แก้ เสียบ flash drive แล้วไม่ขึ้น ไอคอน

หากพูดถึงแฟลชไดร์ฟ ในปัจจุบันมีผู้ที่ใช้งานแฟลชไดร์ฟเป็นจำนวนมากและเชื่อว่าทุกคนจะต้องมีแฟลชไดร์ฟคู่ใจติดตัวไปทุกที่แน่นอน เนื่องจากแฟลชไดร์ฟนั้นสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บและถ่ายโอนข้อมูลที่เราต้องการได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีขนาดเล็กกระทัดรัดง่ายต่อการพกพา แต่เมื่อเราใช้งานแฟลชไดร์ฟของเราไปซักระยะ สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานส่วนมากมักต้องประสบพบเจอนั่นคือแฟลชไดร์ฟของเราเกิดใช้งานไม่ได้ขึ้นมาจึงทำให้เกิดคำถามว่าเพราะเหตุใดและมีวิธีแก้ไขอย่างไร บทความนี้เรามีคำตอบให้คุณ

         ปัญหาหลักๆที่ทำให้แฟลชไดร์ฟของคุณใช้งานไม่ได้มีอยู่ไม่กี่สาเหตุ วันนี้เราได้รวบรวมปัญหาและวิธีจัดการกับปัญหานั้นได้ด้วยตัวเองง่ายๆ

โดนไวรัส

วิธีการแก้ปัญหา : ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าแฟลชไดร์ฟเราโดนไวรัสจริงหรือไม่
มีวิธีการตรวจสอบดังนี้

1. กด Shift ค้างขณะเสียบแฟลชไดร์ฟประมาณ 10 วินาที > Double Click ที่ My computer

2. คลิกขวาที่แฟลชไดร์ฟถ้าปรากฎคำว่า Open อยู่บนสุด แสดงว่าแฟลชไดร์ฟไม่มีไวรัส แต่ถ้าปรากฎคำว่า Auto Play อยู่บนสุดแสดงว่ามีไวรัส หรือ Double Click 
ที่แฟลชไดร์ฟ แล้วปรากฎคำว่า Open with ก็แสดงว่ามีไวรัสอยู่เช่นเดียวกัน

เมื่อเราได้ตรวจสอบแฟลชไดร์ฟแล้วพบว่าแฟลชไดร์ฟนั้นมีไวรัสจริง
วิธีจัดการกำจัดไวรัสมีดังนี้

1.Double Click เพื่อเปิด My computer > Double Click เพื่อเปิด USB Drive > คลิกเลือก Tools

Upload Image...

2.คลิกเลือก Folder Options > เลือก View > คลิกเลือก Show hidden files and folders

Upload Image...

3.คลิกที่ปุ่ม Hide extensions for known file types เพื่อทำการเลือกออก

Upload Image...

4.คลิกที่ปุ่ม Hide protected operating system files เพื่อทำการเลือกออก กด Apply แล้วกด OK (จะปรากฎ Folder เป็นเงา ๆขึ้น (นั่นคือไวรัส))

Upload Image...

5.คลิกเลือก Recycled system Volume information Autorlin.inf msvcr71.dll
(Folder ไวรัสจะปรากฎขึ้น) > กด Delete เพื่อฆ่าไวรัส > ตรวจสอบอีกครั้งว่าไวรัสหายไปหรือไม่

Upload Image...

หมายเหตุ – ก่อนที่เราจะเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟกับคอมพิวเตอร์ เราควรตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์นั้นมีโปรแกรมป้องกันไวรัสหรือไม่ และต้องสแกนไวรัสก่อนเชื่อมต่อทุกครั้ง

ใช้งานกับพอร์ทไม่ถูกต้อง

วิธีการแก้ปัญหา : บางครั้งพอร์ทที่เราใช้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์นั้นมีอยู่หลายช่อง ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นพอร์ทเฉพาะ หากเราเสียบแฟลชไดร์ฟ แล้วพบว่าไม่ปรากฏไฟล์ขึ้นมา ให้ลองเสียบช่องอื่นดู เพราะบางครั้งสาเหตุที่แฟลชไดร์ฟไม่ทำงานอาจจะมาจากการที่เราเสียบพอร์ทผิดช่อง

