การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา

ข้ามไปยังเนื้อหา

1.การอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขนั้น สมาชิกในสังคมต้องปฏิบัติตนเป็นคนดี โดยเริ่มตั้งแต่การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีต่อครอบครัวและโรงเรียนในวัยเด็ก ซึ่งเป็นพื้นฐานในการใช้ชีวิตในอนาคตต่อไป

2.คนทุกคนมีความสามารถในแต่ละด้านแตกต่างกันไป การใช้ความสามารถในด้านที่ตนมีอยู่เพื่อกระทำความดี จะส่งผลให้ตนเองเป็นผู้มีจิตใจที่ดี เป็นที่ชื่นชมของผู้อื่น และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข                                          

   1.สมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน
1.1 การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว
      เด็กดีของครอบครัว  หมายถึง  เด็กที่ปฏิบัติตนให้เป็นที่รักใคร่ของบิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เป็นต้น

นักเรียนสามารถปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวได้โดยปฏิบัติ ดังนี้


                

การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา
     
การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา

มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดา มารดาและญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว    เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา มารดาและญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว

 

การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา
 
การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา

มีสัมมาคารวะต่อบิดา มารดาแลญาติผู้ใหญ่         รู้จักกล่าวคำขอบคุณขอโทษและไหว้ผู้ใหญ่
ปฏิบัติตนตามข้อ ตกลง กฎ กติกา ระเบียบของครอบครัว

          

การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา
    
การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา

มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการทำกิจกรรมของครอบครัว มีระเบียบวินัย มีน้ำใจช่วยเหลืองานบ้าน มีเหตุผลและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

2 การปฏบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน

      เด็กดีของโรงเรียน  หมายถึง เด็กที่ปฏิบัติตนให้เป็นที่รักใคร่ ของครูอาจารย์และสมาชิกทุกคนในโรงเรียน
นักเรียนสามารถปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียนได้โดยปฏิบัติ ดังนี้

การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา
            เคารพและปฏิบัติตามกฏระเบียบของโรงเรียนและเชื่อฟังและมีสัมมาคารวะต่อครูอาจารย์

การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา
ขยันหมั่นเพียรในการศึกษาหาความรู้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของห้องเรียนและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น พูดจาไพเราะ สุภาพเรียบร้อย

การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา

                                รักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของโรงเรียนและรักษาทรัพย์สินของโรงเรียน

การเป็นพลเมืองดีของสถานศึกษา

โรงเรียนกับการสร้างเยาวชนพลเมืองดี

 2 years ago 5754

ผู้เขียน: นางสาวกนกวรรณ สุภาราญ ครูจากโครงการ Teach for Thailand
ภาพ: กชกร มั่นคงเจริญกิจ

          “พลเมืองดี” … เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ เคารพความเสมอภาค สิทธิเสรีภาพของตนเองและผู้อื่น ปฏิบัติตนตามกฎหมาย และปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม... ทุกสังคมล้วนปรารถนาให้ประชาชนเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ ทำแต่สิ่งที่ดี และมีประโยชน์ต่อสังคมด้วยกันทั้งสิ้น แต่การจะทำให้ทุกคนเป็นพลเมืองที่ดีได้นั้นล้วนต้องอาศัยกระบวนการอบรมบ่มเพาะที่เหมาะสมตั้งแต่แรกเริ่มจากครอบครัวและที่สำคัญไม่แพ้กันซึ่งก็คือ โรงเรียน

“เพราะโรงเรียนเป็นมากกว่าสถานที่ให้ความรู้”
          โรงเรียนเป็นสถานที่อบรมบ่มเพาะเยาวชนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ นอกจากความรู้เรื่องวิชาการแล้ว ยังรวมถึงทักษะ ทัศนคติ ความเข้าใจต่อการแสดงออกที่เหมาะสมในการอยู่ร่วมกันภายในสังคม โรงเรียนจึงเปรียบเสมือนสถานที่จำลองสังคมขนาดเล็กให้แก่เด็กได้เรียนรู้และปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมภายนอกบริเวณบ้าน และครอบครัวของตนเอง ช่วยหล่อหลอมให้เด็ก และเยาวชนได้เรียนรู้หน้าที่ บทบาทในสังคมของตนเองอย่างเหมาะสมและสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับธรรมเนียมของสังคมที่ตนอาศัยอยู่อีกด้วย

“สร้างห้องเรียนประชาธิปไตย สร้างพลเมืองดีของสังคม”
          ความเป็นประชาธิปไตยเกี่ยวข้องอย่างไรกับการสร้างพลเมืองดีในโรงเรียน คำถามที่ดูเหมือนจะไม่สอดคล้องกันเสียทีเดียวแต่กลับมีความเกี่ยวข้องกันอย่างน่าสนใจ ห้องเรียนประชาธิปไตย... การสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยน เรียนรู้อย่างมีอิสระบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกันร่วมกันในห้องเรียน...เปรียบห้องเรียนเสมือนพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ไม่จำกัดรูปแบบ เปิดกว้างต่อความแตกต่าง และเปิดรับต่อการมีส่วนร่วมที่หลากหลายของนักเรียน

          จากงานวิจัยเรื่อง “การพัฒนาการบริหารระบบการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย” พบผลการศึกษาว่าการสร้างเยาวชนหรือนักเรียนในโรงเรียนให้มีลักษณะของความเป็นพลเมืองดีได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ควรเริ่มต้นจากบทบาทครู และห้องเรียน รวมทั้งวิธีการอบรมสั่งสอนของครูที่มีต่อนักเรียนหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นวิธีการทางตรงหรือการสร้างอิทธิพลทางอ้อมก็ตาม การนำแนวทางประชาธิปไตยมาประยุกต์ใช้กับรูปแบบการอบรมนั้นก็เพื่อปรับเปลี่ยน และสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง เปิดโอกาสให้นักเรียนและครูได้เรียนรู้ที่จะรับฟังซึ่งเหตุผลและความคิดเห็นที่หลากหลายในประเด็นต่างๆ ที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งตระหนักถึงบทบาทและการมีส่วนร่วมในการแก้ไขพัฒนาปัญหาที่เขาได้พบเจอมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเรียนรู้ และการตระหนักถึงบทบาทของตนเองนั้นไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย หากปราศจากครู และบรรยากาศห้องเรียนที่เปิดกว้าง พื้นที่ที่รับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันอย่างเคารพและเปิด

“เด็กทุกคนเป็นพลเมืองดีได้”
          บทบาทครอบครัว โรงเรียนและครูล้วนต่างมีส่วนในการอบรมสั่งสอน ชี้แนะแนวทางที่เหมาะสมในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ด้วยความเชื่อมั่นว่าเด็กทุกคนสามารถเป็นคนดีได้ เป้าหมายของการอบรมสั่งสอนจึงไม่เพียงแต่มุ่งหวังให้นักเรียนมีความรู้ แต่ยังมุ่งหวังให้นักเรียนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมอีกด้วย ไม่ว่าจะครูผู้สอนจะใช้รูปแบบการเรียนการสอน และวิธีการอบรมบ่มเพาะเช่นไร ห้องเรียนประชาธิปไตยสามารถนำไปประยุกต์เข้ากับการจัดการเรียนรู้จึงเป็นอีกทางเลือกสำคัญในการปรับหรือดัดแปลงกระบวนการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ๆ อีกทั้งเป็นการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้อแก่การบ่มเพาะนักเรียนสู่การเป็นพลเมืองดี โดยเริ่มต้นจากห้องเรียนเล็กๆ ที่ครูและนักเรียนร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้น

          ในปัจจุบันโรงเรียนมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการสร้าง และบ่มเพาะพลเมืองดีสู่สังคม เมื่อนักเรียนเข้ามาในโรงเรียน ก็เปรียบเสมือนนักเรียนได้เรียนรู้การปรับตัว และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมที่กว้างกว่าครอบครัวของตน สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ และซึมซับจากสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิต ดังนั้น บทบาทของครูและโรงเรียนจึงมีส่วนสำคัญในการจัดบรรยากาศของโรงเรียน ห้องเรียน รวมทั้งรูปแบบการเรียนรู้ที่เอื้อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการสร้างนักเรียน และเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ดี ผ่านกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย รับฟังและเคารพเสียงของทุกคนมากขึ้น มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันบนพื้นฐานของความเคารพ และมีเหตุมีผล หากโรงเรียน ห้องเรียน และครูสามารถปลูกฝังสิ่งที่เป็นพื้นฐานของการเป็นพลเมืองดีเหล่านี้ให้แก่นักเรียนได้อย่างสม่ำเสมอแล้วนั้น เด็กนักเรียนและเยาวชนทุกคนจะมีรากฐานของการเป็นพลเมืองที่ดี และสามารถปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอันกว้างใหญ่ขึ้นได้อย่างแน่นอน

ที่มา
สมฤดี พละวุฑิโฒทัย. (2561). การพัฒนาการบริหารระบบการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย. วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร, 9(1)4-6.



พลเมืองมีความสําคัญอย่างไร

ความเป็นพลเมือง ( Citizenship ) เป็นคำที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ประชาธิปไตยจะประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่เพียงมีรัฐธรรมนูญที่ดีเท่านั้น แต่ประชาชนจะต้องเป็นพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตยด้วย (วรากรณ์ สามโกเศศ , 2554) กล่าวคือ มีสมาชิกของสังคมที่ใช้สิทธิเสรีภาพโดยมีความรับผิดชอบ เคารพสิทธิผู้อื่น เคารพความแตกต่าง ...

พลเมืองดีระดับครอบครัวมีอะไรบ้าง

ให้ความเคารพเชื่อฟังผู้นำในครอบครัว.
ดูแลครอบครัว ให้สามารถอยู่ได้ ทั้งด้าน เศรษฐกิจ และความเป็นอยู่อื่นๆ.
ไม่สร้างความแตกแยก แก่ครอบครัว.
ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ครอบครัว.
เคารพกฎเกณฑ์ของครอบครัวและแบบแผนทางสังคม.
สร้างอาชีพและรายได้ให้เพียงพอกับสมาชิกในครอบครัว.

นักเรียนมีวิธีการปฏิบัติตนให้เป็นพลเมืองดีทั้งที่บ้านโรงเรียนและสังคมอย่างไร

1) เคารพและปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของโรงเรียน 2) ศึกษาเล่าเรียนด้วยความตั้งใจ และขยันหมั่นเพียร 3) รับผิดชอบต่องานและหน้าที่ที่ได้ รับมอบหมาย 4) รับฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่น 5) มีความซื่อสัตย์ในการสอบหรือ การทำงานทุกครั้ง การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในชั้น 6) ลงมติโดยถือเสียงข้างมาก โดย

สมาชิกที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

ชุมชนใดมีสมาชิกขยันขันแข็ง ปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความตั้งใจจริง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ซื่อสัตย์สุจริต อดทน ขยันหมั่นเพียร และมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ชุมชนนั้นก็จะเจริญรุ่งเรือง และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข