ตั้ง ครรภ์ 4 สัปดาห์ มีเลือดออก

พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์

ทารกที่เป็นตัวอ่อน ฝังตัวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผนังมดลูกแล้ว  และแบ่งตัวต่ออย่างไม่หยุดยั้ง รวมกันเป็นแท่งยาว ความยาวของตัวอ่อนในช่วงสัปดาห์ที่ 4 จะยาวเพียง ¼ นิ้วเท่านั้น ซึ่งจะประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชนิด โดยชนิดแรกจะเจริญต่อไปเป็นผม เล็บ หูส่วนใน เลนส์ตา เป็นต้น ชนิดที่สองจะพัฒนาเป็นระบบประสาท จอตา ต่อมใต้สมอง กระดูก กล้ามเนื้อ เซลล์เลือด เซลล์น้ำเหลือง และชนิดที่สามจะพัฒนาไปเป็นปอด หลอดลม ระบบทางเดินอาหาร ตับ ตับอ่อน กระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น 

ช่วงแรกของการตั้งครรภ์เป็นขั้นตอนของการแบ่งตัวของเซลล์สมองให้มากขึ้นหรือเป็นขั้นตอนของการสร้างเนื้อสมอง ทางการแพทย์เรียกว่า Hyperplasia stage  ขั้นตอนนี้จะเริ่มตั้งแต่เมื่อมีการตั้งครรภ์ไปจนถึงอายุครรภ์ได้ประมาณ 4 เดือน ซึ่งในระยะแรกนี้เซลล์สมองของทารกจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

การเปลี่ยนแปลงของตัวคุณแม่

เมื่อถึงสัปดาห์ที่ 4 คุณแม่จะไม่มีประจำเดิอน จะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอน ปัสสาวะบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืด คัดเต้านม อารมณ์จะผันผวนเหมือนก่อนมีประจำเดือน บางท่านอาจจะมีอาการเลือดออกเล็กน้อยเนื่องจากตัวอ่อนฝังตัวอาการต่างๆจะ เป็นมากน้อยในแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน  รกจะสร้างฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รังไข่หยุดการตกไข่ชั่วคราว รังไข่จะสร้างฮอร์โมนที่ช่วยหล่อเลี้ยงการตั้งครรภ์มาแทนที่ ซึ่งฮอร์โมนจากรกนี้สามารถตรวจพบได้ในเลือดหรือปัสสาวะ เพื่อพิสูจน์การตั้งครรภ์ ฮอร์โมนนี้จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น มีเส้นเลือดไปเลี้ยงลูกน้อยที่กำลังเติบโตมากขึ้น  และหน้าอกคุณแม่จะคัดตึงมากขึ้น เป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแรกๆที่บ่งบอกว่าคุณแม่กำลังจะมีลูกน้อยในครรภ์ อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน

ตั้ง ครรภ์ 4 สัปดาห์ มีเลือดออก

แม่ควรรู้

เมื่อประจำเดือนของคุณแม่ไม่มาตามปกติ  ก็สามารถตรวจสอบการตั้งครรภ์ได้ แต่ใน 2-3วันแรกที่ประจำเดือนขาด จะตรวจเจอเพียงแค่ 20% เมื่อประจำเดือนขาดได้ 1 สัปดาห์ จะตรวจปัสสาวะพบการตั้งครรภ์ได้ 50% และจะตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ 100% เมื่อประจำเดือนขาดไป 2 สัปดาห์ การตรวจปัสสาวะควรตรวจตอนเช้า เนื่องจากเป็นช่วงที่มีฮอร์โมนออกมาสูงสุด ฮอร์โมนที่รกสร้างขึ้นนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกๆ  2-3 วัน ตลอด 10 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ

คำนวณวันครบกำหนดคลอด

กรุณาระบุวันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย

รอบประจำเดือนของคุณอยู่ในช่วงกี่วัน

ไฮ-แฟมิลี่ แคร์ไลน์

บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง

บทความที่เกี่ยวข้อง

  1. การตั้งครรภ์ พัฒนาการทารก ผลิตภัณฑ์นม Hiq จาก Hi-Family Club Nutricia
  2. ตั้งครรภ์
  3. สัปดาห์
  4. สัปดาห์ 4

ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่แม่ๆ หลายคนกำลังลุ้นว่า ทุกอย่างจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัยหรือไม่? ปัญหาที่แม่ๆ มักจะเจอได้บ่อยๆ คือ มีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งมักจะทำให้แม่ๆ กังวลไม่น้อย แต่การมีเลือดออกอาจไม่ใช่เรื่องร้ายแรง หรือ ภาวะแท้งเสมอไป แล้วในช่วงไตรมาสแรก สาเหตุที่มีเลือดออกทางช่องคลอดมีอะไรบ้าง? เดี๋ยวไปติดตามกันค่ะ

ตั้ง ครรภ์ 4 สัปดาห์ มีเลือดออก

จากข้อมูลการศึกษาในปี 2010 พบว่า กว่า 30% ของคนท้อง อาจมีอาการเลือดออกทางช่องคลอดได้ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์และเลือดที่ออก ไม่ได้ส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์ และสามารถดำเนินการตั้งครรภ์ได้อย่างปกติ แล้วอาการเลือดออกทางช่องคลอดในไตรมาสแรก เกิดจากสาเหตุต่างๆ ต่อไปนี้

1.เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation bleeding)

เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดจากการที่ตัวอ่อนฝังตัวที่ผนังมดลูก มักพบวันที่ 6-12 หลังไข่ตก สีจะเป็นสีน้ำตาลหรือชมพูอ่อนๆ และปริมาณไม่มาก ซึ่งเลือดล้างหน้าเด็กเป็นสัญญาณหนึ่งของการตั้งครรภ์ แต่ไม่จำเป็นต้องมีทุกคน (อ่านเพิ่มเติมเรื่องเลือดล้างหน้าเด็ก) หลายคนอาจสับสนกับประจำเดือนได้

2. เลือดออกตามหลังการออกกำลังกายหรือการมีเพศสัมพันธ์

ในช่วงตั้งครรภ์ จะมีเลือดมากเลี้ยงบริเวณปากมดลูกมากขึ้น ทำให้มีโอกาสมีเลือดออกได้ง่ายขึ้น เมื่อมีอะไรไปสัมผัส เช่น การตรวจร่างกายทางช่องคลอด หรือ การมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเลือดที่ออก อาจเป็น สีน้ำตาล หรือ สีแดงอ่อนๆ และจะมีปริมาณไม่มาก และจะหยุดเอง ซึ่งไม่ได้เป็นภาวะที่น่ากังวลแต่อย่างใด

3. ท้องแฝด (Twins)

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝด มีโอกาสเพิ่มมากขึ้น ที่จะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ซึ่งอาจเป็นภาวะแท้งคุกคาม ที่อาจต้องได้รับการดูแลจากสูตินารีแพทย์ นอกจากนี้ เลือดที่ออกในท้องแฝด อาจเป็นเลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนได้เช่นกัน

4. ท้องนอกมดลูก (Ectopic pregnancy)

การตั้งท้องนอกมดลูก เกิดจากการที่ตัวอ่อนไปฝังตัวที่ตำแหน่งอื่นนอกมดลูก เช่นท่อนำไข่ ซึ่งพบประมาณ 2.5% ของการตั้งท้องโดยทั่วไป นอกจากอาการเลือดออกทางช่องคลอดแล้ว มักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น

  • อาการปวดท้องน้อยด้านใดด้านหนึ่ง

  • อาการหน้ามืด เป็นลม

  • ความดันต่ำ

ซึ่งภาวะท้องนอกมดลูกนี้ เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษา

5. ครรภ์ไข่ปลาอุก (Molar pregnancy)

ครรภ์ไข่ปลาอุก เกิดจากความผิดปกติของการแบ่งตัวของรก โดยตัวอ่อนอาจเจริญเติบโตหรือไม่ก็ได้ พบได้ประมาณ 1 ใน 1,000 คนของหญิงตั้งครรภ์ อาการที่พบได้คือ

  • เลือดออกทางช่องคลอด อาจเป็นสีแดงหรือน้ำตาล

  • อาการปวดท้อง

  • อาการแพ้ท้องอย่างหนัก

6. ภาวะแท้ง

ภาวะแท้ง อาจมีตั้งแต่ภาวะแท้งคุกคาม หรือ แท้งสมบูรณ์ก็ได้ (อ่านเพิ่มเติมเรื่องภาวะแท้ง) ซึ่งภาวะแท้งจะพบประมาณ 15-20% ของการตั้งครรภ์ ซึ่งหลายครั้งก็ไม่สามารถที่จะหยุดยั้งภาวะนี้ได้ และมักจะเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมของตัวอ่อน โดยอาการที่อาจบ่งบอกว่าอาจมีภาวะแท้งคือ

  • เลือดออกทางช่องคลอดปริมาณมาก

  • เลือดสีแดงสด

  • ปวดท้องน้อย

  • ปวดหลัง

  • มีถุงตัวอ่อน หรือส่วนประกอบของรกหลุดออกมา

โดยถ้ามีอาการที่น่าสงสัยภาวะแท้ง ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้รับการดูแลเพิ่มเติม

เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์

แม้ว่า ภาวะเลือดออกทางช่องคลอดจะพบได้บ่อย อย่างไรก็ตาม การมีเลือดออกช่วงตั้งครรภ์ ถือเป็นภาวะที่ต้องระมัดระวัง ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแล เพื่อตรวจเพิ่มเติมว่า อาการเลือดออกนั้น เป็นภาวะผิดปกติที่ต้องได้รับการดูแลหรือไม่ค่ะ

ในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสแรก คุณแม่ต้องระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษนะคะ ขอให้แม่ๆ ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง และตัวน้อยในท้องก็แข็งแรงเช่นกันค่ะ แล้วมาติดตามกันได้ใหม่ในบทความหน้าค่ะ

เขียนโดย

พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย (Tantawan Jomkwanjai. MD) Dr. Noi The Family

#เลือดออกตอนท้อง #เลือดออกทางช่องคลอดตอนท้อง #เลือดสีน้ำตาลทางช่องคลอดตอนท้อง

ท้องกี่สัปดาห์ถึงมีเลือดออก

โดยทั่วไป สตรีมีครรภ์ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ มักพบเลือดออกเล็กน้อยในช่วงไตรมาสแรกประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีเลือดออกในช่วงไตรมาสที่สองและสามจะถือว่าเป็นเรื่องฉุกเฉินและอาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีเลือดออกในปริมาณมาก จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์โดยเร็วที่สุด

ทำไมท้องถึงมีเลือดออก

เกิดจากความผิดปกติของการปฏิสนธิของไข่และอสุจิ ทำให้ตัวอ่อนไปฝังตัวอยู่ภายนอกโพรงมดลูกโดยเฉพาะบริเวณท่อนำไข่ เมื่อเจริญเติบโตก็อาจส่งผลให้ท่อนำไข่แตก ทำให้มีเลือดออก ปวดเกร็งหน้าท้องส่วนล่างอย่างมาก หรือเวียนศีรษะได้

ตั้งครรภ์เลือดออกสีอะไร

อาการเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ นับเป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก ๆ เลยนะคะ ซึ่ง 1 ใน 3 ของคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอาการเลือดออกในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก หรือช่วงเดือนที่ 1-3 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเป็นเลือดจุดสีน้ำตาลจนถึงสีแดง บางครั้งอาจออกมาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับมีก้อนเลือดผสมออกมาด้วยค่ะ

ตั้งครรภ์มีเลือดออกได้ไหม

การมีเลือดออกจากช่องคลอดในระหว่างตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่พบ 2 ช่วง คือ ช่วงครึ่งแรกของการตั้งครรภ์ (ช่วงอายุครรภ์ไม่เกิน 20สัปดาห์) และช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์การมีเลือดออกทางช่องคลอดสำหรับการตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องปกติ ต้องรีบมาพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจสอบสาเหตุของเลือดที่ออกว่าเป็นอันตรายหรือไม่ มีโอกาสแท้งมากน้อยแค่ไหน หรือ ...