คอมพิวเตอร์ไม่อ่านไฟล์

วิธีการแก้ปัญหา : ในบางครั้งปัญหาก็อาจจะไม่ได้อยู่ที่แฟลชไดร์ฟของเรา แต่อาจจะเป็นเพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถอ่านไฟล์ของแฟลชไดร์ฟได้ เนื่องจากไฟล์ที่เราทำการบันทึกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งนั้น อาจจะเป็นคนละเวอร์ชั่นกับเครื่องที่เรากำลังเชื่อมต่ออยู่ จึงทำให้ไม่สามารถอ่านไฟล์ได้ วิธีแก้ไขคือ ลองไปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นดู หากเปิดได้ เราก็ต้องมาแก้ปัญหาที่เครื่องคอมพิวเตอร์นั้น

การถอดแฟลชไดร์ฟออกจากเครื่องทันที

วิธีการแก้ปัญหา : การดึงแฟลชไดร์ฟออกทันทีหลังจากใช้งานเสร็จ โดยการลืมปิดโปรแกรมที่ค้างไว้อยู่ หรือลืมกดให้แฟลชไดร์ฟยกเลิกการทำงานนั่นเอง เมื่อเราทำบ่อยครั้งจะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด ดังนั้นเมื่อเราจะเลิกใช้งานแล้ว ให้เราทำการคลิกไอคอนรูป Flash Drive (สีเขียว) ที่ task bar ด้านล่าง แล้วเลือก Eject แค่นี้ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก และยังช่วยต่ออายุการใช้งานของแฟลชไดร์ฟได้อีกด้วย

ไม่สามารถ Copy File ได้

เมื่อเราจะทำการถ่ายโอนข้อมูลแล้วมีข้อความแจ้งเตือน “There is not enough disk space” เด้งขึ้นมานั้น เกิดจากระบบไฟล์หรือ File Format System ไม่สนับสนุน หรือพูดง่ายๆว่าไฟล์นั้นมีขนาดใหญ่เกินไปนั่นเอง เนื่องจาก File System ของแฟลชไดร์ฟโดยทั่วไปนั้นจะรองรับไฟล์อยู่ที่ 4GB หากเกินกว่านั้นจะ Error ทันที เราจึงต้องทำการแก้ไข File System วิธีการแก้ปัญหามีดังนี้

1.Click ขวาที่แฟลชไดร์ฟของเรา แล้วคลิกเลือก Format (วิธีนี้ต้องทำให้แฟลชไดร์ฟว่างเปล่า ดังนั้นหากแฟลชไดร์ฟของคุณมีข้อมูลอยู่ให้ Backup ข้อมูลไปไว้ที่อื่นก่อนชั่วคราว)

โดยปกติแล้วเมื่อคุณเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับเครื่องปั๊บ มันจะติดทันทีและพร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติครับ แต่ถ้าหากว่าการเชื่อมต่อไม่เกิดขึ้น ให้ทำต่อไปนี้

วิเคราะห์ปัญหา

ถ้าคุณเชื่อมต่อยูเอสบีไดร์ฟ กับคอมพิวเตอร์แล้วไม่โชว์ใน file manager ให้คุณตรวจสอบในหน้าต่าง Disk Management การเปิด Disk Management ใน Windows 8 หรือ 10 ให้คลิกขวา ที่ Start Menu และเลือก Disk Management

เมื่อดูที่ Disk Management แล้ว ให้ตรวจสอบว่าเจอ usb หรือไม่ บางครั้งอาจจะมีชื่อไดร์ฟว่า Removable แต่ก็ไม่เสมอไปอาจจะปรากฎเป็นชื่ออื่นก็ได้ ให้ดูที่ความจุว่าตรงกับ usb ของเราหรือไม่ ในภาพส่วนของผมจะเป็น disk 3 ชื่อว่า removeable ถ้าคุณมองเห็นเหมือนของผม ให้คุณไปขั้นตอนถัดไปได้เลยครับ

