วิธีต่อลําโพงเข้าคอม windows 10

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ Windows เสียงไม่ออกให้คุณเอง แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้ก่อน ว่าปัญหาที่พบอาจซับซ้อนเกินจะหาสาเหตุและแก้ไขด้วยตัวเอง แบบนั้นก็ต้องยกคอมไปให้ร้านหรือช่างที่เขาเชี่ยวชาญช่วยดู

1. 1

   เช็คก่อนว่าคอมไม่ได้ mute อยู่. หลายคนลืมประจำว่าปิดเสียงคอมไว้ชั่วคราว เพราะงั้นก่อนจะลงมือแก้ไข ให้กดปุ่ม "เพิ่มเสียง" แล้วสังเกตว่าเลข volume เพิ่มขึ้นหรือเปล่า

   • ถ้าขึ้นที่หน้าจอว่า volume อยู่ที่ 100% แต่ดันไม่มีเสียงอะไรออกมา ก็ต้องแก้ไขตามขั้นตอนต่อไป

2. 2

   เช็คขั้วเสียบอุปกรณ์กระจายเสียง. ถ้าหูฟังหรือลำโพงเสียบอยู่กับคอมแค่หลวมๆ ไม่สนิท ก็ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเสียงไม่ออก

   • อาจจะต้องเปลี่ยน audio output ไปยังอุปกรณ์ที่ถูกต้องซะก่อน
   • เช็คให้ชัวร์ว่าเสียบอุปกรณ์ที่ใช้เปิดเสียงถูกพอร์ทหรือยัง

3. 3

   เช็คว่าอุปกรณ์เสียงผิดปกติตรงไหนหรือเปล่า. ง่ายที่สุดคือเปิดเพลงทั้งตอนเสียบและไม่เสียบอุปกรณ์ ถ้าเสียงออกจากลำโพงหลักของคอม แต่ไม่ออกจากลำโพงหรือระบบเสียงที่เชื่อมต่อเพิ่มเติม แสดงว่าไม่ได้เป็นที่คอม

4. 4

   รีสตาร์ทคอม. ก่อนจะไปเจาะแก้ปัญหาเฉพาะจุด ให้ลองรีเซ็ตเสียงโดยรีสตาร์ทคอมซะก่อน ถ้าคอมเปิดขึ้นมาแล้วเสียงออกตามปกติ ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนอื่นๆ อีก

   โฆษณา

1. 1

   คลิกขวาที่

   . ไอคอนจะเป็นรูปลำโพง อยู่มุมขวาล่างของหน้าจอ คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
   • ถ้าใช้แล็ปท็อป ให้แตะ trackpad ด้วย 2 นิ้ว แล้วเมนูจะขยายลงมา
   • ถ้าไอคอน volume ไม่โผล่มาใน task bar ให้คลิกขวาที่ task bar คลิก Taskbar settings คลิก Select which icons appear in the taskbar แล้วเลื่อสวิตช์ข้าง Volume ไปที่ "On"

2. 2

   คลิก Open Volume Mixer. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา

3. 3

   เช็คระดับ volume ของโปรแกรมที่เปิดอยู่. แต่ละโปรแกรมที่เปิดอยู่จะมีแถบเลื่อนรูป 5 เหลี่ยมใต้ไอคอนของโปรแกรม ถ้าแถบเลื่อนนี้อยู่ด้านล่างของหน้าต่าง Mixer แสดงว่า master volume ของโปรแกรมนั้นถูก mute ไว้

4. 4

   คลิกแล้วลากแถบ volume ขึ้นมา. เพื่อเพิ่ม volume ของโปรแกรมนั้น

   • ถ้าจะเพิ่ม volume ของคอม (ทั้งระบบ) ให้คลิกแล้วลากแถบเลื่อน volume ที่เขียนว่า "Speakers" ขึ้นมา

5. 5

   คลิก X. ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง Mixer ถ้าสรุปแล้ว mixer เป็นสาเหตุทำคอมไม่มีเสียง ตอนนี้ก็น่าจะกลับมาเป็นปกติแล้ว

   โฆษณา

1. 1

   ถอดปลั๊กอุปกรณ์เสียงทั้งหมดที่ต่อไว้กับคอม. ทั้งหูฟัง ลำโพง และอื่นๆ ที่เสียบไว้กับรูเสียบหูฟังของคอม

   • ถ้าเสียบเฮดเซ็ท Bluetooth ไว้กับคอม ก็ต้องถอดออกด้วย
   • ถ้าใช้คอมตั้งโต๊ะ ก็ต้องเสียบลำโพงใหม่ให้แน่นๆ

2. 2

   คลิกขวาที่ไอคอน volume. ตรงมุมขวาล่างของหน้าจอ

   • ถ้าใช้แล็ปท็อป ให้แตะ trackpad พร้อมกัน 2 นิ้ว แล้วเมนูจะขยายลงมา
   • ถ้าไอคอน volume ไม่โผล่มาใน task bar ให้คลิกขวาที่ task bar คลิก Taskbar settings คลิก Select which icons appear in the taskbar แล้วเลื่อนสวิตช์ข้าง Volume ไปที่ "On"

3. 3

   คลิก Playback devices. ที่เป็นตัวเลือกกลางเมนูที่ขยายลงมา

4. 4

   ดับเบิลคลิก Speakers. เพื่อเปิด properties ของลำโพงที่มีในคอม

   • ถ้าใช้คอมตั้งโต๊ะ ให้คลิกชื่อลำโพงที่เสียบไว้แทน

5. 5

   คลิก tab Advanced. ทางด้านบนของหน้าต่าง

6. 6

   คลิกช่องใต้ "Default Format" ให้ขยายลงมา. ปกติช่องนี้จะเขียนว่า "24-bit, 44100 Hz (Studio Quality)" หรือ "16-bit, 48000 Hz (DVD Quality)"

7. 7

   คลิกเลือกความถี่ใหม่. ถ้าตอนแรกในช่องเขียนว่า "24 bit" ก็ให้เลือก 16-bit แทน (หรือกลับกัน)

8. 8

   คลิก Test. ที่เป็นตัวเลือกทางขวาของหน้าต่าง แล้วจะมีเสียงออกจากลำโพง ถ้าทำงานตามปกติ

9. 9

   ทดสอบซ้ำกับความถี่อื่น. ถ้าเจอความถี่ที่มีเสียง ก็แสดงว่าแก้ปัญหาคอมเสียงไม่ออกได้แล้ว

10. 10

    คลิก OK. เพื่อเซฟ settings

    โฆษณา

1. 1

   เปิดเมนู Start. โดยคลิกโลโก้ Windows มุมซ้ายล่างของหน้าจอ หรือกดปุ่ม ⊞ Win

   • ถ้าใช้ Windows 8 ให้เลื่อนเมาส์ไปจ่อมุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วคลิกไอคอนรูปแว่นขยาย

2. 2

   พิมพ์ Device Manager ใน Start. แล้วไอคอน Device Manager จะโผล่มาทางด้านบนของหน้าต่าง Start

3. 3

   คลิก

   Device Manager. ที่เป็นรูปพรินเตอร์กับกล้องข้างกัน

4. 4

   เลื่อนลงไปคลิก

   ทางซ้ายของ Sound, video and game controllers. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของหน้าต่าง Device Manager เพื่อดูรายชื่ออุปกรณ์และโปรแกรมเกี่ยวกับเสียงในคอม

5. 5

   คลิกขวาที่ตัวเลือก "High Definition Audio". ปกติจะเขียนว่า "[ยี่ห้อ] High Definition Audio" (เช่น Realtek High Definition Audio)

   • คลิกไอคอน volume ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ เพื่อดูชื่อลำโพงหลักปัจจุบันของคอม

6. 6

   คลิก Update driver. ทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา

7. 7

   คลิก Search automatically for updated driver software. ที่เป็นตัวเลือกบนสุดของหน้าต่าง Driver Update เพื่อให้คอมเริ่มค้นหาไฟล์อัพเดท

8. 8

   ติดตั้งไดรฟ์เวอร์ใหม่ถ้ามี. อาจจะต้องยืนยันการติดตั้งก่อน โดยคลิก Yes หรือ Install แต่ปกติไดรฟ์เวอร์ใหม่จะเริ่มดาวน์โหลดอัตโนมัติ

   • ถ้าเป็นไดรฟ์เวอร์ใหม่ล่าสุดแล้ว แสดงว่าปัญหาเสียงของคอมไม่ได้เป็นที่ไดรฟ์เวอร์

9. 9

   รีสตาร์ทคอม. พอติดตั้งไดรฟ์เวอร์เสร็จแล้ว ให้รีสตาร์ทคอมเพื่อให้ค่าใหม่มีผลใช้งาน ถ้าคอมเสียงไม่ออกเพราะไดรฟ์เวอร์เป็นเหตุ ตอนนี้ก็น่าจะกลับเป็นปกติแล้ว

   โฆษณา

1. 1

   เปิดเมนู Start. โดยคลิกโลโก้ Windows มุมซ้ายล่างของหน้าจอ หรือกดปุ่ม ⊞ Win

   • ถ้าใช้ Windows 8 ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปจ่อที่มุมขวาบนของหน้าจอ แล้วคลิกไอคอนรูปแว่นขยาย

2. 2

   พิมพ์ command prompt ใน Start. แล้วจะมีไอคอน Command Prompt โผล่มาที่ด้านบนของหน้าต่าง Start

3. 3

   คลิกขวาที่ไอคอน Command Prompt. ที่เป็นสี่เหลี่ยมสีดำ แล้วเมนูจะขยายลงมา

4. 4

   คลิก Run as administrator. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา

   • ถ้าไม่มีสิทธิ์แอดมิน (administrator privileges) ในคอมเครื่องนี้ ให้คลิกไอคอน Command Prompt

5. 5

   คลิก OK ตอนที่ขึ้น. เพื่อเปิด Command Prompt

6. 6

   พิมพ์ net localgroup Administrators /add localservice. เป็นคำสั่งลดความเคร่งของระบบรักษาความปลอดภัย ให้สร้างและใช้งานไฟล์ระบบได้ รวมถึงไดรฟ์เวอร์เสียงของคอมด้วย

7. 7

   กด ↵ Enter. เพื่อใช้คำสั่ง

8. 8

   รีสตาร์ทคอม. พอใช้คำสั่งแล้ว ให้รีสตาร์ทคอมเพื่อให้ค่าใหม่มีผลใช้งาน

   โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 187,212 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม