกลอิสราเอล หรือประมาณ 48,073 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) คุณสมบัติ มีสัญชาติไทย เพศชายที่พ้นภาระการรับราชการทหาร เกิดระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน 2524 – 27 พฤศจิกายน 2540 ไม่มีประวัติอาชญากรรม ไม่มีคู่สมรส บุตร หรือบิดาและมารดาพำนักอยู่ในประเทศอิสราเอล และไม่เคยทำงานในประเทศอิสราเอล สุขภาพแข็งแรง ตาไม่บอดสี ไม่เสพสารเสพติด และต้องมีประสบการณ์ทำงานภาคการเกษตรหลักฐานที่ใช้ในการสมัครได้แก่ ใบสมัครที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว รูปถ่ายสีครึ่งตัวพื้นหลังสีฟ้า ขนาด 2 นิ้ว โดยถ่ายครั้งเดียวกันและถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป สำเนาหนังสือเดินทาง (ถ้ามี) บัตรประจำตัวประชาชนพร้อมสำเนา สำเนาสูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้าน หรือ ท.ร.1/ก หรือหลักฐานแสดงผลการเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.05) สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล(ถ้ามี) สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหลักฐานการพ้นภาระการรับราชการทหาร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของภรรยา สำเนาเอกสารแสดงสถานภาพการสมรสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หรือใบสำคัญการหย่า สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน โดยเอกสารทั้งหมดถ่ายสำเนา อย่างละ 2 ชุด และให้ผู้สมัครลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องในสำเนาหลักฐานทุกฉบับ ผู้สนใจติดต่อขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัครด้วยตนเองพร้อมหลักฐานได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 23 – 27 พฤศจิกายน 2563 เวลา 08.30 –16.30 น.นายสุชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานรัฐอิสราเอล เป็นจำนวนเงินประมาณ 55,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ไดแก่ 1.ค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง เช่น ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ค่าธรรมเนียมการขอรับหนังสือเดินทาง ค่าตรวจสุขภาพ ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเที่ยวเดียวจากประเทศไทยไปยังอิสราเอล ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศตามที่กระทรวงแรงงานกำหนด เป็นต้น และ 2.ค่าใช้จ่ายหลังจากเดินทางไปถึงตามกฎหมายแห่งรัฐอิสราเอล จำนวนประมาณ 27,900 บาททั้งนี้ หากมีผู้แอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ได้รับการคัดเลือกเพื่อไปทำงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอลได้ โปรดอย่าหลงเชื่อ แต่ขอให้แจ้งและตรวจสอบข้อมูลกับกรมการจัดหางานก่อน และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร. 0-2245-0978 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้จากเว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th  หรือ เว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ www.doe.go.th/overseas 

02 พฤศจิกายน 2563

ผู้ชม 11033 ครั้ง