แต่ถ้าคุณยังมองไม่เห็นไดร์ฟใน Disk Managment ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • เปิดสวิตท์ หากจำเป็น เนื่องจาก usb บางตัวมีสวิตท์สำหรับเปิด ปิด ให้สำรวจว่ามีปุ่มอยู่หรือไม่ ถ้าหากปิดอยู่ให้ลองเปิดสวิตท์นั้นก่อน
  • ลองเปลี่ยน port ยูเอสบี เช่นจากรูหนึ่งไปอีกรู หรือจาก usb2.0 ไปเป็นรู usb3.0 เป็นต้น
  • ลองเลี่ยงการใช้ usb hub ไปก่อน ให้พยายามเสียบเข้ากับคอมโดยตรงดู หากด้านหน้าไม่มีให้ลองตรวจสอบดูด้านหลังของคอมพิวเตอร์จะมีรูสำหรับ usb อยู่
  • ลองเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์

หวังว่าจะมีสักวิธีที่ทำให้คุณสามารถมองเห็นไดร์ฟได้นะครับ หากยังไม่ได้อีกให้เลื่อนลงไปดูวิธีด้านล่าง

วิธีการแก้ปัญหา

จากการตรวจสอบจาก Disk Management ด้านบนเมื่อเราสามารถมองเห็นไดร์ฟจาก Disk Management แล้ว ต่อไปคือวิธีการแก้ปัญหาบางส่วน ซึ่งอาจจะไม่ได้ผลก็เป็นได้ แต่ขอให้คุณลองดูก่อนนะครับ

ถ้า Windows แจ้งให้คุณ format partition เมื่อคุณเสียบมันเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์

ปัญหานี้รู้สึกว่าจะเป็นปัญหายอดฮิตพอสมควร เพราะมีคนติดต่อเข้ามาถามกันเยอะมากว่า เสียบเข้าแล้วมันฟ้องให้ฟอร์แมตอย่างเดียวเลย หากจะฟอร์แมตก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่าข้อมูลจะหายเกลี้ยงหมด แล้วกู้คืนมาก็คงจะยาก มันก็เลยคาราคาซังกันอยู่อย่างนี้เปิดก็ไม่ได้ด้วย ทำไงดี

ถ้า Windows ไม่สามารถมองเห็นไดร์ฟแต่สามารถอ่านได้อยู่ อาจเป็นไปได้ว่า usb ของคุณถูกฟอร์แมตด้วยระบบไฟล์ที่ Windows ไม่ได้สนับสนุน ตัวอย่างเช่น มันสามารถเกิดขึ้นได้ถ้าคุณฟอร์แมตเป็น HFS+ บนเครื่องแมค หรือ ระบบ ext4 บนเครื่อง Linux เป็นต้น

ถ้าเชื่อมต่อไดร์ฟเข้ากับระบบไฟล์ที่แตกต่างกัน Windows จะบอกให้คุณฟอร์แมตไดร์ฟก่อนใช้งาน อย่าเพิ่งฟอร์แมตนะครับ เพราะมันจะลบข้อมูลทั้งหมด แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่มี ข้อมูลสำคัญอะไร สามารถฟอร์แมตได้

เพื่อที่จะอ่านข้อมูลให้คุณกลับไปเสียบไดร์ฟเข้ากับเครื่อง Mac หรือ Linux ที่คุณเสียบ มันเข้าก่อนหน้านี้นะครับ แล้วก๊อปปี้ไฟล์ออกมาก่อน จากนั้นก็ฟอร์แมตและเลือกระบบไฟล์ที่ สามารถใช้ได้กับเครื่อง Windows ได้ เช่นระบบ NTFS หรือ FAT32

ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถ Detect ไดร์ฟของคุณได้ทุกเครื่อง ยกเว้นเครื่อง ของคุณเครื่องเดียว เป็นได้ไปว่าเป็นเพราะไดร์ฟเวอร์ของ Windows ในเครื่องของคุณมี ปัญหาครับ

เพื่อที่จะตรวจสอบปัญหานี้ ให้เปิด Device Manager บน Windows 8 หรือ 10 ครับ คลิกขวาที่ปุ่ม Start และเลือก Device Manager แต่ถ้าเข้าจาก Windows 7 ให้คลิกปุ่ม Windows+R พิมพ์ devmgmt.msc บนช่อง Run แล้วกด Enter ครับ

