สร้างบ้านไม่ขออนุญาตได้ไหม

1.เอกสารแสดงสิทธิของที่ดิน

ส่วนใหญ่มักจะเป็นโฉนดที่ดิน แสดงว่าจะสร้างในที่ดินใด ถ้าผู้ที่จะสร้างบ้านไม่ใช่เจ้าของที่ดิน จะต้องมีหลักฐานการยินยอมให้สร้างในที่ดินนี้ได้

2.แบบก่อสร้าง จัดเตรียมโดยสถาปนิกและวิศวกร

โดยรายละเอียดในแบบก่อสร้างจะต้องแสดงผังบริเวณรวม และแสดงแบบรายละเอียดของชั้นต่างๆ รวมถึงแบบแสดงรูปด้านทุกด้าน แสดงรายละเอียดทั้งหมดของงานสถาปัตยกรรมและงานวิศวกรรม

3.รายการคำนวณ ของวิศวกรโครงสร้าง

เป็นการแสดงว่าอาคารได้ผ่านการออกแบบโดยวิศวกรแล้ว เพื่อให้มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยสำหรับก่อสร้างและใช้งานได้

4.เอกสารแสดงการมอบอำนาจให้ดำเนินการแทนในเรื่องการขออนุญาตก่อสร้าง

เพราะส่วนมากแล้ว เจ้าของมักจะไม่ได้เป็นผู้ยื่นเรื่องเอง จึงต้องมีเอกสารการมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน

5.เอกสารแสดงการเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

ซึ่งต้องเป็นวิศวกร และส่วนมากผู้ออกแบบมักจะเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานในตอนยื่นขออนุญาตก่อสร้าง และเมื่อใบอนุญาตก่อสร้างออกแล้ว อาจเปลี่ยนวิศวกรผู้ควบคุมงานเป็นผู้อื่นแทนครับ

ดูแล้วอาจจะคิดว่าเอกสารช่างมากมาย-ยุ่งยาก แต่การมีเอกสารมากมายก็เพื่อให้เป็นหลักฐานยืนยันว่าบ้านของเราได้รับการก่อสร้างอย่างมั่นคงและไม่สร้างผลกระทบแก่ผู้อื่น และที่สำคัญผู้ออกแบบเป็นผู้จัดเตรียมและดำเนินการให้ (เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายหากมีปัญหา)

อาคารแต่ละประเภทก็มีข้อกำหนดที่ต่างกัน เช่น อาคารสาธารณะก็จะมีข้อกำหนดต่างจากอาคารพักอาศัยส่วนตัว เนื่องจากจะต้องคิดถึงความปลอดภัยของผู้มาใช้พร้อมกันจำนวนมากๆ

ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย และการปลูกสร้างบ้าน

  หากคุณมีที่ดินเปล่าและต้องการปลูกสร้างบ้านของตัวเองอยู่ล่ะก็ กระปุกดอทคอมได้นำเอาข้อมูลดี ๆ จาก เว็บไซต์ alinehomecare.com เกี่ยวกับการสร้างบ้านมาแนะนำให้คุณได้ศึกษากันค่ะ เพราะก่อนสร้างบ้านสักหลังยังต้องมีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ อีกมากที่ควรรู้ แต่จะมีอะไรบ้างนั้นต้องไปดูกันเลยจ้า ..

ก่อนอื่นต้องมีสถาปนิกและวิศวกรทำการออกแบบและเขียนแบบให้ จากนั้นไปขอเอกสารการยื่นขออนุญาตจากทางเทศบาล แล้วนำมากรอกให้ครบถ้วน ประกอบด้วย

จากนั้นนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นต่อเทศบาลซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ ภายใน 45 วัน ต้องได้รับแจ้งว่าได้รับอนุญาตหรือไม่ ถ้าไม่อนุญาตจะต้องแก้ไขอะไรบ้าง เมื่อแก้ไขแล้วก็ควรจะได้รับอนุญาต และเสียค่าธรรมเนียมตารางเมตรละไม่เกิน 4 บาท

อัตราค่าออกแบบเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งกำหนดโดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งมีหลายประเภทด้วยกัน แต่จะเน้นประเภทบ้านพักอาศัย กับการตกแต่งภายในเท่านั้น

  งานของสถาปนิกก็คือ การออกแบบตัวบ้าน เพื่อครอบคลุมห้องต่าง ๆ ให้กลมกลืน และมีความงามต่อเนื่องกัน พร้อมทั้งสามารถป้องกันแดดฝน รวมถึงการรับลมตามธรรมชาติด้วย

งานของมัณฑนากรก็คือ การออกแบบตกแต่งภายใน รวมถึงรายละเอียดของผนัง พื้น ฝ้าเพดาน พร้อมทั้ง เฟอร์นิเจอร์ และส่วนประกอบต่าง ๆ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับประโยชน์ใช้สอยที่สถาปนิกออกแบบไว้

เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่สถาปนิก กับมัฑนากรจะต้องออกแบบไปด้วยกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยอย่างสูงสุด รวมถึงความงามที่ต่อเนื่องระหว่างภายในและภายนอกบ้าน

จรรยาบรรณที่สำคัญ ๆ ที่ควรจะทราบมี ดังนี้

ถ้าสถาปนิกไม่ทำตามก็จะมีโทษจากคณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพ

ขั้นตอนการปลูกสร้างบ้าน 2 ชั้น โดยทั่วไป แบ่งออกเป็นขั้นตอนใหญ่ ๆ ดังนี้คือ

ห้องที่จำเป็นสำหรับบ้านขนาดกลาง ควรมีห้องรับแขก หรือ ห้องนั่งเล่น และ 2 ห้องนี้ อาจจะรวมเป็นห้องเดียวก็ได้ ถ้าบ้านมีขนาดเล็ก ถัดมาก็ควรเป็นห้องทานอาหารและห้องครัว จะเป็นครัวไทย หรือครัวฝรั่ง ก็แล้วแต่ความชอบของเจ้าของบ้าน ที่สำคัญที่สุดคือ ห้องนอน และห้องน้ำ ต้องมีความสบาย อากาศถ่ายเทได้สะดวก ส่วนห้องอื่น ๆ เช่น ห้องแม่บ้าน ห้องเก็บของ ก็แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละบ้าน รวมถึงงบประมาณที่มีอยู่ด้วย

โดยทั่วไปความต้องการพื้นฐานก็จะประกอบไปด้วย ห้องนอน ห้องพักผ่อน ห้องครัว ห้องน้ำ สำหรับห้องอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นตามมาเพื่อรองรับความสะดวกสบายเท่านั้นก็คือ ห้องรับแขก ห้องทำงาน ห้องอาหาร เป็นต้น และสิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ ขนาดของห้อง สำหรับบ้านโดยทั่วไปต้องไม่น้อยกว่า 9 ตร.ม. และพื้นที่ห้องน้ำต้องไม่น้อยกว่า 2 ตร.ม. ซึ่งเป็นไปตามกำหนดของกฎหมาย

  แต่ถ้าพิจารณาความต้องการพื้นฐานสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3 ถึง 4 คนแล้ว บ้านหลังหนึ่งควรมีพื้นที่ตั้งแต่ 36 ตร.ม. เป็นอย่างน้อย แต่ถ้าจะอยู่สบายก็ควรมีพื้นที่ราว 50 ตร.ม. ขึ้นไป

   บ้านปูนจะขึ้นอยู่กับโครงสร้าง ส่วนผสมคอนกรีต ตลอดจนการก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งต้องการผู้ที่มีความรู้เป็นพิเศษ มิฉะนั้นจะเกิดการแตกร้าวได้ง่าย

   ส่วนบ้านไม้จะขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ที่นำมาใช้ ต้องเป็นไม้เนื้อแข็งชั้นดี เช่น ไม้สัก จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนต่อแดดฝนได้ดีกว่าบ้านปูน แต่มีราคาแพงกว่า เพราะไม้ดี ๆ ในปัจจุบันหายากมาก

วิธีประหยัดพลังงานในบ้าน มีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้

สร้างบ้านแบบไหนไม่ต้องขออนุญาต

บ้านชั้นเดียวต้องขออนุญาติก่อสร้างไหม

สร้างบ้านต้องขออนุญาต เทศบาลไหม

ทำไมต้องขออนุญาติก่อสร้างบ้าน