ทอง 0.1 ออนซ์ เท่ากับ กี่กรัม

แปลงจาก ออนซ์ ถง กรัม. พิมพ์จำนวนที่คุณต้องการแปลง แล้วกดปุ่มแปลง.

อยู่ในหมวดหมู่
น้ำหนัก

1 ออนซ์ = 28.3495 กรัม10 ออนซ์ = 283.5 กรัม2500 ออนซ์ = 70873.85 กรัม2 ออนซ์ = 56.6991 กรัม20 ออนซ์ = 566.99 กรัม5000 ออนซ์ = 141747.7 กรัม3 ออนซ์ = 85.0486 กรัม30 ออนซ์ = 850.49 กรัม10000 ออนซ์ = 283495.41 กรัม4 ออนซ์ = 113.4 กรัม40 ออนซ์ = 1133.98 กรัม25000 ออนซ์ = 708738.52 กรัม5 ออนซ์ = 141.75 กรัม50 ออนซ์ = 1417.48 กรัม50000 ออนซ์ = 1417477.04 กรัม6 ออนซ์ = 170.1 กรัม100 ออนซ์ = 2834.95 กรัม100000 ออนซ์ = 2834954.08 กรัม7 ออนซ์ = 198.45 กรัม250 ออนซ์ = 7087.39 กรัม250000 ออนซ์ = 7087385.19 กรัม8 ออนซ์ = 226.8 กรัม500 ออนซ์ = 14174.77 กรัม500000 ออนซ์ = 14174770.38 กรัม9 ออนซ์ = 255.15 กรัม1000 ออนซ์ = 28349.54 กรัม1000000 ออนซ์ = 28349540.77 กรัม

ฝังตัวแปลงหน่วยนี้ในหน้าของคุณหรือบล็อก โดยคัดลอกรหัส HTML ต่อไปนี้:

ป้อนจำนวนของ ออนซ์ เพื่อแปลงไปยัง กรัม

ผลลัพธ์

1 ออนซ์ เท่ากับกี่ กรัม

1 ออนซ์ เท่ากับ 28.349523 กรัม

สูตรการแปลง

การคำนวณ

เพื่อแปลงจาก กรัม (g) เป็น ออนซ์ (oz av) คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดสูตรg = oz av × 28.349523ขั้นตอนที่ 2: แทนค่าลงในสูตรg = 1 × 28.349523ขั้นตอนที่ 3: คำนวณหาผลลัพธ์g = 28.349523

ดังนั้น 1 ออนซ์ มีค่าเท่ากับ 28.349523 กรัม

แปลง กรัม เป็น ออนซ์

ตารางการแปลง ออนซ์ เป็น กรัม

คุณสามารถปรับแต่งตารางการแปลง ออนซ์ เป็น กรัม โดยการเปลี่ยนค่าในฟอร์มด้านล่างนี้

แปลง ออนซ์ ไปยังหน่วยอื่นๆ

สำรวจการแปลงเพิ่มเติม

Nov 29, 2022 ถล่มเทยับ! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดำดิ่งเฉียด 500 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหลุด 84 ดอลลาร์ ราคาทองคำปิดเกือบหลุด 1,740 ดอลลาร์
.
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,849 จุด -497 จุด หรือ -1.45% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,963 จุด -62 จุด หรือ -1.54% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,049 จุด -176 จุด หรือ -1.58% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับขึ้น 1.78%, 1.53% และ 0.72% ตามลำดับ
.
สาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุชุมนุมประท้วงของคนจีนในหลายเมืองใหญ่ของจีนเกี่ยวกับการไม่เอานโยบายไม่อยู่ร่วมกับโควิด-19 ซึ่งจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะซบเซาถึงถดถอยเร็วขึ้น บล็อคไฟ(BlockFi) แพลทฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีประกาศล้มละลาย ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาเซ็นต์หลุยส์ มองว่าเฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นต่อไปเรื่อยๆในปี 2023
.
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 77.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.3% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 83.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.5% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ลดลง -4.7% และ -4.6% ตามลำดับ และยังเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ต่อเนื่อง
.
สาเหตุจากก่รประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้านี้ เริ่มมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคมนี้ ขณะที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี 7 เปิดเผยว่า กำลังมองหาช่วงราคาที่เหมาะสมในการประกาศใช้มาตรการเพดานราคาน้ำมันดิบที่ขนส่งทางทะเลจากประเทศรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่าง 65-70 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวจะกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกมากน้อยแค่ไหน
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,740.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -14.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.80% ราคาทองคำที่ปรับขึ้นรอบเดือนพฤศจิกายนนี้ขึ้นไปแตะสูงสุดที่ 1,786.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ราคาปิดขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน
.
ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นจากสถานการณ์ความไม่สงบของผู้ชุมนุมประท้วงนโยบายไม่อยู่ร่วมโรคระบาดโควิด-19 ที่กระจายไปในหลายเมืองใหญ่ในจีน สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นปรับเพิ่มขึ้นทันที
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3VwXWja
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ลงทุน #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #ราคาทอง #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #สหรัฐ #ดาวโจนส์ #นาสแดค #เอสแอนด์พี500 #ดอกเบี้ย #เงินเฟ้อ #เศรษฐกิจถดถอย #BTimes

 

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ชี้จับตาปี 66 อาจเผชิญโอมิครอนรุ่น 3 ยังไม่ชัดความรุนแรง

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยวิวัฒนาการโควิด19 สู่โอมิครอน - ลูกผสม จับตาปี 66 อาจเผชิญโอมิครอนรุ่น 3 ยังไม่ชัดความรุนแรง

วันนี้ (28 พ.ย.) เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ของศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความระบุหัวข้อ "การอุบัติขึ้นของโอมิครอนรุ่นที่ 1, 2, 3, สายพันธุ์ลูกผสม และ “พาย/Pi” ไวรัสโคโรนา 2019 มูฟออนไปกับเรา" ระบุว่า "ย้อนหลังไป 1 ปีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศแจ้งชื่อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ใหม่ “B.1.1.529” ตามอักษรกรีกว่า “โอมิครอน” ตามคำแนะนำของกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับวิวัฒนาการของไวรัส (TAG-VE) ขององค์การอนามัยโลก จากหลักฐานที่ว่า “โอมิครอน” มีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งโดยเฉพาะส่วนโปรตีนหนามที่อาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว (กว่าสายพันธุ์เดลตา) อาจมีผู้ติดเชื้อเจ็บป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

จากนั้นเพียง 4 สัปดาห์ นักวิทยาศาสตร์ในหลายประเทศก็ได้พบ “โอมิครอน” ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยเข้ามาแทนที่สายพันธุ์ “เดลตา” แต่โชคดีที่โรคโควิด-19 จากสายพันธุ์โอมิครอนมีอาการความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าสายพันธุ์เดลตามาก

ต้นปี 2565 โอมิครอน (B.1.1.529) เริ่มมีการกลายพันธุ์เกิดเป็นโอมิครอนรุ่นแรก (first generation omicron variants) ทยอยระบาดแทนที่กันมาเป็นลำดับตั้งแต่ BA.1, BA.2, BA.4, และ BA.5 ที่ระบาดอยู่ขณะนี้ (ปลายปี 2565)

