เฉลย ภาษาอังกฤษธุรกิจ ป ว ส

ภาษาอังกฤษสำหรับงานธุรกิจ (English for Business) รหัสวิชา 20000-1210  (0-2-1)

จุดประสงค์รายวิชา เพื่อให้

1. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับหลักการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับงานธุรกิจ

2. สามารถฟัง-ดู พูด อ่านและเขียนภาษาอังกฤษทางธุรกิจ

3. ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นประโยชน์ของการใช้ภาษาอังกฤษในงานอาชีพทางธุรกิจ

1. อ่านเอกสาร แผ่นพับและคู่มือการปฏิบัติงานในงานทางธุรกิจ

2. สนทนาตามสถานการณ์ทางธุรกิจ

3. การให้ข้อมูลสินค้าและบริการ

5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในงานธุรกิจ

ปฏิบัติเกี่ยวกับการฟัง-ดู พูด อ่านและเขียนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับงานธุรกิจ การฟัง-ดูเรื่องราว

ทางธุรกิจ การอ่านเอกสาร แผ่นพับและคู่มือการปฏิบัติงาน การสนทนาตามสถานการณ์ทางธุรกิจ การติดต่อ

ทางโทรศัพท์ การให้ข้อมูลสินค้าและบริการ การเขียนจดหมายธุรกิจ บันทึกข้อความ ข้อความแสดงความยินดี

ในโอกาสต่าง ๆ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การกรอกแบบฟอร์มทางธุรกิจ และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศพัฒนา

ทักษะภาษาอังกฤษในงานธุรกิจ

ชุดการเรียน แบบ Active Learning หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พทุ ธศกั ราช 2562 30000-1201 ภาษาองั กฤษเพือ่ การสอ่ื สาร หนว่ ยที่ 1 สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คำนำ ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร ชุดการเรียนโดยใช้ส่ือดิจิทัลเพ่ือพัฒนาทกั ษะการสื่อสารภาษาอังกฤษระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพชัน้ สูงนี้จัดทาขนึ้ เพื่อใชใ้ นการศกึ ษาเรียนรรู้ ายวิชา 3000-1201 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทาง ธุรกิจและสังคม หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 และรายวิชา 30000-1201 ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร (3-0-3) หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้นั สูง พุทธศักราช 2562 โดยมี จุดประสงค์เพ่ือให้ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติด้วยตนเองแล้วเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ หลักการใช้ภาษาอังกฤษ สามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้เป็นเคร่ืองมือส่ือสารในงานอาชีพ ชุดการเรียนนี้ ประกอบด้วย 8 หน่วยการเรียน แต่ละหน่วยประกอบด้วยแบบประเมินตนเองก่อนและหลังเรียน แผนการเรียนประจาหน่วย เน้ือหาสาระและกิจกรรม ซ่ึงผู้เรียนอาชีวศึกษาท้ังในระบบปกติและระบบ ทวิภาคีสามารถศึกษาเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ และทบทวนความรู้ได้ทุกท่ี ทุกเวลา ผ่านระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน (Smart phone) ตลอดจนสามารถดาวน์โหลด (Download) ชุดการเรียน น้ีเพื่อศึกษาเรียนรู้ในระบบออฟไลน์ (Offline) ได้ด้วย นอกจากนี้ ครูผู้สอนรายวิชาดังกล่าวยังสามารถ นาไปใชใ้ นการจดั การเรียนการสอนในสถานศึกษาได้ เปน็ การสนองตอบนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการ พัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 แก่ผู้เรียนอาชีวศึกษาด้วย ทั้งน้ี ชุดการเรียนนี้ได้นาไปใช้ใน สถานศึกษานาร่อง ในปีการศึกษา 2562 เพ่ือพัฒนาให้สมบูรณ์ย่ิงข้ึนและขยายผลแก่สถานศึกษา อาชวี ศกึ ษาทกุ แหง่ ตอ่ ไป สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาขอขอบคุณศนู ยอ์ าชีวศึกษาทวภิ าคี ศูนยส์ ่งเสรมิ และ พัฒนาอาชีวศึกษาภาคเหนือ คณะศึกษานิเทศก์ คณะครูผู้สอน คณะกรรมการและผู้มีส่วนเก่ียวข้อง ทุกท่าน ท่ีมีส่วนช่วยให้การดาเนินการจัดทาชุดการเรียนโดยใช้ส่ือดิจิทัลเพื่อพัฒนาทักษะการส่ือสาร ภาษาอังกฤษคร้ังนี้บรรลุผลสาเร็จตามที่มุ่งหวัง และหวังว่าผู้เรียนจะได้นาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการ พฒั นาตนเองและประยกุ ต์ใช้ในงานอาชพี ไดเ้ ป็นอย่างดี ศนู ยส์ ่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคเหนอื ศูนยอ์ าชีวศึกษาทวิภาคี พฤษภาคม 2562

สารบญั ชดุ การเรยี น ปวส. 2562 วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร รายละเอียดรายวิชา หน้า วธิ กี ารศึกษา (ก) • ขน้ั ตอนการเรียนชุดการเรียน • ขน้ั ตอนการเรียนระดบั หน่วย (ข) (จ) หนว่ ยท่ี 1 Welcoming (ฉ) • แบบประเมนิ ตนเองก่อนเรียน หนว่ ยท่ี 1 1 • แผนการเรียน หนว่ ยที่ 1 Welcoming 1 - แผนการเรียน มอดลู ท่ี 1.1 Welcoming Visitors 2 - แผนการเรียน มอดลู ที่ 1.2 Personal Profiles 4 • แบบประเมนิ ตนเองหลังเรียน หน่วยที่ 1 14 • ภาคผนวก 31 • เฉลยแบบประเมนิ ตนเองกอ่ นและหลงั เรยี น 32 33

รายละเอยี ดรายวชิ า ชดุ การเรยี นแบบ Active Learning ปวส. 2562 วชิ าภาษาองั เพอื่ การสอ่ื สาร 3000-1201 ภาษาอังกฤษเพอื่ การสื่อสาร 3-0-3 (English for Communication) จุดประสงคร์ ายวิชา เพื่อให้ 1. เข้าใจหลกั การใชภ้ าษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สารในชวี ติ ประจาวนั 2. สามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้เป็นเคร่ืองมอื ส่อื สารในชีวิตประจาวนั 3. มเี จตคติและกจิ นิสยั ท่ดี ีในการใช้ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสือ่ สารและการศึกษาตอ่ สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับการใช้ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่อื สารในชีวิตประจาวัน 2. สนทนาในสถานการณ์ชีวิตประจาวนั ตามมารยาทสงั คมของเจา้ ของภาษา 3. อ่าน และสรปุ ใจความสาคัญของขอ้ มลู จากส่ือสงิ่ พมิ พ์และสอ่ื ออนไลน์ 4. เขียนขอ้ มูลบคุ คล บนั ทกึ และข้อความบนสอื่ สงั คมออนไลน์ 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื พฒั นาทกั ษะภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สารในชวี ติ ประจาวัน คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับทักษะการฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ในชีวิตประจาวัน การสอบถามและให้ข้อมูลบุคคล สถานที่ เวลา และสภาพอากาศ การสนทนา ทางโทรศัพท์ การอ่านข้อมูลจากส่ือสิ่งพิมพ์ และส่ือออนไลน์ การเขียนข้อมูลบุคคล บันทึก และ ขอ้ ความบนส่อื สังคมออนไลน์ และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สารในชีวติ ประจาวัน (ก)

