เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ๆ เจอเพื่อนเจอฝูง หรือแม้แต่สังคมที่ทำงานก็ตาม ต่างก็ได้ยินแต่คนพูดถึงอาหารเสริมอย่าง “คอลลาเจน” (Collagen) กันใช่ไหมละคะ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่แอบหมกมุ่นกันมาก มีแต่คนบอกว่า ต้องทานนะ ทานแล้วผิวพรรณดูสวยสุขภาพดีมากขึ้น โน้น นี้ นั้น บลา ๆ ๆ ซึ่งเราเองก็เป็นอีกคนที่สนใจเจ้าอาหารเสริมตัวนี้ และอยากจะไปหาซื้อมาทานเหมือนกัน แต่ด้วยการที่ยังไม่เข้าใจถึงคอลลาเจนว่าทานแล้วช่วยเรื่องความงามยังไง และดันมีขายกันหลากหลายยี่ห้อเอามาก ๆ วันนี้จึงขออาสามาให้ความรู้เกี่ยวกับคอลลาเจน และรีวิวถึง 10 ยี่ห้อ ที่น่าซื้อไปทานกันคะ พร้อมแล้วก็ตามมาเลยจ้า Show
มาทำความรู้จักกับ “คอลลาเจน” และประโยชน์กันสักนิดคอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ประกอบไปด้วยหน่วยย่อยของกรดอะมิโน่ โดยจะพบได้มากตามกระดูก, กระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการยึดเกาะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายเสมือนกับเป็นกาวเชื่อมต่อกัน และคอลลาเจนเองก็ถือว่ามีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะ 1 ใน 3 ของโปรตีนที่มีอยู่ในร่างกายก็คือ คอลลาเจนนั้นเองค่ะ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้ว เจ้าคอลลาเจนเนี่ยก็มีถึง 16 ประเภทกันเลยทีเดียว แต่หลัก ๆ ที่เราให้ความสำคัญกันนั้นจะเป็นประเภท I, II, III, และ IV ค่ะ
โดยประโยชน์ของคอลลาเจนเนี่ยก็มีมากมายหลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะ ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ, ป้องกันการสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูก, ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ, ช่วยส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ และที่สำคัญที่สุดที่คิดว่าหลาย ๆ คนซื้ออาหารเสริมคอลลาเจนมาทานเสริมกันก็คือ “เผื่อความสวยความงาม” นี้แหละค่ะ เพราะคนเราเมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะเกิดการสูญเสียคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวดูมีร่องรอย ดูแห้งกร้าน เหี่ยวย่น แลดูผิวอ่อนแอเอามาก ๆ ซึ่งสังเกตได้จากผู้สูงอายุที่สูญเสียคอลลาเจนไปนั้นเอง การเติมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย ก็จะมาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ เห็นไหมคะว่า ถ้าร่างกายสูญเสียคอลลาเจนละก็ ผิวหนังก็จะดูเหมือนผิวของผู้สูงอายุค่ะ แล้วถ้าถามว่า จะเลือกซื้อคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี ยังไงดีละ? เราขอแนะนำว่า ให้ดูจาก “ปริมาณของคอลลาเจนที่จะได้ต่อการทานหนึ่งเม็ดหรือหนึ่งครั้ง” ก่อน เพราะบางยี่ห้อมีราคาค่อนข้างแพงแต่ให้คอลลาเจนมานิดเดียว ดูไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไร หรือบางยี่ห้อก็จัดเต็มทั้งคอลลาเจนและสารอาหารเพิ่มเติมหลายชนิด แต่ก็มีราคาที่แรงงงมากเช่นกัน ซื้อทีอาจจะกระเป๋าเงินแฟ่บกันได้เลยทีเดียว อยากให้เลือกซื้อยี่ห้อที่คิดว่าซื้อทานไหวและคุ้มค่ากับตัวเองมากที่สุดค่ะ ส่วนปริมาณที่สมควรทานต่อวัน เอาจริง ๆ ยังไม่มีสถาบันไหนออกมายืนยันในเรื่องนี้ แต่ได้มีผลการศึกษาพบว่า การทานที่วันละ 2,500 – 5,000 mg จะช่วยส่งผลให้ผิวดูมีสุขภาพดี ดูชุ่มชื้น ดูดีขึ้นจากที่ไม่ได้ทานอย่างมีนัยสำคัญค่ะ ตารางเปรียบเทียบรีวิว “คอลลาเจน” ยี่ห้อไหนดีเผื่อใครที่ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมด หรืออยากดูตารางเปรียบเทียบทั้ง 10 ยี่ห้อไปเลยว่า ยี่ห้อไหนให้ Collagen เท่าไร มีสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมไหม ราคาเป็นยังไงบ้างแบบหมัดต่อหมัด ก็ขอเชิญกดเข้าไปดูได้ที่ปุ่มด้านล่างเลยค่ะ 1. ยี่ห้อ Mega We care Glow Gollagen
