เอาที่หนีบผมขึ้นเครื่องได้ไหม แอร์เอเชีย

เอาที่หนีบผมขึ้นเครื่องได้ไหม แอร์เอเชีย

Show

เคยไหม… ที่ต้องทิ้งครีมกันแดดที่พึ่งซื้อใหม่ ที่จะใช้ในทริปเที่ยวทะเล? ทิ้งกรรไกรอันเล็กน่ารักที่เอาไว้เล็มผม ที่หาใหม่ไม่ได้อีก เพราะซื้อมาจากเกาหลี? แล้วเคยไหม… ที่ต้องรื้อกระเป๋าออกหมด เพราะถูกตรวจขวดยาดม หรือ ลิปกลอสหลอดเล็กๆ หรือ ไฟแช็กที่จะเอาไปแค้มปิ้ง ที่อยู่ในสุดของกระเป๋า?

หากไม่อยากทิ้งของเหล่านี้ ไม่อยากโดนรื้อกระเป๋า ไม่อยากเสียเวลา เสียอารมณ์ หงุดหงิด กับการต้องแพ๊คกระเป๋าใหม่ หรือ สแกนกระเป๋าหลายๆ รอบ ก็มาดูคำตอบที่ช่วยไขข้อค้างคาใจยอดฮิต ที่ว่า “เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง ? กับการเตรียมตัวสำหรับการผ่านจุดตรวจค้น” กันเลยค่ะ

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางท่องเที่ยว อย่าลืมซื้อประกันการเดินทางนะคะ แนะนำให้เลือกเจ้าที่มีศูนย์ในไทย จะได้ติดต่อไปง่ายๆ เกิดมีการเคลมจะได้พูดคุยกันรู้เรื่องค่ะ หยกมีเจ้าที่หยกใช้ประจำ คือ World Trips ซึ่งเป็นเครือเดียวกันกับ Tokio Marine (หยกใช้เองค่ะ กับทุกที่ที่ไปเลย ไม่ได้มีสปอนเซอร์นะคะ) เป็นประกันของญี่ปุ่น ที่มีศูนย์ในไทย ครอบคลุมโซนยุโรป ทั้งตอนนี้ทุกประกันการเดินทางที่ซื้อกับเจ้านี้ ยังครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลกรณีติดโควิดอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญกับหยกมากๆ คือ ครอบคลุมเทรคกิ้งที่เนปาลยังไงล่ะคะ

โดยบทความด้านล่างนี้ จะกล่าวถึง

  1. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง ? จะได้ไม่ต้องทิ้งของที่พึ่งซื้อ แบบต่อหน้าต่อหน้า
    1. ของเหลว แล้วอะไรที่หมายถึงของเหลวบ้าง?
    2. ของเหลว เจล สเปรย์ ที่มีปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตร ที่ซื้อใน Duty free ล่ะ?
    3. Power Bank?
    4. กรรไกรตัดเล็บ? มีดโกนหนวด? แหนบ? ตะไบเล็บ? ที่ดัดขนตา?
    5. ยาน้ำ? นม? อาหารเหลวเด็ก?
    6. ไฟแช็ก? ไม้ขีดไฟ?
    7. ปืนเด็กเล่น? ปืน? กระสุน?
    8. สนับมือ? แค่ใส่เป็นแฟชั่นน่า
    9. ทุเรียน? ก็แค่ผลไม้น่า
    10. แล้วผู้หญิงท้องล่ะ ขึ้นเครื่องบินได้ไหม
    11. ไม้เท้าเดินป่า? ขาตั้งกล้อง?
  2. ถ้าไม่อยากทิ้งของเหลวเหล่านั้น หรือกรรไกรเล็กๆ น่ารัก หรือ สิ่งอื่นๆ ทำอย่างไรได้บ้าง?
  3. การเตรียมพร้อม และขั้นตอนการผ่านจุดตรวจค้น ทั้งสัมภาระ และร่างกาย หรือ จุดผ่านเครื่อง X-Ray
  4. ก่อนขึ้นเครื่องบิน (ก่อนจัดกระเป๋า) ควรเตรียมอะไรติดตัว เพื่อนำขึ้นไปบนเครื่องบินบ้าง

หยกจัด ทัวร์เทรคกิ้ง Ghorepani Poon Hill Trek แบบเดินสบายๆ เทรค 4 วัน เดินวันละไม่เกิน 4 ชั่วโมงค่ะ มือใหม่ไม่เคยเทรค มาเทรคได้สบายๆ เลยค่ะ ทั้งหยกยังจะมีนัดเจอ พาช้อปของเทรคกิ้งด้วยน้า คลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิ้งค์ได้เลยค่ะ

มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ

ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ บทความอื่นๆ เกี่ยวกับ การขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไปต่างประเทศ ที่หยกได้ทำเป็นซีรี่ย์ไว้ ซึ่งอาจจะยาวหน่อย เพราะหยกเขียนแบบละเอียดมาก แต่อ่านง่าย มีทุกขั้นตอน เรียงเป็นข้อๆ พร้อมทั้งคำอธิบาย และ หยกได้แยกเป็นเรื่องๆ ไว้ ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ

ตอนเริ่มต้น การเตรียมตัวแพ็คของมาจากบ้าน พวกของเพลวต่างๆ อะไร carry-on ได้ แล้วกระบวนการผ่านเครื่องสแกนล่ะ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

ตอนที่ 1 เตรียมตัวในสนามบิน ก็การเตรียมตัวตั้งแต่ตอนอยู่ที่สนามบิน ต้องไปก่อนกี่ชั่วโมง, เช็คอินอย่างไร, การกรอกใบตม., การผ่านตม., เกทอยู่ตรงไหน รวมถึง คำศัพท์ต่างๆ ที่คุณจะได้พบเจอที่สนามบิน เป็นต้น

ตอนที่ 2/1 คำศัพท์บนเครื่องบิน ศัพท์ทั้งหลาย ที่คุณจะได้ยิน และ ได้เห็น เช่น transfer หรือ transit คืออะไร ทำยังไง

ตอนที่ 2/2 บนเครื่องบิน เมื่อเข้าไปในเครื่องบินแล้ว จะปฏิบัติตัวต่างๆ ยังไงบ้าง ลุก นั่ง รัดเข็มขัด เปิด-ปิดโทรศัพท์ตอนไหน ดูหนังอย่างไร แล้วรู้ไหมว่า คุณสามารถขอขนมว่าง หรือ ผลไม้ได้ด้วยนะ

ตอนที่ 2/3 การใช้ห้องน้ำ ข้อควรปฏิบัติ ทริค และ การแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ชักโครกไม่ลง หรือ ส้วมสกปรก

ตอนที่ 2/4 ทำไมเวลาเครื่องบินขึ้น ลง ต้องทำอะไร? ห้ามทำอะไร? และทำไม? โดยหยกทำเป็น check list มาให้ค่ะ พร้อมทั้งคำอธิบาย สิ่งที่ควรทำ และห้ามทำ ว่าด้วยเหตุผลอะไร เพื่อที่จะได้เข้าใจกันอย่างถูกต้อง และนำไปสู่การปฏิบัติที่เคร่งครัด

ส่วนใครที่กำลังจะซื้อสินค้า duty free และไม่อยากต้องโดนทิ้งไปต่อหน้าต่อหน้า เอากลับมาด้วยไม่ได้ อ่านประสบการณ์ของหยกเลยค่ะ เพราะหยกซื้อสินค้า duty free บนเครื่อง โดยต้องไปต่อเครื่อง แต่กลับโดนเอาทิ้งไปซะงั้น เสียดายสุดๆเลย อย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยกับหยกนะคะ

หากใครที่กำลังจะบินไปเที่ยวยุโรป นี่เป็นเว็บที่หยกใช้หาตั๋วเครื่องที่มักจะมีโปรถูกๆ เป็นประจำค่ะ เพราะมักจะมีโปรออกมาหลอกล่อใจอยู่บ่อยๆ และหากใครต้องการจองตั๋วรถไฟเดินทางภายในยุโรป ก็อ่านที่นี่ได้เลยค่ะ วิธีการจองตั๋วรถไฟเดินทางในยุโรป

ไม่เพียงเท่านั้น หากใครวางแผนเที่ยวยุโรป และเที่ยวนานหน่อย ไปหลายประเทศ แล้วต้องการจะซื้อ Eurail Pass แต่งง ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าบัตรนี้ใช้งานยังไง ซื้อยังไง จะคุ้มไหม ครอบคลุมประเทศไหนบ้าง และอื่นๆ ที่ควรรู้ หยกได้ทำ How to แสดงวิธีการเลือกซื้อ Eurail Pass ให้ตรงกับการใช้งานของเพื่อนๆ และขั้นตอนการซื้อ ที่ลิ้งค์นี้ How to ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ ก็ไอ้เจ้าบัตรนี้ ต้องซื้อก่อนการเดินทางเข้ายุโรปด้วยนะสิ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ เดินทางท่องเที่ยวในเอเชีย หลายๆ ประเทศเราสามารถจองตั๋วรถทัวร์ รถตู้ หรือ รถไฟ ออนไลน์ กันได้ง่ายๆ แล้วนะคะ นอกจากจะทำการจองได้อย่างง่ายและรวดเร็วแล้ว เรายังประหยัดเวลา และสามารถวางแผนทริปได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อีกด้วย เหมาะมากมายสำหรับเพื่อนๆ ที่มีวันลาจำกัดค่ะ จะได้เที่ยวอย่างคุ้มค่าคุ้มเวลาและสบายใจที่สุด

1). มือใหม่หัดเที่ยว เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง ?

1. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : ของเหลว?

แล้ว “ของเหลว” ที่ว่านี้ หมายถึงอะไรบ้าง?

