กิตติกรรมประกาศ เจ ล ล้างมือ ว่า น หางจระเข้

เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื กลิ่นกุหลาบ Rose Fragrance Hand Sanitizer วุฒิชัย บุญดล โครงการน้เี ปน็ นเ้ี ปน็ ส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้ันสูง สาขาวิชา การโรงแรม ประเภทวชิ า อุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาเชยี งใหม่ ปีการศกึ ษา 2563 เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื กลิ่นกุหลาบ Rose Fragrance Hand Sanitizer วุฒิชัย บุญดล โครงการน้เี ปน็ นเ้ี ปน็ ส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้ันสูง สาขาวิชา การโรงแรม ประเภทวชิ า อุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาเชยี งใหม่ ปีการศกึ ษา 2563 ก ใบรับรองโครงการ วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่ เรื่อง เจลแอลกอฮอล์ล้างมอื กลนิ่ กหุ ลาบ โดย นายวฒุ ิชัย บุญดล รหสั 6237010041 ไดร้ บั การรบั รองให้นับเป็นสว่ นหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี ชัน้ สูง สาขาวชิ าการโรงแรม ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมท่องเที่ยว ....................................หวั หน้าแผนกวิชา …….……………………….รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ (นางอัปสร คอนราด) (นายณรงศกั ด์ิ ฟองสนิ ธ)์ุ ) วนั ท่ี……..เดือน………พ.ศ……….. วนั ที่…….เดอื น………พ.ศ………. ................................................... กรรมการสอบโครงการ (นางสาวนพรรณพ ดวงแกว้ กลู ) ข กิตติกรรมประกาศ โครงการผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกลิ่นกุหลาบ ของนักศึกษาแผนกวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ ฉบับน้ีสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเนื่องจากได้รับความกรุณา ความ อนุเคราะห์ การสนับสนุน และการให้คาแนะนาแนวทางในการดาเนินงานจากหลายท่าน ขอขอบพระคุณ นางสาวนพรรณพ ดวงแก้วกูล ครูท่ีปรึกษาวิชาโครงการ ที่ให้คาปรึกษาโครงการ แนะนาและให้ข้อคิดต่าง ๆ ในการทาโครงการ ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่อง จนทารายงานโครงการ ฉบบั นีเ้ สรจ็ สมบูรณ์ ขอขอบพระคุณ ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีสละเวลาอันมีค่าช่วยเหลือและอนุเคราะห์ในการ ตอบแบบสอบถาม จนทาให้โครงการฉบับนี้สาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี รวมถึงผู้มสี ่วนเกี่ยวขอ้ งทุกท่านที่เป็น กาลังสาคัญในการให้คาปรึกษา เป็นกาลังใจและให้ความช่วยเหลือตลอดมา จนทารายงานเล่มน้ี สาเรจ็ ลลุ ่วงไปด้วยดี วุฒชิ ยั บุญดล ค ช่อื : นายวฒุ ชิ ัย บญุ ดล ชอ่ื โครงการ : ผลติ ภัณฑเ์ จลแอลกอฮอลล์ า้ งมือกล่ินกุหลาบ สาขาวิชา : การโรงแรม ประเภทวิชา : อตุ สาหกรรมทอ่ งเที่ยว หัวหน้าแผนกวิชา : นางอปั สร คอนราด อาจารย์ประจาวิชา : นางสาวนพรรณพ ดวงแก้วกูล ปกี ารศกึ ษา : 2563 บทคดั ย่อ โครงการ เร่ือง ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกลิ่นกุหลาบ มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษา ขัน้ ตอนกระบวนการผลติ เจลแอลกอฮอลล์ า้ งมอื ทส่ี ามารถฆา่ เชือ้ โรคได้ เพ่ือให้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ มีกล่ินหอม ไม่เกิดอาการแพ้และอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง และเพ่ือช่วยเสริมสร้างการใช้เจล แอลกอฮอล์ล้างมือเพอื่ สขุ อนามัยท่ีดใี ห้กบั ผู้ใช้ โดยมีกลุม่ ตัวอย่าง คือ ประชากรท่ีอาศัยอยู่ใน ต.บ้าน แหวน อ.หางดง จ. เชียงใหม่ จานวน 50 คน ระยะเวลาการดาเนินงานตั้งแต่วันท่ี 16 พฤศจิกายน 2563 ถงึ 28 กุมภาพนั ธ์ 2564 เครื่องมือท่ีใช้ในการศึกษา คือ แบบประเมินประสิทธิภาพ ของกลุ่ม ตัวอย่างท่ีทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกล่ินกุหลาบ ผลการดาเนินการศึกษาพบว่าผู้ ทดลองใชท้ ีบ่ รโิ ภคสว่ นใหญ่เป็นเปน็ เพศหญิง คิดเปน็ รอ้ ยละ 80 อยใู่ นชว่ งอายุ 20-24 ปี คิดเป็นร้อย ละ 60 พฤตกิ รรมการลา้ งมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ใน 1 วัน พบว่าผู้ทดลองใช้ล้างมือจานวน 1 ครั้งต่อ 1 วัน คิดเป็นรอ้ ยละ 60 พฤติกรรมการใชเ้ จลแอลกอฮอล์ล้างมือ จานวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 100 พฤติกรรมการพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือติดตัว พบว่าส่วนใหญ่ผู้ทดลองใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือมี การพกเจลแอลกอฮอลล์ า้ งมือติดตวั เป็นบางครัง้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 44 เนอื้ สัมผัสของเจลแอลกอฮอล์ล้าง มือใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับ มากที่สุด ( =4.85) รองลงมาคือ ความพงึ พอใจภาพรวมของเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกล่ินกุหลาบ เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับ มาก ที่สุด ( =4.76) เม่ือใช้ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์แล้วมีความชุ่มช้ืนต่อผิว เกณฑ์การประเมิน อยู่ในระดับ มากท่สี ุด ( =4.71) และ ลาดับสดุ ท้าย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือมีกล่ินหอมความพึงพอใจ ของผตู้ อบแบบประเมนิ ประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก ( x = 4.66) ตามลาดบั ง Name : Mr. Wuttichai Boondol Project name : Rose Fragrance Hand Sanitizer Field of study : Hotel Subject type : Tourism industry Department Head : Mrs. Apsorn Conrad Subject teacher : Ms. Naphannop Duangkaew Kool School year : 2020 Abstract Project on Hand Wash Alcohol Gel, Rose Scent Objective To study the process of producing disinfectable hand sanitizer. So that the hand sanitizer has a pleasant smell No allergic reactions and skin irritation. And to help strengthen the use of hand sanitiser gel for good hygiene for the user. The sample group was 50 people living in Ban Waen Sub-district, Hang Dong District, Chiang Mai Province. The operational period was from 16 November 2020 to 28 February 2021. Of the sample group who tried to use rose scent hand sanitizer The results of the study showed that the majority of the participants were female. Accounted for 80 percent in the age range 20-24 years, representing 60 percent. Behavior of hand washing with alcohol gel in 1 day found that the subjects hand wash the number 1 time per day, representing 60 percent. Alcohol hand washing of 50 people, 100 percent of the behavior of hand- washing alcohol gel. It was found that most of the subjects who used hand sanitiser were sometimes carrying alcohol gel with hand. Accounted for 44 percent. The texture of the hand sanitiser gel is non-sticky. The criteria were at the highest level ( = 4.85), followed by the overall satisfaction of the rose scented hand sanitizer. The evaluation criteria were at the highest level ( = 4.76) when using an alcohol hand sanitizer to moisturize the skin. The evaluation criteria were at the highest level ( = 4.71) and lastly, scented hand sanitiser gel, the satisfaction of the efficacy assessors was at a high level ( = 4.66), respectively. สารบญั จ เร่อื ง หน้า ใบรบั รองโครงการ ก กติ ตกิ รรมประกาศ ข บทคดั ย่อ ค สารบญั จ สารบัญ(ต่อ) ฉ สารบัญตาราง ช สารบญั ภาพ ซ บทท่ี 1 บทนา 1 1.1 ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา 2 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงการ 2 1.3 ขอบเขตโครงการ 2 1.4 ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ บทท่ี 2 แนวคดิ ทฤษฎแี ละงานวจิ ยั ท่ีเก่ยี วขอ้ ง 3 2.1 ความร้เู ก่ยี วกับเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื 5 2.2 สถติ ิของเช้ือไวรสั โดโรนา่ ( Covid – 19 ) 7 2.3 ความร้เู กย่ี วกับการปูองกนั เชื้อไวรสั โดโรน่า ( Covid – 19 ) 9 2.4 วธิ ีการทาเจลแอลกอฮอลล์ ้างมือ 10 2.5 คณุ สมบัตขิ องกลิ่นกุหลาบ 11 2.6 ทฤษฎีและงานวจิ ยั ทเี ก่ยี วขอ้ ง บทที่ 3 วิธดี าเนินการการศึกษา 28 3.1 การคดั เลอื กกลุ่มตวั อยา่ ง 28 3.2 เคร่อื งมือทใี่ ช้ในการดาเนินโครงการ 30 3.3 ขน้ั ตอนการดาเนนิ โครงการ 30 3.4 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 31 3.5 การวเิ คราะหแ์ ละสรุปผล สารบญั (ต่อ) ฉ เรอื่ ง หน้า บทที่ 4 ผลการศึกษา 30 33 4.1 ขน้ั ตอนการทาผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกลิน่ กหุ ลาบ 33 4.2 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลสว่ นบุคคล 36 4.3 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ 37 42 ผลิตภัณฑเ์ จลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื กลนิ่ กหุ ลาบ 43 4.4 ผลการวเิ คราะหก์ ารจัดลาดบั ความพึงพอใจของ 45 ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ 4.5 ผลสรุปข้อเสนอแนะ บทท่ี 5 สรปุ ผล อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผลการศึกษา 5.2 อภปิ รายผล 5.3 ข้อเสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก ภาคผนวก ก โครงร่างโครงการ (แบบนาเสนอโครงการ) ภาคผนวก ข แบบสอบถามความพึงพอใจ ประวตั ผิ จู้ ัดทา ช สารบญั ตาราง หนา้ 33 ตารางที่ 33 ตารางท่ี 1 ตารางแสดงผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลสว่ นบคุ คลตวั แปรดา้ นเพศ 34 ตารางท่ี 2 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลสว่ นบคุ คลตวั แปรดา้ นอายุ 34 ตารางที่ 3 แสดงผลการวิเคราะห์การลา้ งมือดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ใน 1 วัน 34 ตารางท่ี 4 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ประสบการณ์การใช้เจลแอลกอฮอลล์ ้างมือ 35 ตารางที่ 5 แสดงผลการวิเคราะหข์ ้อมลู พฤติกรรมการพกเจลลา้ งมือแอลกอฮอล์ติดตัว ตารางที่ 6 ตารางแสดงผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ความพงึ พอใจของผ้ทู ดลองใช้ผลิตภัณฑ์ 36 เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื กลิน่ กุหลาบ ตารางที่ 7 แสดงผลความพึงพอใจของผทู้ ดลองใช้ผลิตภัณฑ์ เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื กล่นิ กุหลาบ สารบัญภาพ ซ ภาพที่ หน้า ภาพที่ 1 การล้างมอื ดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ 3 ภาพท่ี 2 สถิตกิ ารตดิ เช้อื ไวรัสโครโรน่าท่วั โลก 5 ภาพท่ี 3 การป้องกันจากเชอ้ื ไวรสั โคโรน่า 7 ภาพท่ี 4 อุปกรณใ์ นการทาเจลล้างมือ 8 ภาพท่ี 5 ภาพแสดงหลักความดีสากล 5 ประการ 20 ภาพท่ี 6 เตรียมอุปกรณ์ 29 ภาพที่ 7 ใส่นา้ ตม้ สกุ ลงในภาชนะ 30 ภาพท่ี 8 ผสมคารโ์ บโพล์ลงไป 30 ภาพที่ 9 ผสมคาร์โบโพล์ทง้ิ ไว้ 30 ภาพที่ 10 เติมเอทิลแอลกอฮอล์ผสมลงไป 31 ภาพที่ 11 ผสมกรีเซอรีนลงไป 31 ภาพที่ 12 ผสม TEA ลงไป 31 ภาพท่ี 13 เนอื้ เจลแอลกอฮอล์ท่ีได้ 32 ภาพที่ 14 ผสมกลนิ่ กหุ ลาบลงไป 32 ภาพที่ 15 นาเจลแอลกอฮอล์ใส่ผลิตภัณฑ์ 32 บทท่ี 1 บทนา 1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปญั หา เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หรือ Hand sanitizer น้ันน้ันได้มีการใช้มาต้ังแต่อดีตต้ังแต่ปี คริสต์ศักราช 1996 หรือประมาณ 54 ปีมาแล้วได้มีการคิดค้นเจลแอลกอฮอล์ล้างมือครั้งแรกโดย พยาบาลชาวอเมรกิ นั เชื้อสายเมก็ ซิกันช่อื Lupe Hernandez เพ่อื เพือ่ ใชย้ ับยงั้ โรคระบาดอหวิ าตกโรค กาฬโรคโรคฝดี าษและไข้หวัดใหญ่เปน็ ส่วนหนง่ึ ในโรคทีส่ งั หารประชากรโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เจลแอลกอฮอลจ์ งึ เปน็ สิ่งจาเปน็ สาหรับมนุษย์นับ แต่น้ันมาเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ภายนอกร่างกายใช้ทาความสะอาดฆ่าเชื้อโรคบนมือโดยไม่ใช้น้าใช้ง่ายสะดวกและปลอดภัยในท่ีน้ี รวมถงึ สามารถฆา่ เช้ือเช้ือแบคทีเรียและเชื้อไวรัสเพราะตัวแอลกอฮอล์น้ันจะไปทาลายในส่วนพ้ืนผิว โปรตีนท่หี ุ้มเชอื้ โรคอย่ทู าให้เชื้อโรคน้นั ตายไปปจั จบุ ันเช้อื ไวรสั Covid-19 ทีเ่ ปน็ ไวรสั โคโรน่าสายพันธุ์ ใหม่โดยถือกาเนิดและระบาดท่ีแรกในประเทศจีนและได้ระบาดไปท่ัวโลกทาให้มีผู้ติดเช้ือไวรัสกว่า 3.69 ลา้ นรายมีผู้เสียชวี ติ กว่า 263,862 รายใน 185 ประเทศเขตเศรษฐกจิ และดนิ แดนท่ัวโลก (กรมอนามยั โลก,2562) เจลล้างมือส่วนใหญ่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เอทานอล ( Ethanol) ไอโซโพรพา นอล (Isopropanol) โพรพานอล (n-propanol) และกลีเซอรีน (Glycerine)เบนซาลโค เนียมคลอไรด์(Benzalkonium Chloride) ทาให้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ตามท้องตลาดมี ราคาสูงบุคคลที่มีรายได้น้อยเกิดความวิตกกังวลว่าหากไม่มีเจลล้างมืออาจติดเชื้อไวรัสโค โรนา 2019 (COVID-19) ส่วนบุคคลท่ีมีรายได้สูงเกิดวิตกกังวลเช่นกันคือกลัวเจลล้างมือ ขาดตลาดหาซื้อได้ได้ยากหน่วยงานของราชการจึงได้เผยแพร่วิธี การทาเจลแอลกอฮอล์ล้าง มื อ ด้ ว ย ต น เ อ ง ซึ่ ง เ ป็ น ห นึ่ ง วิ ธี ที่ จ ะ ช่ ว ย เ ห ลื อ ผู้ ที่ มี ร า ย ไ ด้ น้ อ ย ส า ม า ร ถ ผ ลิ ต เ จ ล แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ล้างมือเองได้ในราคาประหยัดและช่วยลดปัญหาเจลล้างมือขาดตลาด หรือไม่เพียงพอต่อ ความต้องการของประชาชน ดังน้ันในวิกฤติโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ท่ีกาลังระบาดในขณะน้ี ผู้จัดทาโครงการจึงได้ศึกษาขั้นตอนกระบวนการการทาเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ ปรับปรุงใน หัวข้อปัญหาด้านกลิ่นที่รุนแรงด้านความเหนียวเหนอะหนะของเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ ผู้จัดทาจึงนานา้ มันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบ มาผสมเพื่อลดกลิ่นของแอลกอฮอล์ให้น้อยลง เจลแอลกอฮอล์ล้างมือถือเป็นของใช้ส่วนบุคคลที่จาเป็นอีกช้ินท่ีทุกคนต้องมีพกติดตัวเสมอ 2 เวลาไปไหนมาไหนเพื่อล้างทาความสะอาดฆ่า โดนนาโครงการของนางสาวพิมพ์นิภา ดาราพันธ์ มาปรับปรุงโดยการปรับปรุงกล่ินท่ีหอมมากข้ึนและมีตัวเล่ือกในการใช้ 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงการ 1.2.1 เพื่อศกึ ษาขนั้ ตอนการผลติ เจลแอลกอฮอล์ล้างมอื 1.2.2 เพม่ิ ส่งเสรมิ การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 1.2.3 เพอื่ พฒั นาตอ่ ยอดโครงการเจลแอลกอฮอล์ล้างมอื 1.3 ขอบเขตโครงการ 1.3.1 เชิงปรมิ าณ - เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื กลิ่นกุหลาบ.จานวน 50 ขวด - กลุม่ ตวั อย่างครู นกั เรยี นนกั ศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่ อาคารปฏิบัตกิ ารโรงแรม 50 คน 1.3.2 เชิงคุณภาพ - เจลแอลกอฮอล์ล้างมอื มสี ่วนผสมของแอลกอฮอล์ 75% มีประสิทธภิ าพในการ ฆา่ เชือ้ โรค,ไม่ระคายเคืองตอ่ ผิวหนัง 1.3.3 ระยะเวลาและสถานที่ในการดาเนนิ งาน ระยะเวลาดาเนนิ งาน - ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ถึง 28 กุมภาพนั ธ์ 2564 สถานทด่ี าเนินงาน - อาคารปฏบิ ัตกิ ารโรงแรม วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาเชียงใหม่ ทีอ่ ยู่อาศยั ของผูจ้ ัดทา 247/5 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ. เชยี งใหม่ 50230 1.4 ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ บั 1.4.1 ผทู้ ดลองใชเ้ กิดความพงึ พอใจกับผลติ เจลแอลกอฮอลล์ า้ งมอื กลน่ิ กุหลาบ 1.4.2 เจลแอลกอฮอล์ล้างมอื กลิ่นกหุ ลาบสามารถนาไปจักจาหนา่ ยได้ นิยามศพั ท์ เจลแอลกอฮอล์ล้างมอื หมายถงึ เจลล้างมือแอลกอฮอล์ทีม่ ขี นาด 100 ml. และมีกล่นิ หอมของกลนิ่ กุหลาบ เป็นผลิตภณั ฑ์เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมือใช้ทาความสะอาดเชือ่ โรค โดยไม่ต้องลา้ งออก บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีและงานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง ในการศึกษาผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือขนาดพกพากลนิ่ กุหลาบ 75% ผู้ดาเนินโครงการได้รวบรวมแนวคดิ ทฤษฏแี ละหลักการต่าง ๆ จากเอกสารและงานวิจยั มีดังน้ี 2.1. ความร้เู กี่ยวกบั เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื 2.2. สถิตขิ องเชือ้ ไวรัสโดโรน่า ( Covid – 19 ) 2.3. ความรเู้ กี่ยวกับการปูองกนั เชื้อไวรสั โดโรน่า ( Covid – 19 ) 2.4. วิธกี ารทาเจลแอลกอฮอล์ล้างมอื 2.5. คุณสมบัตขิ องกลนิ่ กุหลาบ 2.6. ทฤษฎีและงานวิจัยทีเก่ียวขอ้ ง 2.1 ความร้เู ก่ียวกับเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมือ เจลล้างมือในช่วงเวลาการแพร่ระบาดไปท่ัวโลกของ COVID-19 น้ีเปรียบเสมือนอาวุธสาคัญ ท่ีต้องพกติดตัวติดกระเป๋าเอาไว้อุ่นใจกว่า แล้วทาไมเจลล้างมือถึงฆ่าเช้ือโรคได้ และจะต้องเป็นเจ ลลา้ งมอื แบบไหนกนั ในเมือ่ สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศเพิกถอนใบรับจด แจ้งเครื่องสาอาง และเรียกเก็บคนื เจลล้างมอื ทม่ี ีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จานวน 24 รายการ โดยมี ผลต้งั แต่วันท่ี 11 มนี าคม 2563 ไปแล้ว จะซื้อเจลล้างมอื อยา่ งไรดี 2.1.1 เจลลา้ งมือคอื อะไร เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หรือที่เรียกว่า Hand Sanitizer ถูกคิดค้นโดย Lupe Hernandez พยาบาลชาวอเมริกัน เชื้อสายเม็กซิกัน ถือเป็นนวัตกรรมทางสาธารณสุขที่มีขึ้นในช่วง ค.ศ.1966 เป็นผลิตภัณฑ์ใชภ้ ายนอกรา่ งกาย เพ่ือทาความสะอาด คลา้ ย ๆ กับการล้างมือในเวลาและ สถานทีไ่ ม่สะดวก 2.1.2 เจลล้างมอื ฆา่ เช้ือโรคได้อยา่ งไร แอลกอฮอล์ท่ีผสมอยู่ในเจลล้างมือ คือ เอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล (Ethyl alcohol หรือ Ethanol), ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือไอโซโพรพานอล (isopropyl alcohol หรือ isopropanol), เอ็น-โพรพิลแอลกอฮอล์ หรือเอ็น-โพรพานอล (n-propyl alcohol หรือ n- propanol) อาจจะเป็นการผสมหรือเป็นเพียงสารเดียวตั้งแต่ 70% โดยปริมาตรข้ึนไป จะมี ประสิทธิภาพสาหรับการฆ่าเชื้อโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัส เม่ือแอลกอฮอล์ไปทาลายพื้นผิวโปรตีนที่ ห้มุ เชื้อโรค จะทาให้เชื้อโรคตายในท่สี ุด 4 2.1.4 เลือกซ้ือเจลล้างมอื แบบไหนถงึ จะฆ่าเช้ือโรคได้ ควรเช็คข้อมูลส่วนผสมของเจลล้างมือน้ันๆ โดยตรวจสอบเลขท่ีจดแจ้งได้ท่ี เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หัวข้อ “ตรวจสอบผลิตภัณฑ์” หรือสายด่วน อย. หมายเลข โทรศัพท์ 1556 ท้ังน้ีผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ผ่านการจดแจ้งจาก อย. แล้ว มั่นใจได้ว่ามี ปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ต่ากว่า 70% โดยปริมาตร และปลอดภัยสามารถใช้ได้ นอกจากน้ีแล้วถ้า ต้องการผลิตเจลล้างมือเองก็สามารถทาได้ โดยต้องใช้หลักการและมาตรฐานเดียวกันคือ ปริมาณ แอลกอฮอล์ต้องมากกว่า 70% โดยปริมาตร จึงจะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อได้ ซึ่งเป็นไปตาม กฎหมายกาหนด และเปน็ การรกั ษาสขุ อนามัยท่ดี ี ช่วยลดความเส่ียงของการแพร่ระบาดเช้ือไวรัสสาย พันธใุ์ หมไ่ ด้ดีในเวลานี้ 2.1.5 แอลกอฮอลท์ ามือเพอ่ื กาจัดเช้อื โรค เป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย พกพาไปใช้ได้สะดวก ใช้ในกรณีที่ไม่มีน้าและ สบู่ ให้ล้างมือ การเรียกว่า แอลกอฮอล์ล้างมือ หรือ เจลล้างมือ เป็นช่ือเรียกที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็น การใช้เพื่อกาจัด เช้ือโรค ไม่ใช่ล้างทาความสะอาดมือ การเรียกว่า “แอลกอฮอล์ทามือ” น่าจะ เหมาะสมกว่า การกาจัดเช้ือโรคท่ีมือด้วยแอลกอฮอล์ ต้องไม่มีคราบสกปรก จึงจะได้ผล ใช้ แอลกอฮอล์ 70%-90% ทาท่วั ฝาุ มอื นวิ้ ซอกน้ิว และ หลังมือ ท้ิงให้แห้งสนิท หรือ 20 วินาที โดยไม่ สัมผัสอะไร ไม่ล้างนา้ 2.1.6 สว่ นผสมในแอลกอฮอล์ทามอื 1. Glycerol หรอื Glycerin: สาหรบั ให้ความชุ่มช้ืนต่อผิวหนัง (สตู รทีไ่ ม่มสี ารน้ี ใช้ ครีมทามอื แกป้ ญั หามือแหง้ ได)้ 2. Hydrogen peroxide: สาหรับกาจดั สปอร์ของแบคทเี รยี ท่ี อาจจะปนเปอ้ื นมา 3. Carbopol 940: เป็นสารสร้างเนื้อเจล ต้องปรับ pH ให้ได้ 6-7 เพื่อให้ Carbopol มีความหนืดท่ีดีและให้เจลใส การทาเป็นเจล ต้องค่อยๆ เท Carbopol ลงในน้า ร้อนทลี ะน้อย แลว้ คนใหก้ ระจาย ตวั ปลอ่ ยให้พองตัวเต็มท่ี แล้วเตมิ ส่วนประกอบอนื่ 4. Triethanolamine: เพ่ือปรับ pH ทาให้เจลใส และเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นสารที่ เป็นอันตรายจาการสัมผัส ห้ามใช้เป็นส่วนผสมท่ีเกิน 5% (สานกั งานคณะกรรมการสขุ ภาพ แห่งชาต,ิ 2563) ภาพที่ 1 การลา้ งมอื ด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทม่ี า : https://www.sentangsedtee.com/ 5 2.2. สถติ ขิ องเชือ้ ไวรสั โดโรน่า (Covid – 19) การระบาดของไวรัสโคโรนา พ.ศ. 2562-2563 เป็นการระบาดทั่วโลกท่ีกาลังดาเนินไปของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19, โควิด -19) โดยมีสาเหตุมาจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 โดยพบคร้ังแรกในนครอู่ฮ่ัน เมืองหลวงของมณฑลหูเปุย์ ประเทศจีน องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การระบายนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่าง ประเทศ ในวันท่ี 30 มกราคม 2563 และประกาศให้เป็นโรคระบาดทั่ว ในวันท่ี 11 มีนาคม 2553 ณ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลามาตรฐานกรีนิช 02.18 น. มีผู้ติดเช้ือยืนยันแล้วมากกว่า 10,585,152 คนใน 210 ประเทศและดินแตน มีผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดแล้วมากกว่า 513,913 คนและมีผู้หาย ปุวยแลว้ มากกว่า 5,795,009 คน ปจั จุบนั ทั่วโลกมสี ถติ ิการติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ (Covid-19) ยืนยนั ว่าติดเช้อื จานวน 15 ล้านคน หายแล้ว 8.51 ล้านคนผ้เู สยี ชวี ิต 6.18 แสนคน 2.2.1. การตดิ ตอ่ ของเช้ือไวรสั โคโรนา่ (Covid-19) ประชากรสามารถรับเชื้อจากผู้ติดเช้ือไวรัสโคโรน่า (Covid = 19) คนอ่ืนโรคน้ีสามารถแพร่ จากคนสู่คนผ่านทางละอองน้ามูกน้าลายจากจมูกหรือปากซ่ึงออกมาเม่ือผู้ปุวยโรคโควิด 19 ไอจาม หรือพดู ละอองเหล่านคี้ อ่ นขา้ งหนัก ไปไมไ่ ด้ไกล และจะตกลงสพู่ ้ืนอยา่ งรวดเรว็ ประชากรรับเช้ือโรค โควิด 19 ไดจ้ ากการหายใจเอาละอองเข้าไปจากผู้ปวุ ย เพราะฉะน้ัน จึงจาเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องรักษา ระยะหา่ งจากผูอ้ ืน่ อย่างนอ้ ย 1 เมตร ละอองของเชอื้ Covid-19 ยังตกลงสู่วตั ถแุ ละพื้นผิวต่างๆได้เช่น โตะ๊ ลูกบดิ ประตู ราวจับ และเมือ่ คนเอามือไปจับพื้นผิวเหล่านั้นแล้วมาจับร่างกายส่วนต่างๆ ก็ทาให้ เช้อื ไวรัสโคโรน่า (Lovid-19) ตดิ มาด้วย 2.2.2. อาการของผ้ทู ตี่ ดิ เชื้อไวรสั โคโรน่า (Cavid-19) ไขห้ วดั ธรรมดา มักเกิดจากเชื้อไวรัสไว้ในไวรัส (Rhinovirus) 30-80% เป็นไวรัสท่ีทาให้เกิด โรคกบั จมูก คือหวดั ธรรมดาและไวรัสอกี ชนิดทเ่ี ปน็ สาเหตุของไข้หวัดคือโคโรนาไวรัส (Coronavirus) 10-15% แต่เป็นไวรัสโคโรนาท่ีค้นพบ และมีมานานแล้ว โดยมีการพบเช้ือไวรัสโคโรนาที่ติดต่อใน มนุษย์แล้ว 6 สายพันธ์ุส่วนโรค COVID-19 เกิดจาก ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ 2019 ซึ่งทาให้มี อาการปอดอกั เสบรุนแรงได้ โดยเป็นเชือ้ ไวรัสทเ่ี พิ่งถกู ค้นพบใหม่ นับเปน็ สายพันธุ์ที่ 7 ของไวรสั โคโรนาทต่ี ิดตอ่ ในมนษุ ย์ 6 อาการของโรคเช้อื ไวรสั โคโรน่า (Covid-19) 1) มไี ขส้ งู มากกวา่ 37.5 องศา 2) ไอมีเสมหะเจบ็ คอนานติดตอ่ กันมากกวา่ 4 วนั 3) บางรายอาจมีอาการคล่ืนไสอ้ าเจียนท้องเสยี ร่วมดว้ ย 4) หายใจลาบากมไี อร่วมดว้ ยในบางรายรุนแรงถงึ ข้นั ปอดอกั เสบ หรอื ปอดบวม 5) ปวดเมือ่ ยตามตวั ทานอาหารไมค่ อ่ ยได้ 6) ปอดอักเสบอันนาไปสู่การเสียชีวิตซึ่งความรุนแรงของโรคนี้จะแตกต่าง กันตามความแขง็ แรงของแต่ละบุคคล 2.2.3 วิธีการรกั ษาโรคเช้อื ไวรัสโคโรน่า (Cord-19) เป็นวธิ กี ารรกั ษาแบบประคับประคองเพื่อบรรเทาอาการปุวยต่าง ๆ โดยปัจจุบันยัง ไมม่ วี คั ซนี ปูองกนั โรคเชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ (Coid-19) 22.4. วธิ กี ารปอู งกนั จากการตดิ โรคเช้อื ไวรสั โคโรน่า (Covid-19) 1) รักษาระยะห่างทปี่ ลอดภัยจากผู้ท่ีไอหรือจาม 2) ไมส่ ัมผัสตาจมกู หรอื ปาก 3) ปดิ จมูกและปากด้วยขอ้ พับดา้ นในขอ้ ศอกหรอื กระดาษชาระเมือ่ ไอหรอื จาม 4) เก็บตวั อย่บู า้ นเมื่อไมส่ บาย 5) หากมใี ช้ไอและหายใจลาบากโปรดไปพบแพทย์ตดิ ตอ่ ล่วงหน้า 6) ปฏบิ ัตติ ามคาแนะนาของหน่วยงานสาธารณสุขในพ้ืนท่ี 7) หลีกเล่ียงการไปสถานพยาบาลเพ่ือให้บุคลากรในระบบสาธารณสุขปฏิบัติงาน ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพยิ่งข้นึ และปกปูองคณุ รวมถึงคนอ่ืนๆ(World Health Organizatoin, 2563) ภาพท่ี 2 สถิตกิ ารติดเชอ้ื ไวรสั โคโรน่าทว่ั โลก ทีม่ า : https://www.mhesi.go.th/ 7 2.3. ความรู้เกย่ี วกับการป้องกนั เช้อื ไวรัสโดโรน่า (Covid – 19) 2.3.1 เหตผุ ลของข้อปฏบิ ตั ิเพอ่ื ปอู งกนั การรบั เชอ้ื 1. ระยะ 1-2 เมตร ท่ีแนะนาให้เว้นห่างจากกัน เนื่องจากการ พูด ไอจาม หรือ การตะโกน ของคนทั่วไป จะสง่ ฝอยน้าลายได้ไกล ถึง 1 เมตร แตถ่ ้าคนตัวโตและไอหรือจามแรงมากๆ อาจจะไกล ถงึ 2 เมตร 2. พื้นท่ีปิด ที่มีอากาศเย็น มีกระแสลม มีการเคลื่อนไหว มาก การแพร่กระจายของโรคจะ กวา้ งขวางกว่า รวมทั้งการกระจาย เชือ้ โรคทางละอองลอยไปได้ไกล จงึ ควรหลกี เล่ยี งพนื้ ท่ดี ังกล่าว 3. การใช้หนา้ กากปูองกันการรับเชื้อ เน้นให้ผู้ปุวยต้องใส่ หน้ากากอนามัย และแยกตัวจาก ชุมชน เป็นเร่ืองหลัก แต่ เมื่อมีผู้ ปุวยจานวนมาก และมีผู้แพร่เช้ือท่ีไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ปะปนอยู่ในชุมชน อีกท้ังการระบาดของโรคน้ีแพร่ได้เร็ว และผู้ติด เช้ือมีอาการรุนแรงมากได้ จึง จาเป็นตอ้ งให้คนไม่ปุวย และคนไมต่ ิด เชอ้ื ใส่หน้ากากปูองกันการแพรเ่ ชื้อและการรบั เช้ือด้วย 4. การล้างมือ มือเป็นพาหะนาเชื้อโรคที่สาคัญท่ีสุด การล้าง มือด้วยน้าและสบู่ เป็นสิ่งท่ีดี ท่ีสดุ เพราะทง้ั ทาความสะอาดและ ทาลายเชอื้ โรค 2.3.2 ขอ้ พึงปฏบิ ัติเพือ่ ปอู งกนั การรับเชื้อ 1. ทุกคน มือ: ลา้ งมือด้วยน้าและสบู่ อยา่ งถกู วธิ ี ล้างด้วยน้าและสบู่ให้ท่ัว นานพอ (20 วินาที) จะกาจัดคราบสกปรก และทาลายเชื้อ ไวรัส ไม่จาเป็นต้องใช้สบู่ที่ผสมสารฆ่าเช้ือ หรือ แอลกอฮอล์ • เมื่อไม่มีน้าและสบู่ จึงใช้แอลกอฮอล์ (60-70%) ทาทั่วมือ ทิ้งให้แห้ง แต่ถ้ามือมี คราบเป้อื นตอ้ งลา้ งดว้ ยนา้ ให้สะอาดกอ่ น แอลกอฮอลไ์ มส่ ามารถกาจัดเชื้อโรคในคราบเปอ้ื น หน้า: ไมส่ มั ผัสหน้าด้วยมือที่ยังไม่สะอาด เพราะปาก จมูก ตา เป็นทางเข้าของเช้ือ โรค • คนที่ไมต่ ดิ เชื้อ ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใช้หน้ากากเมอื่ อยูใ่ นสถานท่ี ที่ที่แน่ใจว่าไม่มีผู้ติดเช้ือ ใชห้ นา้ กากผา้ ท่ีมีคุณภาพ เพื่อปูองกัน อุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงว่าจะมีคนไอจามรด หากเกิดขึ้น รีบเอาหน้ากาก ออก ลา้ งหนา้ หรือเชด็ หนา้ หนา้ กากผา้ ใชซ้ ้าไดห้ ลงั ซกั ใหส้ ะอาด เวน้ หา่ ง: จากคนอืน่ ทีอ่ าจจะแพร่เชอ้ื ได้แก่ • คนท่ีมอี าการซ่งึ อาจจะเกดิ จากการติดเช้อื ทางเดนิ หายใจ เช่น ไข้ ไอ • หลีกเล่ียงการไปในที่ที่มีคนหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างย่ิง คนที่ไม่รู้จัก ถ้าจาเป็น ควรใสห่ นา้ กากผ้าและไมห่ นั หน้าเผชญิ กัน ส่ิงแวดล้อม: ทาความสะอาด กาจัดเช้ือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณท่ีอาจปนเปื้อน เสมหะ นา้ มูก น้าลาย จากผู้ปุวย และมไี วรัส 8 2. ผู้ติดเช้ือ ผูป้ ุวย • หนา้ กากปูองกนั : ใชห้ น้ากากอนามัยทางการแพทย์ และ ท้ิงอย่าง ขยะติดเช้ือ ใน ทท่ี ี่มกี ารจัดไวใ้ ห้ทเ่ี ปน็ ลกั ษณะปิด หรอื ทิ้ง ในถงุ หรอื ถงั ขยะปดิ ทใี่ ชเ้ ฉพาะหน้ากากตดิ เชือ้ • ไอ จาม ให้ปลอดภัยต่อคนอื่น: เว้นระยะห่าง และหันหน้า ออกจากคนอ่ืน ใช้ข้อ พบั ศอกดา้ นในปดิ ปากและจมูก หรือใช้ทิชชู ปิดปากและจมูก แล้วท้ิงในถังขยะติดเช้ือ หรือ ใส่ถุงท่ีปิด หากใส่ หน้ากากอนามัยอยู่ ให้ไอ จาม ในหน้ากากอนามัย ถ้าใช้ผ้าเช็ดหน้า ปิด ปากจมูก เสร็จแล้วให้พบั ด้านเปอื้ นไวข้ ้างใน เกบ็ ไวใ้ นถุงพลาสตกิ กอ่ นนาไปซัก • ห่างจากคนอนื่ : งดหรอื เลี่ยงการเขา้ ใกลค้ นอื่นน้อยกวา่ 2 เมตร 3. ผู้ดูแลผูป้ วุ ยโควดิ -19 นอกโรงพยาบาล 1. แยกผู้ปุวยจากคนอ่ืน เว้นระยะห่างให้เกิน 1-2 เมตร ตลอดเวลา และ หากเป็นไปได้ ผู้ปุวยควรจะอยู่ในห้องแยกและแยก ใชห้ อ้ งน้าจากคนอ่นื 2. ผู้ปุวยใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในห้องร่วมกับคนอื่น คน ที่ดูแลผู้ปุวย ใกล้ชิดก็ควรจะใส่หน้ากากอนามัยเมอ่ื อยู่ในห้องผูป้ วุ ย โดยเฉพาะอย่างย่ิงผู้ปุวยท่ีใส่ หนา้ กากอนามัยไมไ่ ด้ 3. ระมัดระวังในการสัมผัสเสมหะ น้ามูก น้าลาย และสิ่งคัด หลั่งอื่น จาก ผ้ปู วุ ย ใส่หนา้ กากอนามัย ผา้ กันเป้อื น และถงุ มอื ตามกรณี และลา้ งมือ 4. ทาความสะอาดบรเิ วณท่ีใชด้ ูแลผู้ปุวย และสงิ่ ของ เชน่ โทรศพั ท์ 5. ล้างมือด้วยน้าและสบู่ ใช้แอลกอฮอล์เม่ือไม่มีน้าและสบู่ (สานักงาน คณะกรรมการสขุ ภาพแห่งชาต,ิ 2563) ภาพที่ 3 การปอู งกนั จากเชอ้ื ไวรัสโคโรนา่ ท่ีมา : http://bansadet.go.th/ 9 2.4. วิธกี ารทาเจลแอลกอฮอลล์ า้ งมือ 2.4.2 องคก์ ารเภสัชกรรม กไ็ ด้แจกสูตรเจลล้างมอื แอลกอฮอลข์ นาด 100 กรมั สาหรบั ประชาชนท่ัวไป โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ อปุ กรณ์ 1. เอทิลแอลกอฮอล์ 95% ปรมิ าณ 68 กรัม 2. นา้ สะอาด 28 กรมั 3. กลเี ซอรนี 4 กรัม 4. คารโ์ บพอล 0.4 กรัม 5. ด่างไตรเอทาโนลามีน ปริมาณ 2 หยด วธิ ที าเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมือ 1. เทน้าสะอาดลงในภาชนะผสม แลว้ ค่อย ๆ โรยผงคารโ์ บพอลลงไป ละลายในน้าทีละนอ้ ย จนหมด 2. เทกลเี ซอรนี ลงไปผสม คนให้เข้ากนั 3. เตมิ แอลกอฮอล์ลงไปผสมจนเป็นเนอ้ื เดยี วกัน 4. เติมดา่ งไตรเอทาโนลามีนเพ่อื ปรบั ความหนืดของเนื้อเจล โดยค่อย ๆ คน ส่วนผสมทกุ อย่างอยา่ งชา้ ๆ จนเข้ากนั ดี 5. บรรจเุ จลแอลกอฮอล์ลงในภาชนะทมี่ ีฝาปิดสนทิ ภาพท่ี 4 อุปกรณใ์ นการทาเจลล้างมือ ทมี่ า : https://covid-19.kapook.com/ 10 2.5. คณุ สมบัติของกลิ่นกหุ ลาบ สานักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าทีมนักวิจัยจากประเทศเยอรมันทาการศึกษาพบว่าดมกล่ิน หอมอ่อน ๆ ของดอกกุหลาบในระหว่างการนอนหลับช่วยให้คนมีความจาดีข้ึนกว่าเดิมในวันรุ่งข้ึน โดยทีมนักวิจัยทีมน้ี ได้ศึกษาพบถึงกลไกที่แสดงให้เห็นว่า คนเราสามารถใช้กล่ินเป็นตัวกระตุ้นการ สร้างหน่วยความจาใหม่ๆ ในขณะที่เรานอนหลับและส่งผลให้อาสาสมัคร ท่ีเข้าร่วมการวิจัยมี ความสามารถในการจดจาไดด้ ีขน้ึ กว่าเดมิ ผลการศกึ ษาน้ไี ด้รับการตพี มิ พใ์ นวารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดังไซแอนซ์ ซึ่งระบุว่าในระหว่างท่ี คนเรานอนหลับ ความจาจะถูกประสานรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันทาให้มีประสิทธิภาพที่สูงข้ึน และ กล่ินหรือแม้กระทงั่ ตวั กระตุน้ อ่นื ๆ ก็สามารถกระตุน้ ใหก้ ระบวนการดังกลา่ วน้ี ซงึ่ นาไปสู่การเรียนรู้ที่ ดขี ้ึนสามารถพัฒนาได้ดีย่ิงขนึ้ แจน บอร์นและคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่ง ลูเบ็ก ในประเทศเยอรมันนี้ได้ ทาการศึกษาโดยให้อาสาสมัครจานวน 74 คนเรียนรู้ในการเล่นเกมส์ ซ่ึงมีลักษณะคล้ายเกมส์เพิ่ง ความสนใจหรอื “คอนเซน็ เตรช่ัน” ท่ใี ห้ผ้เู ล่นตอ้ งจบั คู่วตั ถหุ รอื ไพ่ซ่ึงจะเปิดให้ดแู คค่ รั้งเดยี วกอ่ น ท้งั น้พี บว่าในขณะทีใ่ ห้อาสาสมัครกาลังทาการทดสอบนักวจิ ยั ไดใ้ ห้อาสาสมัครบางส่วนสูดดม กลิ่นกุหลาบ และหลังจากนั้นอาสาสมคั รก็เข้าไปนอนในอุโมงค์เครื่องสแกนสมองเอ็มอาร์ไอซ่ึงใช้เพ่ือ ศกึ ษาดกู ารทาหนา้ ท่ี ่ีของสมองอาสาสมคั รในระหวา่ งท่ีพวกเขากาลังนอนหลับ และในระหว่างการนอนหลับของอาสาสมัครทีมของบอนก็ไดป้ ล่อยกลิ่นหอมกุหลาบชนิดเดิม เข้าไปให้พวกเขา ได้ดมอีกหลายระยะ ในวันถัดมาอาสาสมัครถูกให้ทาแบบทดสอบอีกคร้ังจากที่ได้ เรียนรู้ไปแล้วเมื่อวาน “หลังจากคืนท่ีนอนสูดกลิ่นกุหลาบแล้วผู้เข้าร่วมการวิจัยใจสามารจดจาได้ 97.2 % ของคไู่ พ่ที่พวกเขาไดเ้ รียนรู้ก่อนไปกอ่ นนอน” ในขณะท่ีกลุ่มอาสาสมัครท่ีไม่ได้ให้สูดดมกล่ิน หอมกหุ ลาบสามารถจดจาได้เพียง 86 % ของค่ไู พ่ นักวิจัยทีมน้ีกล่าวด้วยว่าระยะของการนอนหลับก็มีส่วนสาคัญเป็นอย่างมากเนื่องจาก ผลการวิจยั น้ี กม็ สี ่วนเก่ียวโยงไปถงึ การถกเถยี งกนั เก่ียวกบั ประเด็นทว่ี ่ามนุษย์จะเรียนรู้ในขณะที่นอน หลบั ในลักษณะเดยี วกันกบั สตั วบ์ างประเภททม่ี ีการศึกษาพบกนั หรือไม่ ท้งั น้ีมกี ารวจิ ัยพบวา่ หนูเป็นต้นท่ีเม่ือให้เรียนรู้เส้นทางเขาวงกตใหม่ ๆ แล้วจะซ้อมทบทวน การเคลือ่ นไหวในขณะทน่ี อนหลับ และเช่นเดยี วกนั กับนกพวกท่ีมีเสียงไพเราะเหมือนเพลง ก็จะซ้อม รอ้ งเพลงของพวกมันในขณะที่หลบั เช่นกนั สว่ นเรื่องของการดมกล่ินหอมต่อการจาน้ัน ทีมของบอนกล่าวว่า กลิ่นหอมของกุหลาบช่วย พฒั นาการเรียนรู้จริงๆ โดยจะต้องให้ในระยะการนอนหลับท่ีเรียกว่า คลื่นต่า หรือ สโลว์เวฟ แต่ผล 11 ขอ ง ก ล่ิ น น้ั น พ บ ว่ า ไ ม่ มี ผ ล เ ลย เ มื่ อ ใ ห้ ด ม ใ น ร ะ ย ะ ก า ร หลั บ ที่ เ ป ลื อ ก ต า ก ร อ ก ไ ป ม า (กลน่ิ กหุ ลาบช่วยกระตุน้ หนว่ ยความจา,2558) 2.6. ทฤษฎแี ละงานวิจัยทเี กี่ยวข้อง โครงการผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือขนาดพกพากลิ่นกุหลาบ 75% ผู้จัดทาโครงการ ได้ศึกษาค้นคว้าบทความงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ รพีพรรณ สูณรงค์ (2556) ได้ทาการศึกษาวิจัยเร่ืองการติดเชื้อไวรัสโคโรนาทางเดินหายใจ เชื้อไวรัสโคโรนาเป็นสาเหตุทาให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจในคนงานวิจัยนี้ได้ศึกษา ระบาดวิทยาเชิงโมเลกุล 1. เพื่อจัดจาแนกสายพันธุ์ระดับโมเลกุลของเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีการติดเชื้อในผู้ปุวยไทย ช่วงเดือนมกราคม 2555 ถึงเดือนธันวาคม 2556 จากตัวอย่างน้าล้างโพรงจมูกและสารคัดหลั่ง จากโพรงจมูกจานวนทั้งหมด 5,833 ตัวอย่างจากโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดชลบุรีด้วยวิธี POLYMERASE CHAIN REACTION (PCR) ด้วยการ 2. วิเคราะห์ที่บริเวณยืน RNA-DEPENDENT RNA POLYMEARSE (RDRP) ให้ผลบวกต่อเชื้อ ไวรัสโคโรน่า 0.79% (46 / 5,833) ในกลุ่มประชากรที่ศึกษาเด็กอายุ 0-5 ปีมีอัตราการติดเชื้อ ไวรัสโคโรนามากที่สุด 54.35% (25/46) โดยอัตราส่วนของเพศหญิงต่อเพศชายเท่ากับ 1: 1.08 การติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสามารถพบได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบการติดเชื้อได้สูงในฤดูฝนช่วงเดือน พฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมนอกจากนี้เมื่อนาตัวอย่างที่ให้บวกต่อไวรัสโคโรนามาทาการจัดจาแนก สายพันธุ์ด้วยการวิเคราะห์ที่บริเวณยืน SPIKE ด้วยวิธี PCR เพื่อสร้าง PHYLOGENETIC TREE จัด จาแนก HCOV 3. ผลการวิจัยพบว่าการศึกษาในครั้งนี้ออกได้เป็น 4 สายพันธุ์คือ HCOV-229E 10.879% (5/46), HCOV-OC43 6.52% (3/46), HCOV-NL63 41.30% (19/46) และ HCOV-HKU1 41.30% (19/46) การศึกษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาในประชากรไทยในช่วงปี 2555-2556 จะเป็น ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการศึกษาเฝูาระวังปูองกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่นๆ ใน ประชากรไทย แก้วกัลยาโสตถิสวัสดิ์. (2556) ได้ทาการศึกษาวิจัยเรื่องประสิทธิภาพของเจลล้างมือที่ ผลิตจากเม่าหลวงงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเจลล้างมือที่ผลิตจากเม่า หลวงในการทาลายจุลินทรีย์ก่อโรคและการต้านอนุมูลอิสระโดยการสกัดสารสาคัญอย่างหยาบ จากเม่าผงที่บดละเอียดแล้วนามาสกัดด้วยเครื่องกลั่นระเหยสุญญากาศ ทาให้ได้สารสกัดออกมา ซ่ึงคิดเป็นค่า %YIELD โดยเฉลี่ยคือ 7,344 ในการทดสอบประสิทธิภาพโดยการหาความเข้มข้นต่า ที่สุดของสารสกัดจากเม่าหลวงในการยับยั้งการเจริญ (MINIMUM INHIBITORY CONCENTRATION: 12 MIG) และทาลาย (MINIMUM BACTERICIDAL CONCENTRATION: MBC) เพื่อทดสอบซึ่งพบว่าค่า MIC และ MBC ของ BACILLUS CEREUS และ ESCHERICHIA COLI คือความเข้มข้นของสารสกัดเม่าหลวงท่ี ระดับ 40 มิลลิกรัม / มิลลิลิตรและ 80 มิลลิกรัม / มิลลิลิตรตามลาดับในขณะที่ค่า MIC และ MBC ของ SALMONELLA SP. และ STAPHYLOCOCCUS AUREUS คือ 20 มิลลิกรัม / มิลลิลิตรและ 40 มิลลิกรัม / มิลลิลิตรตามลาดับและเมื่อศึกษาเปรียบเทียบกับผลของแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ พบว่าที่ระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์สามารถยับยั้งการเจริญและทาลาย จุลินทรีย์ก่อโรคที่ใช้ทดสอบได้ทุกสายพันธุ์หลังจากนั้นจึงได้เลือกระดับความเข้มข้นของสารสกัด เพื่อใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เจลล้างมือ ได้แก่ สูตรที่ 1 คือสูตรมาตรฐาน, สูตรที่ 2 คือมี ความเข้มข้นของสารสกัด 80 มิลลิกรัม / มิลลิลิตร, สูตรที่ 3 มี 100 มิลลิกรัม / มิลลิลิตร, และ สูตรที่ 4 มี 120 มิลลิกรัม / มิลลิลิตรสาหรับผลการทดสอบความคงตัว (ความเสถียร) ทาง กายภาพและชีวภาพของเจลล้างมือพบว่าความคงตัวของสีเจลล้างมือสูตรที่มีสารสกัดเม่าหลวง เป็นส่วนผสม ได้แก่ สูตรที่ 2, 3, และ 4 อยู่ในช่วงเฉดสี GREYED- ORANGE ในขณะที่ช่วงของสีเจ ลล้างมือสูตรมาตรฐาน (สูตรที่ 1) อยู่ในช่วงเฉดสี GREYAD (VWHITE สาหรับผลการวิเคราะห์ค่า ความเป็นกรดต่างพบว่าเจลล้างมือสูตรที่ 4 มีค่า PH เฉลี่ยต่าที่สุดคือ 5,084 ในขณะที่ในเจลล้าง มือสูตรที่ 3 และ 2 มีค่า PH เฉลี่ยอยู่ที่ 5.222 และ 5.277 ตามล้าดับเมื่อเปรียบเทียบกับสูตรที่ 1 ซึ่งมีค่า PH เฉลี่ยอยู่ที่ 6.813 ผลการทดสอบประสิทธิภาพของเจลล้างมือในการทาลายจุลินทรีย์ ก่อโรคด้วยวิธี PAPER DISK DIFFUSIOR ผลการวิจัยพบวา่ เจลล้างมอื สูตรที่ 2, 3, และ 4 มีประสิทธิภาพในการทาลายเช้ือทดสอบทุก สายพันธ์ยุ กเว้น E.coli ไดด้ ีกว่าสูตรที่ 1 เม่ือพิจารณาจากค่าเฉลี่ยเส้นผ่าศูนย์กลางของบริเวณยับย้ัง (Inhibition Zone) ท่ีสูงกวา่ สาหรบั ผลการวิเคราะหค์ วามสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของเจลล้าง มือทั้ง-สูตรพบว่าตลอดระยะเวลา 30 วันสูตรที่ 1 มีคาเปอร์เซ็นต์ความสามารถในการต้านอนุมูล อิสระต่ากว่าทุกสูตรในขณะที่สูตรที่ 2 มีเปอร์เซ็นต์ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง และคงที่กว่าสูตรท่ี 3 และ 4 และเม่ือทาการศึกษาการยอมรับทางประสาทสัมผัสของผลิตภัณฑ์เจ ลลา้ งมอื ท้ัง 4 สูตรโดยใชว้ ิธี Five-Point-friedonic Scale ในอาสาสมัครจานวน 25 คนโดยมีตัวแปร ที่ใช้ในการทดสอบคอื สกี ลิ่นเนอื้ สมั ผัสและความพงึ พอใจโดยรวมแล้วนาข้อมูลท่ีได้มาทาการวิเคราะห์ ทางสถิติโดยการใช้ Least Significant Difference Test (LSD) โดยมีนยั สาคัญทางสถิติท่ีระดับความ เช่ือมั่น 6.05 พบว่าอาสาสมัครผู้ทดสอบมีความพึงพอใจในทุกตัวแปรคือด้านสีกสิน, เนื้อสัมผัสและ ความพงึ พอใจโดยรวมต่อผลติ ภณั ฑ์เจลล้างมือสตู รมสี ารสกดั เมา่ เปน็ สว่ นผสม ได้แก่ สูตรที่ 2, 3, และ 4 ทไี่ มแ่ ตกตา่ งกนั อย่างมีนยั สาคัญที่ระดบั ความเชื่อมั่นเท่ากับร้อยละ 95 แต่ 4 ทดสอบต่อผลิตภัณฑ์ 13 เจลล้างมือสูตรดงั กลา่ วมากทส่ี ุดมีความแตกต่างจากผลิตภณั ฑเ์ จลล้างมือสตู รที่ 1 ซ่ึงพบว่าผู้ทดสอบมี ความพงึ พอใจในทกุ ตัวแปรที่ใช้ วสิ สตุ า คมุ้ วงษา. (2558) ได้ทาการศกึ ษาวิจัยเรอ่ื งเจลลา้ งมอื ผสมสารสกัดจากเปลอื กผลไม้ งานวจิ ยั น้ีมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อศกึ ษาประสทิ ธิภาพในการยับย้ังแบคทีเรียก่อโรคของเจลล้างมือผสมสาร สกัดจากเปลือกผลไม้ 3 ชนิดคือเปลือกส้มโอเปลือกมังคุดและเปลือกกล้วยน้าว้าดิบโดยทาการสกัด เปลอื กผลไม้ด้วยเอกเขนไดคลอโรมเี ทนเอทานอลความเขม้ ข้น 95 เปอร์เซ็นต์และเหล้าขาว (ดีกรี 40) จากน้ันนาสารสกัดท่ีได้มาทาการทดสอบประสิทธิภาพในการยับย้ังการเจริญของแบคทีเรี ยก่อโรค จานวน 5 สายพันธุ์คือ Bacillus cereus, Escherichia coli, Staphylococcu5 aureus, S. epidermidis dat Salmonella Typhimuriumy daugi agar well diffusion Taunus ใช้ยาแอมพิซิลินเป็นสารมาตรฐานพบว่าค่าความเข้มข้นต่าสุดที่มีฤทธ์ิในการยับย้ังการเจริญของเช้ือ (AMIC) และความเข้มข้นต่าสุดที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเช้ือ (MBC) ของสารสกัดในแต่ละตัวทาละลายมีคา อยูร่ ะหว่าง 4.88-1,250 และ 4.88-2,500 ไมโครกรัมตอ่ มลิ ลิลติ รตามลาดับทง้ั นีค้ า่ ความเข้มข้นต่าสุด ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อของสารสกัดจากเปลือกส้มโอของชั้นไดคลอ โรมีเทนสามารถ ยับย้ังการเจริญของ E. Cereus ได้ดีท่ีสุดโดยมีค่า FMIC เท่ากับ 39.06 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรสาร สกดั จากเปลอื กมงั คุดของชนั้ เฮกเซนและไตคลอโรมีเทนสามารถยับย้ังการเจริญของ E. cereus ได้ท่ี ทส่ี ดุ โดยมคี ่า MIC เท่ากบั 4.88 ไมโครกรมั ต่อมิลลิลิตรสาหรับสารสกัดจากเปลือกกล้วยน้าว้าดิบของ ขั้นไดคลอโรมีเทนสามารถยับย้ังการเจริญของ B. Cereus ได้ดีที่สุดโดยมีค่า MIC เท่ากับ 312.5 ไมโครกรัมต่อมลิ ลิลิตรอย่างไรก็ตามจากการศึกษาประสิทธิภาพในการยับย้ังแบคทีเรียก่อโรคของเจ ลล้างมือผสมสารสกัดจากเปลือกผลไม้ 3 ชนิด ภายหลังจากการเก็บรักษาเจลล้างมือเป็นเวลา 28 วัน พบว่าฤทธ์ใิ นการยบั ยงั้ การเจริญของ B. Cereus และ E. coli ลดลงเพียงเลก็ น้อย ผลการวจิ ัยพบวา่ ประสิทธิภาพของสารสกัดจากเปลือกผลไม้จานวน 3 ชนิดซึ่งใช้ระยะเวลา ในการสกัดเป็นเวลา 5 วันในตัวทาละลายอินทรีย์ที่แตกต่างกันมาทดสอบประสิทธิภาพในการยับย้ัง แบคทีเรียกอ่ โรคจานวน 5 สายพนั ธพุ์ บวา่ ชนดิ ของเปลือกผลไม้และตัวทาละลายท่ีใช้ในการสกัดมีผล ตอ่ ประสทิ ธภิ าพในการยับย้ังเชอ้ื แบคทีเรีย ผลการศึกษานไี้ ดร้ ับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดังไซแอนซ์ ซึ่งระบุว่าในระหว่างท่ี คนเรานอนหลับ ความจาจะถูกประสานรวมเข้าเป็นหน่ึงเดียวกันทาให้มีประสิทธิภาพท่ีสูงขึ้น และ กล่ินหรือแมก้ ระท่ังตัวกระต้นุ อืน่ ๆ กส็ ามารถกระตุ้นให้กระบวนการดงั กลา่ วน้ี ซง่ึ นาไปสู่การเรียนรู้ที่ 14 ดีขึ้นสามารถพัฒนาได้ดีย่ิงขึ้น สานักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าทีมนักวิจัยจากประเทศเยอรมัน ทาการศึกษาพบว่าดมกลนิ่ หอมออ่ น ๆ ของดอกกหุ ลาบในระหวา่ งการนอนหลบั ชว่ ยให้คนมีความจาดี ขึ้นกว่าเดิมในวันรุ่งข้ึน โดยทีมนักวิจัยทีมน้ี ได้ศึกษาพบถึงกลไกที่แสดงให้เห็นว่า คนเราสามารถใช้ กลน่ิ เป็นตวั กระตนุ้ การสร้างหนว่ ยความจาใหมๆ่ ในขณะทเ่ี รานอนหลับและสง่ ผลใหอ้ าสาสมัคร ท่ีเข้า รว่ มการวิจัยมคี วามสามารถในการจดจาไดด้ ีข้ึนกว่าเดิม ในเทศกาลแหง่ ความรกั เรามักนึกถึงดอกกุหลาบ ใช้ส่ือแทนความรักอันเป็นสากล ปัจจุบันมี กหุ ลาบมากกว่า 1,000 ชนิด ปลูกกระจายอยูท่ วั่ โลก (1) วันนี้ทางสานักงานข้อมูลสมุนไพรจะพาท่าน ไปรู้จักกับกุหลาบมอญ (Damask Rose) หรือดอกย่ีสุ่น กุหลาบพันธ์ุดั้งเดิม ท่ีถูกนาเข้ามาปลูกใน ประเทศไทยในชว่ งรชั กาลที่ 2 มีช่อื วทิ ยาศาสตร์ว่า Rosa damascena Mill. อยู่ในวงศ์ ROSACEAE เป็นไมพ้ มุ่ สูง 1 - 2 ม. ลาตน้ และกิ่งมีหนามแหลม ใบประกอบขนนกเรียงสลับกัน ใบย่อยรูปไข่ 5 - 7 ใบ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ดอกสีขาว ชมพูอ่อนถึงสีชมพูเข้ม และสีแดง มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อท่ีปลายก่ิง กลีบดอกซ้อนกันหลายชั้น เม่ือดอกบานเต็มท่ีวัดขนาดเส้นผ่าน ศูนย์กลางได้ 4.5 - 7 ซม. พบได้ในหลายพื้นท่ีทั่วโลก ท้ังเอเชีย (พบมากในอินเดีย) ประเทศแถบ ตะวันออกกลาง และยุโรป โดยเฉพาะในประเทศอิหร่าน ตุรกี และบัลกาเรีย มีการผลิตน้ามันหอม ระเหยจากดอกกุหลาบมอญกนั อย่างแพรห่ ลาย โดยเฉพาะการใชป้ ระโยขนใ์ นการผลติ เครอื่ งสาอาง ในประเทศไทย มีการใช้ประโยชน์จากน้ามันดอกกุหลาบมอญมาช้านาน โดยการนาเข้ามา จากประเทศอิหร่านหรอื ซเี รยี เรยี กวา่ “นา้ ดอกไม้เทศ” ไดจ้ ากการละลายน้ามันดอกกุหลาบในน้าต้ม สุก นิยมนามาใช้เป็นน้ากระสายยาในยาขนานต่างๆ สรรพคุณแผนโบราณของดอกกุหลาบมอญคือ แก้ไข้ตวั ร้อน แกก้ ระหาย แกอ้ ่อนเพลยี และบารงุ กาลงั พิเชฐ บัญญัติ ( 2563) หลกั ทางระบาดวิทยาการเกิดโรค จะเกิดได้จากปัจจัยหลัก 3 ตัว คือ ตัวเรา (Host) ตัวเช้ือโรค (Agent) และตัวสิ่งแวดล้อม (Environment) จะค่อยๆขยายความไปนะ ครบั ไวรสั อ่ฮู น่ั เป็นโคโรนาไวรสั กอ่ โรคทางเดนิ หายใจตวั ใหม่ตัวที่ 7 โดย 4 ตัวแรกรู้จักกันมานานแล้ว ตวั ท่ี 5 คอื ไวรัสโคโรนาซาร์ส (SARS CoV)ตวั ที่ 6 คอื ไวรสั โคโรนาเมอร์ส (MERS CoV) และตัวลา่ สุดไวรสั อู่ฮนั่ หรอื ไข้หวัดโคโรนาพันธุ์ใหม่ 2019 (Novel Corona Virus 2019) จะเรียกว่า “วี 7 (CoV7)” เหมือนการ์ตูนไอ้มดแดงก็ได้ และมีโอกาสเกิดตัวใหม่ๆตามมาอีกในอนาคตได้ ใน ลกั ษณะโรคตดิ ตอ่ จากสตั วส์ ู่คน เม่อื เป็นไวรัสตัวใหม่ พอเกิดโรค ก็ถือว่าเป็น “โรคอุบัติใหม่” ความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับตวั เชือ้ โรคช่วงแรกก็จะไม่มากนัก ความรู้ก็จะได้เพ่ิมเติมระหว่างการเกิดโรคและ ดูแลรักษาผู้ปุวย ดังน้ัน ข่าวแต่ละวันเก่ียวกับตัวเชื้อโรค อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ เช่น ระยะฟักตัว วิธีการติดต่อ ความรุนแรงของโรค เป็นต้น เวลาอ่านข่าวจึงต้องดูวันท่ีออกข่าวประกอบด้วย วัน เปลีย่ น ข้อเท็จจริงก็อาจเปลีย่ นได้ ระยะฟกั ตัวของโรคไวรสั อูฮ่ ั่น ช่วงแรกๆก็คาดว่าราวๆ 2-7 วัน แต่ พอมขี อ้ มูลมากข้ึน วเิ คราะหจ์ ากการตรวจวิเคราะหเ์ ชือ้ ในผู้ปุวยหรือผู้สัมผัส บางรายก็ยาวข้ึนเป็น 7- 15 10 วัน ข้อมูลในช่วงหลังๆจึงเป็น 2-14 วัน หรือ 7-14 วัน แต่ก็ไม่กระทบต่อการเฝูาระวัง คัดกรอง หรือกักกันทีก่ าหนดไว้ 14 วัน แลว้ ถามว่าระยะฟักตวั จะยาวนานกว่านี้ได้อีกไหม จากประสบการณ์ท่ี ผ่านมาโรคเฉียบพลัน (Acute) จะไม่เกิน 14 วัน ไม่ยาวนานเหมือนโรคติดเชื้อไวรัสเรื้อรังแบบเอดส์ และจากข้อมูลผลการตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ ารพบวา่ จะให้ผลลบ (ไมม่ ีเชือ้ ในตวั ผู้ปุวยหรือผู้สัมผัส) ไม่ เกนิ 10 วันการติดตอ่ ชว่ งแรกเกดิ จากสตั ว์สู่คน แต่ช่วงถัดมาพบผู้ปุวยที่ติดต่อกันในบ้านในครัวเรือน เดียวกัน จึงสรุปได้ว่า ไวรัสอู่ฮ่ัน ติดจากคนสู่คนได้ วิธีการติดต่อ ไวรัสอู่ฮั่น ทาให้เกิดโรคทางเดิน หายใจ ซ่ึงโดยท่ัวไปกลุ่มโรคทางเดินหายใจก็จะติดได้ 2 แบบคือ ทางลมหายใจหรือทางอากาศ (Air born) กับทางสัมผัสละอองฝอยน้ามูก/น้าลาย/เสมหะ/น้าตาผู้ปุวย (droplets) สองทางนี้ต่างกันท่ี ขนาดของฝอยละออง คือ ถ้าติดเชื้อทางลมหายใจ (Air born) จะเกิดจากเชื้อโรคอยู่ในฝอยละออง ขนาดเลก็ กว่า 5 ไมครอน จะเบาและฟุูงในอากาศหรือลอยไปกับลมหายใจได้ไกลกว่า 6 ฟุต โรคที่ติด แบบนีเ้ ช่น วัณโรค หัด สุกใส แตไ่ วรัสอู่ฮนั่ ฝังตวั อยู่ในละอองฝอยขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน จึงหนัก และไม่ฟุงู กระจาย จะตกพ้นื ห่างจากแหลง่ กาเนดิ ไม่เกนิ 3 ฟุต เรียกวา่ droplet การตดิ ตอ่ จงึ เกิดจาก การสัมผัสมากกว่า การหายใจ ไอ จาม รดกนั โดยตรง มีโรคท่ตี ิดแบบนี้นอกจากไวรสั อู่ฮั่น เชน่ ไข้หวัด ใหญ่ โรคซาร์ส โรคเมอร์ส อีโบลา ไข้หวัดนกธรรมชาติของไวรัส มันอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องอาศัย เซลลข์ องคนหรอื สัตว์อยู่ เมื่ออย่ขู ้างนอกรา่ งกายคนหรอื สัตว์ มันจะบอบบางและอ่อนแอ แม้จะยังไม่ มีข้อมูลเฉพาะตัวไวรัสอู่ฮ่ันอย่างชัดเจนว่า อยู่รอดในสภาพภายนอกสิ่งมีชีวิตหรือในสภาพแวดล้อม นานเท่าใด แต่ข้อมูลเทียบเคียงและข้อมูลเบ้ืองต้น ไม่แตกต่างจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มากนักเชื้อไวรัส อย่ใู นละอองฝอยนา้ มกู นา้ เสมหะ นา้ ลายและน้าตาอยู่รอดในอากาศได้เพยี ง 5 นาที แต่ถ้าอยู่บนวัสดุ พื้น โต๊ะ ลูกบิดประตู อยู่ได้ 7 – 8 ชั่วโมง อยู่ในผ้าหรือกระดาษทิชชู 8-12 ชั่วโมง บนโต๊ะพื้นเรียบ 24 - 48 ช่ัวโมง ในน้า 4 วัน แต่ถ้าเก็บในตู้เย็นท่ีอุณหภูมิต่ากว่า 4 องศาเซลเซียส อาจอยู่ได้ถึง 1 เดือน สภาพอากาศท่ีหนาวเย็น ไวรัสก็จะอยู่รอดได้นานข้ึน แต่ถ้าอากาศร้อน แดดแรง เชื้อไวรัสใน ส่ิงแวดล้อมก็ตายเร็ว เมื่อลักษณะการติดต่อเป็นแบบdroplet เราจึงเน้นย้าให้ “กินร้อน ช้อนกลาง ลา้ งมอื ” และใสห่ นา้ กากอนามัยเม่อื เข้าไปอย่ใู นทช่ี ุมชน ผ้คู นหนาแน่นแออัดหรือเบียดเสียดกัน คนที่ มีวิถีชีวติ ท่ัวไป ไม่เขา้ ไปพน้ื ท่เี สยี่ งดงั กล่าว จะไม่ใช้หน้ากากอนามัยก็ได้ แต่เร่ืองล้างมือบ่อยๆ สาคัญ มากเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยสาหรับบุคคลทั่วไป ใช้ชีวิตทั่วๆไป ก็ใช้ “หน้ากากอนามัยผ้า”ได้ เพราะ ดักจับละอองฝอยนา้ มกู นา้ ลายเสมหะที่ใหญ่กวา่ 5 ไมครอนแบบ droplet ได้ คาดว่า อาจต้อง ทาหน้ากากผ้าใช้กันเอง เพราะสะดวก ซักได้ หาง่าย ไม่สิ้นเปลือง และสามารถทาใช้เองได้ ไม่ต้อง กลวั ใครฉวยโอกาสกักตุน หรือแย่งกัน จนขาดตลาดส่วนหน้ากาก N95 เหมาะสาหรับผู้ท่ีต้องเข้าไป ดแู ลผู้ปวุ ย ผู้ตดิ เชอื้ ไวรสั อูฮ่ ่ันโดยตรง ซ่ึงมีโอกาสสัมผัสเช้ือหรือมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไปการ ทาลายเช้ือไวรัสก็คล้ายๆไข้หวัดใหญ่ สามารถทาลายเช้ือได้ด้วยคลอรีน แอลกอฮอล์ สบู่ ผงซักฟอก และไวรสั จะตายทอี่ ุณหภมู ิราว 60 องศาเซลเซียสในเวลา 30 วนิ าที 16 เมื่อคนติดเชื้อไวรสั อู่ฮ่ันแลว้ อาจจะเกดิ ได้ 4 รปู แบบ คอื 1) ตดิ เชอ้ื แลว้ ต้านเชื้อไดไ้ มพ่ บเชือ้ ในร่างกาย กลุ่มนี้จะไมแ่ พร่เช้อื และมีภมู ิคุ้มกนั 2) ติดเชื้อแล้วต้องต่อสู้กันระยะหนึง่ กวา่ จะเอาเช้อื อยูแ่ ต่ไม่มีใครเพล่ียงพล้ากันทั้งตัวคนและ ตวั เชื้อโรคจะพบไวรัสในคนแต่ไมม่ ีอาการ จะสามารถแพร่เชื้อได้ระยะหน่งึ แต่ไม่เกนิ 14 วนั 3) ตดิ เชือ้ แล้วเกดิ อาการไม่รุนแรง จะสามารถแพรเ่ ชอ้ื ได้ แต่ไมเ่ กิน 14 วัน 4) ตดิ เช้ือแลว้ เกดิ อาการรนุ แรง มภี าวะแทรกซ้อนเกิดปอดบวมเล็กนอ้ ยไปจนถึงระบบหายใจ ล้มเหลว ถ้าดแู ลประคับประคองใส่เครอื่ งชว่ ยหายใจ กลุ่มนี้อาจหายหรือเสียชีวิตได้ กลุ่มน้ีพบไม่มาก และท่ีตายกน็ อ้ ยกว่า 3% ใครติดเชื้อแล้วจะเป็นแบบไหน ก็ข้ึนอยู่กับสภาพร่างกายและภูมิต้านทาน ของแตล่ ะคน เด็ก คนชรา คนท่ีมีโรคประจาตวั