ตั้งแต่ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาโอมิครอน BA.5 เริ่มอ่อนกำลังการระบาดและลดจำนวนลง โลกก็ได้พบกับโอมิครอนรุ่นสอง (second generation omicron variants) เป็นกลุ่มโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย (A soup of omicron subvariants) ซึ่งเป็นรุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลนของ “BA.2” เช่น BA.2.75, BN.1, CH.1.1, BQ,1, BQ.1.1, BF.7 อุบัติขึ้นมา

ในเวลาไล่เลี่ยกันหลายประเทศได้พบกับไวรัสลูกผสม (recombinant variant) ในสองลักษณะ

1. ระหว่างโอมิครอนต่างสายพันธุ์ ที่สามารถเพิ่มตำแหน่งการกลายพันธุ์ได้รวดเร็วกว่าการกลายพันธุ์ด้วยตนเองของแต่ละสายพันธุ์ โดยเฉพาะบริเวณส่วนโปรตีนหนามเพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและการติดเชื้อจากธรรมชาติได้เหนือกว่าบรรดาโอมิครอนรุ่นสอง

I. โอมิครอนลูกผสมสองสายพันธุ์ “XBB” เป็นลูกผสมระหว่างโอมิครอน BJ.1 และ BA.2.75*
II. โอมิครอนลูกผสมสองสายพันธุ์ “XBD” เป็นลูกผสมระหว่างโอมิครอน BA.2.75 และ BA.5.2.1 และ
III. โอมิครอนลูกผสมสองสายพันธุ์ “XBF” เป็นลูกผสมระหว่างโอมิครอน BA.5.2.3 และ BA.5.2.1

2. ระหว่างสองสายตระกูล “เดลตา” และ “โอมิครอน BA.2” ที่เรียกขานกันว่า “เดลตาครอน” พบไม่มากในประเทศฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, ออสเตรีย ฯลฯ กล่าวคือ XAY,XBA,XBC, และ XAW

ผู้เชี่ยวชาญตั้งสมมติฐานว่าลูกผสมจากสองสายตระกูลเหล่านี้เกิดจากผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเดลตาเรื้อรังแล้วมาติดเชื้อซ้ำด้วยสายพันธุ์โอมิครอน BA.2 เกิดการแลกเปลี่ยนส่วนของจีโนมในร่างกายของผู้ติดเชื้อรายเดียวกันเกิดเป็นลูกผสมระหว่าง เดลตา และโอมิครอน

XAY และ XBC ยังคงหมุนเวียนอยู่ในหลายประเทศ แต่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ สายพันธุ์ลูกผสมระหว่างสองตระกูลเหล่านี้แพร่ระบาดได้ไม่ดีนัก อันอาจเนื่องมาจากยีนสร้างโปรตีนหนามได้มาจากโอมิครอน BA.2 เกือบ 100% ต่างจากโอมิครอนต่างสายพันธุ์ เช่น“XBB” ที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากส่วนหนามมาจากโอมิครอนลูกผสมสองสายพันธุ์ คือ BJ.1 และ BA.2.75* ที่เสริมประสิทธิภาพการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนและจากการติดเชื้อตามธรรมชาติได้ดีกว่าเดลตาครอน แต่ก็ยังมีข้อที่น่ากังวลใจที่เดลตาครอนเป็นสายพันธุ์มียีนก่อโรครุนแรงของสายพันธุ์เดลต้าอยู่ด้วย

โอมิครอนลูกผสม XBB และ XBB.1 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่าโอมิครอนรุ่นที่สองทุกสายพันธุ์ในปัจจุบัน(BA.2.75, BN.1, BQ,1, BQ.1.1, BF.7) ยกเว้นเพียงสายพันธุ์เดียวคือ CH.1.1 ซึ่งมีต้นตระกูลมาจาก BA.2 พบในประเทศออสเตรีย, ออสเตรเลีย, อังกฤษ ฯลฯ

ปีหน้า 2566 คาดว่าทั่วโลกอาจมีโอกาสได้เห็นโอมิครอนรุ่นสาม (third generation omicron variants) เป็นโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยซึ่งเป็นรุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลนของ “BA.5” ซึ่งยังไม่อาจคาดคะเนได้ว่าจะมีอาการไม่รุนแรงคล้ายไข้หวัดหรือก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง (severe) จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเหมือนในช่วงที่เดลตาระบาดจนองค์การอนามัยโลกต้องให้อักษรกรีกที่จะใช้กับไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ก่อโรครุนแรงตัวถัดจากโอมิครอนคือ π (พาย/Pi) หรือไม่

อนึ่ง การที่มีโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยซึ่งเป็นรุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลนของ “BA.2” ระบาดขึ้นมาก่อนเพราะ BA.2 มีการระบาดกลายพันธุ์มาก่อน BA.5 ตั้งแต่ต้นปี 2565"

ที่มา : NEWS1

 

" ไม่ได้ เอาหมอแผนไทยมานั่งแค่เลี่ยงบาลี

"อนุทิน" ลั่นร้านเปิดห้องสูบ "กัญชา" ทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย เอาแพทย์แผนไทยมาเป็นแสตมป์ประจำก็ไม่ได้ เหตุไม่ใช่คลินิกรักษาโรค อย่าเลี่ยงบาลี กรมแผนไทยเตีรยมหารือ ตร.วางแนวทางคุมไม่ให้ทำผิด เผยมติวิปรัฐให้หนุนร่าง กม.กัญชา ไม่ทำตามก็ผิดมารยาททางการเมือง เตือนกลุ่มไม่ผลักดัน กม. ระวังถูกกระแสตีกลับ

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีข่าวผู้ประกอบการบางรายเตรียมเปิดห้องสูบกัญชา มีแพทย์แผนไทยมาประจำร้าน ว่า เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม ที่กำหนดควบคุมช่อดอกกัญชา เขียนชัดเจนว่าห้ามสูบ เสพ ในสถานที่สาธารณะ ห้างร้านต่างๆ ซึ่งการสูบเสพไม่ใช่เจตนารมณ์ของ สธ.ในการให้ใช้กัญชา ส่วนร้านที่จะให้มีแพทย์แผนไทยนั่งอยู่ได้ต้องเป็นคลินิกรักษาโรค ไม่ใช่การขายของ จะบอกว่ามีแพทย์แผนไทยนั่งอยู่แล้วบอกว่ามวนสูบได้

"ตรงนี้แพทย์แผนไทยก็จะมีความผิด เพราะไม่ได้ปฏิบัติหรือทำหน้าที่ที่ควรจะเป็น คือ การรักษา ไม่ใช่ไปนั่งเป็นแสตมป์ให้สามารถสูบกัญชาในร้านได้ อันนี้เรียกว่าเลี่ยงบาลี ไม่ใช่เจตนารมณ์ของสธ." นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่าการทำก่อนประกาศฉบับนี้ออกมาถือว่ามีความผิดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องของการสูบ เสพ ไม่เคยมีอยู่แล้ว การนำไปแปรสภาพเป็นสินค้าแล้วจำหน่ายเพื่อให้มีรายได้ ต้องมีการขออนุญาตชัดเจน ไม่มีช่องโหว่ มีแต่คนไปขุดให้เป็นช่องโหว่ ย้ำว่านี่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของนโยบายกัญชาทางการแพทย์

ถามต่อว่าอาจจะมีการตีความว่าเป็นการสูบในที่มิดชิด ไม่มีคนแจ้ง หรือร้องเรียนว่ากลิ่นและควันสร้างความรำคาญ นายอนุทินกล่าวว่า หากทำอะไรผิดกฎหมาย แล้วคนไม่เห็น หรือคนไม่แจ้ง และอยู่นอกสายตาของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก็หลักเดียวกัน ดังนั้น หากคนเห็นการกระทำผิดกฎหมายก็มีหน้าที่แจ้งตามกฎหมาย แต่หากสูบในบ้านประตู 3 ชั้น 5 ชั้น อันนี้ไม่รู้ เพราะเราได้แต่บอกว่าห้ามทำ สำหรับกรณีที่ผิดนั้น เราตรวจสอบเท่าที่ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ทั้งกรมการแพทย์แผนไทย อย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ จะหารือแนวทางกับตำรวจว่าจะควบคุมไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างไร แต่อย่างที่บอกหากจะเน้นก็ต้องเน้นกันทุกเรื่อง คนที่ทำกัญชาเพื่อการแพทย์และเศรษฐกิจก็จะทำยาก ต้องเปลี่ยนมุมมองวันนี้ไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว

เมื่อถามว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า สธ.อาจจะต้องมีประกาศออกมาอีก จะมีการออกประกาศอะไรเพิ่มหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายวิษณุบอกว่าตราบใดที่กฎหมายยังไม่ผ่าน หาก สธ.จะงัดกฎหมายอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจก็ทำได้ เพราะอำนาจอยู่ที่รัฐมนตรี ไม่ต้องมาขออีก คราวที่แล้วเป็นความผิดพลาดทางการสื่อสาร แต่ปัจจุบันค่อนข้างที่จะครอบคลุมเกือบหมดแล้ว ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา พ.ศ. ... วิปรัฐบาลประชุมหารือและมีมติร่วมว่า ขอให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ลงมติตามคณะกรรมการเสียงข้างมาก ซึ่งคณะกรรมมาธิการกัญชง กัญชามีมติชัดเจนว่าให้สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ นัยคือต้องถือว่าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบ หาก ส.ส. เห็นต่างและไม่ปฏิบัติตามก็เท่ากับฝ่าฝืนมติพรรคร่วมรัฐบาล ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

"นโยบายนี้ถูกนำมาหาเสียงตั้งแต่เลือกตั้ง ไม่ใช่เพิ่งเกิด ตอนฟอร์มรัฐบาลก็ไม่มีใครไม่เห็นด้วย แถมช่วยกันร่าง เป็นเรื่องของการอยู่ร่วมกัน รักษามารยาทของการร่วมรัฐบาล ถ้าจะมาเห็นว่าเป็นช่วงท้ายรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปต่อรองว่า ถ้าไม่ผ่านพ.ร.บ.กัญชาแล้ว ภูมิใจไทยก็ไม่เคยพูดว่าจะมีท่าทีไม่ไว้วางใจในสภา ไม่สนับสนุนกฎหมายของพรรคอื่น ใครไม่สนับสนุนก็ได้แต่รับทราบว่าไม่สนับสนุนไม่ทำตามมารยาท ไม่ทำตามข้อตกลง แต่เราไม่เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน ประชาชนก็จะดูว่าพรรคไหนทำงานกันอย่างไร หากเที่ยวนี้กฎหมายไม่ผ่านประชาชนก็สนับสนุน ภท. ให้มี ส.ส.ในสภามากพอที่จะผลักดันกฎหมายให้ผ่านได้" นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.จะเข้าสภาสัปดาห์หน้า หากไม่ผ่านก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ปิดสมัยประชุมสภาก็กลับมาใหม่เที่ยวหน้า แต่ไม่กระทบอะไรกับผู้ประกอบการ เพราะเรามีประกาศ สธ.อยู่ แต่คนที่อยากให้มีความชัดเจน อยากให้การใช้กัญชาเกิดประโยชน์จริง คุมการใช้ผิดประเทศก็ผลักดันกฎหมายเท่านั้นเอง ระวังกระแสตีกลับ และกลายเป็นว่าคนที่ผลักดันไม่ให้มีกฎหมายกัญชา เพราะต้องการเอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ ต้องติดตาม

ถามว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะความรีบร้อนของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ตนอธิบายหมดแล้วเรื่องความปลอดภัย ฯลฯ คนที่ขึ้นรถไม่ทัน ทำอะไรไม่ได้ ไม่สามารถทำอะไรได้ก็เอาเรื่องการเมือง เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน ก็พูดได้แค่นี้ ตอนเสนอร่าง พ.ร.บ.เข้าไปวาระแรก ก็รับหลักการด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น มากกว่าคะแนนที่รัฐมนตรีได้รับการไว้วางใจ ซึ่งแปลว่าควรมีกฎหมาย พอพิจารณาเพิ่มเป็น 95 มาตราแล้วมาบอกว่าจะไม่รับ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร หาก ภท.ไม่ทำ ไม่ออกประกาศมา ป่านนี้ก็จะโดนอีกข้อหาหนึ่งว่าทำไม่สำเร็จ ไม่รักษาคำพูด ไม่มีน้ำยา ออกนโยบายหลอกประชาชน พอพูดเรื่องนี้ไม่ได้ก็ไปเอาเรื่องอื่นมาพูดแทน อย่างประกาศคุมช่อดอกก็ไม่ได้ช้า ลงในราชกิจจาฯ ภายใน 1 สัปดาห์

ที่มา : NEWS1

 

ดีเอสไอรับสำนวน “P Miner” หลอกเหยื่อลงทุน เป็นคดีพิเศษ

MGR Online - ดีเอสไอ รับมอบสำนวนจากตำรวจ สอท.1 สืบสวนสอบสวนคดี “P Miner” หลังรับเป็นคดีพิเศษ หลอกผู้เสียหายลงทุนจำนวนมาก เสียหาย 1,200 ล้านบาท

วันนี้ (28 พ.ย.) เวลา 13.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และ พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ ผอ.ส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 290/2565 รับมอบสำนวนจาก พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 และ พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก. (สอบสวน) กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1)

กรณี ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป กับพวก พร้อมด้วยทรัพย์สินที่พนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการยึด ไว้เป็นของกลางในคดี อาทิเช่น รถยนต์ยี่ห้อ Bentley สีดำ รุ่น Bentayga จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI สีเหลือง รุ่น HURACAN LP610-4 COUPE จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ FERRARI สีแดง รุ่น 488 SPIDER จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น BOXSTER 718 สีเทา จำนวน 1 คัน และ ของกลางอื่น ๆ อีกหลายรายการ เพื่อให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ รับไว้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายรวมแล้วมากกว่า 1,000 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 1,200 ล้านบาท