ก็พวกของเหลว, เจล และ สเปรย์ (spray) ทั้งหลาย เช่น น้ำดื่ม, น้ำอัดลม, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, แยม, น้ำพริกหนุ่ม, น้ำจิ้ม, อาหารที่มีของเหลว, ครีม, โลชั่น, ออยส์, น้ำหอม, โทนเนอร์, แชมพู, สบู่เหลว, ยาสีฟัน, เจลใส่ผม, เจลอาบน้ำ, เจลล้างหน้า, สเปรย์ดับกลิ่นกาย, สเปรย์กันแดด, หรือโฟมชนิดต่างๆ เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วสามารถนำเดินทางไปด้วยได้ ไม่มีปัญหาเลยค่ะ

รู้ไหมว่า… เอาของเหลว เจล  สเปรย์ (spray) ข้างต้น ขึ้นเครื่องได้นะ (Carry-on) แต่ต้องมีในปริมาณที่กำหนดเท่านั้น

โดยปกติสนามบินต่างๆ ทั่วโลก อนุญาตให้นำ ของเหลว ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ แต่ต้อง

1). อยู่ในภาชนะบรรจุ ที่ระบุไว้ข้างขวด ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร ต่อ 1 ชิ้น

2). ของเหลวทุกชิ้น เมื่อนำปริมาณมารวมกันแล้ว ห้ามเกิน 1,000 มิลลิลิตร หรือ 1 ลิตร ก็หมายความว่าต้องมีไม่เกิน 10 ชิ้นด้วยค่ะ

3). นำของเหลว แยกออกมาจากกระเป๋า แล้วใส่ถาดที่เค้ามีไว้ให้ เพื่อผ่านเครื่อง X-Ray (หลายๆ ที่อาจไม่เข้มงวด จึงไม่จำเป็นต้องแยกพวกของเหลวออกจากสัมภาระอื่นๆ แต่หากกรณีที่คุณมีของเหลวหลายๆ ขวด คุณอาจถูกขอให้รื้อกระเป๋า ซึ่งของเหลวเหล่านั้นอาจอยู่ในส่วนที่หยิบออกมายากที่สุด เพราะคุณไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการถูกรื้อกระเป๋า การแยกของเหลวเพื่อสแกนแยกจากสัมภาระอื่นๆ จึงช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจเร็วขึ้น คุณผ่านขั้นตอนนี้เร็วขึ้น และคุณก็ไม่ต้องรื้อกระเป๋าอีกด้วย)

เอาขึ้นเครื่องได้ แต่ก็มีข้อแม้ของการจัดเก็บ ของเหลวเหล่านั้นนะคะ

ของเหลวดังกล่าวถ้าจะนำขึ้นเครื่อง ต้องแยกเก็บรวมกันในถุงพลาสติกใส แบบซีลปิด (ถุง Zip-lock ซึ่งถุง Zip-lock นี้มักจะมีให้บริการที่จุดตรวจค่ะ) เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน จะได้ง่ายต่อการตรวจสอบขนาดบรรจุ และลดปัญหาการถูกรื้อกระเป๋า

แล้วของเหลวปริมาณน้อยนิด ที่อยู่ในภาชนะบรรจุขนาดเกินกว่า 100 มิลลิลิตรล่ะ?

คุณไม่สามารถนำของเหลว ที่บรรจุมาในภาชนะบรรจุขนาดเกินกว่า 100 มิลลิลิตร ขึ้นเครื่องได้ ดังนั้น ก็ใส่ไว้ใน กระเป๋าเดินทางโหลดลงใต้ท้องเครื่อง (Checked Baggage) ไปสิคะ

โดยที่เค้าไม่ดูปริมาณของของเหลวที่เหลืออยู่จริงในภาชนะที่บรรจุนั้นๆ นะคะ แต่เค้าดูปริมาณที่ระบุไว้ที่ภาชนะที่บรรจุ เช่น หากคุณนำขวดแชมพูที่ระบุ 250 มิลลิลิตร ถึงแม้จะเหลือแชมพูอยู่นิดเดียว แบบใช้แค่ 2 ครั้งหมด คือน้อยกว่า 20 มิลลิลิตรแน่ๆ อย่างนั้นแล้ว แชมพูขวดนี้ก็จะต้องลงถังขยะตรงจุดตรวจเลยค่ะ

สรุป ของเหลว: เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง ?

สรุป 1 เค้าดูที่ภาชนะบรรจุ ไม่ได้ดูที่ปริมาณของเหลวที่เหลืออยู่ในภาชนะบรรจุนั้น

สรุป 2 ต้องเป็นของเหลวที่อยู่ในภาชนะบรรจุขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องไม่เกิน 10 ขวด ถ้าเอามาเกินกว่า 10 ขวด ก็ทำใจได้เลย เพราะเจ้าหน้าที่จะโยนลงถังขยะตรงนั้นเลยค่ะ

เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : ขวดน้ำ 1.5 ลิตร เปล่าๆ? แก้วน้ำเปล่าๆ?

สบายมากค่ะ ก็แค่ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ก่อน ว่ามีขวดหรือแก้วน้ำเปล่าๆ ที่ต้องการจะถือขึ้นเครื่องด้วย แล้วเอาไปทำไม มันมีประโยชน์มากๆนะเออ อ่านได้ที่ มือใหม่หัดเที่ยว 11 การเตรียมตัว บนเครื่องบิน กับการขึ้นเครื่องครั้งแรกไปต่างประเทศ (ตอนที่ 2/2)

เอาที่หนีบผมขึ้นเครื่องได้ไหม แอร์เอเชีย
หากผ่านจุด X-ray และเข้ามารอขึ้นเครื่องได้อย่างรวดเร็ว ก็มีเวลาได้เดินเล่น เดินชิวๆ เดินช้อปปิ้ง หรือ หาของกินภายในสนามบินได้สบายใจเฉิบเลยค่ะ แต่ก็อย่าเพลินจนตกเครื่องนะคะ

2. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : ของเหลว ที่มีปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตร ที่ซื้อใน Duty free ล่ะ?

