การแต่งกายให้เหมาะสมกับวัย

เมื่อชีวิตเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงวัยของการทำงาน เมื่อนั่นเราก็จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนการแต่งตัวของตนเองเสียใหม่ จากเดิมที่การแต่งตัวเน้นไปที่ความสะดวกสบาย ไม่ค่อยใส่ใจกับกาวเทศะสถานที่เท่าใดนัก แต่เมื่อเราเติมโตมากขึ้นและต้องพบเจอผู้คนในที่ทำงานมากขึ้น ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าให้มีความเหมาะสม เพื่อช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับบุคลิกของเรา ช่วยอำพรางสัดส่วนที่ไม่น่าดู และยังช่วยสร้างความน่าเกรงขามให้กับเราอีกด้วย

การแต่งกายสำหรับวัยทำงานนั้น เราจำเป็นจะต้องคำนึงถึงความคล่องตัวและลักษณะของงานที่เราทำอยู่ด้วย โดยส่วนมากบริษัทมักจะมีกฎเกณฑ์เฉพาะเป็นของตัวเองสำหรับการแต่งกายทั้งหญิงและชายเอาไว้ให้อยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงความสวมใส่เสื้อผ้าอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นที่น่าชื่นชมของผู้คน ส่วนลักษณะของเสื้อผ้าที่เราเลือกใช้นั้นก็ควรพิจารณาตามช่วงวัยของเราดังต่อไปนี้

วัยเริ่มต้นการทำงาน 20-30 ปี
ในวัยของการเริ่มทำงานนี้ ส่วนมากจะเป็นเด็กไฟแรง เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความเชื่อมั่นในตนเองสูง แต่อย่าลืมว่าการเข้ามาอยู่ในบริษัทโดยที่ตนเองยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเล็กๆ ที่ยังต้องรอการไต่เต้าอยู่นั้น ไม่ควรที่จะเบ่งอำนาจหรืออวดดี การแต่งกายจึงควรมีความเรียบร้อย ไม่หวือหวาราคาแพง จนดูโอ้อวด จนไม่เป็นที่พอใจของพนักงานคนอื่นๆ และยังจะส่งผลต่อความไม่ก้าวหน้าของเราอีกก็เป็นได้

วัยสั่งสมประสบการณ์ 30-40 ปี
เป็นวัยที่ชีวิตเริ่มต้นการทำงานจนเกิดความคุ้นเคยมากขึ้น เป็นวัยที่เริ่มมีความเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นการแต่งกายจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าให้ดูภูมิฐานมากขึ้น พยายามไม่สวมใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาดจนเกินไป แต่เป็นเสื้อผ้าสีทึบ เรียบง่าย ไม่มีลวดลาย จะช่วยให้เป็นคนที่น่าเคารพ ย่ำเกรงและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น

วัยประสบความสำเร็จ 50-60 ปี
วัยนี้อาจจะต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากขึ้น มีสติและรู้จักการตัดสินใจอย่างรอบครอบ มีความเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว ส่วนมากจะประสบความสำเร็จ มีเงินทอง ความมั่นคง ชื่อเสียงและเกียรติยศ ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่ชีวิตผ่านโลกมามากแล้ว และกำลังดำเนินเข้าสู่การพักผ่อนเสียที ดังนั้นการแต่งกายอาจจะไม่จำเป็นต้องหวือหวาหรืออึดอัดจนเกินไป แต่ควรมีความเรียบง่าย สบายๆ และสะอาดสะอ้านน่ามองก็เพียงพอ

การแต่งกายที่ดีนั้น เราควรเลือกมองที่กาลเทศะ สถานที่ และความเหมาะสมของสถานการณ์นั้นๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากการแต่งกายแบบแหวกแนวจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลให้เราถูกมองในแง่ลบ และกลายเป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจ จนสูญเสียบุคลิกที่น่าเชื่อถือไปอีกสิ่งหนึ่งด้วย

การแต่งกาย เป็นแฟชั่นที่เราสัมผัสมาตลอดชีวิต แม้ว่าการแต่งกายจะเป็นความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของเราได้อย่างมาก เราจึงควรแต่งกายให้ดูดี สมวัย และเหมาะกับกาลเทศะ

เมื่อก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ โดยเฉพาะเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป เรามักใส่ใจเรื่องของการแต่งกายน้อยลง เนื่องจากมีความคิดว่าสภาพร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ไม่ค่อยสวยหล่อเท่าเก่า และหมดวัยที่จะแต่งตัวให้สวยงามแล้ว แต่หากเรารู้จักแต่งตัว ก็จะช่วยให้คุณดูสดใส ร่าเริง และดูอ่อนกว่าวัยได้

แต่งตัวให้เหมาะกับบุคลิก
คนเรา มีบุคลิกภาพที่แตกต่างกันออกไป บางคนเงียบขรึม บางคนสบายๆ บางคนสดใส ร่าเริง เป็นต้น การแต่งกายนั้น ควรแต่งให้เหมาะสมกับบุคลิกของตนเอง ซึ่งโดยส่วนมาก บุคลิกของเรา จะนำพาไปสู่การแต่งกายที่เหมาะกับบุคลิกของเราอยู่แล้ว เช่น ไม่ค่อยเรียบร้อย ก็มักจะไม่ค่อยได้ใส่กระโปรง หรือหากเป็นคนอารมณ์ดี ก็อาจจะชอบใส่เสื้อผ้าสีสดใส เป็นต้น

แม้ว่าจะอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไปก็ตาม คุณก็ยังสามารถแต่งตัวในลักษณะที่ชอบได้อยู่ เพียงแต่อาจต้องดูภูมิฐานมากขึ้น ก็จะช่วยให้ดูดีได้

แต่งตัวให้สมวัย
ในวัยของเรานั้น การแต่งตัวให้สมวัยมีความสำคัญ เพราะช่วยให้เราดูน่าเคารพนับถือ และดูมีอิทธิพลต่อคนในครอบครัวได้เช่นกัน หากอยู่ในวัย 50 ปีขึ้นไปแล้ว บางท่านก็มีหลานแล้ว จะใส่เอวลอย หรือขาสั้นจนเกินไปเหมือนกับวัยรุ่น ก็ดูจะไม่น่ามองเสียเท่าไร

หากชอบแต่งตัวเหมือนวัยรุ่น อาจเลือกแบบหรือลักษณะที่เหมาะสม เช่น เสื้อยืดตามแฟชั่น กางเกงยีนส์ เป็นต้น ก็จะช่วยให้คุณสามารถแต่งตัวในแบบที่ชอบอย่างดูดีสมวัยได้

แต่งตัวให้เหมาะกับโอกาส
เรื่องของการแต่งตัวให้เหมาะกับสถานที่ โอกาส หรือกาลเทศะ เป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี เราอาจเคยเห็นผู้ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่คนหนึ่งแต่งตัวได้เหมาะสมกับวัย ดูเปรี้ยว และยังไม่ดูอายุเยอะ ในขณะที่อีกคนหนึ่งปล่อยเนื้อปล่อยตัว หยิบอะไรมาใส่ก็ได้ ก็อาจทำให้ดูอายุเยอะ และไม่สวยหล่อสมวัยได้

การแต่งตัว เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณอยากดูดี ดูเป็นหนุ่มสาวอยู่เสมอ การแต่งตัวก็เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยคุณได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หากมีความมั่นใจ ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง เพราะในช่วงอายุของคุณ ควรตักตวงความสุขให้กับตนเองมากที่สุด

ผู้สูงอายุ

ดูแลผู้ป่วย

รับดูแลผู้สูงอายุ