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ เปิดเผยว่า ได้มีการแจ้งความไว้กับ สอท.1 จำนวน 721 ราย ความเสียหายเกือบ 1,000 ล้านบาท โดยได้มีการสอบปากคำไปแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็จะส่งต่อให้ดีเอสไอ อีกทั้งมีการออกหมายจับไปแล้ว 4 ราย ได้แก่ นายกิติกร อินต๊ะ หรือ เป้ P Miner , น.ส.ณัฐวดี พรหมปัญญา และ เครือญาติ ซึ่งทั้งหมดหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศแต่ได้มีการดำเนินการออกหมายแดงไปแล้ว รวมถึงได้มีการอายัดบัญชีธนาคารออมทรัพย์ เบื้องต้นจำนวน 117 บัญชี ยอดรวม 112 ล้านบาท และได้อายัดคริปโตเคอเรนซี หรือบิตคอยน์ ประมาณ 40 บิตคอยน์ รวมเป็นจำนวนเงินเกือบ 22 ล้านบาท พร้อมได้ยึดรถหรูอีก จำนวน 6 คัน รวมการยึดมอเตอร์ไซค์และรถยนต์หรู รวมเป็นทรัพย์สินจำนวน 100 กว่าล้านบาท ซึ่งจากนี้จะเป็นการดำเนินการของดีเอสไอต่อไป

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวอีกว่า สำหรับ 3 ข้อหาที่แจ้งผู้กระทำผิดทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย ฐานความผิด พ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ เผยว่า ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษ หลังจากได้ร่วมบูรณาการเรื่องข้อมูลกับ สอท.1 มาตลอด โดย สอท.1 ได้ยึดทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงหลายรายการ โดยเฉพาะเครื่องขุดบิตคอยน์ ประมาณ 100 เครื่อง จากการสอบสวนของของ สอท.1 พบว่าไม่มีการใช้เครื่องเลย จึงเห็นได้ว่ามีพฤติกรรมชัดเจนในการชักชวนหลอกลวงให้ผู้เสียหายเกือบพันรายร่วมลงทุนเทรดเหรียญและลงทุน

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนรถหรูบางคันจาก 6 คันที่ยึดมานั้น พบว่าบางคันเป็นรถที่เขาใช้ไว้กระทำผิด เช่น แลมโบกินี่ 1 คัน เฟอรารี่ 1 คัน ซึ่งผู้ต้องหาเอาไว้โชว์ให้ผู้เสียหายดูว่าถ้าลงทุนกับเขาจะได้ผลตอบแทนจำนวนมาก ดังนั้น รถทั้งสองคันนี้จึงเชื่อได้ว่าเป็นรถที่มาจากการกระทำผิด ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีมูลค่าที่ สอท.1 ได้ตรวจสอบไว้ เราก็จะนำมาแยกว่าส่วนไหนนำส่งให้ ปปง. ได้ เพื่อ ปปง. ดำเนินการเยียวยาผู้เสียหายได้เร็วขึ้น

“ส่วนผู้เสียหายที่เหลือเตรียมเปิดลงทะเบียนในระบบ QR CODE อีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จนถึง 31 ม.ค.66 ที่หน้าเว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ www.dsi.go.th นอกจากนี้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ก็ได้ให้นโยบายด้วย ว่า ดีเอสไอต้องรีบดูเรื่องทรัพย์สินเพื่อจะยึดเพิ่ม เพื่อจะเยียวยาผู้เสียหายให้มากที่สุด”

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนถ้ามีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากการกระทำความผิดดังกล่าวจากการสอบปากคำผู้เสียหายหลังจากนี้ เราก็จะดำเนินคดีร่วมทุกราย และจะนำตัวผู้กระทำผิดกลับมารับโทษทุกราย ทั้งนี้ หลังจากรับสำนวนจาก สอท.1 มาแล้ว เราก็จะดำเนินการตรวจสำนวนและพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดูว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปต่างประเทศหรือไม่ หรือยักย้ายถ่ายเทไปที่ใดอีก ทั้งนี้ จะเริ่มสอบปากคำผู้เสียหายได้ภายหลังจากรวบรวมยอดผู้เสียหายจากทุกช่องทาง อย่างไรก็ตาม จะลงทุนอะไรให้ดูว่าได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือไม่ ถ้าไม่มีการอนุญาตหรือรับรอง ขอให้ระมัดระวังการร่วมลงทุน เพราะอาจถูกหลอกได้

ที่มา : NEWS1

 

ชงบอร์ด ปตท.อุ้มค่าไฟ 6 พันล้านตามมติ กพช.

จับตาบอร์ด ปตท.ชี้ขาดวงเงินสนับสนุน 6 พันล้านบาทอุ้มค่าไฟตามมติ กพช.ในเร็วๆนี้ ขณะที่ปีหน้าราคา LNG ตลาดจรส่อแววพุ่งต่อเฉลี่ย 43-48 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู โดยไทยต้องนำเข้า LNG ตลาดจรราว 3 ล้านตัน ขณะที่ราคาน้ำมันปรับลดลงอยู่ที่กรอบ 85-95 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นายธนพล ประภาพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 มีมติขอความร่วมมือจาก ปตท. จัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. 66) รวม 6,000 ล้านบาท มาช่วยอุ้มค่าไฟฟ้านั้น ปตท.ในฐานะบริษัทพลังงานของชาติและเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำเป็นต้องคำนึงถึงผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ซึ่งแนวทางการช่วยเหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างรอบคอบ

ส่วนแนวโน้มราคาพลังงานในปี 2566 ท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกและนโยบาย Zero Covid ของจีนกดดันความต้องการใช้น้ำมันโลก ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปีหน้าจะอ่อนตัวลงจากปีนี้ที่เฉลี่ย 96-101 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ในกรอบ 85-95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปีหน้า ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิดอ่อนตัวลงด้วย ส่งผลให้ค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์ (Market GRM) ในปี 2566 ย่อตัวลงมาอยู่ที่ 7.3-8.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีนี้ GRM อยู่ที่ 9.6-10.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติเหลวตลาดจร (Spot LNG) ในปีหน้าสูงขึ้น คาดว่าอยู่ที่ 43-48 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู จากปีนี้ที่เฉลี่ย 33-38 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียูเนื่องจากปริมาณการส่งก๊าซฯ จากรัสเซียหายไปจากตลาด และการเข้าสู่ฤดูหนาวที่ล่าช้า

ในปีหน้าราคาปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ คาดว่าราคาจะปรับลดลงทุกผลิตภัณฑ์ราว 4-6% เมื่อเทียบจากปีนี้ เนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่า การควบคุมโควิด-19 ในจีน อุปทานกำลังผลิตใหม่ที่เข้ามาในตลาดมากขึ้นเกินความต้องการใช้ กดดันให้มีการใช้อัตรากำลังการผลิตโรงอะโรเมติกส์เหลือเพียง 70% และโรงโอเลฟินส์ 80% ของกำลังการผลิต ขณะที่ราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นช่วยดันราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับขึ้นมาได้บ้าง

สำหรับการผลิตก๊าซฯ ในแหล่งปิโตรเลียม G1/61 (แหล่งเอราวัณ) ปี 2566 จะทยอยผลิตก๊าซฯ ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 300-400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และในปี 2567 จะกลับมาผลิตก๊าซธรรมชาติได้ตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ที่ระดับ 800 ล้านลูกบาศกฟุต/วัน ทำให้ปี 2566 จะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ประมาณ 3 ล้านตันเพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้น

ส่วนธุรกิจไฟฟ้า คาดว่าความต้องการใช้ในประเทศจะฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ แต่ราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงจะกดดันต้นทุนเชื้อเพลิง

นายธรพลกล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจ Future Energy ในส่วนของ EV Chargers ของ “อรุณ พลัส” ตั้งเป้าหมายจะมีปั๊มชาร์จ EV อยู่ที่ 3,850 ยูนิต ภายในปี 2566 และ OR ตั้งเป้าจะมี 850 สถานีภายในปี 2566 ขณะที่ธุรกิจใหม่จะมีการรับรู้รายได้ธุรกิจยาเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งในปีหน้าก็จะรับรู้เต็มปี