อ้าว… แล้วพวกน้ำดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครีม โลชั่น หรือ น้ำหอม ที่มีปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตร ที่ซื้อตาม ร้านสินค้าปลอดภาษี (Duty free shops) ในสนามบิน หลังเข้าเกทไปแล้วละ เอาขึ้นเครื่องได้หรือเปล่า?

แหม เสียตังค์ซื้อไปแล้ว และขายด้านในแท้ๆ ก็ถือขึ้นเครื่องได้ค่ะ เพราะผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่แล้ว แต่มีข้อแม้ คือ

1). เมื่อซื้อแล้วต้องให้พนักงาน บรรจุลงในถุงพลาสติกใสที่ปิดผนึกปากถุง และไม่มีร่องรอยการเปิดออก จึงจะสามารถนำขึ้นเครื่องได้

2). เก็บหลักฐานของใบเสร็จ (ซึ่งส่วนใหญ่ เค้าจะใส่ไว้ในถุงให้อยู่แล้วค่ะ) แสดงว่าได้ซื้อ ณ วันที่เดินทาง

3). นอกจากถุงที่ได้รับการปิดผนึกปากถุงสนิทแล้ว ก็ห้ามเปิดถุงจนกว่าจะสิ้นสนามบินปลายทางนะคะ หากเปิดถุง ถึงแม้ว่าจะมีใบเสร็จ เมื่อต้องมีการผ่านจุดตรวจ ผ่านเครื่อง X-Ray ก็จะถูกทิ้งลงถังขยะทันที

4). หากมีการต่อเครื่อง ก็สามารถพกไปด้วยได้ หากทำตามข้อ 1 – 3 ข้างต้นค่ะ

3. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : Power Bank?

ตอนนี้แบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank กลายเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตของเราไปแล้ว คือขาดไม่ได้เลย โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยว สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) มีการออกกฎมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับการนำ Power Bank ดังนี้

1). ห้ามนำ Power Bank ใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่อง แต่ใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (carry-on) ได้

2). Power Bank ที่ใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ต้องมีขนาดความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh

3). Power Bank ความจุไฟฟ้าไม่เกิน 20,000 mAh (หรือน้อยกว่า 100 Wh) สามารถนำขึ้นเครื่องได้ (ไม่มีการระบุจำนวนก้อน)

4). Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000-32,000 mAh (หรือระหว่าง 100-160 Wh) นำขึ้นบนเครื่องได้ แต่ไม่เกิน 2 ก้อน

5). ห้ามนำ Power Bank ที่มีขนาดความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh (หรือมากกว่า 160 Wh) ขึ้นเครื่องในทุกกรณี

6). แต่ทั้งนี้ ดูรายละเอียดในแต่ละสายการบินอีกทีนะคะ เพราะอาจมีข้อกำหนดและการอนุญาตที่แตกต่างกัน

4. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : กรรไกรตัดเล็บ? มีดโกนหนวด? แหนบ? ตะไบเล็บ? ที่ดัดขนตา?

ห้ามนำของมีคมทุกชนิด เช่น มีด มีดพับ มีดพก คัตเตอร์ กรรไกรตัดเล็บ เข็ม เข็มเย็บผ้า เป็นต้น ที่อาจทำให้เกิดอันตราย ขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด แม้กระทั่ง กรรไกรตัดเล็บ หรือ มีดโกนหนวด แต่อนุญาตให้เก็บของเหล่านี้ ไว้ในกระเป๋าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่อง ได้

ของที่บางท่านอาจไม่รู้ ที่ห้ามพกพาขึ้นเครื่องอีก

ตะขอเบ็ดตกปลา ไขควง เครื่องมือช่างทั้งหลาย หรือแม้กระทั่ง แหนบ ตะไบเล็บ และ ที่ดัดขนตา ที่บางสายการบินก็ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องค่ะ ซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะพกขึ้นเครื่องได้ โดยไม่มีปัญหาใดๆ ก็คงเป็นเพราะสิ่งของมันเล็ก จึงอาจเล็ดลอดสายตาการตรวจมาได้ แต่ทางที่ดีก็เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่องจะดีกว่าค่ะ

เข็มฉีดยาอินซูลิน สำหรับคนที่เป็นเบาหวาน

สามารถพกเข็มฉีดยาอินซูลินขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์มาด้วยนะคะ

5. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : ยาน้ำ? นม? อาหารเหลวเด็ก?