เรอื้ รังหรือภูมิคุ้มกันผดิ ปกติ หรือได้ยากดภูมคิ มุ้ กนั จึงมี ความเสีย่ งกว่าคนอ่ืนๆ นอกจากกนิ รอ้ น ช้อนกลาง ล้างมือแล้ว ต้องใส่หน้ากากอนามัยเม่ือออกนอก บา้ นไปทากจิ กรรมตา่ งๆดว้ ยเลา่ ยาวมาจนครบปัจจัยเกิดโรคแล้วนะครับ ทั้งตัวคน ตัวเชื้อโรค และตัว สิง่ แวดล้อม อยากจะอธิบายเกี่ยวกับโรคระบาด การระบาด ภาระโรค ท่ีจะชว่ ยไขความเขา้ ใจว่า... พบมโี รคระบาดไวรัสอูฮ่ ่ันในไทยต้ัง 14 ราย แตท่ าไมยงั บอกวา่ ไม่มีการระบาด และ ความรวดเร็วในการระบาดจนมีผู้ปุวย (Morbidity)มาก กับความรุนแรงของโรคระบาด (Severity) ไม่ใช่ส่ิงเดียวกัน แต่เป็นภาระ (Burden) แก่ผู้คน สังคม ประเทศชาติได้เหมือนกัน แต่ “ติดมาก” กบั “ตายมาก” มคี วามหมายไม่เหมือนกนั เมธินี ลกั ษมีการค้า ( 2562 ) แอลกอฮอล์เป็นสารละลายท่ีนิยมใช้เป็นยาใช้ภายนอกในการ ฆ่าเชื้อจุลชีพบนผิวหนัง อีกทั้งในปัจจุบันมีการใช้แอลกอฮอล์เจลในการทาความสะอาดมือกันอย่าง แพรห่ ลาย ซ่ึงเปน็ วธิ ที ี่สะดวกและสามารถทาความสะอาดมือไดโ้ ดยไม่ต้องใช้น้า วัตถุประสงค์: เพื่อ ศกึ ษาประสทิ ธภิ าพการฆ่าเชอ้ื ของแอลกอฮอล์เจลเปรียบเทียบกับสารละลายแอลกอฮอล์ 70% ชนิด ต่างๆที่ผลิตโดยโรงงานเภสัชกรรมทหาร วิธีการศึกษา: ทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเช้ือ แบคทีเรีย Staphylococcus aureus, Escherichia coli, Bacillus subtilis, Pseudomonas aeruginosa และเชื้อรา Candida albicans ด้วยวิธี Disc diffusion method ผล การศึกษา: Inhibition zone เฉลี่ยของแอลกอฮอล์เจล Professional Alcohol Cleanser® มีค่า เท่ากับ 11.50 0.00, 11.33 0.58, 10.04 0.53 และ 11.23 0.40 mm ในการฆ่าเช้ือแบคทีเรีย S. aureus, E. coli, B. subtilis และ P. aeruginosa ตามลาดับ และมีค่าเท่ากับ 9.67 0.29 mm ใน การฆา่ เช้อื รา C. albicans จากการวเิ คราะหท์ างสถิติโดยใช้โปรแกรม ANOVA พบว่าประสิทธิภาพ การฆ่าเช้ือแบคทีเรียของแอลกอฮอล์เจล Professional Alcohol Cleanser® เปรียบเทียบกับ สารละลายแอลกอฮอล์ Ethanol 70%®, DPF Alcohol 70%® และ Mild Professional Alcohol Cleanser® ที่ระดับความเชอ่ื มนั่ 95% มีค่าไมแ่ ตกต่างกันอย่างมีนัยสาคญั และพบวา่ ประสทิ ธิภาพใน การฆ่าเช้ือ S. aureus สูงที่สุด แต่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเช้ือรา C. albicans ต่า 17 ที่สุด สรุป: ผลิตภัณฑ์จากแอลกอฮอล์เจลและสารละลายแอลกอฮอล์ 70%มีประสิทธิภาพการฆ่า เชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์มาตรฐานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ แต่แอลกอฮอล์เจล Professional Alcohol Cleanser® มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อรา C. albicans ต่าที่สุดจาก ผลิตภัณฑท์ ั้งหมด พระครูสมุห์สนิทวงศ์ วุฑฺฒิวโส และ ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์ ( 2563 ) บทความน้ีเขียนข้ึน ท่ามกลางสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโควดิ -19ทท่ี ว่ั โลกกาลงั เผชิญกับวิกฤตการณ์ของโรคติดต่อที่ แพร่กระจายไปทกุ ภูมภิ าคกว่า180ประเทศและมีผู้ติดเชื้อท่ัวโลกหลายล้านคน มีผู้เสียชีวิตหลายแสน ราย สาหรับประเทศไทยได้รับความเสียหายท้ังในมิติของการดาเนินชีวิตของประชาชนสุขภาพ เศรษฐกจิ และสงั คม เพราะมาตรการรฐั ทอี่ อกมาเพื่อควบคมุ และปูองกันเชื้อโรคโดยเฉพาะการสั่งปิด กจิ การบางประเภทช่ัวคราว ทาใหป้ ระชาชนบางส่วนตกงานไม่มรี ายได้ เกิดความเครียด บางคนฆ่าตัว ตาย กล่าวไดว้ ่าภัยนา่ กลวั จากโรคโควิด-19 มีผลต่อกระทบท้ังร่างกายและจิตใจ เป็นพิษทางใจกับผู้ที่ มีความเปราะบางเพราะขาดภูมคิ ุ้มกนั ทางจิตใจ บทความนไ้ี ด้สะทอ้ นตัวอยา่ งแนวทางการสรา้ งพลังใจ ท่ีเข้มแข็งให้กับสาธุชนและเครือข่ายวัดพระธรรมกาย ด้วยเครื่องมือท่ีเรียกว่า ความดีสากล 5 ประการ หรือUG (UniversalGoodness5) ได้แก่ การรักษาความสะอาด ความมีระเบียบ ความ สุภาพ การตรงเวลา และการมีสมาธิ ซึ่งเป็นแนวทางท่วี ัดพระธรรมกายนามาใชเ้ พ่ือการปูองกัน รักษา และฟืน้ ฟกู ายใจสอดคล้องกับหลักพุทธศาสนาว่าด้วยสัมปชัญญะ 4, บุญกิริยาวัตถุ 3, และภาวนา 4 เป็นการับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ให้ปลอดภัยจากโรคระบาดและผ่านพ้น วิกฤตกิ ารณน์ ้ไี ปได้อยา่ งรวดเรว็ และย่ังยืน องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศต้ังช่ือเรียกอย่างเป็นทางการของเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus)สายพันธ์ุใหม่ว่า \"COVID-19\" (โควิด-ไนน์ทีน)โดย นายแพทย์ เทดรอส กีเบรเยซัส ผอู้ านวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก แถลงที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อธิบายว่า CO มา จาก Corona (โคโรนา) VI มาจาก Virus (ไวรัส) และ D มาจาก Disease (ดีซีสหรือ โรค) ส่วน ตัวเลข 19 คือ ปีที่ WHO ได้รับแจ้งการพบไวรัสดังกล่าว (The Medical Council of Thailand, 2020) โดยองค์การอนามยั โลก (WHO) ไดป้ ระกาศให้เป็นการระบาดคร้ังใหญ่ (pandemic) ที่ส่งผล กระทบรนุ แรงและกวา้ งขวางทัง้ ตอ่ สุขภาพ ชวี ิตและความเป็นอยู่ของมวลมนุษยชาติไปท่ัวทุกภูมิภาค ของโลกพบว่า มีผูต้ ดิ เช้ือแล้วอยา่ งนอ้ ยใน 181 จาก 193 ประเทศสถิติ ณ วันท่ี 18 พฤษภาคม 2563 ณ เวลา 14.30GMT มผี ู้ตดิ เชอ้ื ท่ัวโลก 4.84ล้านกว่าคน หายแล้ว 1.87ล้านคน ยังรักษาตัว 2.65ล้าน กว่าคน เสียชีวิต 3แสนกว่ารายโดยประเทศที่มีการปุวยติดเช้ือสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 1.53ล้านราย รัสเซีย 2.9แสนรายสเปน 2.78แสนราย บราซิล 2.44 แสนราย สหราช อาณาจักร 2.44แสนรายอิตาลี 2.25แสนราย ฝร่ังเศส 1.8แสนรายเยอรมนี 1.77แสนราย ตุรกี 1.5 18 แสนราย อิหร่าน 1.23แสนราย ส่วนประเทศจีนอยู่ท่ี8.29หม่ืนราย (Worldmeters, 2020) และ ประเทศไทยนับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่าง หลกี เล่ยี งไม่ได้ สาเหตุของโรคทั่วโลกได้รับรู้เรื่องโรคติดต่อปริศนา หลังจากทางการจีนยืนยันเม่ือ 31 ธ.ค. 2019 วา่ เกิดการระบาดของเชอ้ื ไวรสั สายพนั ธ์ุใหมใ่ นเมืองอู่ฮัน่ ซ่งึ มีประชากรกว่า 11 ลา้ นคนแต่ยงั ไม่ มใี ครทราบสาเหตขุ องโรคทช่ี ัดเจน แต่มขี ้อสนั นษิ ฐานว่า ไวรสั ชนดิ น้อี าจเริ่มติดต่อจากสัตว์ปุามาสู่คน โดยมาจากงเู ห่าจีน (Chinese cobra) และงสู ามเหล่ียมจีน (Chinese krait) เน่ืองจากงูพิษที่อาศัยอยู่ ในธรรมชาติล่าค้างคาวในํถ้าซ่ึงคาดว่ามีเชื้อไวรัสเป็นอาหาร(PPTV, 2020)ด้านนักวิทยาศาสตร์ สนั นิษฐานว่า ตัวนม่ิ อาจเป็นพาหะนาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาแพร่สู่คนที่ตลาด ค้าสัตว์ปุาเมืองอฮู่ น่ั (The Medical Council of Thailand, 2020) อาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ร้อยละ 80 ไม่แสดงอาการหรือมีอาการน้อย บางรายมีอาการ แบบโรคติดเชอื้ ในทางเดินหายใจสว่ นบน เช่น เจ็บคอํน้ามูกไหล แต่พบน้อย ประมาณร้อยละ 15จะมี อาการชดั เจน เช่น ไอและไอมเี สมหะ มีไข้บางรายโดยเฉพาะผู้สูงวัยมีไข้และหายใจเรว็ หอบ จากปอด บวม มีน้อยรายที่มีอุจจาระร่วงอีกประมาณร้อยละ 5จะปุวยรุนแรง จะหายใจเร็ว หอบ จนถึงการ หายใจลม้ เหลวและช็อคได้(The Medical Council of Thailand, 2020) องคก์ ารอนามัยโลก บ่งชี้ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคนไข้ 56,000 คนว่า ผู้ได้รับเช้ือ 4 ใน 5 คน จะมอี าการปุวยไม่รุนแรง โดย 80%มีอาการไมร่ ุนแรง, 14% มอี าการรนุ แรง, 6% มีอาการวิกฤต ส่วน อตั ราการเสยี ชวี ติ อยู่ในระดบั ต่าที่ 1-2% โดยกลมุ่ คนท่มี โี อกาสเสยี ชีวิตมากกวา่ ไดแ้ ก่ ผ้สู งู อายุ ผู้ปุวย และอาจจะรวมถึงผู้ชายด้วยและพบว่าอัตราการเสียชีวิตในผู้สูงอายุสูงกว่าคนวัยกลางคนถึง 10เท่า ส่วนผู้ที่ปุวยเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือปัญหาในการหายใจ มีโอกาสเสียชีวิต มากกว่าคนปกติอย่างน้อย 5เท่า และผู้ชายมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย (BBC Thai, 2020) นอกจากน้ียังพบว่า โรคนี้จะมีอาการรุนแรงในเด็ก, สตรีมีครรภ์, ผู้สูงอายุท่ีมีโรคประจาตัว และผปู้ ุวยภูมิคุม้ กันบกพรอ่ ง แต่ผู้ท่ีมีร่างกายแข็งแรงพบว่า ลักษณะอาการของโรคไม่รุนแรงถึงร้อย ละ 80 สาหรับประเทศไทยสถานการณ์แพรร่ ะบาดโรคโควิด-19 เริ่มทวีความรุนแรงเมื่อพบว่ามีการ แพร่ระบาดกลุ่มใหญ่จากกลุ่มเชียร์มวยที่สนามมวยลุมพินี และจากคนไทยท่ีกลับจากปฏิบัติกิจทาง ศาสนาในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทาให้จานวนผู้ติดเช้ือแพร่กระจายไปท่ัวประเทศทาให้ รัฐบาลไทยจัดตั้ง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)(Royal Thai Goverment, 2020) เพ่ือ สื่อสารกับประชาชน และ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินท่ัวราชอาณาจักร ตามพระราชกาหนดการ บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรอื พ.ร.ก.ฉุกเฉนิ หา้ มประชาชนเขา้ ไปในพ้นื ท่ที ่มี ีความเสี่ยงต่อ การตดิ โรคโควิด-19 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563(Ratchakitcha, 2020) โดยกรม 19 ควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โควิด-19 ณ วันท่ี 18พฤษภาคมพ.ศ. 2563มีผู้ปุวยติดเช้ือโควิด-19 จานวน 3,031ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 118ราย หายแล้ว2,857ราย และเสียชีวิต 56 ราย (Department of Disease Control, 2020) แนวทางการปูองกันท่ีถูกนามารณรงค์โดยกระทรวงสาธารณสุขของไทยรณรงค์ได้แก่ “กิน ร้อน ช้อนส่วนตัว หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย”, และเกิดวาทกรรมทางสังคม “แยกกันเราอยู่ ร่วมหมเู่ ราตาย” หรือ “อยูบ่ ้าน หยุดเช้ือ เพื่อชาติ” เป็นต้น และเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ผล รัฐบาลจึงออก พรก.ฉุกเฉินห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานหลัง 22.00-04.00 น. ต้ังแต่วันที่ 3 เม.ย. 2563 และปรับเป็น 23.00-04.00 น. ในวันท่ี 17 พ.ค. 2563 (Royal Thai Goverment, 2020)งดการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ท้ังทางบก/ํน้า/อากาศ,งดหรือชะลอการเคลื่อนย้ายข้าม จังหวัด,กาหนดพื้นท่ีเส่ียงห้ามคนเข้าออก,จัดพื้นที่ควบคุมโรค (State QuarantineandLocal Quarantine) เพ่ือกักตัวผู้มีปัจจัยเส่ียงไว้รอดูอาการ14 วัน,การรักษาระยะห่างของคนในสังคม (Sociai DistancingandPhysical Distancing),ยกเลิกจดั งานสงกรานต์ เป็นต้น ผลกระทบที่เกิดข้ึนหลังการประกาศภาวะวิกฤตโรคระบาดและมาตรการต่าง ๆ เพ่ือการ ควบคมุ การแพร่ระบาดของโรค ด้านเศรษฐกิจ ฝาุ ยตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยว่า ผลการดาเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 1 ปี 2563 มี ยอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอลเสตรท3) คงค้างท่ี 4.968 แสนล้านบาท คิดเป็น 3.05% ต่อ สนิ เชือ่ รวม เพมิ่ ขน้ึ จากสิ้นปี 2562 ที่มีอยู่ 2.98% เป็นผลมาจากโควิด-19(Dailynews, 2020) และ ฝุายวิจัยด้านเศรษฐกิจและตลาดเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โวดิ -19 จะส่งผลให้จานวนผูว้ า่ งงานเพมิ่ ขน้ึ สูงถงึ ราว 3-5 ล้านคน ถือเป็นระดับที่สูงกว่าทุวิกฤตการณ์ ในอดีตของไทย เน่ืองจากผลกระทบคร้ังนี้กินวงกว้างกว่าและมีการหยุดชะงักฉับพลัน ( sudden stop) ของหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (SCB, 2020) ส่วนด้านสงั คมและภาคประชาชนความเดอื ดรอ้ นของประชาชนในเรอ่ื งการดารงชีวิประจาวัน เพราะไม่สามารถออกไปประกอบธุรกิจหารายได้เพื่อการเลี้ยงชีพได้ด่ัง เดิมกระทั่งรัฐบาลต้องออก มาตรการเยยี วยาคนละ 5,000 บาท/เดอื น ระยะเวลา 3 เดอื นผา่ นเวบ็ ไซท์ www.เราไมท่ ง่ิ กนั .com ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ณ วนั ท่ี 14 พ.ค. 2563 มีผผู้ า่ นเกณฑค์ ัดกรองไดร้ บั เยยี วยา จานวน14.2 ล้านคน (Ministry of Finance, 2020) แม้ว่าจะมีมาตรการทั้งการปูองกันและเยียวยา ถึงกระนั้นก็ ตามประชาชนทีเ่ ดือดร้อนและไม่มีทางออก อนั เนอื่ งจากการตกงาน ขาดรายได้ หรือไมส่ ามารถเข้าถึง สวสั ดิการเยียวยาของรัฐจึงเกิดปัญหาความเครียดสะสมและนาไปสู่การฆ่าตัวตายหรือทาร้ายตนเอง เหน็ ได้จากข้อมลู คณะนักวิจัย \"โครงการวิจัยคนจนเมืองที่เปลี่ยนไปในสังคมเมืองที่กาลังเปล่ียนแปลง\" รวบรวมกรณีการฆา่ ตัวตายจากวิกฤตโควิด-19 ทีป่ รากฏในสอื่ ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. 2563 พบว่มี ผู้ฆ่าตัวตาย 38 ราย และมีผู้เสียชีวิต 28 ราย และข้อมูลจากศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย คูณ 20 นติ ศิ าสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าระหว่างวันที่ 1-30 เม.ย. 2563 มีการฆ่าตัวตายเพราะได้รับ ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เกิดขึ้นทั้งหมด 44 กรณี มีผู้เสียชีวิต 31 ราย (BBC Thai, 2020)ซ่ึง ผลกระทบทางจติ ใจจากภยั โรคระบาดจงึ เขา้ ส่ทู างจิตใจอย่างไม่ร้ตู วั สถานการณ์เช่นน้ี วัดเป็นอีกภาคส่วนของสังคมท่ีมีบทบาทในการนาพาจิตวิญญาณของ สาธชุ นไม่ให้หว่นั ไหวและมหี ลกั ยึดเหน่ยี ว สามารถรับมือกับโรคภยั ไขเ้ จบ็ ที่เขา้ มาไดอ้ ย่างมีสติ รู้ตัวแล ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพ่ือลดความเส่ียงจากโรคติดต่อซึ่งวัดพระธรรมกายสามารถประคับประคอง บคุ ลากรภายในท้งั S375ภกิ ษสุ ามเณร อุบาสกอุบาสิกา อาสาสมัครกว่า 7,000 ชีวิต (Dhammakaya Foundation, 2018) ได้อย่างสงบเรียบรอ้ ยและไมม่ ผี ตู้ ิดเช้อื บทความนี้จึงนาเสนอหลักการบริหารจัดการวัดพระธรรมกายภายใต้หลักคาสอนท่ีทางวัด ประยุกต์จากหลักธรรมในพุทธศาสนามาสู่แนวปฏิบัติในชีวิตประจาวันที่เรียกว่าความดีสากล 5 ประการ หรือ UG5 (Universal Goodness 5) โดยแบ่งการนาเสนอเป็น 3ส่วน ส่วนแรกว่าด้วยเร่ือง หลักการ UG5 ส่วนท่ีสองว่าด้วยหลักการ UG5 กับการต้านภัยโรคระบาด และส่วนสุดท้ายเป็น ตัวอย่างการนาหลัก UG5มาใช้เพ่ือการต้านภัยโรคระบาดในวัดพระธรรมกาย และบทสรุปเพ่ือ ช้ใี หเ้ ห็นการนาหลกั ธรรมคาสอนทางพระพุทธศาสนามาเป็นธรรมะโอสถต้านภัยจากโควิด-19 ที่กาลัง แพรส่ ู่กายและใจของมนุษยด์ งั น้ี 1.หลกั การความดีสากล5 ประการ (UG5:Universal Goodness5) มาตรการในทางการแพทย์และสาธารณสุขเพ่ือการปูองกันการแพร่ระบาดของโรค Covid- 19 ที่รัฐบาลไทยได้ประกาศใช้ คือ การสร้างนิสัยการรักษาความสะอาด ด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง การล้างมอื บ่อยๆการสวมหนา้ กากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เรียกอีก นยั หนึ่งว่า สงั คมไทยตอ้ งสร้างทกั ษะนิสยั ดๆี ในตนเอง เคารพในระเบยี บวนิ ยั ทางสังคม ขอ้ ปฏบิ ัติและ มาตรการทัง้ หลายเหลา่ น้ี กล่าวได้ว่า สอดคล้องกับหลักความดีสากล 5ประการหรือUG5 Universal Goodness5 (Phrarajbhavanajahn, 2015)ซึ่งหลวงพ่อทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ท่านได้เสนอข้ึนโดยบูรณาการความรู้มาจากหลัก “ศีล 5” ซ่ึงเป็นคุณลักษณะพื้นฐานท่ีมนุษย์ทุกคน ต้องมีเพ่ือเป็นการฝึกฝนอบรมตนเองจนเกิดนิสัยดีๆ ในชีวิตประจาของมนุษย์ 5ประการ(Dhamma Media Channel, 2013)เพื่อพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพ และพัฒนาสังคมให้มีความเจริญงอกงาม และอยรู่ ว่ มกนั อย่างมคี วามสขุ ซึ่งเป็นวถิ ขี องชาวพทุ ธที่สามารถควรนามาใช้เป็นพื้นฐานในการปูองกัน รักษาตนเองต่อภยั โควิด-19 เปน็ วถิ ีปฏิบตั ขิ องสาธุชนวัดพระธรรมกายใช้เป็นแนวปฏิบัติมาโดยตลอด ได้แก่ 21 ภาพที่ 5 : ภาพแสดงหลกั ความดสี ากล ๕ ประการ (Dhamma Media Channel, 2013) ที่มา : https://www.dmc.tv/ 1) ความสะอาดหมายถงึ ไมส่ กปรก ไม่เลอะเทอะ มองดสู บายตา พาสบายใจซึง่ มี 3ระดับ คือ สะอาดกาย วาจา และใจได้แก่ • สะอาดกาย คอื การไม่ฆา่ ไมล่ ักขโมย ไมป่ ระพฤติผดิ ในกาม • สะอาดวาจา คือ การไมพ่ ดู เทจ็ ไม่พดู ใหแ้ ตกแยก ไมพ่ ูดคาหยาบใหเ้ จ็บใจไมพ่ ดู เพ้อเจอ้ • สะอาดใจ คือ การคิดดี ไมค่ ดิ ทาลาย จติ ใจผ่องใส 2) ความมรี ะเบยี บหมายถึง ความเปน็ ระเบยี บ เรยี บร้อย หยิบกง็ ่าย หายก็รู้ มีดังนี้ • ความมีระเบยี บทางร่างกายไมไ่ ปทาร้ายใคร • ความมรี ะเบียบทางความคิดคดิ เรอ่ื งดีๆ • ความมีระเบียบทางคาพูดพดู แต่ส่งิ ดี มปี ระโยชน์ ไม่วา่ ร้ายใคร 3) สุภาพนุ่มนวลหมายถึง การมีกิริยา วาจา การแสดงออกต่างๆ สุภาพนุ่มนวลไม่รุนแรง หยาบคาย ไมท่ าใหผ้ อู้ ่นื ร้สู ึกในทางทไ่ี ม่ดีเป็นการจัดระเบียบทางการแต่งกายและวาจา 4) การตรงต่อเวลาหมายถึง การทางาน การทากิจวัตร และกิจกรรมตรงตามเวลาอย่าง เหมาะสมเปน็ การจดั ระเบียบทางเวลา 5) การมีสมาธหิ มายถึง การท่ีจติ ใจจดจอ่ มีสติ ต้งั ม่ันอยกู่ บั สิ่งใดสิ่งหน่ึงเพียงสิ่งเดียวเป็นการ จัดระเบียบทางจิตใจ ทั้งนี้ ความดีพ้ืนฐานสากล 5ประการเป็นการจัดการด้านความสะอาดและระเบียบทางกาย วาจา ใจหากเราฝึกอยู่เปน็ ประจาจะทาให้เรามีพื้นฐานเบื้องต้น ท่ีจะพัฒนาตนเองนาไปสู่การเป็นผู้ที่ ยึดม่ันในพระรัตนตรัย ทาให้เรามีจิตใจท่ีผ่องใส และจะทาให้เรามีนิสัยบัณฑิตท่ีมีคุณภาพชีวิตข้ัน พื้นฐานทด่ี ตี อ่ ไป 2.UG5 สู่การปอู งกัน รักษา สภู้ ยั โควิด-19 เมอื่ บคุ คลฝึกความดสี ากลจนเป็นนิสัย ย่อมพัฒนา คุณลักษณะพื้นฐานของมนุษย์ให้เกิดขึ้นในตัวเองได้ นาไปสู่การปูองกันเชื้อกิเลสในใจ และเช้ือโรค 22 ภจั ากภายนอกได้ด้วยเพราะบุคคลท่ีมีนสิ ยั ดี เหมอื นมีกลจักรอัตโนมัติ ทางานตลอดเวลา นาความสุข ความสาเร็จ บุญกุศล มาสู่ชีวิต ส่วนคนท่ีมีนิสัยไม่ดี ก็เหมือนมีกลจักรอัตโนมัตินาความทุกข์ ความ ล้มเหลว โรคภัยไข้เจ็บ บาปอกุศลมาสู่ชีวิตตลอดเวลา ซ่ึงนิสัยพ้ืนฐาน 5 ประการน้ันนาความสุข ความสาเร็จมาสู่ชีวิตของทุกคน เป็นความดีสากลของคนทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา และสามารถ ชว่ ยแกป้ ญั หาการระบาดของไวรัสโควิดได้(Phragrupalad Suvatthanabodhigun, 2020)ดงั นี้ 2.1สะอาด ปลอดเช้ือโรคเนื่องจากเชื้อโรคทุกชนิด แพ้ความสะอาด ดังนั้น ต้องรักษาความ สะอาดต้ังแตร่ ะดับ บุคคล ครอบครวั ชุมชน ให้ชว่ ยกันรักษาความสะอาด ท้ังอาคารสถานที่ ข้าวของ เครอ่ื งใช้ เส้อื ผ้าเครอื่ งนุ่งหม่ จนถงึ ความสะอาดของเน้ือตัว จะมีส่วนช่วยยับย้ังการระบาดของโรคได้ อย่างมาก ดังน้นั ต้องปรับจากการเร่มิ สร้างพ้ืนฐานรกั ความสะอาดจงึ จะไดผ้ ลดีซ่ึงความสะอาดนี้ เป็น พื้นฐานสาคัญตงั้ แตร่ ะดบั กายภาพจนกระท่งั จิตภาพ หมดกิเลสบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ดังพุทธท่ีว่า “ผู้มีกายสะอาด มีวาจาสะอาด มีใจสะอาด ไม่มีอาสวะ เป็นผู้สะอาด ถึงพร้อมด้วยความสะอาด บณั ฑติ ทั้งหลายเรยี กวา่ เปน็ ผูล้ า้ งบาปได้” (Thai Tipitakas:25/422/66) 2.2มีระเบียบ ทาตามมาตรการของสาธารณสุขเพราะอาวุธสาคัญในการสู้กับโควิด คือ ระเบยี บสังคม อาทิ รณรงคใ์ หท้ ุกคนรักษาระเบียบ การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) เช่น ยืนหรือนั่งต่อแถวรับบริการสาธารณะหรือซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคในร้านต่าง ต้องเว้นระยะ 2 เมตร ไม่เบียดเสียดยัดเยียดกัน ดังน้ัน คนที่คุ้นเคยกับความมีระเบียบ ข้าวของเคร่ืองใช้ดูแลจัดวาง อย่างเป็นระเบียบ จะง่ายในการรณรงค์ให้รักษาระเบียบสังคม เพื่อปูองกันโรคซ่ึงมีพุทธพจน์ท่ีให้ ความสาคญั ของระเบียบไว้ว่า “โน เจ อสสฺ สกา พุทฺธิ วนิ โย วา สุสิกฺขิโต วเน อนฺธมหึโสว จเรยฺย พหุ โก ชโน ถ้าไม่มีพุทธิปัญญา แลมิได้ศึกษาระเบียบวินัยคนท้ังหลายก็จะดาเนินชีวิต เหมือนดังกระบือ บอดในกลางปาุ ” (Thai Tripitakas: 27/1048)แต่ถ้ารกั ษาระเบยี บได้ ยอ่ มประสบความสาเร็จในชีวิต ไดง้ า่ ย 2.3สุภาพ สารวมหลีกเล่ียงภาวะหรือกลุ่มเส่ียงโรคซึ่งมิใช่หมายถึง การพูดคุยกันด้วยคา ไพเราะให้เกยี รตเิ ทา่ นั้น แตน่ ยั ยะ คอื ระวงั คาพดู และการกระทาของตนเอง ไมใ่ หก้ ่อใหเ้ กดิ ผลกระทบ เสียหายต่อความรู้สึกของคนอื่น ข้าวของเคร่ืองใช้ รวมถึง สังคม ผู้ที่ปิดประตูหน้าต่างปึงปัง โครม คราม ไมน่ ุ่มนวลในการใช้วสั ดุอุปกรณ์ข้าวของเคร่ืองใช้ทาข้าวของเสียหายเนืองนิตย์ก็จัดเป็นคนขาด ความสุภาพ หรือผู้ท่ีไม่คานึงถึงผลกระทบต่อส่วนรวม ทาอะไรตามใจตนเอง สร้างความเสียหายต่อ ความผาสกุ ของสงั คม กค็ อื คนไมส่ ุภาพ เช่นกนั ทั้งนี้ ปัญหาการระบาดในประเทศไทย ส่วนใหญ่เกิด จากผู้ท่ีทาตามความเห็นส่วนตน หรือชะล่าใจในเร่ืองสุขอนามัย เพราะคิดว่าเชื้อโรคไม่มาถึงตนเอง หรือกลุ่มของตนเองโดยไม่สนใจมาตรการหรือคาท้วงติงของทางราชการท้ังกรณีสนามมวย บาร์ผับ หรือการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโดยไม่มีมาตรการที่รัดกุมเพียงพอดังนั้น การปลูกฝังนิสัย “สุภาพ” เกรงใจผู้อนื่ คานงึ ถึงผลกระทบต่อบคุ คลอืน่ และสังคมสว่ นรวม จะช่วยยับยั้งการระบาดของ 23 โรคได้และย่อมเป็นท่ีคบหาสมาคมของชนท้ังหลายดังพุทโธวาทท่ีว่า “ท่านผู้ปราศจากราคะ ปราศจากโทสะ ปราศจากโมหะ ไม่มีอาสวะ เป็นนาบุญของโลก ย่อมคบหาบุคคลผู้มีศรัทธาซ่ึง สมบูรณ์ด้วยศีล ประพฤติถ่อมตน ไม่กระด้าง สุภาพ น่าชื่นชม อ่อนโยน ม่ันคง ฉันนั้น ” (Thai Tipitaka, 22/59-60/38) 2.4เคารพกติกาเร่ืองเวลาหากเดินทางจากพ้ืนที่เส่ียง เช่น กลับจากต่างประเทศ เมื่อรัฐวาง กตกิ าให้กักตัวเอง 14 วนั ก็ทาตามอย่างเคร่งครัด หรือผู้ที่เคยอยู่ใกล้ชิดสัมผัสผู้ติดเช้ือ เม่ือเจ้าหน้าท่ี แจ้งให้ทราบและขอให้กักตัว 14 วัน ก็ทาตาม หรือช่วงเคอร์ฟิว ระหว่าง 22.00 –04.00 น. งดออก นอกสถานท่ียามวิกาล ดังน้ัน หากเราอาศัยสถานการณ์การระบาดท่ีรุนแรง คนส่วนใหญ่ในสังคม ตนื่ ตวั นี้ ชว่ ยกนั รณรงคใ์ ห้สมาชิกในชุมชน รักษากติกาเรื่องเวลา เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ก็จะช่วยปูองกันการระบาดได้อย่างดีเย่ียม และเป็นนิสัยที่ดีของทุกคนต่อไปภายหน้าด้วย ซึ่งความตรงตอ่ เวลา เป็นผลมาจากการฝกึ การมสี ัจจะ พูดจริง ทาจรงิ ไม่โกหก ซ่ึงเป็นพื้นฐานท่ีสาคัญ ดังเช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสให้โอวาทกับพระราหุลไว้ว่า“ราหุล เพราะเหตุนั้นแล เธอพึง สาเหนยี กในเร่ืองนี้อย่างน้ีว่า ‘เราจักไม่กล่าวเท็จ แม้เพ่ือให้หัวเราะกันเล่น’ เธอพึงสาเหนียกอย่างน้ี แล ราหุล” (Thai Tipitaka:13/118-119/108)เพราะฉะน้ัน ถ้ารักษาคาพูดได้ ก็จะรักษาเวลาได้ ทา ตามกติกาของสังคมได้ และปฏบิ ตั ติ ามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขได้เชน่ กัน 2.5มสี ตสิ มาธลิ ดความกังวลและความเครยี ดในช่วงการระบาดของโรค คนจานวนมากมีเวลา อยู่บ้านมากข้ึน บางคนใช้เวลาไปกับการดูภาพยนตร์ เล่นเกมส์ออนไลน์ อ่านข่าวจากโซเซียลมีเดีย ต่างๆ ฯลฯ คนจานวนไม่น้อยมีความรู้สึกเครียดลึกๆ จากการห่วงสุขภาพและปัญหาทางเศรษฐกิจ ท้งั น้ี ส่ิงท่ีจะชว่ ยไดม้ ากคือ การทาสมาธิ หากเราได้จัดเวลาน่ังสมาธิทุกวัน ใจจะสบายมีความสุข ดัง พุทธพจนท์ ่ีวา่ “สขุ อน่ื ยงิ่ กวา่ ความสงบไม่มี” (Thai Tipitaka:25/25/42) ส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง ภูมิ ตา้ นทานดีดว้ ย แม้ในยุโรปและอเมริกาซึ่งไม่ใช่เมืองพุทธ สถิติการ search หาคาว่า “meditation” เพราะอยากน่ังสมาธิ เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าตัว มีข่าวระบุว่า มีอาจารย์ชาวจีนท่านหนึ่ง ท่ีเดินทางไป สอนภาษาจีนที่สถาบันขงจ้ือ อียิปต์ และต้องติดกักตัวท่ีบ้านเช่นกัน นั่งสมาธิถึงวันละ 3-5 ช่ัวโมง กล่าวว่าน่งั แลว้ รสู้ ึกมีความสุข สบายใจมาก รสู้ ึกสุขภาพดขี ้นึ สอนหนังสือทางออนไลน์ให้นักศึกษาได้ ดีข้ึน ดังน้ัน ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ซ่ึงคุ้นเคยกับการนั่งสมาธิอยู่แล้ว ควรลดเวลาท่ีอยู่กับสื่อ โซเซียล หรือความวิตกกังวล แล้วแบ่งเวลามานั่งสมาธิทุกวัน เราจะชนะภัยโควิดไปได้อย่างดี (Phragrupalad Suvatthanabodhigun, 2020) กล่าวได้ว่า ในระดับปัจเจกบุคคลสามารถนาหลัก UG 5 มาใช้เป็นฐานในการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมสร้างสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี อันเป็นวิถีปฏิบัติให้พ้นภัยจากโควิด-19 ด้วยตนเอง ไม่ ประมาท เห็นโลกตามความเปน็ จริงยอมรับสถานการณ์ท่ีต้องเผชิญว่า ล้วนแล้วแต่มีเหตุปัจจัยที่มาท่ี ไป ดังพระสมั มาสัมพทุ ธเจ้า ตรัสว่า ธรรมท้ังหลายเกิดแต่เหตุ (Thai Tipitaka:4/60/73)หมายถึง สิ่ง 24 ต่างๆ ทเ่ี กิดขึน้ ล้วนมเี หตุท่มี าทัง้ นนั้ คนพบเร่อื งไม่ดเี พราะเคยทาบาปอกุศลไม่ดีในอดีตไว้ โรคระบาด เกิดขึ้นในสังคม ทาไมบางคนติดเชื้อ บางคนไม่ติด คนที่ติดทาไมบางคนไม่มีอาการหรือหายเร็ว บาง คนอาการหนักหรือเสียชีวิต ก็เป็นเพราะวิบากกรรมในอดีตของแต่ละคนต่างกัน ดังน้ันการหันหน้า เผชิญกบั โรคด้วยปญั ญาและความเขา้ ใจจะชว่ ยให้มนษุ ย์สามารถฝุาวกิ ฤตนิ ี้ไปได้ 3.การปูองกัน รักษา ฟื้นฟูกายใจจากโควิด-19 ของวัดพระธรรมกายด้วยหลัก UG5การนา UG 5 มาปรับใชก้ ับสถานการณโ์ ควิด-19ผเู้ ขยี นขอยกกรณศี ึกษาของวัดพระธรรมกายมาเป็นตัวอย่าง เนื่องจากวดั พระธรรมกายมวี ัดและศูนยส์ มาธิทั่วโลกกว่า 200แห่ง ซึ่งรวมถึงในประเทศจีน เกาหลีใต้ ญป่ี ุน สิงคโปร์ ไต้หวัน ซึ่งประเทศเหล่านี้ มีท้ังที่เป็นประเทศตั้งต้นของการระบาด รวมท้ัง ประเทศ กลุ่มเส่ยี ง ดงั น้นั วดั พระธรรมกายจึงมีขอ้ มลู พอสมควรและมีการบริหารจัดการความเส่ียงต่อการแพร่ ระบาดของโรคด้วยการต้ังคณะทางานเฉพาะกิจในสถานการณ์ฉุกเฉินและออกมาตรการต่างๆได้ ล่วงหน้า แบบProactive( Dhamma Media Channel, 2020)โดยบูรณการจากหลัก UG5 (ความดี สากล 5ประการ)ส่กู ารปูองกัน รกั ษา และฟืน้ ฟูกายใจดงั นี้ 3.1ด้านการปูองกันด้วยหลักสะอาดและเป็นระเบียบเพื่อปูองกันไม่ให้เช้ือโรคเข้ามาแพร่ ระบาดในวัดด้วยการประกาศปดิ วัด ยกเลิกกิจกรรม และจัดโซนน่ิงสาหรับบุคคลภายในกับภายนอก วดั ดังนี้ -25 ก.พ. 2563 ตั้งคณะทางานเฉพาะกิจในสถานการณ์ฉุกเฉนิ ช่ือว่า“คณะทางานปูองกันโค วิด-19” ประกอบด้วย ตัวแทนพระภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา ฝุายโภชนาการ และบุคลากรทางการ แพทย์ และคณะกรรมการนโยบายปูองกันโควิด ประกอบด้วย เจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่ เกี่ยวข้อง (Phravidesdhammabhorn, 2020) -กรณีงานบุญใหญ่ประจาปีของทางวัด คือ พิธีจุดโคมมาฆประทีป ในวันมาฆบูชา วันท่ี 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563ประกาศงดการเดินมาร่วมงานของชาวพุทธจากประเทศจีนกว่า1,000คน รวมทั้งชาวต่างชาติจากประเทศกลุ่มเส่ียง และภายในงานมีการคัดกรองผู้มาร่วมงาน งดการมา ร่วมงานของผู้มีอาการไข้ ปุวย ไอ จาม ส่วนผู้ที่มาร่วมงานมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ต้ังจุดบริการเจล และแอลกอฮอลล์ า้ งมือ แนะนาสวมหนา้ กากอนามยั ตลอดงาน -ประกาศปิดวัดต้ังแต่วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2563กาหนดให้บุคลากรประจาภายในวัดทุก ประเภท (พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา อาสาสมคั รประจาวัด) งดเดินทางออกนอกวัด ยกเว้น บุพการีเสียชีวิต, ดาเนินเร่ืองทางกฏหมายหรือเอกสารราชการ ฯลฯเพื่อทาให้ที่พักสงฆ์และสมาชิก ภายในวดั เปน็ เขตปลอดเชอ้ื -ประกาศงดสมาชิกภายในเดินทางไปตา่ งประเทศ และสมาชกิ ในต่างประเทศงดกลับประเทศ ไทย ยกเว้นมเี หตุจาเป็น เชน่ ทาเอกสารตอ่ วซี า่ เป็นต้น 25 -ประกาศงดชาวตา่ งชาติมารว่ มงานบุญ และงดรับหรอื จดั ปฏิบตั ิธรรม สาหรับนกั ท่องเทีย่ ว หรือผู้มาจากต่างประเทศ -ประกาศแนะนาใหว้ ดั ศูนยส์ ่งเสริมศีลธรรม ศนู ยส์ อนสมาธิ ท่ัวโลก งดจัดปฏิบัติธรรมให้กับ ชาวท้องถ่ินในประเทศน้ัน และส่งเสริมให้จัดกิจกรรมออนไลน์ เช่น สวดมนต์ออนไลน์ สอนสมาธิ ออนไลน์ รว่ มกบั พระอาจารยจ์ ากที่วัดนน้ั ๆ -มีประกาศข้อปฏิบัติสาหรับผู้มาทาบุญที่วัด เช่น งดผู้ปุวย ไอ จาม มีไข้ มาวัด,ให้สวม หนา้ กากอนามัยตลอดเวลา, รักษาระยะห่าง 1-2 เมตรเป็นต้น-ประกาศงดโครงการอบรมภาคฤดูร้อน สาหรบั เยาวชนชาย-หญิง ทกุ โครงการ -ประกาศ Social Distancing & Physical Distancing ภายในวัด ให้มีระยะห่าง 2-3 เมตร ทั้งการน่งั สมาธิฟงั ธรรมะ การยืนรับอาหาร และการเดนิ เวยี นประทักษณิ รอบพระมหาธรรมกายเจดยี ์ -ประกาศปรับเปล่ียนกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ ได้แก่ งานบุญวันอาทิตย์ออนไลน์ ในวัน อาทิตย์ธรรมดา และ บูชาข้าวพระออนไลน์ ในวันอาทิตย์ต้นเดือน โดยถ่ายทอดสดจากห้องส่ง เผยแพรไ่ ปทั่วโลก ผา่ นเครอื ข่าย GBN ทาง YoutubeLive, Facebook Live และ Application -คณะศิษย์ปรับกิจกรรมงานบุญใหญ่เป็นรูปแบบออนไลน์ เช่น วันคุ้มครองโลก 22เมษายน จดั ทอดผ้าปุาบารงุ วดั ออนไลน์ ครัง้ ที่ 1จากทสี่ าธุชนเคยมาร่วมงานนบั แสนคน เป็นการสง่ ตวั แทนร่วม ถา่ ยทอดสดในหอ้ งส่งประมาณ 30คน, จัดงานวิสาขบูชาออนไลน์ตามประกาศแนะนาของกรรมกาม หาเถรสมาคมเป็นต้น 3.2ด้านการรกั ษาด้วยหลักสุภาพสารวมในการอยู่รวมหรือติดต่อกับบุคคลภายนอก และทา ตามกาหนดเวลาทีต่ งั้ ไว้เพ่อื รักษาใหบ้ ุคลากรในวดั ท่ยี งั ไมป่ ุวย ใหย้ ังคงมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ออกไปติด เชอ้ื จากภายนอกเขา้ มาโดยมมี าตรการต่างๆดังน้ี -จดั โซนน่ิงบคุ ลากรประจาทชี่ ัดเจนตามประเภท เชน่ พระภกิ ษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา -ใชม้ าตรการด้านเวลา ได้แก่ บุคคลท่ีกลับจากประเทศกลุ่มเส่ียงหรือไปร่วมงานด้านนอกวัด เชน่ รว่ มงานศพบุพการี ตอ้ งกกั ตัว 14วนั ในสถานทีท่ ที่ างวดั กาหนดไวใ้ ห้ -ประกาศพระภกิ ษุ งดบิณฑบาตรอบวัด, งดรับกิจนิมนต์นอกวดั ทุกประเภท -ประกาศงดสมาชกิ เขตในเดินทางออกไปจัดกิจกรรมสวดมนต์ นั่งสมาธิ ภายนอกวัด -ประกาศให้หอฉนั ฯของวดั ทาอาหารมงั สวิรัติ และให้งดรับภัตตาหารที่โยมมาถวายจากนอก วัด -มีการจัดโซนน่ิง คนในไม่ออก สาธุชนจากภายนอกเข้ามาได้เฉพาะพื้นท่ีโซน3จุดพื้นท่ีเปิด โล่ง ได้แก่ หอฉันคุณยายอาจารย์ฯ, สภาธรรมกายสากล (ศาลาปฏิบัติธรรม), ลานธรรมพระมหา ธรรมกายเจดีย์ -ประกาศใหเ้ จา้ ภาพและสาธชุ นทัง้ หลายสนับสนุนวัดในรูปแบบ “ทาบญุ ออนไลน์” 26 -มกี ารผลิตหน้ากากอนามัยชนิดผ้า จากผ้าท่ีผลิตจีวรพระซึ่งสามารถปูองกันเช้ือโรคและทา ความสะอาดงา่ ย โดยผลิตได้ 10,000 กว่าช้ิน สาหรับถวายพระภิกษุสามเณรภายในวัด และถวายไป ยังเจา้ คณะปกครองและวัดตา่ งๆ ในจังหวัดปทุมธานี และ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง วัดในเขต ปรมิ ณฑล ได้แก่ บางส่วนของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี เป็นต้น และ ถวายหนา้ กากอนามัยแด่พระนิสิตนานาชาติ มจร. ด้วย 3.3ด้านฟื้นฟูกายใจด้วยหลักสมาธิ เจริญสติ ทาจิตให้ผ่องใสโดยให้ความรู้กับสมาชิกใน องค์กร ให้ตระหนักแต่ไม่ตระหนก มีสติ ผ่อนคลาย ไม่เครียด แต่ไม่ประมาท ตามหลัก “อปฺปมาโท อมต ปท ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย”(Thai Tripitakas: 25/18;27/524) ด้วยการมีสติ ประกอบทกุ เมอ่ื โดยมีมาตรการตา่ งๆ ดงั น้ี -มีการสง่ เสริมสนับสนุนใหส้ าธุชนเจริญสตอิ ยู่กับบา้ น สวดมนตน์ ง่ั สมาธิ สวดธรรมจกั ร 24น. -มีการจดั โครงการ นัง่ สมาธิออนไลน์ พร้อมกันทั่วโลกในเวลา 19.30 น. (ประเทศไทย) ผ่าน ช่องทาง Youtube, Facebook, Twitter, Instragram ในโครงการ “หยุดใจ ชนะภัยโควิด” หรือ “Meditate Againt Covid-19” ซึ่งมีผู้สนใจนั่งสมาธิในเวลาเดียวกันกว่า 20,000 คนท่ัวโลก โดยมี เสยี งนานงั่ สมาธิ 20กว่าภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ โปรตุเกส เวียดนาม ลาว เบงกาลี อิตาลี เยอรมัน สิงหล สเปน ฝร่ังเศส อารบิก รัสเซีย ญี่ปุน จีน เมียนมาร์ สวีดิชบาฮาซา(อินโดนีเซีย)ฮินดี ดัช มองโกเลีย นอร์เวย์ เพื่อฟื้นฟูจิตใจสาธุชนที่ห่างวัดให้นั่งสมาธิพร้อมกันทั่วโลก(Meditate Against Covid19 Channel, 2020) -มีการต้งั โรงทาน มอบอาหารให้ประชาชนทกุ วันจนั ทร์ -วันอาทิตย์ตามพระดาริของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหา สังฆปรณิ ายก -ให้กาลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยการมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์สนับสนุนการ ทางานของโรงพยาบาลกวา่ 30,000 ชิ้น ได้แก่ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ, โรงพยาบาลในเขต อาเภอคลองหลวง, โรงพยาบาลในจังหวัดกาฬสินธ์ุ พระนครศรอยุธยา เป็นต้นรวมทั้งในต่างประเทศ เช่น จีนกมั พชู าเป็นต้น -การจัดให้มีพระธรรมเทศนาออนไลน์ เพ่ือให้หลักธรรม ข้อคิด กาลังใจ และการปฏิบัติตน ในชว่ งสถานการณโ์ ควดิ -19 -ประกาศใหส้ าธุชน ทาบญุ ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ donate. dkcmain.org ตามหลักการส่ังสม บุญนาสขุ มาให้ เม่ือสาธุชนได้สนับสนุนวัดในด้านภัตตาหาร ค่าํน้าค่าไฟ ค่ายารักษาโรค ฯลฯ ย่อมมี ความปล้ืมใจ สุขใจ เป็นการรักษาใจของสาธุชนอยู่ในบุญไม่ฟุูงซ่านกับความเครียดจากโรคภัย ท้ังหลาย 27 -คณะศิษยานุศิษย์ จัดทอดผ้าปุาบารุงวัดออนไลน์ คร้ังท่ี 1 ในวันคุ้มครองโลก 22เมษายน 2563ฟ้ืนฟูจติ ใจสาธชุ นดว้ ยกจิ กรรมงานบญุ แม้เป็นการร่วมพิธีออนไลน์ก็ช่วยบรรเทาความระลึกวัด ไดม้ าก -ส่งเสริมให้เจ้าหน้าท่ีประจาที่เป็นฆราวาสทุกประเภทลงแปลงปลูกผักเพื่อนามาทาเป็น ภัตตาหารถวายพระและอาหารเลี้ยงญาติโยม เป็นการออกกาลังกาย เปลี่ยนอิริยาบถ และเป็นการ ผลิตอาหารท่ีบริโภคแลว้ ย่อยงา่ ยดีตอ่ สขุ ภาพ ดังนน้ั การนาหลักความดีสากล 5ประการ หรือ UG 5 มาเปน็ แนวทางในการดาเนินชีวิตและ นาไปสกู่ ารปอู งกัน รักษา ฟื้นฟูกายใจ สอดคล้องกับหลักภาวนา 4 ทาให้บุคลากร มีคุณภาพชีวิตท่ีดี ตามคุณลักษณะ 4ดี คือร่างกายดี พฤติกรรมดี จิตใจดี และปัญญาดีส่งผลให้ชีวิตพบกับความสุข ความเจริญงอกงามโดยมีพื้นฐานมาจากความดีสากลที่เป็นนิสัยดีๆคือ สะอาด เป็นระเบียบ สุภาพ ตรงต่อเวลา สมาธิ นน่ั เอง บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการการศกึ ษา ในการดาเนินโครงการผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือขนาดพกพากลิ่นกุหลาบ 75%มี วัตถปุ ระสงค์ 1) เพ่ือศกึ ษาข้นั ตอนกระบวนการผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือท่ีสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ 2) เพ่ือให้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ขนาดพกพามีกล่ินหอม ไม่เกิดอาการแพ้และอาการระคายเคืองต่อ ผวิ หนัง 3) เพอื่ ช่วยเสริมสรา้ งการใช้เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื เพ่อื สขุ อนามัยที่ดใี ห้กบั ผใู้ ช้ดงั น้ี 3.1 การคัดเลอื กกลมุ่ ตัวอย่าง 3.2 เคร่อื งมอื ท่ีใชใ้ นการดาเนนิ การดาเนนิ โครงการ 3.3 ขั้นตอนการดาเนินโครงการ 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.5 การวเิ คราะห์และสรุปผล 3.1 การคดั เลือกกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างประชากรท่ีอาศัยอยู่ใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จานวน 50 คนโดยวิธีการเลือก แบบการสมุ่ แบบง่าย 3.2 เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการดาเนินโครงการ 32.1 แบบบนั ทกึ ผลการทดลอง 3.2.2 แบบประเมนิ ประสทิ ธภิ าพผู้ศึกษาโครงการใชแ้ บบประเมินประสิทธิภาพเป็นเครื่องมือ เพือ่ รวบรวมข้อมลู จากกลุ่มตวั อย่าง เพือ่ สอบถามความคิดเห็นต่าง ๆ ซึ่งมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก การบันทึกผลการทดลองและแบบสอบถามความคิดเห็น โดยผู้ศึกษาโครงการได้แยกแบบบันทึกผล และแบบประเมนิ ประสทิ ธภิ าพ ๆ ออกมาเปน็ 2 ส่วนดงั นี้ แบบบันทกึ ผลการทดลอง ประกอบไปดว้ ยวิธกี ารทดลองวัตถุดบิ , สว่ นประกอบสว่ นผสม, ผลการทดลองจานวนครั้งในการทดลอง 3 ครั้ง แบบประเมนิ ประสิทธิภาพ ประกอบไปดว้ ย 4 ส่วนดงั น้ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลสว่ นบคุ คลของผตู้ อบแบบสอบถามโดยสอบถามเกี่ยวกับเพศอายโดยท่ีผู้ตอบ ได้เลอื กตอบตามความเป็นจรงิ (Check-list) สว่ นที่ 2 ข้อมลู เกี่ยวกับการตอบแบบสอบถามพฤติกรรมการล้างมือของผู้ตอบแบบประเมิน ประสิทธภิ าพผู้ตอบไดเ้ ลือกตอบตามความเป็นจรงิ (Check List) ส่วนท่ี 3 ขอ้ มูลเกย่ี วกบั การตอบแบบสอบถามความพงึ พอใจของผทู้ ่ีใช้ผลิตภัณฑ์ภณั ฑ์เจ ลล้างมือแอลกอฮอล์ขนาดพกพากลน่ิ กหุ ลาบ ผ้ศู ึกษาโครงการได้ใช้มาตราวดั แบบ 29 Reting Scale 5 ระดับตามมาตราวัดแบบสีเคิร์ท (Likert Scale) อ้างอิงจาก บุรินทร์ รุจจนพันธุ์ (2553) ในการวัดระดับความพึงพอใจดังนี้ 5 หมายถงึ มากท่ีสุด 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง นอ้ ยหรอื ตา่ กว่ามาตรฐาน 1 หมายถงึ นอ้ ยท่ีสุดหรอื ต้องปรับปรุงแกไ้ ข เกณฑก์ ารประเมินแบบสอบถามความคิดเห็นมี 5 ระดับโดยผู้ศึกษาโครงการได้เลือกวิธีการ ของเร็นลิสเอสิเคริ ท์ ดงั น้ี (Likert / Rensis A.2504) 4.50 - 5.00 หมายถงึ เห็นดว้ ยอย่รู ะดับมากทส่ี ดุ 3.50 - 4.49 หมายถึง เห็นดว้ ยอยรู่ ะดบั มาก 2.50 - 3.49 หมายถงึ เห็นดว้ ยอยู่ระดบั ปานกลาง 1.50 - 2.49 หมายถงึ เห็นดว้ ยอยรู่ ะดับน้อย 1.00 - 1.49 หมายถงึ เหน็ ด้วยระดบั นอ้ ยมาก ส่วนที่ 4 ขอ้ เสนอแนะซึง่ เปน็ คาถามปลายเปิดเพื่อให้ผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความคิดเห็น การสร้างเครอ่ื งมือในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ครงั้ นโี้ ดยมกี ารสรา้ งเครื่องมือดงั น้ี 1) ศึกษาแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับเจลล้างมือแอลกอฮอล์และความพึงพอใจต่อ ผลิตภัณฑแ์ ละความคดิ เหน็ ของผูต้ อบแบบสอบถาม 2) ผู้ศึกษาโครงการได้จัดทาแบบสอบถามความพึงพอใจเก่ียวกับเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ 3) ผู้ศกึ ษาโครงการได้จัดทาแบบบันทกึ ผลการทดลองเกี่ยวกบั ขน้ั ตอนการทาเจลล้าง มอื เพอื่ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งตามเนอื้ หาและนามาปรับปรุงแกไ้ ขใหส้ มบรู ณ์ 4) นาแบบสอบถามที่ปรับปรุงแกไ้ ขแลว้ เสนอต่อครปู ระจาวิชาอีกครั้งเพื่อตรวจสอบ ความเทีย่ งตรงของเน้อื หาพร้อมพจิ ารณาความถกู ตอ้ งขัดเจนของตวั อกั ษรท่ีใช้ 30 3.3 ข้ันตอนการดาเนนิ โครงการ 3.3.1 การวางแผน (P) - กาหนดช่ือเรอ่ื งและศกึ ษารวบรวมขอ้ มูลปัญหา ความสาคัญของโครงการ - เขยี นแบบเสนอโครงการ - ขออนุมัติโครงการ 3.3.2 ขน้ั ตอนการดาเนนิ การ (D) - ศึกษา ทดลองทาผลิตภัณฑเ์ จล แอลกอฮอล์ล้างมอื ประเมนิ ผลและ ปรบั ปรงุ สตู ร ครั้งท่ี 1 - ศกึ ษา ทดลองทาผลิตภัณฑ์เจล แอลกอฮอลล์ ้างมือ ประเมินผลและ ปรบั ปรุงสูตร ครง้ั ที่ 2 - ศกึ ษา ทดลองทาผลิตภณั ฑ์เจล แอลกอฮอลล์ ้างมอื ประเมนิ ผล ครง้ั ท่ี 3 - กลุ่มตัวอยา่ งทดลองใช้ผลิตภัณฑเ์ จลแอลกอฮอลล์ า้ งมือ 3.3.3 ขน้ั ตอนการตรวจสอบ (C) - ประชากรท่ีอาศัยอยู่ใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ใชเ้ จลแอลกอฮอล์ล้างมอื และ ประเมินผล ความพึงพอใจของ ผลติ ภณั ฑเ์ จลแอลกอฮอลล์ า้ งมือขนาดพกพากล่นิ กุหลาบ 3.3.4 ขั้นประเมินติดตามผล (A) - สรุปผลแบบประเมนิ ประสทิ ธภิ าพ - จดั ทาเลม่ โครงการ - นาเสนอผลงานและเผยแพร่ในหมู่บา้ นทงุ่ เสยี้ ว ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ผ้ศู กึ ษาโครงการได้ดาเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มลู การทาโครงการน้ี อยา่ งเป็นขนั้ ตอนดังนี้ 3.4.1 ผศู้ กึ ษาโครงการบนั ทกึ ผลการทดลองแตล่ ะคร้งั และสรปุ ออกมาเปน็ รายข้อ 3.4.2 การรวบรวมแบบประเมินประสิทธิภาพ ผู้ศึกษาโครงการได้รวบรวมแบบ ประเมนิ ดว้ ยตนเอง 3.4.3 ตรวจสอบความสมบรู ณข์ องแบบสอบถาม เพ่ือนาข้อมลู ไปวเิ คราะหท์ างสถิติ 31 3.5 การวิเคราะห์และสรุปผล ขอ้ มลู ทไ่ี ด้จากการรวบรวม ผจู้ ดั ทาโครงการไดท้ าการตรวจสอบความเรียบรอ้ ยสมบรู ณข์ อง แบบประเมินและนาขอ้ มูลมาประมวลผลวเิ คราะห์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอรส์ าเร็จรปู สาหรับการคดิ คา่ ร้อยละ การหาค่าเฉลย่ี (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ดังนี้ 3.5.1 การวเิ คราะห์ข้อมูลส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลในการวิเคราะห์ ได้แก่การหาค่าความถ่ี (Frequency) และคา่ รอ้ ยละ (Percentage) สูตรการหาค่าร้อยละ เม่ือ P แทน ร้อยละ F แทน ความถที่ ่ตี ้องการแปลคา่ ใหเ้ ป็นร้อยละ N แทน จานวนขอ้ มลู ทัง้ หมด 3.5.2 การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนท่ี 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง กลมุ่ คนในหมู่บ้าน ทุ่งเสี้ยว ต.บา้ นกลาง อ.สนั ป่าตอง จ.เชยี งใหม่ ในการวิเคราะห์ ได้แก่การ หาคา่ เฉลย่ี (Mean) และ สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D) ̅ =∑ เมอื่ X แทน คา่ เฉลย่ี ΣX แทน ผลรวมท้งั หมดของความถี่ คูณ คะแนน N แทน ผลรวมทง้ั หมดของความถีซ่ ่งึ มคี ่าเท่ากับจานวนข้อมลู ทัง้ หมด 32 สตู รการหาส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน ∑ √∑ เม่อื S.D. แทน สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน N แทน จานวนคทู่ ้งั หมด X แทน คะแนนแตล่ ะตัวในกลุ่มข้อมลู ΣX แทน ผลรวมของความแตกต่างของคะแนนแตล่ ะคู่ 3.5.3 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู สว่ นท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ ซ่งึ เป็นคาถามปลายเปดิ เพอ่ื ใหผ้ ูต้ อบแบบ ประเมินเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ในการศึกษาโครงการผู้ศึกษาโครงการได้ทาง การศกึ ษาเชงิ คณุ ภาพและสร้างแบบประเมินความพึงพอใจจากแบบสอบถามออนไลน์ บทที่ 4 ผลการศกึ ษา ในการศึกษาผลติ ภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกลิ่นกุหลาบ มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาขั้นตอน กระบวนการผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ เพ่ือให้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือมีกลิ่น หอม ไมเ่ กดิ อาการแพแ้ ละอาการระคายเคอื งตอ่ ผิวหนงั เพอ่ื ชว่ ยเสรมิ สรา้ งการใช้เจลแอลกอฮอล์ ลา้ งมอื เพ่อื สุขอนามัยทดี่ ใี ห้กับผูใ้ ช้ ในการศกึ ษามีผลการดาเนนิ งาน ดงั หวั ข้อตอ่ ไปนี้ ส่วนที่ 1 ข้นั ตอนการทาผลติ ภณั ฑ์เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมือกลน่ิ กหุ ลาบ สว่ นที่ 2 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลสว่ นบุคคล ส่วนที่ 3 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้าง มอื กลิ่นกุหลาบ สว่ นท่ี 4 ผลการวิเคราะหก์ ารจัดลาดบั ความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลติ ภัณฑ์ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกลน่ิ กุหลาบ สว่ นที่ 5 ผลสรุปข้อเสนอแนะ สว่ นท่ี 1 ขน้ั ตอนการทาผลิตภณั ฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกลิ่นกหุ ลาบ จากการศกึ ษาผลิตภัณฑผ์ ลติ ภณั ฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกล่นิ กุหลาบผู้ศึกษาได้ทาการศึกษา ข้นั ตอนการทาเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื กลน่ิ กุหลาบซ่งึ มีข้นั ตอนดงั น้ี 1.) เตรียมวัสดุและอปุ กรณใ์ หพ้ รอ้ ม ภาพท่ี 6 เตรียมอุปกรณ์ 34 2.) ใสน่ า้ ต้มสุกใส่ลงในภาชนะปริมาณ 210 Ml. ภาพท่ี 7 ใสน่ ้าต้มสกุ ลงในภาชนะ 3.) แบง่ เทคารโ์ บโพล์ลงไป 3 ครั้ง คอ่ ย ๆ คนใหเ้ ข้ากัน ภาพที่ 8 ผสมคารโ์ บโพลล์ งไป 4.) คนผสมจนเข้ากันแลว้ ทง้ิ ไว้ 1 ชว่ั โมง ภาพท่ี 9 ผสมคารโ์ บโพลท์ ิง้ ไว้ 35 5.) นาเอทิลแอลกอฮอลผ์ สมลงไป 800 Ml ภาพท่ี 10 เติมเอทิลแอลกอฮอล์ผสมลงไป 6.) ผสมกรเี ซอรนี ลงไปค่อย ๆ คนใหเ้ ข้ากัน ภาพที่ 11 ผสมกรเี ซอรนี ลงไป 7.) นา TEA ผสมลงไป คอ่ ย ๆ คน ใหเ้ ขา้ กัน ภาพท่ี 12 ผสม TEA ลงไป 36 8.) คนจนได้เนอ้ื เจลแอลกอฮอล์ ภาพที่ 13 เนอ้ื เจลแอลกอฮอล์ท่ไี ด้ 9.) ผสมกลิ่นกหุ ลาบลงไป คนใหเ้ ข้ากัน ภาพที่ 14 ผสมกล่นิ กหุ ลาบลงไป 10.) นาใสบ่ รรจภุ ัณฑ์ ภาพที่ 15 นาเจลแอลกอฮอล์ใส่ผลิตภณั ฑ์ 37 สว่ นท่ี 2 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู สว่ นบุคคล จากการศึกษาผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกล่ินกุหลาบ ผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลส่วน บุคคล ซ่ึงประกอบดว้ ยขอ้ มูลเกย่ี วกบั เพศ และอายุ โดยหาค่าร้อยละ ซ่งึ ผลการวิเคราะหป์ รากฏดงั น้ี ตารางท่ี 1 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลส่วนบุคคลตวั แปรดา้ นเพศ เพศ จานวน (คน) ร้อยละ หญงิ 40 80.00 ชาย 10 20.00 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลตัวแปรด้านเพศ ผู้ศึกษาได้สรุปผลการ วิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 80 และเป็นเพศ ชาย คิดเป็นรอ้ ยละ 20 ตามลาดบั ตารางที่ 2 ตารางแสดงผลการวิเคราะหส์ ่วนบคุ คลดา้ นอายุ อายุ จานวน (คน) ร้อยละ 15-19 ปี 20 40.00 20-24 ปี 30 60.00 25-29 ปี 0 0.00 30 ปีขนึ้ ไป 0 0.00 รวม 50 100.00 จากตารางท่ี 2 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ส่วนบุคคลด้านอายุ ผู้ศึกษาได้สรุปผลการ วิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่อายุ 20-24 ปี คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมา อายุ 15-19 ปี คดิ เป็นร้อยละ 40 ตามลาดับ สว่ นที่ 3 ผลการวเิ คราะหพ์ ฤตกิ รรมของผูท้ ดลองใช้ผลิตภณั ฑ์เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื กลิ่นกหุ ลาบ จากการศึกษาผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกล่ินกุหลาบ ผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ ความพงึ พอใจของผทู้ ดลองใช้ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกลิ่นกุหลาบ โดยการหาค่าเฉล่ีย ( ) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) ความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ กลิ่นกุหลาบ ซึง่ ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ปรากฏดังน้ี 38 ตารางท่ี 3 ตารางแสดงผลการวิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมการลา้ งมือด้วยเจลแอลกอฮอลใ์ น 1 วัน จานวนคร้ัง ( 1 วนั ) จานวน ( คน ) ร้อยละ 3 คร้ังข้ึนไป 10 20.00 2 คร้ัง 10 20.00 1 คร้งั 30 60.00 ไม่เคยลา้ งเลย 0 0.00 รวม 50 100.00 จากตารางท่ี 3 แสดงผลการวิเคราะห์การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ใน 1 วัน ผู้ศึกษาได้ สรุปผลการวเิ คราะห์ พบว่าพฤติกรรมการล้างมือใน 1 วัน ส่วนใหญ่ผู้ทดลองใช้ล้างมือจานวน 1 ครั้ง ตอ่ 1 วนั คดิ เป็นร้อยละ 60 ผูท้ ดลองใช้ล้างมอื จานวน 2 ครง้ั ต่อ 1 วนั คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20 ผู้ทดลองใช้ ลา้ งมือจานวน 3 ครง้ั ตอ่ 1 วัน คดิ เป็นรอ้ ยละ 20 ตามลาดบั ตารางที่ 4 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ประสบการณ์การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เคยใชเ้ จลแอลกอฮอล์ล้างมอื จานวน(คน) ร้อยละ ใช้ 50 100.00 ไม่ใช้ 0 .00 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 4 ผลการวิเคราะห์ประสบการณ์การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือผู้ศึกษาได้สรุป การวิเคราะห์พบว่า ผู้ทดลองใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ จานวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ตามลาดบั ตารางที่ 5 ตารางแสดงผลการวิเคราะหข์ ้อมูลพฤตกิ รรมการพกเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื ติดตัว การพกเจลแอลกอฮอล์ติดตวั จานวน(คน) รอ้ ยละ พกตดิ ตัวทกุ ครัง้ 13 26.00 พกตดิ ตวั บางคร้ัง 22 44.00 ไม่พกเลย 15 30.00 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 5 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู พฤตกิ รรมการพกเจลลา้ งมือแอลกอฮอล์ตดิ ตัว ผู้ศึกษาได้สรุปการวิเคราะห์พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ทดลองใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์มีการพกเจล แอลกอฮอล์ล้างมือติดตัวเป็นบางคร้ังมีจานวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 44 รองลงมาผู้ที่ไม่พกเจล 39 แอลกอฮอล์ มีจานวน 15 คน คดิ เป็นร้อยละ 30 และผู้ที่มกี ารพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือติดตัวทุกครั้ง มีจานวน 13 คน คิดเปน็ ค่ารอ้ ยละ 26 ตามลาดับ ตารางที่ 6 แสดงผลการวิเคราะห์ความพงึ พอใจของผู้ทดลองใชผ้ ลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอลล์ ้างมอื กลิน่ กหุ ลาบ ผลการประเมิน รายการแบบประเมิน ̅ S.D. ผลการ ประเมนิ เนื้อสัมผัสของเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื ใช้แลว้ ไมเ่ หนียวเหนอะหนะ 4.85 0.36 มากทส่ี ดุ เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมอื มีกลิน่ หอม 4.66 0.48 มากทส่ี ุด ประสทิ ธิภาพในการทาความสะอาดของเจลแอลกอฮอล์ล้างมอื 4.61 0.54 มากท่ีสุด เจลแอลกอฮอล์ลา้ งมือไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ การระคายเคืองตอ่ ผิวหนงั 4.66 0.48 มากที่สดุ เมอ่ื ใชผ้ ลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมอื แลว้ มคี วามชุ่มชืน้ ต่อผวิ 4.71 0.46 มากที่สดุ สีของเจลแอลกอฮอลล์ ้างมอื มีความเหมาะสม 4.56 0.50 มากทีส่ ดุ ผลิตภัณฑเ์ จลแอลกอฮอล์ล้างมือสามารถใชไ้ ด้กบั ทกุ สภาพผวิ 4.63 0.54 มากทสี่ ุด บรรจภุ ณั ฑเ์ หมาะกับการใช้ 4.66 0.62 มากทส่ี ุด บรรจภุ ณั ฑบ์ อกส่วนประกอบของเจลล้างมือแอลกอฮอล์ได้อย่าง 4.71 0.46 มากที่สดุ ชดั เจน ความพึงพอใจภาพรวมของเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมือกลน่ิ กหุ ลาบ 4.76 0.49 มากทส่ี ุด รวม 4.68 0.07 มากทสี่ ุด จากตารางท่ี 6 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เจล แอลกอฮอล์ล้างมือกล่ินกุหลาบ ผู้ศึกษาได้สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลเนื้อสัมผัสของเจลแอลกอฮอล์ ลา้ งมือใชแ้ ล้วไมเ่ หนียวเหนอะหนะ เกณฑก์ ารประเมนิ อยู่ในระดบั มากที่สุด ( =4.85) ความพงึ พอใจ ภาพรวมของเจลแอลกอฮอลล์ า้ งมือกล่ินกุหลา มากท่ีสุด ( =4.76) เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ ล้างมือแล้วมีความชุ่มช้ืนต่อผิว มากท่ีสุด ( =4.71) บรรจุภัณฑ์บอกส่วนประกอบของเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ได้อย่างชัดเจน มากที่สุด ( =4.71) เจลแอลกอฮอล์ล้างมือมีกลิ่นหอม มากท่ีสุด ( =4.66) เจลแอลกอฮอล์ล้างมือไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง มากท่ีสุด ( =4.66) บรรจุ ภณั ฑ์เหมาะกับการพกพา มากท่ีสุด ( =4.66) ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือสามารถใช้ได้กับทุก สภาพผิว มากที่สุด ( =4.63) ประสิทธิภาพในการทาความสะอาดของเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ มาก ทส่ี ุด ( =4.61) สขี องเจลแอลกอฮอล์ล้างมือมีความเหมาะสม มากทีส่ ดุ ( =4.56)