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า ปตท.จะมีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงแยกฯ แห่งที่ 2 และ 3 เป็นเวลา 15-20 วัน ส่วนของปิโตรเคมีและโรงกลั่นก็จะมีหยุดดำเนินการตามการปิดซ่อมบำรุงของโรงแยกก๊าซฯ

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ขอความร่วมมือจาก ปตท.จัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. 66) มาช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า รวมทั้งให้ ปตท.คิดราคาก๊าซฯ สำหรับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. IPP และ SPP ในระดับราคาเดียวกับที่ใช้การประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ตั้งแต่เดือนที่ กพช.มีมติเป็นต้นไป

แหล่งข่าว ปตท.กล่าวว่า ปตท.ต้องเร่งนำมติ กพช.ดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อพิจารณาในเร็วๆ นี้ หลังจากก่อนหน้านี้บอร์ดฯ ปตท.ได้อนุมัตินำเงินจำนวน 3,000 ล้านบาทส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

ที่มา : NEWS1

 

เปิดจดหมายลาตายวิศวกรหนุ่ม อบต.นากลาง
แฉยิบกลโกงงบหลวงในที่ทำงาน

เปิดจดหมายลาตายวิศวกรหนุ่มวัย 27 ปี ก่อนขับรถจากหนองบัวลำภูมารมควันตายในรถยนต์ที่ขอนแก่น เผยรับไม่ได้ในที่ทำงานมีแต่เรื่องทุจริตงบหลวง คอยแต่จะหาเศษหาเลยจากโครงการ ด้านแม่ทำใจไม่ได้ร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย

จากกรณีเมื่อ 2 วันก่อน วิศวกรหนุ่ม อบต.นากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู นายภาณุเมศวร์ วาสโสหา อายุ 27 ปี ชาวอุดรธานี ขับรถไกลข้ามจังหวัดมาจอดข้างถนนมะลิวัลย์ ไม่ไกลจากประตูสีฐาน ม.ขอนแก่น แล้วรมควันฆ่าตัวตายในรถคันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบจดหมายลาตายที่นายภาณุเมศวร์เขียนระบายถึงพ่อแม่ว่าถูกกดดันจากที่ทำงาน ที่เต็มไปด้วยการทุจริตในโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของเทศบาล ไม่สามารถรับกับระบบฉ้อโกงได้อีกต่อไป จึงขอแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย

ภายหลังจดหมายลาตายดังกล่าวถูกโพสต์เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลอย่างแพร่หลาย ล่าสุดวันนี้ (28 พ.ย.) นายนิวัตไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องปรามทุจริต Corruption Deterrence Center หรือ CDC ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้สืบค้นว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีนี้เข้ามาหรือไม่

สำหรับข้อความในจดหมายลาตาย เริ่มด้วยการสั่งเสียว่า ...โทร.หาแม่ผม (เขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้) ถัดมาเขียนว่า...ระบบท้องถิ่น ทต.นากลาง โครงการก่อสร้าง 1 โครงการ พิวัฒนธรรม ผู้ควบคุมงาน ต้องไปรับค่าทดสอบวัสดุจากผู้รับจ้าง 1% ของมูลค่า และค่าป้ายเหล็ก ช่างคุมงาน ต้องเอาของเก่า ราคา 2,500 บาท และของค่าป้ายไวนิลอีก 2,500 บาท พอตรวจรับ ต้องไปรับค่ากรรมการตรวจรับจากผู้รับจ้าง 1% ของมูลค่าโครงการมาเคลียร์ให้กับกรรมการ พร้อมกับค่าควบคุมงาน 1% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมขององค์กรกองช่างที่ทำกันมา ข้าพเจ้าบรรจุ 1 มิถุนายน 2565 มาเจอระบบดังกล่าว พยายามปรับให้อยู่ได้ แต่ก็อยู่ไม่ได้ ขอยื่นลาออก ที่ ผอ. 1 ธันวาคม 65 แต่ยังมีงาน ยังไม่ตรวจรับอีก 3 งาน ของ หจก.วีรวุฒ คอนกรีต

นอกจากนี้ยังมีจดหมายที่เขียนติดต่อกันอีกจำนวน 2 แผ่น เขียนว่า ถึงพ่อกับแม่และป้อก ผมขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ ผมเจอการทำงานที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพื่อนร่วมงาน ลูกจ้างที่ไซโคให้ผมต้องไปพูดเอาเงินค่าทดสอบวัสดุและค่าป้ายประชาสัมพันธ์โครงการมาให้มันทำ

มันเป็นลูกจ้างเก่าแก่ของเทศบาล มันพูดเข้าขากันดีมากกับ ผอ. พอเอาตังค์เขามา แล้วงานมีปัญหาเส้นเพชรสุวรรณ 6 วันตรวจรับ ผู้ตรวจรับโทร.ให้ผมไปเอาตังค์มาเคลียร์กรรมการ แต่ผมไม่ได้ไป เพราะผมมองดูเนื้องานไม่เรียบร้อย ถนนร่อน แตกร้าว โครงการราคา 6 แสนกว่าบาท ฟันประมูลมาที่ 4 แสน ไหนต้องจ่ายให้นายก..ไปดูได้เลยครับงานเกือบจะทุกโครงการ ในเทศบาลตำบลนากลาง ล่าสุดมีแต่ หจก.วีรวุฒคอนกรีตได้ เพราะอะไร เพราะนายกรายงาน และคลังก็เป็นเหมือนตัวแทนผู้รับจ้าง เป็นคนดำเนินการทุกอย่างให้ผู้รับจ้าง และได้ส่วนเปอร์เซ็นต์ต่อโครงการ 3% ของมูลค่างาน

ผมมาบรรจุใหม่ กลับให้ควบคุมงานตั้งแต่เดือนแรก ยังไม่รู้ระเบียบเท่าไหร่ แถมยังมาเจอการทุจริต จนเป็นระบบวัฒนธรรมของเทศบาลตำบลนากลาง ล่าสุดผู้รับจ้างขอเทคอนกรีตเส้น นราชัย-นันทจันทร์ ตอนเย็น ด้วยความสงสาร เพราะไปรับตังค์ค่าทดสอบวัสดุและค่าป้ายประชาสัมพันธ์เขามาเหมือนช่างคนอื่นๆ เพราะเรามาใหม่ ก็ต้องตามน้ำไปก่อน

แต่เพราะด้วยนิสัยที่เป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เหมือนเขาจ้างคนอื่น ทำให้กลายเป็นการเกรงใจ สงสารผู้รับจ้างขอเทปูนเย็น ผมจึงตกลงว่าเท แต่ผมก็ออกไปดูจนเทเสร็จ เช้ามาเหมือนว่ามีเรื่องร้องเรียนหรืออะไร แต่ทุกคนทำเป็นแสร้งว่าไม่มีอะไร ได้แต่พูดเหน็บเรา ทั้งที่รู้ว่าผมจะโดนอะไร ผมก็แค่คนคนหนึ่งที่ต้องการเรียนรู้ระบบราชการท้องถิ่น แต่สุดท้าย รู้ว่าผมปรับตัวเข้ากับระบบทุจริตจนเป็นนิสัยไม่ได้ ผมลาออกวันที่ 31 ตุลาคม มีผล 1 ธันวาคม

ระบบท้องถิ่นไม่รู้เป็นเฉพาะเทศบาลตำบลนากลางหรือไม่ เป็นอะไรที่แย่มาก ช่างเหมือนเป็นเครื่องมือสำหรับทำเงินให้กับผู้บริหาร ไม่เฉพาะนักการเมือง ข้าราชการตัวใหญ่ เช่น ผอ.กองช่างก็ตัวดี คอยแต่จะหาเศษหาเลยจากโครงการ กรรมชั่วของพวกเขา เล่ายังไงก็ไม่หมด ขอให้พวกมันทุกคนได้รับผลของการที่มันโกง ทุจริต หาเศษหาเลยจากหน้าที่ ร่างถ้ายังอยู่ดี บริจาคให้กายวิภาคศาสตร์ มข.

โดยสรุป เนื้อหาในจดหมายลาตายเป็นการตัดพ้อในการทำงาน โดยผู้ตายตั้งใจจะลาออกอยู่แล้วในวันที่ 1 ธ.ค. 65 แต่ต้องมีงานโครงการเคลียร์ 3-4 งาน ก็เลยตัดสินใจชิงฆ่าตัวตายก่อน

สำหรับศพของวิศวกรหนุ่มรายนี้ ตั้งสวดบำเพ็ญกุศล ณ บ้านเลขที่ 165 ม.4 บ้านหนองหว้า ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี และกำหนดฌาปนกิจศพบ่ายวันนี้ (28 พ.ย.)

ด้านนางปุ วาสโสหา อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า ยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูกชายไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ลูกชายยังเป็นผ้าขาว ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ไม่เคยทำให้พ่อและแม่เสียใจ เพิ่งได้เข้ารับราชการไม่นาน จบวิศวกรโยธาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้และคิดสั้นฆ่าตัวตาย เรื่องราวที่เกิดขึ้นอยากขอความเป็นธรรมให้ลูกชายด้วย

ก่อนลูกชายจะเสียชีวิต ลูกชายได้ส่งของมาให้ เป็นเอกสารของรถยนต์ และมีจดหมายน้อยบอกว่า แม่ผมขอโทษไปเก็บของกลับบ้านด้วย และยังมีแหวนของลูกชาย ก็สงสัยคืออะไร ลูกชายเป็นอะไรหนอ ทำไมส่งแหวนมาให้ เป็นแหวนที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญลูก โทร.ไปหาลูกชายก็ไม่รับ แทนที่ลูกชายจะได้มาเผาพ่อเผาแม่ก่อน ไม่คิดว่าจะเป็นพ่อและแม่ต้องมาเผาลูกก่อน

#จดหมายลาตาย #วิศวกรหนุ่ม #แฉกลโกง #งบหลวง #ที่ทำงาน

ที่มา : MGR Online

 

ชี้ขาดกม.เลือกตั้ง ส.ส.หาร 100 โดนคว่ำ หรือ ศาลรธน.ให้ไปต่อ…? : ข่าวลึกปมลับ 29/11/65



ชี้ขาดกม.เลือกตั้ง ส.ส.หาร 100 โดนคว่ำ หรือ ศาลรธน.ให้ไปต่อ…? : ข่าวลึกปมลับ 29/11/65

https://fb.watch/h5hUuBgbSw/

ข่าวลึกปมลับ

ชี้ขาดกม.เลือกตั้งส.ส.
หาร100 โดนคว่ำ หรือ
ศาลรธน.ให้ไปต่อ…?

วันพุธนี้ 30 พฤศจิกายน แวดวงการเมืองเฝ้ารอฟังผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคำร้องคดีร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าการเลือกตั้งส.ส.ฯ ที่มีประเด็นสำคัญคือ

เรื่องหาร 100 ปาร์ตี้ลิสต์

อันเป็นระบบเลืกตั้ง ที่จะมีผลต่อการเมือง การเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

ซึ่งหากสุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียวว่าร่างพรบ.เลือกตั้งส.ส. ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ทางศาลจะส่งมติดังกล่าวกลับมาที่ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จากนั้นรัฐสภาส่งไปให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งหลังรับร่างแล้ว นายกรัฐมนตรีต้องเก็บร่างไว้ห้าวัน เพื่อรอดูว่าจะมีสมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มี

พอครบกำหนด นายกรัฐมนตรี ก็นำร่างขึ้นทูลเกล้าต่อไป และเมื่อมีการโปรดเกล้าฯลงมาจนประกาศใช้เป็นกฎหมาย รวมถึงร่างพรบ.พรรคการเมือง ที่ศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จะทำให้ มีกฎหมายรองรับการเลือกตั้งทำให้ จัดเลือกตั้งได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นกรณี นายกรัฐมนตรียุบสภา หรือจะอยู่ครบเทอมถึงมีนาคมปีหน้าแล้วเลือกตั้ง 7 พฤษภาคม 2566 ตามที่กกต.ปักหมุดรอไว้

แต่หากผลออกมาตรงกันข้าม คือศาลมีความเห็นว่าร่างพรบ.เลือกตั้งส.ส. ขัดรัฐธรรมนูญ แบบนี้ยาวเลย

ต้องรอดูว่า สมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะจากฝั่งส.ส. และพรรคการเมืองที่มีส.ส.ในสภา จะหาทางออกอย่างไร ภายใต้เงื่อนไขเวลาที่จำกัด เพราะสภาฯ จะปิดสมัยประชุม 28 กุมภาพันธุ์ 2566 เว้นแต่จะขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ที่ทำได้ แต่ก็ต้องทำให้จบหมดไม่เกิน 23 มีนาคม 2566 ที่ครบสี่ปีของสภา เกินกว่านั้นไม่ได้แม้แต่วันเดียว

โดยทางออกก็มี ทั้งเช่น เสนอแก้ไขร่างพรบ.การเลือกตั้งเข้าไปใหม่ หรือจะกลับมาเริ่มต้นใหม่กันที่หาร 500 ที่มีเรื่องของ ส.ส.พึงมี ตามร่างเดิมที่รัฐสภาเคยโหวตเอาด้วยตอนโหวตวาระสองก่อนหน้านี้

หรือจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 93 กับ 94 เพื่อตัดถ้อยคำ เรื่องส.ส.ที่แต่ละพรรคการเมืองพึงมีออกไป จะได้สะเด็ดน้ำ หรือหากไม่ทันจริงๆ จะยอมให้รัฐบาลออกเป็นพระราชกำหนดการเลือกตั้ง

แม้จะเห็นว่า มีหลายทางออก แต่จุดสำคัญคือ ต้องดูคำวินิจฉัยของศาลออกมาแบบไหน เพราะหากศาลชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ จนร่างไม่ถูกตีตกทั้งฉบับ แบบนี้ยังพอแก้ไขได้ โดยรัฐสภาก็อาจปรับให้ตรงกับคำวินิจฉัย

แต่หากตกไปทั้งฉบับ การหาทางออกจะยากขึ้น
แต่ถ้าศาลชี้ว่าหาร 100 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญและกระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่ได้มีการเล่มเกมยื้อ ทำให้องค์ประชุมรัฐสภาล่ม สี่ครั้งติดกัน เพื่อล้มหาร 500 เอาหาร 100 กลับมา ตามที่กลุ่มผู้ร้องที่นำโดยนพ.ระวี มาศฉมาล จากพรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นคำร้อง แบบนี้ ทุกอย่างจบ ทางสะดวก เหลือแค่รอขั้นตอนประกาศใช้เป็นกฎหมาย

ผลคำวินิจฉัยของศาลพุธนี้ จึงมีผลต่อโรดแมปการเมืองการเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้น อย่างแท้จริง
จับสุ้มเสียงของสองฝ่ายคือ ฝ่ายหนุนหาร 100 กับหนุนหาร 500 ในช่วงโค้งสุดท้าย
พบว่าฝ่ายหนุนหาร 100 ทั้งจากเพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา มั่นใจ ศาลจะไฟเขียว ให้ร่างกฎหมาย่ผ่าน ไม่ถูกตีตก

เพราะเป็นร่างของกกต.ที่เป็นคนจัดเลือกตั้งและเชี่ยวชาญด้านนักกฎหมาย อีกทั้งผ่านเข้าที่ประชุมครม.มาแล้ว มีการกลั่นกรองมาอย่างถี่ถ้วน

ส่วนเรื่องส.ส.พึงมี ที่ติดอยู่ในรัฐธรรมนูญ ฝ่ายนี้ชี้ว่า เป็นแค่”ติ่ง”เท่านั้น ไม่ใช่สาระสำคัญที่จะทำให้ขัดรัฐธรรมนูญ ส่วนการที่รัฐสภาพิจารณาร่างของกรรมาธิการไม่ทัน 180 วันจนต้องไปใช้ร่างของกกต.แทน ก็เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ที่ศาลคงไม่อยากมาก้าวก้ายการทำงาน ตามหลักการแยกอำนาจ

ส่วนฝ่ายเชียร์ล้มหาร 100 เพื่อกลับมาใช้หาร 500 ก็มั่นใจเช่นกันว่า ศาลจะตีความตามลายลักษณ์อักษรอย่างเคร่งครัด เมื่อมาตรา 93 กับ 94 ยังมีเรื่องหลักส.ส.พึงมี อยู่ กฎหมายก็คือกฎหมาย จะบอกว่าเป็นติ่ง ไม่สำคัญไม่ต้องสนใจคงไม่ได้ ฝ่ายนี้จึงยังเชื่อมีลุ้น 50-50

รอฟังผลการชี้ขาดลงมติของ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะออกแบบไหน หาร100 หรือหาร 500 ใครจะชนะ ใครจะได้เฮ รอพุธนี้

นพรัฐ พรวนสุข

 

ยันจัด "ปาร์ตี้กัญชา" ไม่ได้ เหตุคุมจ่ายแจกช่อดอกด้วย ลั่นจัดพื้นที่สูบนอกร้านหากช่องเอาผิดได้

กรมแผนไทยยันจัด "ปาร์ตี้กัญชา" ไม่ได้ แม้ไม่ได้ขาย เหตุกฎหมายคุมจำหน่าย "ช่อดอก" เหมารวมถึงการจ่ายแจกด้วย ส่วนจัดพื้นที่ให้สูบนอกร้านขายช่อดอก หากพบความเชื่อมโยงเอาผิดได้ หากไม่พบอาจต้องใช้กฎหมายอื่นดำเนินการ ย้ำหมอแผนไทยมานั่งประจำร้านไม่ได้ ผิดรักษานอกสถานพยาบาลโดนคุก 5 ปีเองคนเดียว

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงประเด็นการควบคุม "ช่อดอกกัญชา" หลังประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) มีผลหลังลงในราชกิจจานุเบกษา กัญชาเมื่อไม่เป็นยาเสพติดต้องมีกฎหมายมาควบคุมไม่ให้ใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม จะได้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพ เศรษฐกิจอย่างเหมาะสม สำหรับสารกัญชาหลักๆ คือ THC และ CBD โดยที่ฤทธิ์ต่อจิตประสาทคือ THC เราจึงกังวลตัวนี้ สำหรับ CBD มีประโยชน์ทำเรื่องลดการอักเสบ ฯลฯ ที่เราต้องควบคุม "ช่อดอก" เพราะมี THC เยอะ บ้านเราถ้าปลูก THC มีในช่อดอก 5-20% หรือบางพันธุ์มากกว่านั้นถึง 30% ส่วนอื่นๆ ทั้งใบ กิ่ง ราก เมล็ด มี THC ราว 0.2% ใกล้เคียงกับปริมาณที่ควบคุมเป็นยาเสพติด แต่มี CBD 2% ทำให้ THC ออกฤทธิ์น้อยลงด้วย หากเอาใบไปสูบก็จะไม่เกิดผลต่อจิตประสาท แต่ถ้าเป็นช่อดอกจะมี THC สูง เกินที่กำหนดยาเสพติด 0.2% ปริมาณสูงขึ้นเมื่อโดนความร้อน

"ประกาศฉบับใหม่เราจึงคุมช่อดอกเป็นหลัก ส่วน พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ที่สงสัยว่าควบคุมเฉพาะส่วนได้หรือไม่ อนุกรรมการกฎหมายจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาร่วมพิจารณา เห็นชอบว่าทำได้ไม่ต้องทั้งต้น" นพ.ธงชัย กล่าว

นพ.ธงชัย กล่าวว่า สาระสำคัญของประกาศนี้ ผู้ที่จะเอาช่อดอกไปศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่ายหรือแปรรูปต้องขออนุญาต กทม.ขอที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ ต่างจังหวัดขอที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งกฎหมายจะคุมได้เฉพาะคนที่ขออนุญาต ถ้าไม่ขออนุญาตก็คุมไม่ได้ แต่ถ้าใช้ช่อดอกไม่ขออนุญาตก็จะผิดกฎหมาย มีโทษทางอาญา เมื่อได้รับใบอนุญาตต้องแสดงในสถานประกอบการและปฏิบัติเงื่อนไข คือ 1.ทำข้อมูลแหล่งที่มา การนำไปใช้ รายงานปริมาณ จะมีการกำหนดแบบให้ และ 2.ส่งออกแต่ละครั้งต้องแจ้งส่งที่ไหนปริมาณเท่าไร ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระและไปตอบสังคมโลกได้ว่าเรามีการควบคุม ไม่ได้ปล่อยเสรี ก็จะดูได้ไปจำหน่ายให้เด็กไหม โดยกรมฯ กำลังพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ อนาคตก็เสียบบัตรประชาชน กรอกข้อมูลการขายกี่กรัม ให้ใครไป

นพ.ธงชัย กล่าวว่า ส่วนร้านที่จำหน่ายพยายามหาทางออก จริงๆ กัญชาเข้าร่างกายนอกจากการกินมี 2 ส่วน คือ สูบและหยดใต้ลิ้น เข้ากระแสเลือดโดยไม่ผ่านตับทำให้ออกฤทธิ์เร็วขึ้น 5-10 นาที การกินใช้เวลาแล้วแต่สภาพร่างกายการทำงานของตับแต่ละคน อาจเป็น 1-2 ชั่วโมง ซึ่งความอันตรายคือการสูบจะเร็วกว่า ออกฤทธิ์ทันที หากใช้มากเกินจะมีอาการหน้ามืด ใจสั่น ไม่สามารถรับกัญชาเข้าไปได้อีก ก็จะสูบต่อไม่ได้ กลับกันหากใช่วิธีกินเข้าไป เช่น เอาช่อดอกไปผสมอาหาร คุกกี้ ไอศกรีม ซึ่งผิดกฎหมายตอนนี้ หากใส่ปริมาณเข้มข้น ก็กินเข้าไป 2-3 ถ้วย แต่สารยังไม่ออกฤทธิ์ จะมาออกฤทธิ์เมื่อผ่านไปชั่วโมงก็เริ่มมีอาการ ที่พบเยอะจึงเป็นการกินที่อันตราย จึงห้ามใส่ช่อดอกในอาหารในกฎหมายของ อย. จะมีโทษอาญาติดคุก 2 ปี หากเอาไปทำเองก็ต้องรับผิดชอบตนเอง