เมื่อเข้าไปแล้วคุณจะเห็นหัวข้อ Disk driver คลิกเข้าไปครับไดร์ฟเวอร์มีปัญหาส่วนใหญ่มันจะเป็นเครื่องหมายตกใจ สีเหลืองครับ ให้คลิกขวา เลือก properties เลือกไปที่แท็ป Driver จะมีปุ่มให้เลือกคือ Update Driver เพื่ออัพเดทไดร์ฟเวอร์ หรือ ปุ่ม Roll Back Driver เพื่อเลือกใช้ไดร์ฟเวอร์เก่าก่อนที่จะอัพเดท ปุ่ม Uninstall เพื่อถอนไดร์ฟเวอร์ออก แล้วให้ Windows ค้นหาให้อัตโนมัติ

กรณีถ้าคุณมองเห็นไดร์ฟใน Disk Management และเห็นว่ามันมี Partition

ถ้าคุณเห็นไดร์ฟปรากฏใน Disk Management และมองเห็น Partition พร้อมด้วยแถบสีน้ำเงินด้านบน มันจะไม่ปรากฏไดร์ฟใน Windows Explorer เพราะว่ามันต้องการให้กำหนดค่าอักษรแทนไดร์ฟ เช่น ไดร์ฟ D ไดร์ฟ E ก่อนเป็นต้น

เพื่อจะแก้ปัญหาตรงนี้ให้คลิกขวาที่ Partition บน Disk Management แล้ว เลือก Change Drive Letter and Path เพื่อกำหนดตัวอักษรให้ไดร์ฟ คลิกที่ปุ่ม Add กำหนดชื่อไดร์ฟจะเป็นไดร์ฟ  D,E,F,G,… อะไรก็ว่าไปครับ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม OK

ถ้าคุณมองเห็นไดร์ฟ ใน Disk Management แต่มันว่างอยู่

ถ้ามองเห็นไดร์ฟใน Disk Management แต่ปรากฏ Unallocated สังเกตว่าจะเป็นแถบสีดำด้านบนของไดร์ฟ ความหมายคือ ไดร์ฟนั้นยังไม่ถูกฟอร์แมตให้ว่างอย่างสมบูรณ์ เพื่อจะฟอร์แมตให้สามารถใช้งานได้ คลิกขวาที่ไดร์ฟ unallocated ใน Disk Management เลือก New Simple Volume เลือกความจุที่ต้องการกำหนดให้ไดร์ฟนั้นหรือให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติก็ได้ ถ้าหากต้องการให้ระบบไฟล์สามารถใช้ได้กับระบบปฎิบัติการอื่นๆ ด้วย ขอแนะนำให้เลือกระบบไฟล์ exFAT หรือต้องการใช้งานกับ Windows อย่างเดียวและต้องการขนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ให้เลือก NTFS หรือต้องการให้เปิด mp3 ในเครื่องเสียงรถยนต์ได้ให้เลือก FAT32

กรณีคุณเห็นไดร์ฟใน Disk Management แต่คุณไม่สามารถฟอร์แมตได้ในบางกรณีนั้นไดร์ฟอาจจะมีปัญหาภายใน partition ทำให้คุณมองไม่เห็น partition ที่ถูกป้องกันไว้ทำให้ไม่สามารถลบจาก Disk Management ได้ หรือ partition เล็กเกินไปทำให้ไดร์ฟถูกป้องกันไม่ให้ถูกใช้งานได้

คุณสามารถทำการ คลีน ไดร์ฟได้จากคำสั่ง cmd ซึ่งจะลบข้อมูลออกอย่างสิ้นซาก แต่แนะนำให้ทำการ back up ไฟล์ไว้ทั้งหมดเพื่อจะ คลีน ไดร์ฟ จำเป็นต้องทำผ่านหน้าต่าง Commamd Prompt ในสถานะ Administrator โดยใช้คำสั่ง Diskpart เพื่อจะ clean partition ให้คุณทำตามขั้นตอนในบทความนี้

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก