📣 รวม แพลนเที่ยวใน Pantip หยุดยาวทั้ง ต้องจัดทริปเที่ยว ! 💬 วันหยุดพร้อม ลาพร้อม กระเป๋าพร้อม เตรียมลุยทริป 4 วัน 3 คืน !! 💚 วันนี้มาแจกแพลนเที่ยวยอดนิมใน Pantip.com นำไปปรับใช้ หรือลองเที่ยวตามเลย ทริปไหนสนุก อย่าลืมไปแลกเปลี่ยน คอมเม้นท์ขอบคุณ จขกท. ได้เลยนะฮับ 😎 Show
รวม แพลนเที่ยวใน Pantip 4 วัน 3 คืน !
💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : เที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3คืน💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : รีวิว เที่ยวเลย 3 คืน4 วัน🗻 จ.กระบี่
💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : กระบี่ 4 วัน 3 คืน ... คนเดียวก็เที่ยวได้ ... ง่ายนิดเดียว 🗻 จ.เชียงราย
💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : ทำไร...ที่เชียงราย 4 วัน 3 คืน
🗻 จ.ภูเก็ต
💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : ภูเก็ต ..ไปทั้งทีต้องเที่ยวให้คุ้ม . . 4 วัน 3 คืน !!
🗻 จ.เชียงใหม่
💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : ขับรถไปเที่ยว เชียงใหม่ 4วัน3คืน
🗻 เกาะกูด
💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : เที่ยวเกาะกูด 4วัน 3คืน ทริปดำน้ำตกปลา
🗻 จ.เชียงใหม่
💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : รีวิว++ทริปเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน
🗻 จ.สตูล-หลีเป๊ะ-กระบี่
💬 เข้าไปดูกระทู้แบบเต็มๆ : แบกเป้เที่ยวใต้ 4 วัน 3 คืน (ตรัง สตูล(หลีเป๊ะ) กระบี่) ฉบับไปเองกับเพื่อน 4 คน สวัสดีค่ะ นานมากที่ไม่ได้เข้ามาเขียนรีวิวท่องเที่ยว วันนี้มีทริปที่ไปลุยเดี่ยวกลับมาฝาก ในหนึ่งปีเราพยายามจะไปเที่ยวคนเดียวให้ได้ปีละครั้งเพื่อเป็นรางวัลให้ตัวเอง โดยเราแบกเป้ไปเที่ยวภูกระดึงคนเดียว 11-13 พ.ย. 64 เลยมีข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้มาเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับ คนที่จะไปเที่ยวคนเดียว แบกของเอง ไม่เช่าจักรยาน เดินทางด้วยรถทัวร์นะคะ ถือเป็นการตอบแทนมิตรภาพดีๆ บนภูกระดึงที่ได้พบเจอมา ทำให้การเดินทางของเราผ่านไปได้ด้วยดี แต่จะบอกก่อนว่าข้อมูลนี้จะใช้อ้างอิงได้กับช่วงเวลาเดียวกับที่เราไปนะคะ เพราะในแต่ละฤดูกาล การเตรียมตัว ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว และมาตราการสำหรับการป้องกัน Covid-19 ก็จะแตกต่างกันไปค่ะ ติดตามข่าวสารได้ทางแฟนเพจของอุทยานฯ นะคะ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง - Phu Kradueng National Park ข้อมูลทริปแบบย่อ * รีวิวนี้เจ้าของรีวิวเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะIG:pangjourneyjournal มาเริ่มกันเลย.... 3. มาถึงผานกเค้า ร้านเจ้กิมประมาณตี 5 นิดๆ เจ้าของร้านน่ารักมาก ให้ใช้ห้องน้ำได้ตามสบาย เราแค่ล้างหน้าแปรงฟันเพราะนั่งรถมากับชุดเริ่มเดิน จัดกระเป๋าใหม่นิดหน่อย เอาของที่ใช้บ่อยออกมาอยู่ใน Ocean pack ใครที่จ้างลูกหาบก็เอาของที่สำคัญใส่ไว้ในกระเป๋าที่ตัวเองจะแบกขึ้น เผื่อกรณีที่ลูกหาบขึ้นไปช้าจะได้ไม่ลำบาก เราทานมื้อเช้าเบาๆ (แต่สั่งพิเศษมาม่าสองห่อ อิอิ) แล้วซื้อน้ำดื่มขวดใหญ่ติดไปหนึ่งขวด อาหารร้านเจ้กิมราคมไม่แพง ก่อนสั่งไปซื้อคูปองก่อนจะได้เป็นเหรียญทองทำไปแลกซื้ออาหารค่ะ
4. เราเริ่มเดินประมาณ 07.00 น. สายตาดูมีพลังมากๆ แบบที่ไม่เจียมอนาคตข้างหน้าของตัวเองเลย ฮ่าๆ (ขอขอบคุณคนใจดีด้วยนะคะที่ถ่ายรูปให้โดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปากขอและก็อีกหลายๆ รูปในทริปนี้ ^^) ทริคในการเดินของเรา ผู้หญิงน้ำหนัก 85 กิโลกรัม ไม่ได้เตรียมร่างกายมาก่อน และไม่มีโรคประจำตัว คือไม่ต้องรีบเดิน เราแบกกระเป๋าเองในช่วงเดินขึ้นเนินชันๆ เราจะก้มตัวมากขึ้น ถ้าเหนื่อยให้หยุดพัก ระหว่างทางพยายามยืนพัก และอย่าพักนาน
5. เราใช้เวลา 05.03 ชั่วโมงในการเดินขึ้นมาถึงหลังแป อีก 3 กิโลกว่าๆ จะเป็นทางราบ แดดร้อน ทางเดินเป็นทราย พยายามเดินริมทางที่เป็นต้นหญ้าจะไม่โดนทรายดูดให้เปลืองแรง พร้อมเช็คอินถ่ายรูปกับเจ้าต้นสนเดียวดาย และขาตั้งกล้องก็ถูกใช้ครั้งแรกที่นี่
6. การชาร์ทแบต มือถือ กล้อง ต่างๆ ถ้าเราไปกินข้าวที่ร้านค้า อย่างเราไปกินร้านใบเฟิร์น พี่โจ้จะมีปลั๊กให้ชาร์ท แบ่งๆ กันสำหรับคนอื่น ถ้าไม่มีจริงๆ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีให้ชาร์ทแต่จุดนี้มีค่าบริการค่ะ พาวเวอร์แพงค์ขนาดไหนก็แล้วแต่อันละ 40 บาทไม่จำกัดเวลา ของเราขนาด 30000 ชาร์ทก่อนออกไปเดินเที่ยวตอนเก้าโมง กลับมารับอีกทีตอนสองทุ่ม ก็ 40 บาท 7. การเดินเที่ยวบนภู ตอนเช้า จนท นัดรวมพลหน้าศูนย์บริการฯ เพื่อพาไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นตอนตีห้า ห้ามเดินไปเองเพราะอาจเจอน้องช้างได้ เตรียมไฟฉายไปด้วยนะคะ พอถึงฝานกแอ่นจับจองที่นั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้นได้เลย ต้องระมัดระวังมากๆ เนื่องจากพื้นที่เป็นหน้าผาสูงชันและฟ้ายังมืดอยู่ให้นั่งเฉพาะหลังเส้นที่ จนท. กำหนดไว้นะคะ ไม่ควรเอาตัวเองออกไปนอกเส้นกั้นเด็ดขนาดไม่ว่าจะออกไปถ่ายรูปหรืออะไรก็แล้วแต่ วันนี้มีหมอกให้ได้ลุ้น รู้สึกคุ้มแล้วกับการขึ้นมาเราได้เจอคนดี สิ่งแวดล้อมดี ธรรมชาติสวยงาม ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ทำให้ได้อยู่กับตัวเอง ช่วยเยียวยาจิตใจได้ดีหลังจากผ่านอะไรหนักๆ มาตลอดปี แต่ไม่ช่วยเยียวยาร่างกายนะ เพราะกลับไปน่าจะเดินเป็นแพนกวินอีกหลายวัน ขากลับต่างคนต่างกลับจะไปเที่ยวเลยก็ได้ ส่วนเราขอแวะไปไหว้พระที่ลานพระแก้วเนื่องจากอยู่ระหว่างทางกลับ ช่วงนี้หมอกลงจัดมาก เกือบมองทางไม่เห็น แต่เป็นเช้าที่สดชื่นในรอบปีของเราเลย มัวแต่เดินชมบรรยากาศด้วยความที่หมอกจัด รู้ตัวอีกทีเดินฉีกออกมาคนเดียวเสียแล้ว เราเดินตามทางมาสักพักก็เจอคนข้างหน้า ค่อยๆ เดินตามเขาไปสักพักก็ถึงที่ทำการค่ะ กลับเต็นท์มางีบสักครู่ เข้าห้องน้ำ ดื่มกาแฟ กินข้าว เตรียมของ และออกเดินเที่ยวบนภูตอน 09.30 น. - ปาท่องโก๋ร้านป้าบัวไล - กาแฟแรงดันไอน้ำร้านโอลี ราคากาแฟที่นี่ไม่แพงเลย - ข้าวขาหมูร้านพี่โจ้ในเฟิร์น ถ้าไปเส้นน้ำตกให้เตรียมข้าวไปด้วย ระหว่างทางไม่มีของขาย แต่เราเป็นคนที่เวลาเหนื่อยจะอยากกินแต่น้ำ เลยเตรียมแค่น้ำกับขนมไปนิดหน่อย ส่วนแพลนของเราคือเที่ยวเส้นน้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโพนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ แวะพักที่สระอโนดาต ตัดออกไปผาเหยียบเมฆ เลียบหน้าผาไปผาหล่มสัก ชื่อน้ำตกบางจุดจะคล้ายๆ กันต้องอ่านให้ดีนะคะ ถ้านับระยะทางรวมจากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นวันนี้จะเดินเกือบๆ 30 กิโลเมตรค่ะ รูปโซนน้ำตกจะเป็นรูปที่เราใช้ขาตั้งกล้องถ่ายแต่ถ้าใครที่ไม่มีกล้องอยากถ่ายรูปน้ำตกสวยๆ เราเคยโพสวิธีถ่ายรูปน้ำตกด้วยมือถือไว้ในกลุ่มนี้ https://web.facebook.com/groups/275878475783648/permalink/4802318943139556/ จุดแรก น้ำตกวังกวาง ข้างล่างมีถ้ำลงไปถ่ายได้ แต่เรามาคนเดียวเลยไม่กล้าลงไป กลัวปีนขึ้นมาไม่ไหว ไม่มีใครช่วย ๕๕๕ เลยเก็บภาพมาได้ไม่กี่มุม จุดที่สอง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เดินลงไปด้านล่างได้นะคะ แต่เราขอเก็บแรงไว้ก่อนนะคะ ทางไปน้ำตกโพนพบน้ำตกถัดไปจะงงๆ หน่อย เราเอาแผนที่มาเปิดดูเลยเดินไปทางซ้ายค่ะ ทางขวาน่าจะทางลงไปน้ำตก เราลองเอามือถือถ่ายโดยเปิดโหมด Live มาถ่ายน้ำตกดูได้เป็นภาพขวามือ ส่วนซ้ายมือจะเป็นภาพจากกล้องถ่ายรูปค่ะ จุดที่สาม น้ำตกโพนพบ หลังจากนี้เส้นทางจะเริ่มเดินด้วยความวังเวงหน่อย เรียบริมน้ำตกให้ฟีลแบบจะมีจระเข้ขึ้นมาแง่มเราไหม จุดที่สี่ น้ำตกถ้ำใหญ่ เราผ่านน้ำตกเพ็ญพบแบบไม่ได้แวะเนื่องจากงงกับเส้นทาง เพราะหาทางไปน้ำตกถ้ำใหญ่ไม่เจอ ปรากฏว่าป้ายบอกทางมีสองด้าน แต่ถ้าเดินจากโพนพบมาจะมองอีกด้านไม่เห็น ณ วันที่ไปเมเปิ้ลยังไม่แดงค่ะ เส้นทางนี้โอเคเลยสำหรับคนที่มาคนเดียว เราไม่ได้ไปจับกลุ่มกับใครเพราะแพลนเท่าที่เราเดินไหว 80% ของเส้นทางคือเดินคนเดียว เราเพิ่งเคยมาการซื้อแผนที่ติดมาด้วยทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่ามาถูกทาง เอาจริงทางเส้นน้ำตกก็น่ากลัวอยู่เหมือนกัน บางทีต้องดูรอยเท้าว่าเดินมาถูกทางไหม แผนที่บอกว่า 1.8 กม ทำไมมันเดินไม่ถึงสักที หลงหรือเปล่า จะมีคำถามนี้กับตัวเอง เลยใช้วิธีคำนวนจากก้าวเดิน เราตีไปกลมๆ ว่า 10,000 เก้าประมาณ 5 กม. แล้วเอาไปหารตามระยะทาง เราใส่นาฬิกาที่มันจะบอกว่าเราเดินไปแล้วกี่ก้าว แต่ยังไม่เคยใช้กับแอปในมือถือนะคะ เป็นการคาดคะเนระยะทางคร่าวๆ เส้นน้ำตกเราว่าก็เหนื่อยนะ ทางเดินมีขึ้นมีลง มีทางชันตกน้ำตกถ้ำใหญ่ มีรากไม้ต้องระวังเดินสะดุด เดินคนเดียวจะวังเวงหน่อยๆ พอมีเพื่อนร่วมทางบ้าง เราเลยไม่ได้ไปน้ำตกถ้ำสอเหนือจากที่ถามน้องคนที่ไปมาเมื่อวานน้องบอกว่าน้ำน้อยแล้ว และเส้นทางไม่ควรเดินคนเดียว เราจึงไปตัดออกเส้นหน้าผา เดินง่าย ทางเรียบๆ แต่เป็นทรายบางช่วงเจอคนเยอะ มีร้านค้าตามจุดที่เป็นหน้าผา 8. ออกจากเส้นทางน้ำตกสู่สระอโนดาต ก่อนตัดออกเส้นหน้าผา
9. เต็นท์และเครื่องนอนต้องคืนก่อน 10.00 น. ของวันที่เราจะกลับ เราคืนของ กินข้าวแล้วออกจากแคมป์วังกวาง 10.00 น. มีเวลากำหนดในการเดินลงด้วยนะคะ ว่าห้ามลงเกินกี่โมงแต่เราจำเวลาไม่ได้ ตอนเช้าของวันกลับเราจะนอนให้เต็มอิ่มสักหน่อยไม่ไปไหนทั้งนั้น แต่ก็ต้องมาตื่นเพราะเต็นท์ใกล้เคียงเก็บของด้วยปาก เสียงดังน่ารำคาญมาก นี่นอนข่มใจอยู่ในเต็นท์ตั้งนาน ทนไม่ไหวเลยเดินออกชมบรรยากาศตอนเช้าก็ไม่เลว ว่าจะเดินไปดูหมอกลอยบนน้ำที่อ่างเก็บน้ำวังกวางก็ไปผิดทาง เดชะบุญ จนท. ขี่มอเตอร์ไซค์มาเจอพอดีไม่งั้นได้เดินไปถึงผาหมากดูกโดยไม่มีเพื่อนร่วมทาง จนท. บอกทางที่ถูก แต่เราก็ไปไม่ถูกอยู่ดี ทีหลังอย่าเดินไปไหนด้วยความโมโหอีกเด็ดขาดเพราะมันไม่มีสติ! สุดท้ายเดินกลับเต็นท์ไปดูของฝากดีกว่า กินข้าวและแวะร่ำลาพี่โจ้ก่อนแพ็คกระเป๋าออกจากแคมป์วังกวาง 10 โมงตรง |