ของเหลวที่ได้รับการยกเว้น อนุโลมให้เอาขึ้นเครื่องได้ ได้แก่

1). ยาน้ำ ซึ่งจะต้องมีเอกสารกำกับยาที่ชัดเจน

2). นม และ อาหารเหลวสำหรับทารก ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องมีการเดินทางของทั้งแม่ และเด็ก อยู่ในเที่ยวบินเดียวกันด้วย

3). ดูรายละเอียดในแต่ละสายการบินอีกทีนะคะ เพราะจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน

6. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : ไฟแช็ก? ไม้ขีดไฟ?

เนื่องจากทุกเที่ยวบินของทุกสายการบิน เป็นเที่ยวบินปลอดบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่จริง หรือ บุหรี่ไฟฟ้า ก็ตาม ห้ามเอาขึ้นมาสูบบนเครื่องบินค่ะ ดังนั้น จึงห้ามนำไฟแช็ก และไม้ขีดไฟ ขึ้นมาบนเครื่องบิน เพื่อป้องกันการจุดบุหรี่ และสูบบนเครื่อง ส่วนอีกเหตุผล ก็คือ ไฟแช็กถือเป็นก๊าซอัดอย่างหนึ่ง เทียบเท่าเหมือนพวกก๊าซน้ำตา ซึ่งตามกฎระเบียบของสายการบินแล้ว ห้ามนำของเหล่านี้ขึ้นเครื่องเด็ดขาด

แต่ถ้าต้องการจะพกไฟแช็ก เผื่อยามจำเป็นอื่นๆ ที่ปลายทาง ก็ให้ใส่ในกระเป๋าเดินทางโหลดลงใต้ท้องเครื่องได้ค่ะ หลายๆ สายการบินจะมีการจำกัด ให้พกไฟแช็กเพียง 1 ชิ้นต่อ 1 คนเท่านั้นนะคะ

7. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : ปืนของเล่น? ปืน? กระสุน?

ปืนของเล่น จำพวก ปืนไฟแช็ก ระเบิดไฟแช็ก แม้ว่าจะเป็นของเล่น แต่มันถือเป็น สิ่งเทียมอาวุธ ที่ตามกฎระเบียบของสนามบิน ห้ามนำขึ้นเครื่องค่ะ

หากใครที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สายการบินตรงเคาน์เตอร์ Check-in เพื่อดำเนินการตรวจสอบเอกสาร และแยกเครื่องกระสุน นะคะ

8. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : สนับมือ? แค่ใส่เป็นแฟชั่นน่า

นอกจากมีด ดาบ และวัตถุแหลมคมทุกชนิด รวมถึงทวน กระบอง และ สนับมือ ก็ถือเป็นอาวุธด้วยเช่นกัน จึงห้ามนำขึ้นเครื่องค่ะ

9. เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง : ทุเรียน? ก็แค่ผลไม้น่า

อาหารบางอย่างที่มีกลิ่นรุนแรง เช่น ทุเรียน อาหารทะเลสด ปลาแห้ง ปลาร้า กะปิ น้ำปลา และอาหารกลิ่นแรงอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ห้ามนำขึ้นเครื่องเด็ดขาด ไม่ว่าจะแพ็คมาอย่างดิบดีแค่ไหนก็ตาม เพราะกลิ่นที่รุนแรง ทำให้ผู้โดยสารบางคนเกิดอาการวิงเวียนขึ้นมาได้ ถ้าจะเอาไปด้วยจริงๆ ก็โหลดลงใต้เครื่องอย่างเดียวเลยค่ะ (ดูรายละเอียดในแต่ละสายการบินอีกทีนะคะ เพราะจะมีข้อกำหนดและการอนุญาตที่แตกต่างกัน)

10. แล้วผู้หญิงท้องล่ะ ขึ้นเครื่องบินได้ไหม

เชื่อว่าคนท้อง ก็อยากเที่ยว อยากพาลูกน้อยๆ ในท้องเที่ยวเหมือนกันเนอะ แต่ในกรณี ผู้หญิงท้องแก่นั้น ไม่อนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินนะคะ เพราะความกดอากาศบนเครื่องบินที่มักไม่คงที่ อาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด หรือ อาจจะส่งผลถึงระบบไหลเวียนโลหิตของคุณแม่และลูกในครรภ์ได้ ทั้งนี้ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อ่อนๆ ระยะไม่เกิน 27-28 สัปดาห์ ยังสามารถขึ้นเครื่องบินได้อยู่ แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์มาด้วยนะคะ และควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตรงจุด Check-in เพื่อทำการเลือกที่นั่งที่เหมาะสมให้

ข้อควรรู้

บางสายการบิน นอกจากจะเรียกดูใบรับรองแพทย์แล้ว อาจจะถูกเรียกไปซักถามข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และสุขภาพของคุณแม่ก่อนเดินทางด้วย ดังนั้น เพื่อความสะดวกรวดเร็ว เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และเลี่ยงปัญหาน่ารำคาญเหล่านี้ ก็ควรไปทำใบรับรองแพทย์ไว้ทุกครั้งก่อนการเดินทาง และควรเตรียมพร้อมสำหรับการถูกซักถามนะคะ

11. ไม้เท้าเดินป่า? ขาตั้งกล้อง?

แต่ละสายการบินจะมีการกำหนดความกว้างยาวของสิ่งของที่ผู้โดยสารสามารถถือขึ้นเครื่องได้ ตามขนาดของที่เก็บของที่เครื่องบินนรุ่นนั้นๆ สามารถรองรับได้ จึงความตรวจสอบกับสายการบินก่อนการเดินทางอีกทีนะคะ

โดยทั่วไป หากขาตั้งกล้องสามารถใส่ลงไปในด้านข้างของกระเป๋าแบ็คแพ็คได้ โดยที่ไม่เลยออกมา ก็มักจะไม่มีปัญหาค่ะ

ส่วนไม้เท้าเดินป่านั้น ถือเป็นของมีคมค่ะ เพราะปลายที่แหลม จึงแนะนำให้โหลดใต้ท้องเครื่องนะคะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ หยกหวังว่าสิ่งที่ได้อ่านไปนั้น จะช่วยให้เพื่อนๆชาวสนุกเที่ยว เข้าใจ และจัดเตรียมกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง และ กระเป๋าเดินทางโหลดลงใต้ท้องเครื่อง ได้อย่างเหมาะสม นะคะ หากมีข้อซักถาม ข้อสงสัย หรือสิ่งใดไม่ชัดเจน ก็สอบถามมาได้ที่คอมเม้นต์ด้านล่างสุดได้เลยค่ะ ทีนี้มาดูการเตรียมการเพื่อความรวดเร็วในการผ่านจุดตรวจค้นกันดีกว่าค่ะ

2). ถ้าไม่อยากทิ้งของเหลวเหล่านั้น หรือกรรไกรเล็กๆ น่ารัก หรือ สิ่งอื่นๆ ทำอย่างไรได้บ้าง?

ได้ค่ะๆ ไม่ต้องทิ้งๆ แต่ต้องมีเวลานะคะ

ปัจจุบันที่สนามบินนานาชาติ เช่น สนามบิยสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง และ สนามบินเชียงใหม่ เป็นต้น และสนามบินในหลายๆ จังหวัดนั้น จะมี ไปรษณีย์ไทย เปิดทำการด้านในสนามบิน ที่คอยช่วยเหลือค่ะ แต่ต้องมั่นใจว่ามีเวลาเหลือเพื่อเดินออกมาส่งของเหล่านั้นกลับบ้าน แล้วเดินกลับเข้าไปผ่านเครื่องสแกน ตม และเข้าเกทนะคะ เพื่อที่จะได้ไม่ตกเครื่องค่ะ

ซึ่งโดยทั่วไป ไปรษณีย์ไทย จะเปิดทำการทุกวัน เวลา 08.30 – 19.30 น. ค่ะ

3). การเตรียมพร้อม และ ขั้นตอนการตรวจค้นร่างกายและสัมภาระติดตัวก่อนขึ้นเครื่อง

หากเราทราบว่า สามารถ เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง ก็ช่วยให้เราเตรียมพร้อมได้เยอะเชียวแหละค่ะ แต่ทำไมเราต้องเตรียมพร้อม ก่อนการผ่านจุดตรวจค้น ทั้งสัมภาระ และร่างกายด้วย?

1). เพื่อการรักษาความปลอดภัย

2). เพื่อจะได้ไม่ต้องรื้อของทั้งหมดออกจากกระเป๋า เมื่อผ่านเครื่อง X-ray

3). เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับขั้นตอนนี้นาน ไม่ต้องผ่านเครื่อง X-ray หลายๆ รอบ

เอาที่หนีบผมขึ้นเครื่องได้ไหม แอร์เอเชีย
ขณะนั่งบนเครื่องก็อย่าลืมชมวิวด้านนอกเป็นครั้งคราวนะคะ

4). การเตรียมพร้อม ก่อนเข้าสู่ จุดตรวจค้น สัมภาระและร่างกาย

ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอน หลังจากที่คุณทำการ Check-in, โหลดกระเป๋าเดินทางลงใต้ท้องเครื่อง และได้รับ Boarding Pass มาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่ Domestic หรือ International Departures เตรียม Boarding Pass พร้อมทั้ง บัตรประชาชน หรือ Passport (Passport ใช้ได้ทั้งในกรณี เดินทางภายใน และนอกประเทศ ค่ะ) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมไปสู่ขั้นตอนต่อไป


1. การเตรียมตัวก่อนเข้าสู่ จุดผ่านเครื่อง X-Ray เพื่อตรวจค้นสัมภาระ

ขั้นตอนนี้ ไม่ใช่แค่การวางกระเป๋าเพื่อผ่านเครื่อง X-Ray และคุณเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ (Walk Through Metal Detector) แล้วจบนะคะ แต่คุณจะต้องทำการแยกสิ่งของต่อไปนี้ออกมาจากกระเป๋าของคุณ เพื่อวางในถาดที่ทางสนามบินเตรียมไว้ให้ เพื่อผ่านเครื่อง X-Ray (ซึ่งหยกมักจะเตรียมตัวระหว่างต่อแถวค่ะ) ดังนี้

1.1). นำคอมพิวเตอร์ชนิดพกพา (Laptop) และ นำถุง Zip-lock ที่บรรจุของเหลว ออกมาจากกระเป๋า

