ภาษาไทยมีลักษณะเฉพาะของตนเองแตกต่างจากภาษาอื่นการใช้ภาษาไทยให้ได้ผลตรงตาม จุดมุ่งหมายจะต้องรู้จักหลักเกณฑ์ของภาษาไทยอย่างถ่องแท้ ดังนี้ ในห้องนั้น แต่น่าแปลกใจว่าทำไมเขา กันไมาให้ กันเข้าไปในห้อง" คำว่า "กัน" ทั้ง ๓ คำ มีความหมายต่างกันดังนี้ ลักษณะของภาษาไทย ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม ๑. ภาษาไทยเป็นคำโดด ๑. ภาษาไทยเป็นภาษาคำโดด คือ ภาษาที่เป็นคำพยางค์เดียว เช่น คำที่เกี่ยวกับญาติพี่ ลักษณะพิเศษของคำไทยซึ่งไม่มีในภาษาอื่น มีดังนี้ ๑. ภาษาไทยมีคำลักษณ ๒. ภาษาไทยมีคำซ้ำ คำ คำนาม
เพื่อให้ทราบ เพิ่มเพื่อใช้ในภาษา สถานภาพของผู้พูดกับผู้ ๑. โน้น ไป ๒. การเรียงคำเป็นประโยคในรูป ภาษาไทยเรียงคำแบบประธาน กริยา กรรม เมื่อนำคำมาเรียง แต่ก็มีประโยคในภาษาไทยอยู่ไม่น้อยที่เปลี่ยนลำดับคำได้ เช่น ดินเปื้ อนกระเป๋า กระเป๋าเปื้ อนดิน ๓. ภาษาวรรณยุกต์ ภเกปาา็นษรไภาลไา่เทษสียายเทงีป่็มวนีรกภราาณรษไยลาุ่กเวสตรี์ยรหงณรขืยออุกงกตคา์ ำรภผาใันนษภวารวารษรณราณไยทุกยุยตก์มตีไ์ด้ เสียงสามัญ การที่ภาษาไทยผันไล่เสียงได้นี้ ๔. เสียงสระ พยัญชนะ ภาษาไทยมีเสียงสระ พยัญชนะและวรรณยุกต์เป็นหน่วย เสียงสระ ในภาษาไทยมี ๒๑ หน่วยเสียง
เป็นสระเดี่ยว ๑๘ เสียง เท่านั้น ไม่แบ่งเป็นสระสั้น สระยาว เนื่องจากการออกเสียงสระ หมายเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามในการเขียนได้กำหนดเป็น เช่น แมว หมา หมู เป็ด ไก่ สิงโตสระยาวเท่านั้น เสียงพยัญชนะ หรือเสียงแปร คือ เสียงที่เปล่ง ๑. เสียงวรรณยุกต์ หน่วยเสียงวรรณยุกต์ มี ๕ เสียง คือ ๕. การวางคำขยายไว้ข้างหลังคำหลัก คถหเขนู้ตำการิาืมขขงอมยใหยผูนค้าาลเัปำยขยงีกใยรเนคสระนิำภโยมมยทีาาอีค่คษตด้วกัอากงาา็ไงหนมรทัก้าวนตย้าคาอจรคำงงขะำคมกวยขำาาาายขขรงยายยจไคยวาาะ้วจขยยบึ้างาจโอมดองะกหหเยยูกก่กหลมิลัดา่งลาาใัรคยงนววำมคขกัา้หำกอรงทลจณคีคั่ีกะถวำูทเหีกาข่ปผม็ขรูย้ืนพอยเาูคพคาดยิ่ำยมำไวท้ี่ ๑(๒(กโ.ิ.รนคคงำำวเิน่กรงีารยิเมยนป็าน(เค(ปคคำ็นำำหหคหลัำลลกััหกก) ล+)สั่ก+วคนสคำ่ำวขจุนขยเยารท็ยาวายเงเชปเซ่็ช้นน่านยคโรำกเิงปขน็เยนจรุีายควิย่ำนง)ขเทรย็วาางยซ)้าย คำขยาย หรือคำที่ทำหน้าที่ขยาย แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ ๑) คำที่ทำหน้าที่ขยายนาม เป็นคำชนิดต่าง ๆ เช่น คำนาม คำสรรพนาม คำลักษณนาม คำบอกจำนวน เป็นต้น และ เมื่อขยายแล้วจะเกิดเป็นกลุ่มคำนามหรือนามวลี เช่น ละครเพลง ร่มใน ตะกร้า เรือ ๕ ลำ ๒) คำที่ทำหน้าที่ขยายกริยา เป็นคำชนิดต่าง ๆ เช่น คำ กริยา คำช่วยหน้ากริยา คำบอกจำนวน คำลักษณนาม เป็นต้น และเมื่อขยายแล้วจะเป็นกลุ่มคำกริยา หรือกริยา วลี เช่น รู้สึกสงสาร หล่อนดูแลแม่ของหล่อน เป็นต้น ถ้าคำหลัก หรือคำที่ถูกขยายเป็นคำนามที่ทำหน้าที่ ประธาน หรือกรรม และเป็นคำกริยาที่ทำหน้าที่กริยาของ ประโยคที่ต้องการ เนื้อความเพิ่มขึ้นก็จะหาคำมาขยายโดยวางเรียงต่อจาก คำหลัก จึงมีรูปแบบการเรียงคำ ดังนี้ คำหลัก (คำนาม,คำกริยา) + คำขยาย ๖. การลงเสียงหนักเบาของคำ ภาษาไทยมีการลงเสียงหนัก-เบาของคำ
การลงเสียงหนัก เบา ๗. การไม่เปลี่ยนแปลงรูปคำ คำในภาษาไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปคำเมื่อนำไปใช้ใน สมาชิก นางสาว ธันยนันท์ ธรรมกรเวโรจน์ เลขที่ 9 ชั้นมัธยมศึกษาที่6/2 |