“เราห้ามจำหน่ายเพื่อการสูบในสถานประกอบการ หลายคนบอกว่า กำหนดห้ามสูบเลยได้หรือไม่ จริง ๆ เราห้ามได้ไม่ทั้งหมด ถ้าเขียนสั้นๆ ว่าเพื่อการสูบก็จะแปลว่าห้ามจำหน่ายให้สูบ แต่จะเอาไปทำอะไรไม่ได้ห้าม เราไม่อยากให้ใช้เลยในสถานที่นั้น เพราะหากใช้เลยมีอาการแล้วออกไปขับรถก็มีความเสี่ยง วันนี้ยังไม่มีกฎหมายมาควบคุมปริมาณกัญชาในเลือดต้องไม่เกินเท่าไรอย่างแอลกอฮอล์ เรารอกฎหมายที่จะมาช่วยกำกับ ที่ทำได้คือห้ามสูบในสถานที่ประกอบการ แต่ยกเว้นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม เพราะการประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยมีวิธีเอาไปใช้สูบเพื่อรักษา จึงต้องมีผู้ป่วยเข้ามา แต่ไม่ได้แปลว่าจะเอาหมอแผนไทยมานั่งในร้านแล้วขายกัญชาแล้วสูบกัญชาเหมือนเดิม คนละนัยความหมาย” นพ.ธงชัย กล่าว

นพ.ธงชัย กล่าวต่อว่า แพทย์แผนไทยในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะทำนอกสถานพยาบาลที่ขออนุญาตไม่ได้ ถ้าทำก็มีโทษอาญาจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท และเป็นโทษของแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่โทษของร้านที่มีโทษเพียงพักใช้ใบอนุญาต หากทำซ้ำก็อาจเพิกถอน หากร้านอยากทำตรงนี้ให้ได้ ก็ต้องไปขออนุญาตเปิดเป็นสถานพยาบาล ก็ต้องไปขออนุญาตเปิดเป็นสถานพยาบาล ต้องมีคนไข้ มีกระบวนการตรวจรักษาแล้วสั่งจ่ายยาที่เป้นมาตรฐาน และต้องมีมาตรฐานองค์ประกอบอะไรบ้าง ไม่ใช่มาขายช่อดอก

ถามว่าบางพื้นที่เปิดห้องสำหรับสูบกัญชาแยกออกมาจากสถานที่จำหน่าย เช่น ห้องสูบบุหรี่ ทำได้หรือไม่ นพ.ธงชัย กล่าวว่า สนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากกัญชา อย่าหาวิธีการหลบเลี่ยงเพื่อใช้สันทนาการ อย่างกรณีนี้ต้องไปดูว่ามีความผิดในกฎหมายอื่นหรือไม่ แต่ส่วนของประกาศสมุนไพรควบคุม ก็เหมือนท่านกำลังเลี่ยงอยู่ หากหาความเชื่อมโยงได้ก็มีความผิด แต่ไปติดในกฎหมายฉบับอื่น เช่น เหตุรำคาญตามประกาศของกรมอนามัย หากประเด็นนี้มีความสำคัญ เราปรับประกาศได้ เพียงแต่ว่าตอนเราออก เราคิดไปไม่ถึงว่าจะมีคนมีความพยายามเป็นอย่างมาก ฉะนั้น เบื้องต้นเราดูความเชื่อมโยงว่าถ้าร้านไปจัดโซนให้สูบ ก็จะมีความผิด แต่ถ้าเชื่อมโยงไม่ได้ก็ต้องไปเอากฎหมายอื่นมาประกอบ

นพ.ธงชัย กล่าวถึงกรณีจัดปาร์ตี้กัญชาที่ไม่ได้จำหน่าย ถือว่าผิดหรือไม่ ว่า คำว่าจำหน่ายใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีนิยามว่า ขาย จ่าย แจก หรือแลกเปลี่ยน ดังนั้น จำหน่ายไม่ได้แปลว่าขายอย่างเดียว ซึ่งกฎหมายกำหนดนิยามไว้แล้ว การจัดปาร์ตี้จึงไม่สามารถนำกัญชามาแจก มาแลกเปลี่ยนด้วยวิธีการใดก็ตาม ถือว่าผิด จริงๆ การลงพื้นที่ตรวจสอบอาจไม่ใช่สัปดาห์ครั้ง แต่ช่วงแรกอาจออกไปสุ่มตรวจทุกวัน

ด้าน นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า กรมฯ จะหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน โดยเรื่องกฎหมายกรณีใครฝ่าฝืนจำหน่ายไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังห้ามขายออนไลน์ ห้ามโฆษณาออนไลน์เกี่ยวกับช่อดอก ซึ่งจะสอดคล้องกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษหนักกว่า และบางกรณีเป็นการนำเข้าข้อมูลอาจเป็นเท็จหรือแอบอ้าง โดยใช้รูปเจ้าหน้าที่ไปแอบใช้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับเป็นแสนบาท โทษหนักกว่าเยอะ ดังนั้น เสี่ยงผิดกฎหมายทั้งสองฉบับ ปัจจุบันมีผู้ชี้เบาะแสช่องทางมาพอสมควร ก็จะมีการรวบรวมข้อมูลดำเนินคดีต่อไป

สำหรับการไปจัดปาร์ตี้ ทั้งอาหาร กัญชา ดนตรีทำได้หรือไม่ อันนี้เข้าข่ายสถานบริการเถื่อน ผิดกฎหมายกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น การดำเนินการแบบนี้จะมีกฎหมายหลายฉบับมาอุดช่องโหว่ได้พอสมควร หากจะควบคุมการที่ผู้ประกอบการจัดโซนนิ่งให้สูบกัญชา ต้องรอกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่กำลังจะเข้าพิจารณาในสภา เพราะสามารถให้กระทรวง ออกประกาศกำหนดโซนนิ่งได้ ทั้งนี้ กรมฯ จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ สถานบริการที่เกี่ยวข้องว่าดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ โดยจะลงพื้นที่ตรวจสอบทุกสัปดาห์ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้อง จะตรวจจนกว่าจะมี พ.ร.บ.กัญชามีผลบังคับใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เวลา 16.00 น. กรมการแพทย์แผนไทยฯ ผู้บริหารสธ. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่เทศกิจของ กทม. จะลงตรวจสอบพื้นที่ถนนข้าวสาร เพื่อดูการเปิดร้านจำหน่ายช่อดอกกัญชาว่าถูกต้องหรือไม่ และเพื่อทำความเข้าใจด้านกฎหมายด้วย

ที่มา : NEWS1