1.2). ถอดเสื้อคลุมแบบหนาๆ อย่างเสื้อแจ๊คเก๊ต, หมวก และ แว่นตากันแดด ออก

1.3). บางสนามบิน อาจถูกขอให้ถอดเข็มขัด และ รองเท้า เพื่อนำผ่านเข้าเครื่อง X-Ray โดยจะมีถาดเฉพาะไว้สำหรับใส่รองเท้านะคะ

1.4). ของมีค่าต่างๆ, โทรศัพท์มือถือ, กระเป๋าเงิน, แหวน, หรือนาฬิกา เป็นต้น ให้ใส่ไว้ในกระเป๋า และปิดให้เรียบร้อย ก่อนนำใส่ถาดผ่านเครื่อง X-Ray

2. เราจะต้องเป็นคน ทำการเลื่อนถาดเหล่านั้น เข้าเครื่อง X-Ray เอง หลังจากนั้น รอสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เรียก เพื่อเดินผ่านเข้าเครื่องตรวจจับโลหะ เพื่อตรวจค้นร่างกายค่ะ

ข้อควรรู้

สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ เช่น ผู้โดยสารใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือ กำลังตั้งครรภ์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อผ่านเข้าช่องทางเฉพาะ และรับการตรวจค้นร่างกายด้วยมือ

3. หากเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ แล้วไม่เกิดสัญญาณเตือน (Alarm) ใดๆ ก็ให้ไปรับกระเป๋า และข้าวของ ที่ผ่านเครื่อง X-Ray ได้เลยค่ะ ตรวจสอบสิ่งของให้ดี หยิบให้ครบ แต่อย่าหยิบเกินนะคะ

4. ส่วนผู้ที่เดินผ่าน แล้วเกิดสัญญาณเตือน ก็ต้องเดินกลับออกไปใหม่ เพื่อสำรวจดูอีกครั้งว่า ยังมีสิ่งของที่เป็นโลหะหลงเหลืออยู่ตามร่างกายหรือไม่ หากพบว่ามี ให้นำไปใส่ถาดที่จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อผ่านเข้าเครื่อง X-Ray และ เดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ เป็นครั้งที่ 2 หรือคุณอาจจะไม่ต้องเดินผ่านใหม่ แต่จะถูกเจ้าหน้าที่เรียกไปตรวจร่างกายด้วยมือแทน ก็ได้ค่ะ

5. กรณีผู้โดยสารเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะเป็นครั้งที่ 2 แล้วยังเกิดสัญญาณเตือน
เจ้าหน้าที่จะเชิญให้ผู้โดยสารท่านนั้น ไปรับการตรวจค้นร่างกาย เพื่อตรวจหาสาเหตุที่เครื่องตรวจจับโลหะส่งสัญญาณ

6. หากของที่ผ่านการ X-Ray ไม่ผ่าน เพราะมีวัตถุต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน ตามที่ได้กล่าวไปแล้วในหัวข้อ “เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง” ก็ต้องถูกทิ้งลงถังขยะไป ตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยค่ะ

เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจค้นแล้ว ให้ตรวจสอบข้าวของ สัมภาระที่นำติดตัวมาให้ครบทุกชิ้น ก่อนออกจากจุดตรวจค้นนะคะ

ข้อควรรู้: สิ่งที่ต้องตรวจสอบกับแต่ละสายการบิน

ขนาดและจำนวนสัมภาระถือขึ้นเครื่อง ที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ และข้อกำหนดของการ เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง ที่อาจจะแตกต่างกันค่ะ

ก่อนขึ้นเครื่องบิน (ก่อนจัดกระเป๋า) ควรเตรียมอะไรติดตัว เพื่อนำขึ้นไปบนเครื่องบินบ้าง

นอกจากการจัดเตรียมของเพื่อตอบคำถามที่ว่า เอาอะไรขึ้นเครื่องบินได้บ้าง ? แล้ว ยังต้องมีการจัดเตรียมของเพื่อประโยชน์ในการใช้สอย บนเครื่องบิน และเมื่อถึงปลายทางค่ะ

1. อากาศบนเครื่องอาจจะเย็นจนถึงหนาว ควรพก ถุงเท้า เสื้อคลุมบางๆ หรือ ผ้าพันคอ ขึ้นไปด้วย

2. กรณีที่เมืองปลายทาง ที่คุณจะลงนั้น อากาศหนาวมากๆ ก็เตรียมเสื้อกันหนาว หรือ โค้ท ไว้ อาจจะพกขึ้นเครื่องไปด้วย หรือ เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดลงใต้ท้องเครื่อง ตรงช่องที่สามารถหยิบได้ง่ายๆ จะได้ไม่ต้องรื้อกระเป๋าในสนามบินปลายทาง

3. กรณีลืมแจ้งสายการบินไปว่า เราแพ้อาหาร หรือ ไม่ทานเนื้อสัตว์ชนิดใด หรือ เป็นมังสวิรัติ ก็ควรบอก ลูกเรือตั้งแต่ขึ้นเครื่องเลยค่ะ หรือ เป็นไปได้ก็บอกตั้งแต่ทำการเช็คอินเลยก็จะดีกว่าค่ะ เค้าจะได้เตรียมอาหารให้เราทัน

4. ขวดน้ำเปล่าๆ ที่ไม่มีน้ำ สำหรับการเติมน้ำดื่มบนเครื่องบิน กรณีต้องบินนานๆ หรือ ในบางประเทศที่สามารถดื่มน้ำได้จากก๊อกน้ำ เราก็จะได้ประหยัดเงิน ไม่ต้องหาซื้อขวดน้ำในการเติมน้ำยังไงล่ะคะ

5. ปากกา ประเทศปลายทางบางประเทศ จะมีแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง ให้คุณได้กรอกตั้งแต่อยู่บนเครื่อง เพื่อไปยื่นในกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ของประเทศปลายทางนั้นๆ

6. Power bank เพราะคุณโหลดลงใต้ท้องเครื่องไม่ได้ ต้องถือขึ้นเครื่องเท่านั้น ดูข้อกำหนดการถือขึ้นเครื่องด้านบน และจากสายการบินที่คุณจะบินอีกครั้งนะคะ

เอาที่หนีบผมขึ้นเครื่องได้ไหม แอร์เอเชีย
เดินเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ ฟังเสียงคลื่น ที่ เกาะตะรุเตา

ส่วนใครที่กำลังจะซื้อสินค้า duty free และไม่อยากต้องโดนทิ้งไปต่อหน้าต่อหน้า เอากลับมาด้วยไม่ได้ อ่านประสบการณ์ของหยกเลยค่ะ เพราะหยกซื้อสินค้า duty free บนเครื่อง โดยต้องไปต่อเครื่อง แต่กลับโดนเอาทิ้งไปซะงั้น เสียดายสุดๆเลย อย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยกับหยกนะคะ

ทั้งนี้หากใครที่กำลังจะบินไปเที่ยวยุโรป นี่เป็นเว็บที่หยกใช้หาตั๋วเครื่องถูกๆ ค่ะ  และหากใครต้องการจองตั๋วรถไฟเดินทางภายในยุโรป ก็อ่านที่นี่ได้เลยค่ะ วิธีการจองตั๋วรถไฟเดินทางในยุโรป

หวังว่าเพื่อนๆ ชาวสนุกเที่ยว จะได้รับประโยชน์ สามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ได้จริง และประหยัดเวลาในการเตรียมตัว และการผ่านขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้นะคะ หากใครมีคอมเม้นต์ใดๆ ก็คอมเม้นต์มาได้ที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ หรือหากใครอยากที่จะแชร์ประสบการณ์การผ่านขั้นตอนเหล่านี้ก็คอมเม้นต์มาได้เลยเช่นกันค่ะ


นกแอร์เอาที่หนีบผมขึ้นเครื่องได้ไหม

✔ปลั๊กพ่วง ที่หนีบผม ที่ม้วนผม และเครื่องเป่าผม ใส่กระเป๋าโหลดใต้เครื่องหรือนำขึ้นเครื่องก็ได้ค่ะ แพ็กกระเป๋าสบายใจ แล้วกดจองตั๋วได้เลยที่ www.nokair.com #NokAir #WeFlySmiles.

แอร์เอเชีย ห้ามเอาอะไรไปบ้าง

​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​บุหรี่ไฟฟ้า (รวมถึงซิการ์ไฟฟ้า ไปป์ไฟฟ้าและอุปกรณ์สารระเหยไฟฟ้า).
อาวุธปืน.
อุปกรณ์ป้องกันตัว.
อุปกรณ์ช๊อตไฟฟ้า.
ถังออกซิเจน ออกซิเจนอัดกระป๋อง ออกซิเจนในท่ออัดก๊าซ สำหรับผู้ป่วย.

Trekking Pole ถือขึ้นเครื่องได้ไหม

เท่าที่เห็นเวลามีใครสงสัยว่าจะเอาไม้เท้าขึ้นเครื่องได้ไหม ส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีโทรหรือ inbox ไปสอบถามสายการบินที่ตนเองกำลังจะบิน ซึ่งก็มักจะได้รับคำตอบว่า "ไม่ได้" เนื่องจากเจ้าหน้าที่รับเรื่องจะถูกฝึกมาให้ตอบข้อมูลจากคู่มือกฏระเบียบต่างๆ ที่เขียนไว้อย่างเคร่งครัด และหนึ่งในข้อห้ามของขึ้นเครื่อง มีเรื่องสิ่งของที่สามารถ ...

เครื่องหนีบผม Dyson ขึ้นเครื่องได้ไหม

ข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ระบุเอาไว้ว่าจะสามารถนำเครื่องหนีบผมไร้สายขึ้นเครื่องได้ก็ต่อเมื่อส่วนทำความร้อนนั้นแยกออกจากแบตเตอรี่เท่านั้น คุณจะต้องถอดสลักออกก่อนผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยในสนามบิน และจะต้องแยกออกจากกันไว้เช่นนั้นตลอดระยะเวลาที่บิน คุณสามารถดูคู่มือวิธีการนำเครื่องหนีบผมขึ้น ...