วธิ กี ารศกึ ษา ชดุ การเรยี นแบบ Active Learning ปวส. 2562 วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร ในการศึกษาชุดการเรียนรายวิชา 30000-1201 วิชาภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ผู้เรยี นจะตอ้ งทาความเข้าใจเกีย่ วกบั 1. โครงสรา้ งเน้ือหาสาระ 2. โครงสร้างส่ือการเรยี นรู้ 3. วิธกี ารเรยี น โครงสร้างเน้ือหาสาระ ชุดการเรียนรายวิชา 30000-1201 วิชาภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ได้แบ่ง โครงสร้างเนื้อหาสาระ ดังน้ี หนว่ ยท่ี 1 Welcoming หนว่ ยท่ี 2 Staying in Touch หน่วยที่ 3 Going out หน่วยที่ 4 Selling and Buying หน่วยที่ 5 Applying for Jobs หนว่ ยที่ 6 Being on Duties หน่วยที่ 7 Getting to Know the Workplace หนว่ ยท่ี 8 Reporting Information โครงสร้างสื่อการเรยี นรู้ ชุดการเรียนรายวิชา 30000-1201 วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสอื่ สาร ประกอบด้วย สอื่ 2 ประเภท คอื (1) ส่อื สง่ิ พมิ พ์ ได้แก่ แผนการเรยี นและใบกจิ กรรม และ (2) ส่อื ออนไลน์ วิธกี ารเรียน เพ่ือให้การเรียนในชุดการเรียนรายวิชานี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุผล ตามจุดประสงคร์ ายวิชาและสมรรถนะรายวิชา ผู้เรยี นควรดาเนินการตามขั้นตอน ดงั นี้ 1. เตรียมตัวเพ่ือการศึกษาด้วยตนเอง ผู้เรียนต้องจัดตัวเองให้อยู่ในสภาพการณ์ ท่เี ออ้ื ต่อการเรียนรู้ 4 ประการ คือ (ข)

1.1 มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้อยา่ งกระฉบั กระเฉง โดยการคิด เขียนและ ทากจิ กรรมการเรียนรทู้ ีก่ าหนดอย่างสมา่ เสมอตลอดเวลา 1.2 ติดตาม ตรวจสอบผลการเรียนรู้หลงั ทากิจกรรมแต่ละกิจกรรมจากแนวการ ตอบหรอื เฉลย 1.3 ซอ่ื สัตย์ตอ่ ตนเอง โดยไมด่ แู นวการตอบหรือเฉลยก่อน 1.4 ศกึ ษาเรยี นรู้ไปตามลาดบั ข้นั ตอน เพอ่ื ใหไ้ ดค้ วามรคู้ รบถว้ นตามท่กี าหนด 2. ประเมนิ ผลตนเองกอ่ นเรยี นและหลังเรียน 2.1 ก่อนท่ีจะเรียนหน่วยการเรียนใด ผู้เรียนควรจะตรวจสอบความรู้ด้วยการ ประเมินผลตนเองก่อนเรียนจากแบบประเมินของหน่วยนั้น ตรวจคาตอบจากเฉลย แล้วรวม คะแนนไว้ หากทาได้คะแนนเกินกวา่ ร้อยละ 60 ผูเ้ รยี นอาจจะไมต่ อ้ งศกึ ษาหน่วยนน้ั 2.2 เมื่อศึกษาหน่วยนนั้ เสร็จแลว้ ขอให้ผู้เรียนประเมนิ ผลตนเองหลังเรียน โดย ทาแบบประเมนิ ท่ีกาหนดไวต้ อนทา้ ย ตรวจคาตอบจากเฉลย แล้วรวมคะแนนไว้ หากทาได้ต่ากวา่ ร้อยละ 85 ผู้เรียนควรศึกษาทบทวนหนว่ ยน้ันแล้วประเมินซ้าอีกจนกวา่ จะได้คะแนนเพ่มิ ขนึ้ ตาม เกณฑ์ท่ีกาหนด 3. ศึกษาเอกสารชุดการเรยี นและสอื่ ทก่ี าหนด โดย 3.1 ศึกษารายละเอยี ดชดุ วชิ า 3.2 ศึกษาแผนหน่วยการเรียนทกุ หนว่ ย 3.3 ศกึ ษารายละเอยี ดของแตล่ ะหน่วยการเรียน ดงั นี้ 3.3.1 แผนการเรยี นประจาหน่วย 3.3.2 แบบประเมินผลตนเองกอ่ นเรยี น 3.3.3 แนวคดิ 3.3.4 เนื้อหาสาระในแต่ละหน่วย และแต่ละมอดลู 3.3.5 กจิ กรรมและแนวการปฏบิ ตั หิ รือแนวการตอบ 3.3.7 แบบประเมนิ ตนเองหลงั เรยี น 4. ทากจิ กรรมตามทีก่ าหนดในหน่วยการเรยี น “กิจกรรม” เป็นส่วนท่ีผู้เรียนจะต้องบันทึกสาระสาคัญและทากิจกรรมทุกอย่าง ตามที่ไดร้ ับมอบหมาย ให้เขยี นกจิ กรรมลงในแบบฝึกปฏบิ ตั ิท่กี าหนด บางกิจกรรมอาจใหผ้ ู้เรียน ไปศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมและเขียนรายงาน ขอให้ผู้เรียนจัดทาและจัดส่งครูผู้สอนหรือครูเจ้าของ วิชาตามวัน เวลาและสถานท่ีทกี่ าหนด (ค)

5. การศึกษาส่ือประกอบการเรยี นรู้ บางหน่วยการเรียน อาจกาหนดให้ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเติมจากสื่อท่ีกาหนดหรือ ศึกษาส่ือควบคู่ไปกับการอ่านเอกสารชุดการเรียนเพื่อเสริมสร้างความรู้ ขอให้ผู้เรียนศึกษา รายละเอยี ดต่าง ๆ ตามทกี่ าหนด และจดบันทึกสาระสาคัญของสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ไวใ้ นกิจกรรมปฏิบัติ ด้วย 6. การเข้ารบั การสอนเสริม หรือรับบริการ ณ สถานศึกษา ผู้เรียนต้องนาบัตรประจาตัวนักศึกษาและบัตรลงทะเบียนเรียนรายวิชาไปแสดง ด้วย และเม่ือเขา้ รบั การสอนเสรมิ รบั ฟงั และรบั ชมสอื่ ต่าง ๆ ใหบ้ ันทกึ รายละเอยี ดการเข้ารับการ สอนเสริมหรือรับบริการในแบบฝกึ ปฏบิ ัตติ อนทา้ ยหนว่ ยด้วย 7. การร่วมกจิ กรรมภาคปฏิบัตเิ สริมประสบการณ์ ผู้เรียนชุดการเรียนรายวิชา 30000-1201 วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร อาจจะต้องเขา้ รว่ มกิจกรรมอยา่ งใดอย่างหน่ึงต่อไปน้ี 7.1 เข้าห้องปฏิบัติการในสถานศึกษา เพ่ือฝึกทักษะปฏิบัติตามท่ีกาหนดไว้ใน แตล่ ะหนว่ ยการเรียน 7.2 เข้าสังเกตการณ์การสอนในหนว่ ยการเรยี นทก่ี าหนด 7.3 เขา้ ฝกึ ปฏิบัตใิ นสถานประกอบการหรือหน่วยงาน 7.4 ประดษิ ฐ์คดิ ค้น หรือศกึ ษาสารวจขอ้ มลู ตามที่กาหนด หลังจากทากิจกรรมข้างต้นแล้ว ให้มีการสรุปรายงานให้แก่ครูผู้สอนหรือครู เจ้าของวิชาทราบเพ่ือตรวจสอบผลการปฏิบัติ และเก็บผลการประเมินเป็นคะแนนเก็บของ รายวิชา 8. เข้ารบั การสอบ เมื่อสิ้นภาคการศึกษา ผู้เรียนต้องเข้ารับการประเมินผลสัมฤทธิ์รายวิชาหรือ สอบไล่ ตามวัน เวลาและสถานทที่ ีส่ ถานศึกษากาหนด เพอ่ื การตัดสินผลการเรยี น (ง)

(จ)

(ฉ)

แบบประเมินตนเองก่อนเรยี น หน่วยที่ 1 http://bit.ly/eng-test1 ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร 1