ราคาโดยประมาณ600 บาท ต่อ 30 ซองสำหรับใครที่อยากทานอาหารเสริมคอลลาเจน และเน้นอยากได้คอลลาเจนคุณภาพดีแบบจัดหนักจัดเต็ม ต้องขอแนะนำให้ลองยี่ห้อ Mega We care Glow Gollagen กันเลยครับ โดยความน่าสนใจก็อยู่ที่ ทางแบรนด์เขาได้ใช้ส่วนผสมเป็นคอลลาเจนชนิดพิเศษ Bio-active peptide ที่อยู่ภายใต้สูตรลิขสิทธิ์ของ Verisol® ซึ่งได้มีผลการศึกษามาแล้วว่า เมื่อให้ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 45-65 ปี (กลุ่มที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย) ได้ลองทานอาหารเสริมตัวนี้ 2,500 mg เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็พบว่า ตัว Glow Gollagen สามารถช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนได้จริง และเห็นถึงผิวพรรณที่มีสุขภาพดี มีความยืดหยุ่นที่ดีกว่าเดิมด้วยครับ นอกจากนี้ ตัวอาหารเสริมก็มาในรูปแบบของผงชงละลายน้ำ ที่มีกลิ่นหอม ไม่มีกลิ่นคาวเลย และรสชาติก็รสผลไม้รวม มีความอร่อย ดื่มง่ายมากก อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของคอลลาเจนยี่ห้อนี้ จะไม่ได้เข้มข้นสูงเท่าหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่ก็มั่นใจได้ว่า ถึงจะความเข้มข้นน้อย แต่ก็ให้ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดี จึงไม่จำเป็นต้องทานพวกความเข้มข้นสูง ๆ ที่มีราคาค่อนข้างแพงเลย ส่วนโรงงานผลิตก็มีมาตรฐานยาระดับสากล ส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงวัตถุดิบของ Verisol® ก็มาจากเยอรมัน และมีผลการศึกษาถึงผลลัพธ์ที่ได้อย่างเป็นทางการอีก ก็รวม ๆ แล้ว มั่นใจถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของ Glow Gollagen กันได้เลยครับ
2. ยี่ห้อ STRONKA
ราคาโดยประมาณ 30 แคปซูล 990.- / โปร 2 กล่องใหญ่ แถม 1 กล่องเล็ก 1980.-สำหรับใครที่รู้สึกว่า ร่างกายเหมือนเจ็บข้อต่อ เจ็บเข่า หรือปวดกระดูกอยู่บ่อย ๆ อาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกายกำลังขาดแคลนสารอาหารอย่าง คอลลาเจนชนิด Type II รวมถึงแคลเซียมก็เป็นได้ ซึ่ง STRONKA เขาก็เป็นอาหารเสริมที่มีสารอาหารเน้นหนักเรื่องการดูแลข้อเข่าและกระดูกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะ คอลลาเจน Type II คุณภาพดี นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาถึง 40 mg จะมาช่วยบำรุงข้อต่อให้มีความหล่อลื่นและยืดหยุ่น ไม่ให้เกิดอาการปวดข้อได้ง่าย ๆ เสริมทัพด้วย แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต 500 mg ที่จะช่วยเพิ่มความหนาแน่นและลดการสูญเสียของมวลกระดูก ทำให้กระดูกมีความแข็งแรง พร้อมทั้งยังช่วยป้องกันโรคพระดูกพรุนได้ดีอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีเซซามินที่ได้จากสารสกัดงาดำ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ผ่านงานวิจัยมาแล้วว่า ช่วยยับยั้งการทำงานของสารสื่ออักเสบ IL-1β (Interleukin-1 Beta) และยังช่วยลดการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนบริเวณข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังได้เสริมสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกเพียบ ทั้งแมกนีเซียม ออกไซด์, วิตามิน C, สารสกัดจากขมิ้นชัน และวิตามิน D3 ก็มาช่วยเสริมบำรุงร่างกายได้อีกกก คือถ้าเริ่มรู้ตัวว่า ร่างกายเริ่มมีอาการเจ็บ ๆ ปวด ๆ ตามข้อตามกระดูกแล้ว ต้องจัด STRONKA ไปทานกันเลยครับ!
