มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.1.3 วิเคราะห์เปรียบเทียบหลักฐานทางประวัติศาสตร์และความแตกต่างของหลักฐานในการศึกษา หลักเกณฑ์การแบ่งยุคทางประวัติศาสตร์ เพื่อความสะดวกในการศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ในอดีต นักประวัติศาสตร์ได้แบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ออกเป็น 2 สมัย โดยอาศัยหลักฐาน ได้แก่ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ยังไม่รู้จักใช้ตัวหนังสือแต่ใช้การเล่าเรื่องราวหรือหลักฐานทางโบราณคดี และสมัยประวัติศาสตร์เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์ใช้ตัวหนังสือในการบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคม ปัจจุบันองค์การ (UNESCO) การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้กำหนดยุดสมัยเพิ่มขึ้นมาอีก 1 สมัย คือ สมัยกึ่งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นยุคที่ยังไม่รู้จักใช้ตัวอักษรบันทึกเรื่องราว แต่ผู้คนจากสังคมอื่นได้เดินทางผ่านและได้บันทึกเรื่องราวถึงผู้คนเหล่านั้นไว้
สมัยก่อนประวัติศาสตร์ หลักฐานที่ค้นพบแสดงให้เห็นว่าความก้าวหน้าด้านวัฒนธรรมของมนุษย์ค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างช้า ๆ ตามหลักฐานของวัตถุที่มนุษย์ใช้ในการทำเครื่องมือเครื่องใช้ และอาวุธ
ซากสัตว์ที่เหลืออยู่ทำให้เราแบ่งยุคสมัยของมนุษย์เป็นลำดับขั้น คือ ยุคหินเก่า (Paleolithic) ระยะเวลา 50,000 – 100,000 ปีมาแล้ว มนุษย์นำเอาหินกะเทาะมาทำเครื่องมืออย่างหยาบ ๆ จากนั้นพัฒนาการมีการปรับปรุงเครื่องมือเครื่องใช้ มีการสลักหินทำหม้อไห มนุษย์ได้พัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้ทำด้วยหินขัด นำสัตว์มาเลี้ยง เลี้ยงสัตว์ในทุ่งหญ้า ปลูกพืชบางอย่าง เมื่อทำไร่ ทำนา ก็เกิดเป็นหมู่บ้าน ทำเครื่องหัตถกรรม รู้จักทำเครื่องปั้นดินเผา เป็นหม้อ จาน กระสุนดินเผา มีการประดิษฐ์ลูกศร ฉมวก ใบหอก จากกระดูก
ใช้เปลือกหอยมาทำใบมีด ยุคนี้มีการนำทองแดงมาทำสิ่งต่าง ๆ โดยผสมระหว่างทองแดงกับดีบุก เป็นสำริด ได้แก่ การประดิษฐ์กลองมโหระทึก ขวาน หอก นับได้ว่ามีการค้นหาโลหะให้มีคุณสมบัติดีขึ้น การผสมกันของโลหะสองชนิดทำให้มีคุณภาพดี และยังทำเครื่องประดับ เช่น กำไล เป็นต้น ยุคเหล็ก สมัยประวัติศาสตร์ การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ตะวันออก การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์จีนสมัยโบราณ การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์อินเดีย |