ผู้นําแบบประชาธิปไตย democratic leader หมายถึง

รูปแบบและประเภทของผู้นำ

รูปแบบ ของผู้นำ มี 2 รูปแบบ คือ

  • ผู้นำที่เน้นงานเป็นศูนย์กลาง (Tasked –Related Function)
  • ผู้นำเน้นความสัมพันธ์กลุ่มเป็นศูนย์กลาง(Group-maintenance)

Likert ได้ศึกษารูปแบบผู้นำในมหามิชิแกน พบว่า การบริหารแบ่งผู้นำเป็น 4 แบบ

  1. ผู้บริหารมุ่งใช้อำนาจ(Exploitative authority)
  2. ผู้บริหารใช้อำนาจอย่างเมตตา
  3. ผู้บริหารแบบการปรึกษาหารือ
  4. ผู้บริหารเน้นความร่วมมือกับทุกฝ่าย

ประเภทของผู้นำ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

  1. ผู้นำแบบอัตตาธิปไตย (Autocratic Leader) ลักษณะเผด็จการชอบสั่งการใช้อำนาจกดขี่ / ยึดถือตัวเองเป็นศูนย์กลาง /การบังคับบัญชาสั่งการจากข้างบนลงล่าง/ผู้ช่วย คือผู้ใต้บังคับบัญชา
  2. ผู้นำแบบเสรี(Laissez-faire leader) ไม่ยึดกฏเกณฑ์ตายตัว ปรับเปลี่ยนได้ตามผู้ร่วมงานเสนอ /ปล่อยผู้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่ไปเรื่อยๆ /ไม่มีความคิดสร้างสรรค์งานใหม่ / ไม่มีการประเมินผลงาน
  3. ผู้นำแบบประชาธิปไตย(Democratic leader) ยึดถือความคิดกลุ่มเหนือความคิดตนเอง /แบ่งงาน/มอบหมายงานเป็นระบบ/ให้คำแนะนำในการงาน/สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ร่วมงาน โดยใช้กฎเกณฑ์สร้างสรรค์งาน

กล่าวโดยสรุป สภาพปัจจุบัน ผู้นำ มี 4 แบบ คือ

  1. ผู้นำแบบเสรีนิยม (Laissez-faire leader) ผู้นำจะปล่อยให้ผู้ร่วมงานตัดสินใจดำเนินการได้เอง ไม่ต้องรอการตัดสินใจจากผู้บังคับบัญชา
  2. ผู้นำแบบเกื้อกูล หรือ แบบใช้พระคุณ(Charismatic Leadership) มีพฤติกรรมอ่อนโยน เห็นใจผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้หลักธรรม หลักมนุษยสัมพันธ์
  3. ผู้นำแบบเผด็จการ (Autocratic Leader) เชื่อมั่นตนเอง ชอบสั่งการ ตัดสินใจตามอารมณ์ ผูกขาดการตัดสินใจที่ตัวคนเดียว
  4. ผู้นำแบบประชาธิปไตย (Democratic leader) ถือเอาความคิดของกลุ่มเป็นหลัก ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ปัจจุบันถือว่าเป็นแบบผู้นำที่ดีที่สุด

ผู้นำ มีในองค์การ (บุคลิกลักษณะ +อุปนิสัย+ภาวะผู้นำ)

ผู้บริหาร เป็นผู้บังคับบัญชาของหน่วยงาน องค์การ

ผู้นำ/ผู้บริหารที่ดี ต้องฝึกพฤติกรรมแห่งการเป็นผู้นำ 10 ประการ ดังนี้

  1. นักวางแผน (Planning)
  2. นักจัดระเบียบ (Organizing)
  3. นักประสานงาน( Coordinating)
  4. นักสื่อสาร (Communicating)
  5. นักมอบหมายงาน(Delegating)
  6. นักตัดสินใจ(Decision-Making)
  7. นักมนุษยสัมพันธ์ (Human Relation)
  8. นักฝึกอบรม(Training)
  9. นักจัดกระบวนการกลุ่ม
  10. นักประเมินผลงาน

ปัจจัยในการสร้างความเป็นผู้นำ ขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัยหลัก คือ

  1. ภูมิหลังและประสบการณ์ (Background and Experience) พื้นฐานครอบครัวและมวลประสบการณ์เดิมที่ผ่านมาในช่วงชีวิต
  2. สติปัญญาและคุณภาพสมอง (Intellectual and mental quality) มีทักษะทางภาษา การติดต่อสื่อสาร / ความสามารถด้านการมีเหตุผล /ความจำ/ความรอบรู้
  3. คุณลักษณะทางร่างกาย (Physical attributes) ผู้นำที่ร่างกายแข็งแรง จะมีจิตใจที่ดี
  4. บุคลิกภาพและความสนใจ( Personality and Interests) ความสนใจ กระตือรือร้นและความเต็มใจในการปฏิบัติงาน
  5. ความเชื่อมั่นในตัวเอง(Self-Confidence) ผู้นำต้องสร้างความเชื่อมั่น/มั่นใจในตัว

บทบาทของ “ผู้นำ” ถือเป็นบทบาทที่สำคัญในทุกหน่วยทางสังคม เพราะหลายๆ ครั้ง อนาคตของคนทั้งกลุ่มหรือองค์กร (หรือแม้แต่ประเทศชาติ) ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้นำนี้เอง จึงไม่แปลกเลยที่ในวงการจิตวิทยาจะมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับภาวะผู้นำอย่างกว้างขวาง ว่าแต่คุณ (หรือเจ้านายคุณ) เป็นผู้นำแบบไหน? มาดูกันดีกว่า

1. Democratic leader 
แปลได้ตามตัวอักษรเลยว่าผู้นำที่เป็นประชาธิปไตย โดยมักจะตัดสินใจจากข้อมูลคือความคิดเห็นของลูกทีมเป็นหลัก ว่ากันว่าสไตล์ผู้นำแบบนี้เป็นสไตล์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเปิดโอกาสให้ลูกทีมได้มีส่วนร่วมนั่นเอง ทฤษฎีภาวะผู้นำแบบนี้บัญญัติโดยนักจิตวิทยา Kurt Lewin, R Lippit และ R.K. White ที่ระบุภาวะผู้นำจากรูปแบบของการตัดสินใจ (มี 3 แบบคือ Democratic, Autocratic และ Laissez-Faire) ผู้นำแบบนี้จะฉลาด จริงใจ สร้างสรรค์และมีความแฟร์สูง

2. Autocratic leader
สไตล์นี้จะตรงข้ามกับข้อแรก คือเน้นตัวเองเป็นหลัก ผู้นำแบบนี้จะตัดสินใจโดยไม่ฟังเสียงใคร และไม่ปรึกษาใครด้วย ถ้าองค์กรใดมีผู้นำแบบนี้ก็อาจจะอยู่ยากหน่อย เพราะเป็นไปได้มากที่พนักงานจะลาออกบ่อยเพราะไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ เลย

3. Laissez-Faire leader
แปลตามภาษาฝรั่งเศสก็คือ “ปล่อยให้ทำไป” เป็นผู้นำที่ยกอำนาจให้ลูกทีมไปเลย ผู้นำแบบนี้มีอยู่มากในวงการสตาร์ทอัพ คือไม่มาจุกจิกจู้จี้ ปล่อยให้ทำงานกันไป ขอให้ได้งานเป็นพอ แต่องค์กรที่มีผู้นำแบบนี้ก็ต้องระวังไว้นิดหนึ่ง เพราะถ้าลูกทีมไม่ดีบริษัทก็อาจจะไม่พัฒนาไปไหน

4. Strategic leader
ผู้นำแบบนี้เป็นผู้นำที่ให้ความสำคัญกับสมดุลระหว่างการปฏิบัติงานกับการเติบโตของบริษัท ผู้นำแบบนี้มีระบบการคิดที่เป็นแบบแผน และใส่ใจเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงาน Gavetti อธิบายถึงผู้นำประเภทนี้ว่าเป็นทั้งนักเศรษฐศาสตร์และนักจิตวิทยาที่ดี เพราะเป็นคนที่มักจะมองเห็นช่องทางใหม่ๆ เสมอ และสามารถกระตุ้นให้ลูกทีมมองเห็นข้อดีของช่องทางใหม่ๆ ดังกล่าวเพื่อพัฒนาตนเองและบริษัทต่อไป 

5. Transformational leader
นับเป็นสไตล์ผู้นำในฝันของใครหลายคน เพราะเป็นผู้นำที่ใส่ใจในการพัฒนาศักยภาพของลูกทีม ผู้นำแบบนี้จะมีเป้าหมายและเดดไลน์ที่ชัดเจนเพื่อผลักดันให้ลูกทีมพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แถมยังช่วยให้บรรลุเป้าหมายของบริษัทด้วย ผู้นำแบบนี้มักจะเป็นตัวอย่างหรือ role model ที่ดี สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกทีมได้

6. Transactional leader
เป็นสไตล์ผู้นำที่พบเห็นได้ทั่วไปในทุกวันนี้ คือมีการให้รางวัลตอบแทนการทำงานที่ดี อย่างเช่นได้ค่าคอมหรือเปอร์เซนต์เพิ่ม ภาวะผู้นำแบบนี้มาจากแนวคิดของ Max Weber นักสังคมวิทยาชาวเยอรมัน โดยเขาเรียกผู้นำแบบนี้ว่าเป็นผู้นำแบบ rational-legal leader คือไม่ต้องมีเสน่ห์ก็ได้ แต่เน้นกลยุทธ์ยื่นหมูยื่นแมว และไม่ค่อยเข้ามายุ่งกับการทำงานของลูกทีมสักเท่าไหร่

7. Coach-Style leader
ผู้นำแบบนี้จะมีบทบาทคล้ายๆโค้ชของทีมกีฬา ที่เน้นที่การระบุและพัฒนาศักยภาพของลูกทีม โดยให้ลูกทีมแต่ละคนพัฒนาทักษะแตกต่างกันออกไป และเน้นการสร้างกลยุทธ์ที่ทำให้ทีมมีทีมเวิร์กมากยิ่งขึ้น 

8. Bureaucratic leader
เป็นผู้นำที่บริหารงานตามตำรา อาจจะมีการฟังเสียงจากลูกทีมบ้าง แต่ถ้าความเห็นของลูกทีมขัดกับนโยบายบริษัทก็ไม่เชื่อลูกทีมอยู่ดี ผู้นำแบบนี้ทำให้บริษัทอยู่ได้อย่างคงที่ แต่อาจจะไม่มีนวัตกรรมใหม่หรือไม่มีอะไรว้าวเลย 

แม้จะมีการวิจัยอย่างกว้างขวาง แต่ก็ไม่มีนักวิชาการคนไหนฟันธงลงไปว่าผู้นำแบบไหนคือผู้นำที่ดีที่สุด เพราะสไตล์ของผู้นำที่เหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย อย่างเช่นรูปแบบขององค์กรหรือการมีส่วนร่วมของพนักงาน เป็นต้น

อ้างอิง:
1. https://www.businessballs.com/leadership-models/leadership-styles-3-style-model-kurt-lewin/
2. https://blog.hubspot.com/marketing/leadership-styles

Share on facebook

Share on twitter

Share on linkedin

Share on pinterest

ผู้นําแบบประชาธิปไตย democratic leader หมายถึง

Chidsupang Chaiwiroj

Chidsupang is the Editor-in-Chief of Kooper.co. She loves to travel and has a wide range of interests, from art and culture to psychology and productivity.

More to explore

ผู้นําแบบประชาธิปไตย democratic leader หมายถึง

แผลเก่า:Old Wound แผลเดิมในเรื่องเล่า ที่ยังเป็นแผลสดของพล็อตสังคมไทย

October 12, 2022 No Comments

นิทรรศการ แผลเก่า / Old Wound นิทรรศการเดี่ยวโดย ประทีป สุธาทองไทย ศิลปินนักตั้งคำถาม ผู้ซ่อนบทสนทนาทางสังคมไว้ในงานเสมอ

ผู้นําแบบประชาธิปไตย democratic leader หมายถึง

“Yesterday I Was, Tomorrow I Will Be” นิทรรศการแห่งความฝันและความสำเร็จของ “Pomme Chan”

October 7, 2022 No Comments

ก้าวสู่โลกที่เปี่ยมไปด้วยแพชชั่น ผ่านผลงานศิลปะตั้งแต่ชิ้นแรกที่น้อยคนจะได้เห็น สู่วันที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพร่วมระยะเวลา 20 ปี

รูปแบบของผู้นํามีกี่ประเภท

ลิปปิทท์ (Lippitt) แบ่งประเภทของผู้นํา เป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. ผู้นําแบบเผด็จการ (The Autocratic Leader) 2. ผู้นําแบบประชาธิปไตย (The Democratic Leader) 3. ผู้นําแบบตามสบายหรือแบบเสรี (The Laissez –faire. Leader)

รูปแบบของผู้นำแบบใดดีที่สุด

2. ผู้นำแบบประชาธิปไตย (Democratic Leader) เป็นลักษณะผู้นำที่มีประสิทธิภาพที่สุด มีผู้นำจำนวนมากที่นิยมการนำแบบประชาธิปไตย คือ เน้นการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับลูกน้อง ฟังความคิดเห็น คำนึงถึงความต้องการและความรู้สึกของผู้ใต้บังคับบัญชา เน้นดูแลและมีสัมพันธภาพของคนมากกว่าเน้นงาน เพื่อจูงใจให้คนทำงานได้ตามเป้าหมาย ลักษณะ ...

ผู้นำแบบตามสบายหรือเสรีนิยมแตกต่างจากผู้นำแบบอื่นอย่างไร

แบบที่ 3 ผู้นำแบบตามสบายหรือเสรีนิยม (Laissez-Faire Leaders) จะให้อิสระกับผู้ใต้บังคับบัญชาเต็มที่ในการตัดสินใจแก้ไขปัญหา จะไม่มีการกำหนดเป้าหมายที่แน่นอน ไม่มีหลักเกณฑ์ ไม่มีระเบียบ จะทำให้เกิดความคับข้องใจหรือความไม่พอใจของผู้ร่วมงานได้และได้ผลผลิตต่ำ การทำงานของผู้นำลักษณะนี้เป็นการกระจายงานไปที่กลุ่ม ถ้ากลุ่มมีความ ...

ข้อใดคือผู้นำแบบเสรีนิยม (Laissez

กล่าวโดยสรุป สภาพปัจจุบัน ผู้นำ มี 4 แบบ คือ ผู้นำแบบเสรีนิยม (Laissez-faire leader) ผู้นำจะปล่อยให้ผู้ร่วมงานตัดสินใจดำเนินการได้เอง ไม่ต้องรอการตัดสินใจจากผู้บังคับบัญชา ผู้นำแบบเกื้อกูล หรือ แบบใช้พระคุณ(Charismatic Leadership) มีพฤติกรรมอ่อนโยน เห็นใจผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้หลักธรรม หลักมนุษยสัมพันธ์