3. ยี่ห้อ Mediviss Collagen 2 Type
ราคาโดยประมาณ 590 บาท ต่อ 10 ซองอีกหนึ่งยี่ห้ออาหารเสริมคอลลาเจนที่น่าสนใจ น่าหาซื้อไปทานกัน คงต้องยกให้กับยี่ห้อ Mediviss นี้กันเลยครับ โดยความน่าสนจะอยู่ตรงที่ทางแบรนด์เขาได้ใช้คอลลาเจนถึง 2 ชนิดมาผสมรวมกันอย่าง คอลลาเจนที่ได้จากปลาความเข้มข้นสูงถึง 9,000 mg ซึ่งจะมาช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเต่งตึง ดูสวย อ่อนเยาว์ และดูสุขภาพดี ส่วนอีกชนิดจะเป็นคอลลาเจน Type II ที่มีความเข้มข้นสูงเช่นกันถึง 1,000 mg !! (Type นี้ เข้มข้นสูงกว่าหลายยี่ห้อเลยนะ) ก็จะมาช่วยในเรื่องของการบำรุงข้อต่อ บำรุงเข่า และช่วยลดปวด หรืออาการข้อเข่าเสื่อมได้ดีอีกด้วย โดยรวมทานแล้วได้ประโยชน์แบบ 2 in 1 บำรุงร่างกายได้ครบตามที่คอลลาเจนควรจะมีเลยล่ะครับ
4. ยี่ห้อ Youtheory Collagenราคาโดยประมาณ 489 / 955 บาท ต่อ 120 / 390 เม็ดYoutheory อีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจจากสหรัฐอเมริกา และมียอดขาย Collagen ที่ค่อนข้างสูงมากในบ้านเราค่ะ ที่ได้รับความนิยมกันมากนั้น น่าจะเป็นเพราะว่า ด้วยราคาที่ไม่แพงมาก, แพ็กเกจสวยดูดี และที่สำคัญ มีแอบแบ่งออกเป็นของผู้หญิงสีขาวและผู้ชายสีดำให้เลือกซื้อกันด้วยนะคะ โดยหลัก ๆ ทั้งสองแบบจะมีสารอาหารที่คล้าย ๆ กัน (ดูได้จากตารางด้านล่าง) แต่ของผู้หญิงจะมีปริมาณของคอลลาเจนกับวิตามินซีที่มากกว่า จึงเหมาะสำหรับทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆที่เน้นคอลลาเจนโดยเฉพาะ ส่วนของผู้ชายจะมีสารอาหารเพิ่มเติมอย่าง Biotin ที่จะมาช่วยบำรุงสุขภาพผม, ผิวหนัง และเล็บ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ รวมถึง Fo-Ti Root Extract หรือสารสกัดโชวู ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่คนจีนนิยมทานกันมาก โดยจะมาช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปรี้กระเปร่า ไม่หมดแรงได้ง่าย ๆ รู้สึกถึงความเป็นหนุ่มนั้นเองค่ะ เห็นกันแบบนี้แล้ว คุณผู้ชายก็จัดสีดำ คุณผู้หญิงก็จัดสีขาวเลยสิคะ