แผนการเรยี น หนว่ ยท่ี 1 Welcoming มอดูลท่ี 1.1 Welcoming Visitors 1.2 Personal Profiles แนวคดิ 1. การทักทาย การกล่าวคำขอบคุณ การตอบรับคำขอบคุณ การเสนอให้ความช่วยเหลือ ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นในชีวิตประจำวันที่จะกระทำเสมอ ซึ่งเป็นมารยาทที่ดีในสังคมและการ ปฏบิ ตั งิ านในอาชีพ อันจะกอ่ เกิดความสัมพนั ธท์ ่ดี ใี นอนาคต 2. การกรอกประวัติส่วนตัว การเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ และการสร้างสรรค์นามบัตร เป็นส่วนสำคัญที่จะเป็นการแนะนำและสรุปข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณเอง ให้บุคคลอื่นรู้จักก่อนที่จะพบ เห็นตวั จรงิ ของคณุ เสยี อีก จุดประสงค์การเรียน 1. เมื่อศึกษามอดูลท่ี 1.1 “Welcoming Visitors” แล้ว ผู้เรียนสามารถใช้ศัพท์และ สำนวนในการทักทาย แนะนำตนเอง เสนอให้ความช่วยเหลือ ขอบคุณและตอบรับคำ ขอบคณุ ได้ 2. เมื่อศึกษามอดูลท่ี 1.2 “Personal Profiles” แล้ว ผู้เรียนสามารถใช้ศัพท์และสำนวน ในการกรอกแบบฟอร์ม เขยี นจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ และเขียนนามบตั รได้ กิจกรรมการเรยี น 1. ทำแบบประเมนิ ตนเองก่อนเรียน หน่วยท่ี 1 2. อา่ นแผนการเรยี นประจำหนว่ ยที่ 1 3. อ่านสาระสังเขปประจำมอดลู ท่ี 1.1-1.3 4. ดำเนินกจิ กรรมท่ีกำหนดของแตล่ ะมอดลู หรือหวั ขอ้ เรือ่ ง 5. ตรวจสอบคำตอบจากแนวตอบของแต่ละกจิ กรรม ทก่ี ำหนดไวท้ า้ ยหนว่ ยท่ี 1 6. ทำกิจกรรมภาคปฏิบัตเิ สรมิ ประสบการณเ์ พื่อเกบ็ คะแนน (ถา้ ม)ี 2 ชุดการเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร

7. เข้ารับการสอนเสรมิ 8. ทำแบบฝกึ หดั ประเมินตนเองหลงั เรยี น สอ่ื และแหลง่ การเรียน 1. เอกสารชดุ การเรยี น หนว่ ยที่ 1 2. ใบมอบหมายงาน 3. วดี ทิ ศั น/์ สือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เร่ือง Introduce yourself (13 นาท)ี แผ่นท่ี 1 การประเมินผลการเรยี น 1. ประเมินผลจากแบบประเมนิ ผลตนเองก่อนเรียนและหลงั เรียน 2. ประเมินผลจากกิจกรรมในแบบฝกึ หดั 3. ประเมินผลจาการสอบปลายภาคประจำภาคเรียน ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร 3

แผนการเรยี น มอดลู ที่ 1.1 Welcoming Visitors มอดลู ท่ี 1.1 โปรดอ่านหัวข้อเรื่อง แนวคิดและจุดประสงค์การเรียนของมอดูลที่ 1.1 แล้วจึงศึกษา รายละเอียดตอ่ ไป หัวข้อเร่อื ง 1.1.1 Greeting and introducing 1.1.2 Offering help and making requests 1.1.3 Thanking and responding to thanks แนวคดิ การทักทายการแนะนำตนเองและการกล่าวขอบคุณ เป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นทุกที่ในโลก และถือเป็นเรื่องจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ ทั้งนี้ในการ ตอ้ นรบั ผู้มาเยอื นยงั ต้องเกี่ยวข้องกับการใหค้ วามชว่ ยเหลอื และการรอ้ งขอขอ้ มูลในเร่อื งต่าง ๆ ด้วย จุดประสงคก์ ารเรยี น 1. เมื่อศึกษาหัวข้อเรื่องที่ 1.1.1 “Greeting and introducing” แล้ว ผู้เรียนสามารถใช้ ศัพท์ สำนวนในการทักทายและการแนะนำตัว การขอบคุณได้ถูกต้องเหมาะสมตาม สถานการณ์ 2. เมื่อศึกษาหัวข้อเรื่องที่ 1.1.2 “Offering help and making requests” แล้ว ผู้เรียน สามารถใช้ศัพท์ สำนวนในการเสนอให้ความช่วยเหลือ และการขอร้องได้ถูกต้อง เหมาะสมตามสถานการณ์ 3. เมื่อศึกษาหัวข้อเรื่องที่ 1.1.3 “Thanking and responding to thanks” แล้ว ผู้เรียน สามารถใช้ศัพท์ สำนวนในการขอบคณุ และตอบรบั การขอบคณุ ไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมตาม สถานการณ์ 4 ชดุ การเรียน วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การสือ่ สาร

เนื้อหา 1.1.1 Greeting and introducing การกล่าวทักทายผู้มาเยือนและการแนะนำตัวต่อบุคคลอื่นในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ สำคญั สำหรับในชวี ติ ประจำวนั และการประกอบอาชีพ 1. Greeting การทักทายถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีหลายรูปแบบทั้งที่เป็น ทางการและไมเ่ ป็นทางการ 1.1 Informal greeting การทักทายแบบไม่เป็นทางการ นิยมใช้กับเพื่อนและบคุ คลท่ี คุ้นเคย - Hello - Hi 1.2 Formal greeting การทกั ทายแบบเปน็ ทางการ ใชก้ ับบคุ คลทต่ี ้องการติดตอ่ ใน งานอาชพี - Good morning, sir/madam. - Good morning Mr. Jones. - Good morning Mrs. Smith. - Good afternoon - Good evening - How do you do? 1.3 Asking someone how they are การถามทกุ ข์สขุ - How are you doing? - How are you going? - How are things with you? - How’s it going? - You alright? 1.4 Saying you are well การตอบคำทกั ทายโดยบอกวา่ คณุ สบายดี - Good, thanks. - Fine, thanks. - Great, thanks. ชดุ การเรยี น วิชาภาษาอังกฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 5

- Pretty good - Alright, thanks. - I’m OK. - Very well, thank you. 1.5 Returning the question when someone has asked if you are well. การถามกลับเมอ่ื ท่านตอบแลว้ วา่ สบายดี (แลว้ ทา่ นละ?) - And you? - How about you? - What about you? - And how are you? 2. Introducing การแนะนำตนเอง 2.1 Introducing oneself (Formal) การแนะนำตนเองแบบเปน็ ทางการ - I just want to introduce myself, my name is……………….. - I don’t believe we’ve met before, I’m……………….. - Excuse me, I don’t think we’ve met. My name is………….. - My name is……………………… - Let me introduce myself. My name is…………… - May I introduce myself. My name is……………….. - Excuse me, are you………………? My name is………………. - My name is………………… What’s yours? 2.2 Introducing others (Formal) การแนะนำกับบุคคลอื่นแบบเปน็ ทางการ - This is…………………. - Have you met………….……………..? - May I present………………………….? - I’d like to introduce you to…………………. - Let me introduce you to…………………….. - I’d like you to meet………………….. - There’s someone I’d like you to meet, this is……………….. 2.3 Introducing others (Informal) การแนะนำกบั บุคคลอนื่ แบบไม่เป็นทางการ - This is Jane. Jane, Jane, this is Robert. 6 ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร

- Suda, meet Anna. - Nid, have you met Robert? 3. Expressions pleasure to have met someone. การตอบคำหลงั จากแนะนำใหร้ ูจ้ กั กนั - Pleased to meet you. - Nice to meet you. - Nice to see you. - Very nice to meet you. - It’s pleasure to meet you. - It’s lovely to see you again. - How are you? - How have you been? Example: Dang: Good morning, Terry. How are you? Terry: Good morning, Dang. Pretty good, and you? Dang: Very well, thank you. How’s your weekend? Activity 1.1 Introduce yourself in English https://h5p.org/node/467634 จับคู่ประโยค คำถามกบั คำตอบให้ถกู ตอ้ ง เรอื่ ง Introduce yourself in English 1. What is his name? 2. Where does come he from? 3. Where does he study? 4. What is his hobby? 5. Does he plan to work in Thailand? ชุดการเรียน วชิ าภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สาร 7

4.Talking about the weather คำศัพทเ์ กี่ยวกบั ฤดูกาล • summer/ Dry season ในฤดรู ้อน • rainy/wet season ฤดฝู น • winter ฤดุหนาว • autumn/fall ฤดูใบไมร้ ว่ ง • spring ฤดใู บไมผ้ ลิ ในบ้านเราจะมีสามฤดูได้แก่ climate = ภมู อิ ากาศ • summer/hot season ฤดรู อ้ น degree = องศา • winter/cool season ฤดหู นาว below = ตำ่ กวา่ • rainy season ฤดูฝน คำศัพทท์ เ่ี กย่ี วกบั สภาพอากาศ weather = อากาศ forecast = พยากรณ์อากาศ temperature = อณุ หภมู ิ Activity 1.2 Tell me (memory game) https://h5p.org/node/514877 8 ชดุ การเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสาร

Activity 1.3 Read the weather forecast. Tick (/) the correct information, and cross (X) the wrong information. Good morning and here is your weather forecast for the weekend. There are some heavy rain clouds heading our way, so on Friday we’ll see lots of thunderstorms and the temperature can go down to 27 degrees Celsius. But on Saturday we will have a lot of sunshine and the temperature can go up to 35 degrees Celsius. It will continue to be sunshine on morning, but we expect the afternoon to be cloudy and windy _______ 1. There might be thunderstorms on Friday. _______ 2. The lowest temperature is below 30 Celsius. _______ 3. Saturday will be hot and sunny. _______ 4. It will be sunny on Saturday afternoon. _______ 5. It will be windy on Saturday. Activity 1.3 (ถูกผดิ ) https://h5p.org/node/514823 1.1.2 Offering help and making requests 1. Offering help อาจหมายถึง การเสนอความช่วยเหลอื (offering help) หรือเสนอสิง่ ของ (offering things) ก็ได้ สำนวนหลกั ๆ ท่ใี ชม้ ีดงั นี้ 1.1 General help - การเสนอความชว่ ยเหลือแบบกว้าง ๆ ทั่วไป (ไมร่ ะบเุ รือ่ งหนึง่ เร่อื งใดโดยเฉพาะ) - Can I help you? - May I help you? ชดุ การเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร 9

- What can I do for you? 1.2 Offering help การเสนอความช่วยเหลือโดยระบสุ ิ่งท่จี ะช่วยทำให้ รูปแบบ ตัวอยา่ ง Can I/Could I + V (+ส่วนกรรม และ/สว่ นขยาย)? - Can I get you something to drink? - Could I take a picture for you? Would you like me to + V (+ - Would you like me to make ส่วนกรรมและ/สว่ นขยาย)? some desserts for the party? If you’d like, I’d be happy to - Would you like me to bring + V (+ส่วนกรรมและ/ส่วนขยาย) some drink? - If you’d like, I would be happy to pick you up at 6. - If you’d like, I would be happy to have a party. 1.3 Offering things การเสนอสิง่ ของ เชน่ อาหาร เคร่อื งดื่ม หรืออ่นื ๆ รปู แบบ ตัวอยา่ ง Would you like + สงิ่ ของทเี่ สนอ ให?้ - Would you like a glass of orange juice? - Would you like some more rice? 10 ชดุ การเรยี น วิชาภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สาร

2. Making request การขอร้อง หมายถึงการขอร้องให้บุคคลอื่นช่วยกระทำบางสิ่งบางอย่างให้การขอร้อง จำเป็นต้องกระทำอย่างสุภาพ เหมาะสม เลือกใช้สำนวนภาษาและน้ำเสียงในการสนทนาอย่าง เหมาะสม เพื่อมิให้ดูเปน็ การออกคำสัง่ มากกว่าการขอร้อง การขอร้องอาจใช้สำนวนได้หลายสำนวน สำนวนหลกั ๆ ทน่ี ยิ มใชม้ ีดังน้ี รปู แบบ ตัวอย่าง Can you (please*) + V (+ สว่ นกรรม และ/หรอื สว่ นขยาย)? - Can you drop me off at home after the party tonight? Could you (please*) + V (+ สว่ น - Can you please help me carry this กรรมและ/หรอื สว่ นขยาย)? box? - Can you buy some bread for me, Would you (please*) + V (+ สว่ น please? กรรมและ/หรอื สว่ นขยาย)? - Could you reserve a table for four, please? Would you mind + Ving (+ สว่ น - Could you please make the guest กรรมและ/หรือสว่ นขยาย)? list? - Could you find out where the party is, please? - Would you design an invitation card? - Would you please telephone Pete for me? - Would you tell Arin that I called, please? - *คำว่า please อาจวางไวท้ า้ ยประโยคกไ็ ด้ 11 ชุดการเรียน วชิ าภาษาองั กฤษเพือ่ การสอ่ื สาร

1.1.3 Thanking and responding to thanks เนอื่ งจากเมือ่ มใี ครทำสง่ิ ดี ๆ ให้กับเรา เชน่ ให้ความช่วยเหลอื กล่าวคำชมเชย เราตอ้ งกลา่ ว ขอบคุณเขา การพูดตอบกลับคำกล่าวขอบคุณในภาษาอังกฤษใช้พูดหลังจากที่เราได้ช่วยเหลือใคร หรือทำอะไรใหใ้ คร เสรจ็ แลว้ เขาจะกลา่ วขอบคณุ เราหรือแสดงความซาบซ้งึ ใจสำนึกบุญคุณตอ่ เรา ส่ิง นี้ถือว่าเป็นมารยาททางสังคมที่ทุกชาติถือปฏิบัติ ในทางกลับกันเมื่อมีผู้กล่าวคำขอบคุณกับเรา เรา ต้องกลา่ วตอบรบั คำขอบคุณของเขาตามมารยาททางสงั คมดว้ ย 1. การกลา่ วคำขอบคุณ - Thanks - Thank you - Thanks a lot - Thank you very much - Thank you very much indeed. - It was very kind of you. - I appreciate your help. - You’ve been very helpful. - Thanks anyway. - Thank you for looking. - Thank you for trying. - It doesn’t matter. Thanks. - Never mind. Thanks 2. การกล่าวคำตอบรับคำขอบคณุ - You’re welcome. - Not at all. - Don’t mention it. - It’s my pleasure. - It’s nothing. 12 ชดุ การเรยี น วิชาภาษาอังกฤษเพอื่ การส่อื สาร

- That’s alright. - That’s OK. - No problem. Any time. Example: A: Could you please pass me the salt? B: Sure. Here you are. A: Thank you. B: That’s OK. ชดุ การเรยี น วิชาภาษาอังกฤษเพ่อื การสอื่ สาร 13

แผนการเรียน มอดูลที่ 1.2 Personal Profiles มอดลู ที่ 1.2 โปรดอ่านหัวข้อเรื่อง แนวคิดและจุดประสงค์การเรียนของมอดูลที่ 1.2 แล้วจึงศึกษา รายละเอียดต่อไป หัวขอ้ เร่อื ง 1.2.1 Filling application forms 1.2.2 Reading e-mails 1.2.3 Making business cards แนวคิด การกรอกแบบฟอร์มประวัติส่วนตัว เป็นการสรุปข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ ให้บุคคลอื่นรู้จัก ก่อนที่เขาจะเห็นตัวจริงของคุณเสียอีก การกรอกแบบฟอร์มประวัติส่วนตัว จึงถือเป็น First Impression เลยก็ว่าได้ ซึ่งคุณจะต้องดึงจุดเด่นของคุณออกมาให้บุคคลรู้สึกอยากเจอตัวผู้เป็น เจา้ ของประวัติ ดังน้ันต้องให้ความพิถพี ถิ ันกับขัน้ ตอนน้ีให้มาก จุดประสงคก์ ารเรยี น 1. เมื่อศึกษาหัวข้อเรื่องที่ 1.2.1 “Filling application forms” แล้ว ผู้เรียนสามารถใช้ ศพั ท์ สำนวนในกรอกแบบฟอร์มใหข้ ้อมลู ส่วนตัวในการสมัครงานไดถ้ ูกต้องเหมาะสม 2. เมอื่ ศกึ ษาหวั ข้อเรื่องที่ 1.2.2 “Reading e-mails” แล้ว ผูเ้ รียนสามารถใชศ้ พั ท์ สำนวน ในการเขยี นจดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส์ไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมตามสถานการณ์ 3. เมื่อศึกษาหัวข้อเรื่องที่ 1.2.3 “Making business cards” แล้ว ผู้เรียนสามารถใช้ศพั ท์ สำนวนในการเขยี นนามบัตรไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม 14 ชดุ การเรียน วชิ าภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร

เนอ้ื หา 1.2.1 Filling application forms การกรอกแบบฟอร์มประวัติส่วนตัว ผู้เรียนต้องกรอกให้ครบถ้วนสมบูรณ์ในทุก ๆ หัวข้อ ต่อไปนี้เป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียนควรจะต้องรู้ เพราะการกรอกประวัติส่วนตัวนั้นสามารถใช้คำศัพท์ที่ แตกตา่ งกันได้ Personal Details (ประวตั ิสว่ นตวั ) Name/Surname ชอ่ื -สกุล Maiden Name นามสกุลเดมิ Sex/Gender เพศ Present Address ที่อยปู่ จั จุบนั Permanent Address ท่อี ยถู่ าวร Postal Code รหสั ไปรษณยี ์ Date of Birth วนั เดอื น ปเี กดิ Place of Birth สถานท่เี กดิ Age อายุ Nationality สัญชาติ Citizenship พลเมอื ง / สญั ชาติ Race เชือ้ ชาติ Domicile/Habitation ภูมิลำเนา Occupation/Profession อาชพี ID. Card No. หมายเลขบตั รประชาชน Height ส่วนสงู Weight น้ำหนกั ชุดการเรยี น วิชาภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร 15

Buddhism Religion (ศาสนา) Christianity Islam ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม Marital status (สถานภาพทางการสมรส) Separated แยกกันอยู่ Single โสด Engaged หม้นั Married แตง่ งานแลว้ Widowed หม้าย Divorced หยา่ รา้ ง Education Background (ประวตั กิ ารศกึ ษา) Primary School ประถมศกึ ษา Elementary School Secondary School มธั ยมศึกษาตอนต้น High School มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย Vocational Certificate ประกาศนียบัตรประโยคอาชีวศกึ ษา (ปวช.) High Vocational Certificate ประกาศนียบัตรวิชาชีพชนั้ สูง (ปวส.) University มหาวทิ ยาลยั Bachelor degree ปรญิ ญาตรี 16 ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพอื่ การสือ่ สาร

Activity 1.4 Fill in the blanks with your own information. Activity 1.4 My profile https://h5p.org/node/458998 First Name…………………………………………………………..……………….. Last Name……………………………………………………………..……………… Sex……………………………………………………………………………..………… ID card No…………………………………………………………………………….. Date of Birth………………………………………………………..……………….. Nationality………………………………………………………………………………. Marital Status………………………………………………………………………….. Email Address…………………………………………………………………………. Telephone number…………………………………………………………………. 1.2.2 Reading emails ในปจั จบุ นั การตดิ ต่อสื่อสารด้วยการเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เปน็ ส่งิ ที่นิยมกันอย่างสงู ไม่ ว่าสำหรับธุรกิจหรือเหตุผลทางสังคม เพราะมีความสะดวกรวดเร็ว เหมาะสมและลดค่าใช้จ่าย จน กลายเป็นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ โดยปกติจะเขียนแบบไม่ เปน็ ทางการมากกว่าการเขียนจดหมาย 1. Parts of email ส่วนประกอบของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปแบบท่ี แตกต่างกันของแต่ละเครือข่าย ปกติจอที่แสดงจดหมายรับเข้า (incoming email) และจดหมายที่ ชุดการเรียน วชิ าภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร 17

ส่งออก (Outgoing email) จะมีรูปแบบและส่วนประกอบแตกต่างไปบ้างเล็กน้อย ขอให้นักศึกษา เปรียบเทยี บรูปแบบของหน้าจอจดหมายอิเลก็ ทรอนกิ สต์ ่อไปนี้ จดหมายรับเขา้ จดหมายส่งออก 18 ชดุ การเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร

จดหมายอิเล็กทรอนิกส์มสี ่วนประกอบดงั ตอ่ ไปนี้ a. Headings คอื ส่วนหวั ของจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ซึง่ ประกอบดว้ ย - To : มีไว้สำหรับใส่ที่อยู่หลัก (email address) ของผู้รับจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีที่เขียนถึงบุคคลหลายคน อาจเรียงชื่อตามอาวุโสหรือตามลำดับอักษร ทั้งน้ี ขนึ้ กับธรรมเนยี มปฏิบตั ใิ นหน่วยงานนั้น ๆ ตวั อย่างเช่น at dot ประเทศ [email protected] นามผ้ใู ช้ ชื่อของเวบ็ ชนดิ ขององคก์ ร gov – Government edu – Educational institutions org – Organization mil – Military com – Commercial business net – Network organizations ca – Canada อกั ษรย่อของชือ่ ประเทศ th – Thailand - CC: ย่อมาจากคำว่า “carbon copy” มีไว้สำหรับใส่ที่อยู่หลักของผู้รับ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์คนอื่น ๆ มีความหมายว่า “สำเนาไปยัง” ใช้ในกรณีที่ผู้ส่งข้อความให้บุคคล อื่นนอกเหนอื จากบุคคลทเี่ ขียนถงึ ไดร้ บั ขอ้ ความดว้ ย - Bcc: ย่อมาจากคำว่า “blind carbon copy” ซึ่งมีไว้ใส่ที่อยู่ของผู้รับ จดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์อื่น ๆ เพื่อเก็บสำเนาแต่ไม่ต้องการให้ผู้รับหลกั และผู้รับคนอื่น ๆ ทราบ เชน่ Mr. Smiths รบั ขอ้ ความดว้ ย แต่ไมต่ อ้ งการให้ผ้เู ขียนถึงโดยตรงตามรายชอ่ื ในช่อง To รบั ทราบว่าตน ส่งข้อความนี้ให้ Mr. Smiths ผู้พิมพ์จะส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของ Mr. Smiths ในช่องนี้ เวลา ผู้รับเปดิ อา่ นขอ้ ความก็จะไม่มชี ือ่ Mr. Smiths ปรากฏอยู่บนหนา้ จอของผู้รับ ชุดการเรยี น วิชาภาษาองั กฤษเพ่ือการสอื่ สาร 19

- Subject หรือ Re จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ควรมีหัวเรื่องที่สรุปเป้าหมาย ของการเขียนน้นั อย่างสนั้ ๆ 2-3 คำ เพื่อให้ผรู้ บั ทราบวา่ เขยี นมาเร่ืองอะไร ควรใช้วลีทีส่ ั้น กระชบั ได้ ใจความ และไม่กวา้ งเกินไป ในการติดตอ่ งานด้วยจดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ ควรเขยี นหัวข้อเรอ่ื ง ทุก ครั้ง ไม่ควรปลอ่ ยให้เว้นว่าง เนื่องจากหัวขอ้ มีประโยชน์ในการอ้างถึงและการตดิ ต่อระหวา่ งผู้ส่งและ ผู้รับ ตัวอยา่ งเช่น An invitation letter จดหมายเชิญ Christmas Party การเฉลิมฉลองวนั คริสต์มาส - Attachments ใชใ้ นกรณที ่ผี ู้ส่งตอ้ งการแนบเอกสารเพ่มิ เติมหรือรูปภาพ ท่ตี อ้ งการเพ่ือใหผ้ รู้ บั พร้อมกบั จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ b. Body/Message : คือ ข้อความที่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการส่งไปยังผู้รับ ประกอบดว้ ยคำทกั ทาย (Salutation) เนื้อหาของขอ้ ความ (body/message) ➢ Salutation คำข้นึ ตน้ ไม่จำเป็นต้องใช้ Dear ถา้ จะใช้มหี ลักต่อไปนี้ - หากคุณทราบช่ือของบคุ คลที่คุณจะเขียนถึง ให้เริ่มการเขียนจดหมายของคุณโดย ใช้ Dear Mr. (สำหรับผูช้ าย), Dear Mrs. (สำหรบั ผหู้ ญิงท่แี ต่งงานแลว้ ), Dear Miss (สำหรบั ผู้หญงิ ที่ ยงั ไมแ่ ตง่ งาน), หรอื Dear Ms (สำหรบั ผู้หญงิ ท่ยี งั ไม่แต่งงานหรือไม่ทราบสถานภาพสมรส) ตามด้วย นามสกุล ตวั อยา่ งเชน่ • Dear Mr. Smith, เรียนนายสมทิ ธิ์ • Dear Mrs. Jones, เรยี นนางโจนส์ • Dear Miss Dixson เรียนนางสาวดิกสนั • Dear Ms. Booth เรียนคุณบูธ - หากคณุ ไม่ทราบช่อื ให้เริ่มต้นดว้ ย • Dear Sir, เรยี นผู้เก่ยี วข้อง (ถึงผ้ชู าย) • Dear Madam, เรียนผู้เก่ียวขอ้ ง (ถึงผหู้ ญิง) • Dear Sir or Madam เรยี นผ้เู กยี่ วขอ้ ง (ถึงผชู้ ายหรือผหู้ ญงิ ) ➢ Body/Message คือ ข้อความที่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการ ส่งไปยังผรู้ บั การเขยี นจดหมายอิเล็กทรอนกิ สน์ ้นั แตกตา่ งกันไป แม้วา่ โดยปกตจิ ะเร่มิ ดว้ ยชอ่ื ท้ัง จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสธ์ ุรกจิ และจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์สว่ นตวั 20 ชดุ การเรียน วชิ าภาษาอังกฤษเพอ่ื การสือ่ สาร

สถานการณ์ สำนวนภาษา ตอบรับจดหมาย Thank you/Thanks for your email/message. อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ Sorry for the delay in replying บอกวตั ถุประสงคท์ ่เี ขียน แจง้ ข่าว I am writing to…… ขอร้อง I am pleased to inform you that…… สง่ เอกสารแนบ Please………. เสนอใหข้ ้อมลู Could/Can you……………? ขอบคุณก่อนจบ I would appreciate it if you could…………. I am sending you……………….. ลงทา้ ยก่อนจบ Here is the document you asked me to send. I have attached………………….with this email. If you need more information/details, please let me know. Thank you. Thanks for everything. Thanks again for your help. See you on………. I hope to hear from you soon. I look forward to seeing you/hearing from you soon. I will contact you again. Message เนื้อหาของการเขียนจดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์และตรงประเดน็ ตวั อย่างเชน่ • Further to our conversation, I’m pleased to confirm our appointment for 9.30 a.m. On Tuesday, 7 January. (จากการสนทนาของเรา ผม/ดิฉนั ยนิ ดีที่ จะยืนยนั นัดของเราในวันอังคารท่ี 7 มกราคม เวลา 9.30 น.) ชดุ การเรยี น วิชาภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 21

• I would be grateful if you could attend to this matter as soon as possible. (ผม/ดิฉันจะยนิ ดีอย่างมากหาคุณจัดการเร่ืองนีโ้ ดยด่วน) • If you would like any further information, please don’t hesitate to contact me. (หากคณุ ตอ้ งการขอ้ มลู เพ่มิ เติม โปรดอย่าลงั เลทจี่ ะตดิ ตอ่ ผม/ดิฉนั ) หากคุณต้องการการตอบจดหมายกลับ คุณสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้ในตอนท้ายของ จดหมาย I look forward to hearing from you. (ผม/ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบ กลบั จากคุณ) c. Complimentary closing การลงทา้ ยจดหมาย ความนยิ มในการลงทา้ ยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ธุรกจิ ต่างกนั ไป แต่ต่อไปน้ีคือวลี ที่เหมาะสม - Regards, ขอแสดงความนับถอื - Kind regards, ขอแสดงความนบั ถอื - Best regards, ขอแสดงความนบั ถือ - With kind regards, ด้วยความเคารพอยา่ งสงู คำทักทาย (Salutation) คำลงท้าย (Complimentary Close) Dear Mr., Dear Mrs., Dear Yours sincerely, Miss หรือ Dear Ms. Dear Sir, Dear Madam หรือ Yours faithfully, Dear Sir or Madam d. Signature : ประกอบไปด้วยการลงลายมือชื่อผู้ส่ง การระบุชื่อผู้ส่ง/ตำแหน่ง งาน/ทอ่ี ยบู่ ริษทั /หมายเลขโทรศัพท์และโทรสาร รวมถึงทอ่ี ยูอ่ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ของผูส้ ง่ ดว้ ย 22 ชุดการเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร

Activity 1.5 Read the following message and put (√) in the correct column. invitation A party dinner will be held on Friday, December 12 at Riverside Restaurant starting at 6.30 p.m. You are invited by Director James to join the party. Transportation is arranged for guests. Please meet in front of Building at 5.45 p.m. on December 12. Thank you RSVP Linda Statements Yes No 1. The message was sent by Linda. 2. The message was sent to only one person. 3. The party will take place at Building 9. 4. The guests will have to go on their own cars to the party. 5. The receiver has to reply the invitation. ชุดการเรยี น วิชาภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร 23

Activity 1.6 Writing an email. Brenda Peters sent an email to Korn, rearrange the different parts of message into the correct order. Write your answers in the space provided. There should be three paragraphs in the body of the message. Activity 1.6 rearrange https://h5p.org/node/467696 Grammar Focus การเขียนจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ จะเหน็ วา่ มกี ารใช้คำบพุ บท (Preposition) ทบ่ี อก วนั ที่ และเวลา เชน่ on Monday, in August, at 2.30 p.m. คำบุพบททมี่ ักใช้นำหนา้ คำแสดงวัน เดอื น ปี และเวลา ไดแ้ ก่ in, on และ at ตามตัวอย่างดงั นี้ คำบพุ บท ใช้นำหนา้ ตัวอย่าง in บางช่วงของวนั in the morning/afternoon/evening เดือน in October/January etc. ฤดูกาล in the summer etc. ปี in 2015 etc. on วนั on Monday/Tuesday etc. วนั ที่ on October 25, 2015 at เวลาตามเขม็ at 2.30 p.m./3 o’clock etc. นาฬกิ า at noon/midnight หมายเหตุ 1. คำบอกเวลาที่ไม่ใช้คำบุพบทนำหน้า ได้แก่ today, tomorrow, yesterday และคำท่ี ข้ึนตน้ ดว้ ย next, last, this และ every เช่น I will see you tomorrow. 2. at ใชน้ ำหนา้ night หมายถึง ชว่ งเวลากลางคืน 24 ชุดการเรียน วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร

คำยอ่ มีการเขียนคำย่อในการเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จะขอยกมาเป็นตัวอย่างที่อาจจะอ่าน พบในการเขียนจดหมายอเิ ล็กทรอนิกสซ์ ง่ึ จะได้เขา้ ใจความหมายได้ เช่น คำยอ่ คำเต็ม ความหมาย ASAP fyi as soon as possible เรว็ ที่สดุ เท่าทีเ่ ป็นไปได้ RSVP VIP for your information แจง้ เพอ่ื รับทราบ info pls/plz Respondez Sil Vous Plai กรณุ าตอบกลบั re N/A very important person บคุ คลสำคัญ e.g./eg i.e./ie information ขอ้ มลู COZ THX please ได้โปรด RIP regarding, referring to อ้างถึง not applicable ไม,่ ไม่มี example gratia ตามตวั อยา่ งดงั ต่อไปน้ี id est นัน่ คือ because เพราะวา่ Thanks ขอบใจ Rest in peace ขอใหไ้ ปสู่สขุ คติ ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาอังกฤษเพ่อื การสอื่ สาร 25

Activity 1.7 Complete the sentences with in, on, at or N/A. 1. Do you eat chocolate eggs………………………………Easter? 2. I can meet you …………………………….Mondays. 3. At our office meeting starts……………………………2.30 p.m. 4. What do you do ……………………………….weekend. 5. The party is………………………….Tuesday afternoon. 6. My project began …………………………….2014. 7. The parcels arrive……………………………every Wednesday afternoon. 8. Jane started working with us …………………………June. 9. Meeting ended …………………………………noon. 10. See you again………………………..December 5. 1.2.3 Making business cards นามบัตรถือเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจในระดับมืออาชีพที่เหล่าบรรดาผู้ประกอบการ นักบริหาร หรือแม้แต่กระทั่งพนักงานทุกคนที่ถือเป็นหน่วยปฏิบัตทิ ี่เล็กที่สุดของบริษทั จำเป็นต้องมี พกติดตัวเอาไว้ เนื่องจากในความเป็นจริงนามบัตรธุรกจิ เปน็ อะไรที่มีคณุ ค่ามากกวา่ แคก่ ระดาษแผ่น เล็กๆแผ่นหนึ่ง เพราะนามบัตรธุรกิจเป็นการแสดงและแนะนำตัวตนของผู้ประกอบการ บริษัท หรือ พนักงานผู้ถือบัตรให้บุคคลอื่นได้รู้จักเปรียบเสมือนเป็นบัตรประชาชนทางธุรกิจเลยก็เทียบได้ ซึ่ง หลายวัฒนธรรมของการทำธุรกิจในการพบปะพูดคุยกันครั้งแรก ๆ ของบริษัทผู้ค้ามักจะมีการ แลกเปล่ยี นนามบัตรกนั ก่อนท่จี ะเรม่ิ ลงมือพูดคยุ เจรจาธุรกิจดว้ ยซำ้ ไป นามบัตรจึงเป็นส่ิงสำคัญและ กลายเป็นส่งิ จำเปน็ ท่ที กุ ๆ ธุรกิจจะต้องมี ซง่ึ โดยปกติแล้วนามบัตรไม่ไดม้ ีรปู แบบตายตัวเหมือนสูตร ทางคณิตศาสตรแ์ ตม่ นั กม็ หี ลักการสากลทผี่ ู้ประกอบการควรจะต้องยึดเอาไวเ้ ปน็ หลกั ในการพจิ ารณา ออกแบบอยู่บ้างพอสมควรเพื่อความเป็นมืออาชีพและได้รับการยอมรับจากภายนอก โดย องค์ประกอบหลัก ๆ ท่ีควรพจิ ารณามดี งั ต่อไปนี้ 1. Name of individual and business or organization (ช่ือ-นามสกุล) ชื่อและนามสกุลถือเป็นส่วนสำคัญอันดับแรกสุดเลยของนามบัตร เพราะวัตถุประสงค์ หลักของนามบัตรคือมันถูกผลิตขึ้นมาเพื่อแนะนำชื่อเสียงเรียงนามของผู้ถือเป็นสำคัญ ดังน้ัน ผู้ประกอบการห้ามสะกดตัวอักษรผิดเป็นอันขาดซึ่งเรื่องน้ีสำคัญมาก เพราะการสะกดผิดแม้แต่ตัว 26 ชุดการเรยี น วชิ าภาษาอังกฤษเพอื่ การสอื่ สาร

เดียวก็ทำให้ความหมายของชื่อและการอ่านออกเสียงเปลี่ยนไปได้ นอกจากนี้ยังอาจเกิดความ ผดิ พลาดในดา้ นอนื่ ๆ อีกหากคคู่ า้ ทางธุรกิจของท่านนำชื่อท่ไี ดจ้ ากนามบตั รทส่ี ะกดผดิ ไปเขยี นอา้ งองิ ลงในสญั ญาท่มี ผี ลทางกฎหมายหรือเชค็ ธนาคารซงึ่ มันจะกลายเปน็ โมฆะทันทีและต้องเสียเวลามารา่ ง เอกสารใหมท่ ัง้ หมดซง่ึ มันไมค่ ุ้มค่าและยงั น่าอบั อายมากอีกด้วย นอกจากนี้แล้วชื่อของผู้เปน็ เจ้าของนามบัตรต้องมีทั้งภาษาไทยและองั กฤษวางอยู่อย่าง โดดเดน่ และสามารถสังเกตไดง้ า่ ย ไม่ว่าจะเปน็ เร่อื งของขนาดตวั อกั ษร รปู แบบตวั หนงั สอื ตำแหน่งที่ วาง เป็นต้น 2. Title (ตำแหนง่ หนา้ ท)ี่ ตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าของบัตรคือองค์ประกอบในส่วนที่ 2 ที่ผู้ประกอบการจะต้อง ให้ความสนใจ เพราะมันจะบ่งบอกถึงตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าของนามบัตรใบนั้น โดยตรงเพ่อื เปน็ การสะดวกในการขอติดตอ่ ซงึ่ สำหรับบรษิ ทั ทมี่ ลี กั ษณะองคก์ รขนาดใหญม่ กั ไม่คอ่ ยมี ปัญหาเพราะพนักงานแต่ละคนมีตำแหน่งที่ตายตวั อยู่แล้ว แต่ปัญหามักจะเกิดข้ึนกบั บริษัทที่มีขนาด เล็กที่บางคนยังไม่รู้ว่าตนเองทำงานในตำแหน่งอะไรเลยด้วยซ้ำเพราะทำแทบจะทกุ อย่างเลย ดังน้นั ก่อนที่จะทำนามบัตรต้องกำหนดให้ได้เสียก่อนว่าเจ้าของนามบัตรทำงานในตำแหน่งอะไรจึงจะ สามารถดำเนินการในทำนามบัตรได้ นอกจากนี้หากในอนาคตมีพนักงานคนใดมีตำแหน่ง เปลยี่ นแปลง ตอ้ งรีบทำการเปลยี่ นนามบัตรใหพ้ นักงานคนคนนนั้ โดยทนั ทดี ว้ ย 3. Address (ที่อยู่และช่องทางการติดตอ่ ) ส่วนนก้ี เ็ ป็นอีกหนง่ึ ส่วนที่มคี วามสำคัญเปน็ อย่างสูง โดยผู้ประกอบการต้องระบุชื่อท่ี อยู่ของบริษัทลงไปอย่างชัดเจนว่าบริษัทชื่ออะไรตั้งอยู่เลขที่เท่าไหร่ แขวง/เขตไหน จังหวัดอะไร รหัสไปรษณีย์รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของทางบริษัท ซึ่งนอกจากนี้ในปัจจุบันยังควรต้องใส่เบอร์ โทรศัพท์มอื ถือ อีเมล รวมถึงทวิตเตอร์และช่องทางการสื่อสารอื่นๆที่เจ้าของบัตรมีเพื่อความสะดวก มากขนึ้ ในการติดต่อส่อื สารและเปน็ การตามเทรนดข์ องสังคมท่ีพฒั นามากข้ึนในแต่ละวัน 4. Company Logo (โลโก้ของบรษิ ทั ) ตามหลักที่ถูกต้องแล้วโลโก้บริษัทต้องมีขนาดที่ใหญ่โตและโดดเด่นมากที่สุดใน นามบัตร โดยมีสีสันตามโลโก้จริงทั้งหมดและต้องตั้งอยู่ในที่ที่โดดเด่นแยกออกมาเป็นการเฉพาะใน มมุ ใดมมุ หนึ่ง ไม่ว่าจะเปน็ ซา้ ยหรอื ขวา และตอ้ งไมม่ ีรายละเอยี ดในสว่ นอน่ื เข้าไปเก่ียวขอ้ งหรือจัดอยู่ ในสว่ นเดยี วกัน 5. List of Service or products (ผลติ ภัณฑข์ องบรษิ ัท) ชดุ การเรียน วชิ าภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 27

นามบัตรมีจุดประสงค์อยู่ คือ การแนะนำตนเองและการโฆษณาสินค้าและการ บริการอย่างสั้น ๆ ดังนั้น ในนามบัตรควรต้องมีรายละเอียดเลก็ ๆนอ้ ยเกี่ยวกับสินค้าและการบริการ ของบรษิ ัท 6. ขนาดของนามบัตร โดยปกติขนาดของนามบัตรค่อนข้างจะเป็นมาตรฐานสากลอยู่แล้วคือ มีความกว้าง 90 มิลลิเมตรและยาว 54 มิลลิเมตร ตามรูปแบบสากล ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบกอบการสามารถแก้ไข ขนาดไดน้ ดิ หน่อยทง้ั ความกว้างและความยาวโดยบวกลบได้ไมเ่ กิน 5 มิลลเิ มตร และสามารถเหลามุม ของนามบตั รให้มลี กั ษณะทโ่ี คง้ มนได้ แต่ไมค่ วรออกแบบรูปทรงใหม้ ีลักษณะทแ่ี ปลกประหลาดมากไป เพราะเกบ็ ใส่กระเป๋าได้ค่อนขา้ งลำบาก นอกจากนีย้ ังมีคุณสมบัตสิ ว่ นอ่นื ๆ อีก เช่น สีของนามบัตรสามารถเลือกได้ตามใจชอบแต่อยากจะขอแนะนำให้ใช้สีที่เป็นพื้น ๆ และ ออ่ นแทน เพราะสามารถอา่ นตวั หนังสอื ไดส้ ะดวกกว่าพวกท่ีมีสีเข้ม ๆ มาก เมื่อจัดทุกองค์ประกอบอย่างสมดุลและลงตัว ส่วนสุดท้ายที่ต้องทำก็คือผู้ประกอบการต้อง มาจัดองคป์ ระกอบกอ่ นหน้าน้ีใหท้ ุกส่วนสามารถเขา้ กันได้อย่างลงตัวมากท่ีสุดไมน่ อ้ ยหรือมากเกินไป โดยลักษณะที่ขอแนะนำคือให้เลือกเขียนสิ่งต่าง ๆ ลงในนามบัตรอย่างตรงตัวกระชบั และต้องไม่ยาว จนเกินไปแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องครอบคลุมจนทำให้รู้ว่าเจ้าของนามบัตรเป็นใครมีหน้าที่ตำแหนง่ การงานอยู่ที่บริษัทอะไร สาเหตุก็เพราะหากเขียนอธิบายมากจนเกินไปนามบัตรธุรกิจก็จะทำให้จับ ใจความไม่ได้ แต่หากท่านเขียนน้อยเกินไปก็จะดูไม่น่าเชื่อถืออีกเช่นกัน ดังนั้นผู้ประกอบการต้อง พยายามจัดสรรเนื้อที่ในนามบัตรอย่างลงตัวให้มากที่สุด อย่าลืมว่านามบัตรธุรกิจที่ดีสามารถสร้าง ความสำเร็จให้กับธรุ กจิ มานับไม่ถว้ นแล้ว 28 ชุดการเรียน วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร

Activity 1.8 Read the following business card and tick (√) in the correct column. Statements Yes No 1. The company’s name is Agon Pacific. 2. He works a store leader with two companies. 3. You can write a letter to him. 4. He always stays abroad. 5. The companies are not in Thailand. Activity 1.9 Writing a business card. Create the business card for James Mayer, captain of Phetchaburi Fishing, Phetchaburi, Thailand. Mobile phone’s number is 0810102045, email address is [email protected] and website is Phetchaburifishing.com. ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาอังกฤษเพือ่ การสอ่ื สาร 29

เอกสารอา้ งองิ Gretchen Bitterlin, Dennis Johnson, Donna Price,Sylvia Ramirez (2011). Venture 2 student’s book, n.p: บริษทั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) อินเตอร์เนชัน่ แนล จำกัด. Andrew Vaughan and Dorothy E Zemach (2008). Get Ready for Business, Tokyo: Macmillan. Greeting. (ออนไลน์) เข้าถงึ ไดจ้ ากจาก http://bbc.com/learningenglish (วนั ทสี่ บื คน้ : 7 มนี าคม 2558). Greeting. (ออนไลน)์ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.youtube VOAlearningEnglish?introduce yourselfinEnglish (วันทส่ี ืบคน้ : 8 มนี าคม 2558). 30 ชุดการเรียน วชิ าภาษาอังกฤษเพอ่ื การสือ่ สาร

แบบประเมนิ ตนเองหลงั เรยี น หน่วยที่ 1 http://bit.ly/eng-test1 ชดุ การเรยี น วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสอื่ สาร 31

ภาคผนวก 32 ชดุ การเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สาร

เฉลย/แนวตอบกจิ กรรม หนว่ ยที่ 1 Activity 1 จบั คู่ จากสือ่ Activity 1.2 Weather Vocabularies จากสื่อ Activity 1.3 (True/False) จากสอ่ื Activity 1.4 My profile ผูเ้ รียนเตมิ ข้อมลู ประวัติของตนเอง Activity 1.5 1. Yes 2. Yes 3. No 4. No 5. Yes Activity 1.6 Dear Korn, It’s Brenda again. There is a parcel which must be delivered to Thomas at the Diamond Hotel. I would appreciate your help on this matter. Please let me know by return email if anybody is traveling from Bangkok to New York. Many thanks, Brenda ชดุ การเรียน วชิ าภาษาอังกฤษเพ่อื การสอื่ สาร 33

Activity 1.7 in, on, at 3. at 4. at 5. on 8. in 9. at 10. on 1. on 2. on 6. in 7. N/A 5. No Activity 1.8 Read the following business card 1. Yes 2. Yes 3. No 4. No Activity 1.9 Writing business card ผ้เู รยี นสรา้ งสรรคน์ ามบตั รดว้ ยตนเอง 34 ชุดการเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร

คณะกรรมการ ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร • คณะท่ีปรกึ ษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา นายบุญรกั ษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา นายประชาคม จนั ทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายธวชั ชยั อุ่ยพานชิ รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา นายพรี ะพล พูลทวี ผชู้ ำนาญการด้านการจดั การอาชวี ศึกษาระบบทวิภาคี นายสรุ ตั น์ จน่ั แยม้ ในสถานศกึ ษาของรัฐและเอกชน ผู้ชำนาญการดา้ นการจดั การเรยี นการสอนอาชีวศกึ ษา นางสาววัลลภา อยทู่ อง และกระบวนการเรียนรู้ ผู้อำนวยการศนู ย์อาชวี ศึกษาทวภิ าคี นางรุ่งนภา จติ ต์ประสงค์ ผู้อำนวยศนู ยส์ ง่ เสริมและพฒั นาอาชีวศึกษาภาคเหนือ นายวิทยา ใจวถิ ี • คณะกรรมการวชิ าการ ผู้ชำนาญการดา้ นการจัดการเรยี นการสอนอาชีวศกึ ษา นางสาววัลลภา อยู่ทอง และกระบวนการเรยี นรู้ ผูอ้ ำนวยศูนยส์ ่งเสรมิ และพฒั นาอาชีวศึกษาภาคเหนอื นายวทิ ยา ใจวิถี หน่วยศึกษานเิ ทศก์ นายประพนธ์ จุนทวิเทศ ศนู ย์สง่ เสรมิ และพัฒนาอาชวี ศกึ ษาภาคเหนอื นางสุดสาย ศรศี กั ดา ศนู ย์สง่ เสริมและพัฒนาอาชวี ศึกษาภาคเหนือ นางสาวพมิ พร ศะรจิ นั ทร์ • คณะกรรมการวชิ าการด้านการจัดทำเนือ้ หาชดุ การเรยี นภาษาองั กฤษ นายประพนธ์ จนุ ทวเิ ทศ หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์ นางนารี สวุ รรณโภคยั ขา้ ราชการบำนาญ นางลมูล ทัศนา วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาเพชรบรุ ี นางศรสี ภุ าพ วรรณแกว้ วิทยาลยั การอาชีพเชยี งราย นางเสาวดี ทองคำ วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีเพชรบูรณ์ นางสาวฐิตารยี ์ จันทรวัทน์ วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก นางสาวรวนิ ทน์ ภิ าวงษาฟู วทิ ยาลัยการอาชพี เวียงเชยี งรุง้ ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 35

คณะกรรมการ (ตอ่ ) ชดุ การเรยี น วชิ าภาษาอังกฤษเพอื่ การสอ่ื สาร • คณะกรรมการวิชาการดา้ นการจัดทำสอ่ื ชุดการเรยี น นางสาวพมิ พร ศะริจันทร์ ศนู ย์ส่งเสรมิ และพฒั นาอาชีวศกึ ษาภาคเหนือ นายธนสาร รุจิรา หน่วยศึกษานิเทศก์ นายนพิ นธ์ รอ่ งพชื วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาแพร่ นายภมู ิพฒั น์ วนพพิ ัฒนพ์ งศ์ วิทยาลัยอาชวี ศกึ ษาพิษณุโลก นางกนกขวญั ลืมนดั วทิ ยาลัยสารพัดช่างสมุทรสงคราม • คณะบรรณาธิการและรูปเล่ม หน่วยศกึ ษานิเทศก์ นายประพนธ์ จุนทวเิ ทศ ศนู ย์สง่ เสริมและพัฒนาอาชีวศกึ ษาภาคเหนือ นางสาวพมิ พร ศะริจนั ทร์ • ออกแบบปก หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ นายธนสาร รุจริ า 36 ชุดการเรยี น วชิ าภาษาอังกฤษเพอื่ การสอ่ื สาร