5. ยี่ห้อ VOOST Collagen Formationราคาโดยประมาณ 169 / 495 บาท ต่อ 20 / 60 เม็ดอาจจะเบื่อกับพวกอาหารเสริมแบบเม็ด ๆ อยู่หรือเปล่า? ถ้างั้นลองมาทานแบบคอลลาเจนเม็ดฟู่กันดูสิคะ โดย VOOST จะเป็นยี่ห้อจากออสเตรเลีย แต่ที่เห็นว่า MADE IN GERMANNY นั้น เป็นเพราะว่า เขาไปผลิตที่เยอรมันค่ะ มั่นใจในเรื่องคุณภาพของสินค้าได้อย่างแน่นอน โดยปริมาณคอลลาเจนอาจจะน้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ตกที่เม็ดละ 500 mg เท่านั้น แต่ดีตรงที่มีวิตามิน C เพิ่มเข้ามาสูงถึง 100 mg และยังมี Biotin อีก 8 mcg ด้วย ก็แนะนำว่า อาจจะซื้อตัวนี้ มาทานเวลาเบื่อ ๆ หรือ ทานเสริมกับแบบเม็ดก็ดีนะคะ โดยตอนเช้าทานแบบเม็ด 1,000 mg สัก 3 เม็ด ระหว่างวันและตอนเย็นก็ทานเม็ดฟู่ยี่ห้อนี้อีก 1-2 เม็ดเพียงแค่นี้ ก็ได้คอลลาเจน 4,000-5,000 mg ต่อวันแล้ว และแบบพวกเม็ดฟู่ก็ทำให้น้ำดื่มอร่อยขึ้นด้วยนะ ลืมการดื่มน้ำเปล่าจืด ๆ ไปได้เลยค่ะ
6. ยี่ห้อ 21st Century Super Collagen Plus Vitamin C
ราคาโดยประมาณ 500 บาท ต่อ 180 เม็ด21st Century เป็นยี่ห้อขายอาหารเสริมที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา และมีขายกันหลายตัวมาก ๆ ถ้าอยากจะซื้อคอลลาเจนทานละก็ ต้องซื้อ Super Collagen plus Vitamin C ตัวนี้เลยค่ะ โดยคอลลาเจนจะเป็นแบบ Hydrolyzed ที่ย่อยโมเลกุลมาให้มีขนาดเล็กลงกว่าปกติแล้ว ร่างกายจึงสามารถดูดซึมได้ดี และแต่ละเม็ดเอง ก็ให้คอลลาเจนสูงถึง 1,000 mg! รวมถึงมีวิตามิน C อีก 10 mg ด้วย จัดหนักจัดเต็มบำรุงเรื่องความสวยกันเลยทีเดียว ส่วนด้านราคาก็ตกเม็ดละประมาณ 3 บาท ก็แพงกว่า DHC แต่ก็ได้ปริมาณคอลลาเจนต่อเม็ดสูงกว่า และจริง ๆ ก็ไม่ได้แพงมากมายนัก ก็เป็นอีกยี่ห้อที่คุ้มค่าน่าซื้อมาทานจริง ๆ ค่ะ
7. ยี่ห้อ BLACKMORES COLLAGEN ACTIVEราคาโดยประมาณ 299 บาท ต่อ 4 ขวด x 60 mlBLACKMORES เป็นยี่ห้อที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะมีชื่อเสียงในบ้านเรากันอยู่แล้ว ซึ่งเอาจริง ๆ ทาง BLACKMORES เขาก็มีขายคอลลาเจนแบบเม็ด ๆ ให้ซื้อทานกันด้วย แต่เราว่าตัว COLLAGEN ACTIVE ที่เป็นแบบน้ำน่าสนใจกว่า เพราะมีความเข้มข้นของคอลลาเจนที่สูงถึง 10,000 mg ต่อขวดเลยทีเดียว ชนะยี่ห้ออื่น ๆ แบบขาดลอย นอกจากนี้ ก็ยังมีสารอาหารเพิ่มเติมหลายอย่างมาก ๆ (ดูได้จากด้านล่าง) โดยพวกน้ำผลไม้ก็จะอุดมไปด้วยวิตามิน C ซึ่งเป็นวิตามินแห่งความงาม และยังพิเศษกว่าใครด้วยสารสกัดจากเมล็ดองุ่น นี้ก็ช่วยในเรื่องความงามแบบสุด ๆ เรียกได้ว่า ดื่มขวดนี้ควรเดียว ผิวพรรณดูดีอย่างแน่นอนค่ะ แต่ ๆๆๆๆ ด้วยสรรพคุณที่มากมายขนาดนี้ ก็แลกมากับราคาที่ “แพง” นะคะ โดยจะตกขวดละประมาณ 50 บาท ถ้างบไม่พอแนะนำยี่ห้ออื่น ๆ ถ้ามีงบเมื่อไร ค่อยซื้อตัวนี้ทานก็ได้ค่ะ
8. ยี่ห้อ Puritan's Pride Hydrolyzed Collagen
ราคาโดยประมาณ 549 บาท ต่อ 180 เม็ดยังคงอยู่ต่อกับคอลลาเจนจากสหรัฐอเมริกากับยี่ห้อ Puritan's Pride ที่ถ้าดูเผิน ๆ แล้ว จะเหมือนกับยี่ห้ออื่น ๆ ด้านบนเลย โดยมีทั้งปริมาณ Hydrolyzed คอลลาเจนต่อเม็ด 1,000 mg ที่เท่ากัน มีการเสริมวิตามิน C ด้วยเช่นกัน อีกทั้งราคาก็พอ ๆ กันที่เม็ดละประมาณ 3 บาท แต่ที่พิเศษกว่าใคร ๆ ตรงที่มีสารอาหารเพิ่มเติมอย่าง L-Ornithine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่จะมาช่วยกระตุ้นการสร้าง Growth Hormone รวมถึงเพิ่มพลังงานให้กับกล้ามเนื้อ และลดอาการเมื่อยล้าได้ ก็อาจจะดูแปลก ๆ ไปสักนิด ไม่ค่อยเกี่ยวกับความสวยความงามเท่าไร แต่จะช่วยให้ออกกำลังกายได้นานมากขึ้น อยากให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี ร่างกายก็ต้องแข็งแรงด้วยเหมือนที่แบรนด์บอกว่า Beauty from within! ค่ะ
9. ยี่ห้อ DHC Collagenราคาโดยประมาณ 355 / 655 บาท ต่อ 360 / 540 เม็ดถ้าพูดถึงยี่ห้ออาหารเสริมที่ขายดีในบ้านเราละก็ DHC จากดินแดนปลาดิบ น่าจะเป็นอีกยี่ห้อที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันค่ะ โดย DHC Collagen จะมีปริมาณคอลลาเจนต่อเม็ดที่น้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ด้วยการที่ปริมาณน้อย ๆ ก็ทำให้เราสามารถทานจำนวนเม็ดเพิ่มเอาได้ ซึ่งทาง DHC เองก็แนะนำว่าควรทานที่ 6 เม็ด พร้อมกันในครั้งเดียว ซึ่งจะได้คอลลาเจนสูงถึง 2,050 mg เลยทีเดียว (แต่ก็น้อยกว่ายี่ห้ออื่นอยู่ดี) และยังมีวิตามิน B1 กับ B2 เพิ่มเติมมาให้ด้วย ส่วนคอลลาเจนก็ได้มาจากปลา ทานแล้วไม่ต้องกลัวอ้วนกันนะคะ นอกจากนี้ราคาก็ย่อมเยาาาามาก ตกที่เม็ดละประมาณ 1 บาท เท่านั้น ถ้าไม่รู้จะเริ่มทานคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี เริ่มจาก DHC สิคะ
10. ยี่ห้อ VISTRA Marine Collagen TriPeptideราคาโดยประมาณ 282 บาท ต่อ 30 เม็ดเจอแต่กับ Collagen ยี่ห้อต่างชาติแล้ว คราวนี้มาดูของคนไทยกันบ้างกับ VISTRA ซึ่งเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วในบ้านเรา และเขาก็มีขายคอลลาเจนหลายแบบมาก ๆ แต่ตัวที่เหมือนจะได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Marine Collagen TriPeptide ตัวนี้เลยค่ะ โดยถ้าดูจากตารางด้านล่างจะเห็นว่า มีปริมาณของคอลลาเจนที่สูงถึง 1,300 mg ต่อเม็ดเลยทีเดียว สูงกว่าพวกแบบเม็ดหลาย ๆ ยี่ห้อเลยค่ะ อีกทั้งยังมีสารอาหารเสริมเพิ่มเติมหลายตัว ไม่ว่าจะวิตามิน C กับ E ที่จะมาช่วยกันบำรุงผิวพรรณให้ดูสุขภาพดี และโดนเด่นกว่าใครด้วย Coenzyme Q 10 ที่มีคุณสมบัติของการเป็น Anti-Aging ชั้นเยี่ยม ทำให้ไม่ต้องกลัวพวกสารอนุมูลอิสระกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมี Glycine กับ L-Arginine อีก รวม ๆ แล้ว ทานเม็ดเดียว สวย ครบ จบ เอาอยู่ แต่ราคาต่อเม็ดก็จะแอบแพงนิดหนึ่งนะคะ ตกที่เม็ดละประมาณ 10 บาท ถ้าจะเน้นคอลลาเจนอย่างเดียว ยี่ห้ออื่นจะตอบโจทย์กว่าค่ะ
คอลลาเจนผิวขาว? ช่วยให้ขาวได้จริงหรือไม่?ต้องขอตอบอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า “ไม่ช่วยให้ผิวขาวแต่อย่างใด” ค่ะ ที่คอลลาเจนผิวขาวช่วยให้ผิวขาวได้นั้น เป็นเพราะว่ามีสารอาหารที่ใส่เข้าไปเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน C หรือกลูต้าไธโอน โดยทั้งคู่จะสามารถช่วยเรื่องผิวขาวได้ แต่เราไม่ค่อยแนะนำให้เลือกซื้อยี่ห้อที่โฆษณาว่า คอลลาเจนผิวขาวสักเท่าไรนัก เป็นเพราะว่า ปริมาณของสารอาหารอย่างคอลลาเจนเอง วิตามิน C เอง หรือกลูต้าไธโอนเอง จะชอบใส่มาปริมาณน้อย แล้วไปอัพราคาเอาซะมากกว่า ถ้าอยากจะทานพวกนี้จริง ๆ แนะนำซื้อแยกทานกันจะดีกว่า ถ้ายังไงสนใจอาหารเสริมวิตามิน C หรือกลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวละก็ ลองกดเข้าไปดูสองบทความด้านล่างได้เลยค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ สาว ๆ หนุ่ม ๆ ได้เห็น “คอลลาเจน” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหนไปทานเสริมเพิ่ม Collagen กันบ้าง จริง ๆ ยังมีอีกหลายยี่ห้อที่น่าสนใจในท้องตลาดบ้านเรานะคะ แต่ค่อนข้างจะมีราคาแพง และเหมือนแอบบรรยายสรรพคุณกันเว่อร์วังเอามาก ๆ ซึ่งยี่ห้อที่เราเอามารีวิวให้ดูกันนั้น ส่วนใหญ่จะมีความน่าเชื่อถือ และค่อนข้างมีราคาที่พอหาซื้อกันได้อยู่ค่ะ ยังไงก็ขอให้ได้คอลลาเจนยี่ห้อที่ถูกใจ ซื้อทานแล้วไม่เปลืองเงินกันมากนัก ส่วนผิวก็ดูสวยสุขภาพดีกันทุกคนค่ะ |