นายเฉลิมไปอ่าน e-mail ของแพรวาเป็นการผิดจริยธรรมด้านใด

คำนำ

การเรยี นรรู้ ายวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานงานอาชีพ รหสั วชิ า 20000-2001 ช้นั ประกาศนียบตั ร
วชิ าชพี ปโี ดยพยายามเขียนนกั เรยี นเข้าใจง่าย นกั เรยี นสามารถได้ตนเอง ความพ้นื ฐานก่อนศกึ ษาเน้ือหานัน้ จรงิ และยงั
เพ่ิมเติมเน้ือหาบางตอนเพื่อช่วยเสรมิ ความความเขา้ ใจนักเรยี น นอกจากยงั เพิ่มใบกจิ กรรมเสริมนักเรยี นประสบการณ์
กวา้ งขวางขึ้น การแนะนำสมาชิกในครอบครัว ภายในบทเรยี นมอตูลเลม่ นป้ี ระกอบดว้ ย แนะนำการเรียนมอตูล จดุ ประสงค์
เรียนรู้ แบบทดสอบภาคความร้กู ่อนเรยี น เนือ้ หา ใบกจิ กรรม แบบทดสอบภาคความเรียน รวมเฉลยกิจกรรมและ
แบบทดสอบ บทเรยี นมอดูลนีเ้ รียน สามารถศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเองและเรยี นรู้กนั กลมุ่ ๆ

ผจู้ ดั ทำหวังเปน็ อยา่ งว่าบทเรยี นมอตลู ชดุ น้จี ะคำศัพท์ครอบครัวมากยิง่ ขึ้นและสง่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของ
นกั เรยี นสูงข้ึน อย่างตามบทเรียนเล่มอาจมบี างจุดมีขอ้ บกพร่องผดิ พลาด ขอให้ท่านอ่านโปรดแจ้งใหข้ ้าพเจา้ ทราบด้วย
ขอบพระคณุ เป็นอย่างย่งิ ขา้ พเจ้ายนิ ดีความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะจากทา่ น และ พร้อมจะนำมาแก้ไขปรบั ปรงุ บทเรียน
มอดูลเลม่ นใ้ี ห้มคี วามสมบรู ณแ์ ละถูกต้อง

สารบญั หนา้
1
ช้ีแจงในการใชม้ อมูลสำหรบั นกั เรยี น 2
สมรรถนะการเรยี นรู้ 2
จุดประสงค์การเรียนรู้ 3
การประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น
เฉลยแบบทดสอบภาคความรู้ก่อนเรยี น 4
ใบความรู้ 1 5
กิจกรรมยอ่ ยระหวา่ งเนอ้ื หา ครั้งที่ 1 11
ใบความรู้ 2 12
กิจกรรมย่อยระหว่างเนอ้ื หา คร้งั ท่ี 2 16
แบบประเมินผลหลังเรียน 17
เฉลยแบบทดสอบภาคความรูห้ ลังเรียน 18
แนวทางในการวัดผลและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 19

1

คำชแี้ จงในการใชม้ อดูลสำหรับนักเรยี น

การใช้บทเรียนมอตูลให้เกิดประสิทธิภาพต่อการจัดกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ย่างสงู สุด นกั เรียนควรปฏบิ ัติ ดงั น้ี
1. การเตรยี มตวั ของนักเรียน

1.1 ศึกษาบทเรียนมอลล่วงหนา้ ก่อนทจี่ ะปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ เพ่ือใหม้ คี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั จุดประสงค์
ข้อควรปฏบิ ตั ิ

1.2 วางแผน และจดั เตรยี มอปุ กรณท์ ใ่ี ชป้ ระกอบการเรียนร้ขู องตนเองให้พรอ้ มสำหรับการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามที่
ไดร้ บั มอบหมาย
2. ดำเนนิ การจัดกจิ กรรมในแต่ละครง้ั นักเรียนควรปฏบิ ตั ิ ดังนี้

2.1 ศกึ ษาแนวทางในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมให้มีความเขา้ ใจอย่างถ่องแท้ หากพบปญั หาหรอื ไมเ่ ข้าใจให้สอบถาม
ขอ้ มลู เพ่ิมเติมจากครู

2.2 ปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามลำดบั ข้ันตอนทีก่ ำหนด ดังน้ี
2.2.1 นักเรยี นทำแบบทดสอบภาคความรูก้ ่อนเรียน
2.2.2 นกั เรียนศึกษาและปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามแนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ตู ามลำดบั ข้นั ตอน

ท่กี ำหนด
2.2.3 นักเรียนสง่ ผลงานหรอื ชนิ้ งานในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม มสี ่วนร่วมในการนำเสนอผลงานหรืออภปิ ราย

ความรู้
2.2.4 นกั เรยี นทำแบบทดสอบภาคความรู้หลงั เรยี น

2

สมรรถนะการเรียนรู้

1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
2. ลกั ษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
4. ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
5. จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์กบั ระบบสารสนเทศ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. ด้านความรู้
1.1 บอกความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้
1.2 บอกลกั ษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศได้
1.3 อธิบายองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศได้

2. ด้านทักษะ
2.1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศได้

3. ดา้ นคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์
3.1 ความรบั ผิดชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศได้

3

แบบทดสอบก่อนเรยี น

จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สดุ

1. ข้อใดหมายถึงสารสนเทศ จ. คู่มือการใช้งานโปรแกรมบัญชี

ก. จรัสทำข้อสอบได้ 39 คะแนน 6. อุปกรณ์ใดท่ใี ช้ในการนำเขา้ ข้อมูล

ข. ดารณสี ูง 170 ซม. ก. Speaker

ค. ถูกทุกข้อ ข. CPU

ง. ประทีปได้เกรดเฉล่ียสะสม ค. Printer

จ. สมชายอายุ 20 ปี ง. Monitor

2. การนำโปรแกรมตารางงานมาใช้ในงานการคำนวณคา่ จ. Scanner

นายหน้า เก่ยี วข้องกับระบบสารสนเทศอย่างไร 7. การพิมพร์ ายงานเป็นกระบวนการใดของระบบคอมพิวเตอร์

ก. การป้อนข้อมลู ก. แสดงผลข้อมูล

ข. การนำเสนอข้อมูล ข. ป้อนข้อมูล

ค. การแยกประเภทข้อมลู ค. ประมวลผลข้อมูล

ง. การประมวลผลข้อมลู ง. จัดเก็บข้อมูล

จ. การเก็บขอ้ มูล จ. เผยแพร่ข้อมูล

3. ข้อใดเป็นประโยชนใ์ นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 8. การเก็บขอ้ มลู สามารถเก็บในอุปกรณ์ใด

ในงานอาชพี ก. Projector

ก. แชร์ข้อมูลส่วนตัวผ่าน Facebook ข. Mouse

ข. มีเวลาเปน็ ส่วนตัวมากขึ้น ค. Flash Drive

ค. คุยกับเพ่ือนผ่านโปรแกรม Line ง. RAM

ง. นำเสนอโครงการด้วยโปรแกรม PowerPoint จ. UPS

จ. สินคา้ ราคาถูกทางอนิ เตอร์เน็ต 9. ข้อใดเป็นการเขา้ ถึงสารสนเทศไดร้ วดเร็วและกวา้ งขวางท่ีสุด

4. Operating System หมายถึงข้อใด ก. Google

ก. Social Cam ข. Wifi

ข. Mac OS X ค. Internet

ค. Sony Vegus ง. Website

ง. Photoshop จ. Smartphone

จ. Microsoft Office 10. ผลกระทบของเทคโนโลยีที่ดีคือข้อใด

5. ข้อใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ก. ช่วยให้สุขภาพดีข้ึน

ก. Tablet PC ข. ช่วยใหอ้ าชญากรรมลดลง

ข. RFID ค. อุปกรณ์เทคโนโลยีมีมากขนึ้

ค. พนกั งานขาย ง. มีแหล่งความรู้ให้ตน้ ควา้ มากขึ้น

ง. นักวิเคราะห์ระบบ จ. ราคาสินคา้ ถูกลง

4

เฉลย

ขอ้ 1 ง
ขอ้ 2 ข
ข้อ 3 ค
ข้อ 4 ก
ข้อ 5 ข
ขอ้ 6 ค
ขอ้ 7 ก
ขอ้ 8 ข
ข้อ 9 ค
ขอ้ 10 ง

5

เนอื้ หา

ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การประยกุ ตค์ วามรทู้ างวทิ ยาศาสตร์มาใช้ในระบบสารสนเทศ ต้งั แต่กระบวนการ

จดั เกบ็ ประมวลผล และการเผยแพรส่ ารสนเทศ เพือ่ ชว่ ยใหไ้ ด้สารสนเทศทีม่ ีประสิทธภิ าพและรวดเร็วทันตอ่ เหตกุ ารณ์
โดยเทคโนโลยีสารสนเทศอาจประกอบด้วย

1. เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ตา่ งๆ เช่น เคร่อื งคอมพิวเตอร์ เครอ่ื งใช้สำนกั งาน อปุ กรณส์ ื่อสารโทรคมนาคมตา่ งๆ
รวมทั้งซอฟทแ์ วร์ทัง้ แบบสำเร็จรปู และแบบพัฒนาขึน้ เพอื่ ใชใ้ นงานเฉพาะด้าน ซ่งึ เคร่อื งมอื เหลา่ น้จี ัดเปน็ เครือ่ งมอื ทนั สมยั
และใชเ้ ทคโนโลยีระดบั สงู (High Technology)

2. กระบวนการในการนำอุปกรณเ์ ครื่องมอื ตา่ งๆ ขา้ งต้นมาใช้งาน เพอ่ื รวบรวม จัดเกบ็ ประมวลผล และแสดง
ผลลพั ธ์เปน็ สารสนเทศในรปู แบบต่างๆ ท่ีสามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ดต้ อ่ ไป

สารสนเทศ หมายถงึ ขอ้ มลู ท่ีผ่านการประมวลผลด้วยวิธีการที่เหมาะสมและถูกต้อง เพ่ือใหไ้ ดผ้ ลลัพธ์ตรงตาม
ความตอ้ งการของผู้ใช้ อยู่ในรปู แบบท่ีใช้งานได้ และจะตอ้ งอยใู่ นช่วงเวลาทตี่ ้องการข้อมูล ซ่ึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์
ตามต้องการ เช่น สรุปยอดขายเพื่อนำไปใชใ้ นการวิเคราะห์ วางแผนและตัดสินใจในการกำหนดเป้าหมายตอ่ ไป

องคป์ ระกอบของสารสนเทศ
ขอ้ มูล คอื ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ หรอื รายละเอียดซงึ่ อาจอยใู่ นรูปแบบต่างๆ เชน่ ภาพ เสียง วิดโี อ

หรือขอ้ มูล ขอ้ เท็จจรงิ ของสิง่ ทสี่ นใจ ไมว่ า่ จะเปน็ คน สัตว์ สิ่งของ หรอื เหตุการณ์ต่างๆ ดังนน้ั ขอ้ มลู จึงเป็นการเก็บรวบรวม
เกีย่ วกบั ข้อเท็จจริงของสิ่งทสี่ นใจเพอ่ื ที่จะนำไปใชป้ ระโยชนต์ ่อไป

การประมวลผลข้อมูล คือ กระบวนการย่อยหลายกระบวนการ ต้งั แต่การรวบรวมขอ้ มลู การแยกแยะ
การตรวจสอบความถกู ตอ้ ง การคำนวณ การจัดลำดับ การรายงานผล รวมถงึ การสง่ ข้อมลู หรือการแจกจ่ายขอ้ มูลนนั้

สารสนเทศ คอื สิง่ ท่ีไดจ้ ากการนำขอ้ มูลท่เี ก็บรวบรวมไว้มาประมวลผล เพื่อนำมาใชป้ ระโยชน์ตามจุดประสงค์
ลกั ษณะสำคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ

โดยพนื้ ฐานของเทคโนโลยี มปี ระโยชนต์ ่อการพฒั นาประเทศชาติให้เจรญิ กา้ วหน้า สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ
เปน็ เรอ่ื งทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับวิถีความเปน็ อยูข่ องสังคมสมัยใหม่ ลักษณะเด่นท่ีสำคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ มีดังน้ี

1.เทคโนโลยีสารสนเทศชว่ ยใหก้ ารทำงานรวดเร็ว ถูกตอ้ ง และแมน่ ยำ ในระบบการจดั การขององคก์ รทกุ แห่ง
ตอ้ งใช้ข้อมูลเพ่อื การดำเนินการและตดั สนิ ใจ ระบบธุรกจิ จึงใช้เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีการสือ่ สารเปน็
เครือ่ งมอื ช่วยในการดำเนินการเพอ่ื ใหก้ ารทำงานมคี วามรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ

6

2.เทคโนโลยีสารสนเทศชว่ ยทำใหก้ ารบรกิ ารกว้างขวางข้ึน เมอื่ มกี ารพฒั นาระบบเก็บและใชข้ ้อมูล ทำใหก้ าร
บริการต่างๆ อยู่ในรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถส่ังซ้ือสนิ ค้าจากท่ีบ้านสามารถถามขอ้ มลู ผา่ นทางโทรศัพท์

3.เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยดำเนินการในหนว่ ยงานตา่ งๆ ปจั จบุ นั ทุกหนว่ ยงานตา่ งพัฒนาระบบจดั เก็บข้อมูล
และรวบรวมข้อมลู เพ่อื ใชใ้ นองคก์ ร ประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎรท่จี ัดทำด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ ระบบเวชระเบียน
ในโรงพยาบาล ระบบการจดั เก็บข้อมูลภาษี ในปัจจบุ นั องคก์ รทุกระดบั เหน็ ความสำคัญทจี่ ะนำเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้

ระบบสารสนเทศมกี ารนำเทคโนโลยีหลายดา้ นมาใชป้ ระโยชน์ในการนำข้อมูลมาประมวลผลและสอื่ สาร
สารสนเทศไปยงั ผทู้ ีเ่ กย่ี วขอ้ งได้อย่างรวดเร็ว องคป์ ระกอบท่ีสำคัญคอื ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software)
บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ (Peopleware) ขอ้ มูล (Data) ข้ันตอนการปฏบิ ัตงิ าน (Procedure) และระบบการสื่อสารข้อมลู
(Data Communication System)
ฮาร์ดแวร์ Hardware

ฮารด์ แวร์เป็นองคป์ ระกอบสำคัญของระบบสารสนเทศ หมายถงึ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง รวมทั้ง
อปุ กรณส์ ื่อสารสำหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอรเ์ ข้าเปน็ เครือขา่ ย ซึ่งถือวา่ เปน็ องค์ประกอบทีส่ ำคญั ของระบบสารสนเทศ

Microcomputer หรอื Personal Computer (PC) คอมพวิ เตอร์
ขนาดเลก็ แบบต้งั โตะ๊ (Desktop Computer) ใช้กนั แพร่หลายท้ังในบ้าน
โรงเรียน และสำนกั งาน

Macintosh (Macintosh) หรอื ทีร่ ู้จักในชือ่ ย่อว่า แมค (Mac) เป็นชือ่ ของผลิตภณั ฑ์
เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ท่ีพฒั นา ออกแบบ และจำหน่ายโดยบรษิ ทั แอปเปลิ แมคอนิ ทอชเป็นระบบ
คอมพิวเตอรส์ ่วนบุคคลที่ส่วนใหญ่ใช้ในสำนกั พมิ พ์ นิตยสาร โรงพิมพ์ บริษทั ออกแบบ และ
บริษทั โฆษณา

Laptop หรอื Notebook โนต้ บุ๊ก คือ คอมพวิ เตอรท์ ่มี ีขนาดเลก็ กวา่
ไมโครคอมพวิ เตอร์ ถกู ออกแบบไวเ้ พ่อื พกพาไปใชต้ ามท่ตี ่างๆ มขี นาดเล็ก และน้ําหนัก
เบา ความสามารถ ในการทำงานเทียบเท่ากับเคร่ืองพีซที ่วั ไป ในปจั จบุ ันมีหลายขนาดให้
เลือกตามความตอ้ งการใชง้ าน

Ultrabook เป็นการนำเอา Notebook และ Tablet ผนวกรวมเข้าดว้ ยกนั มคี วามบาง
และนา้ํ หนักเบาใกล้เคียงกับ Tablet ทำงานไดใ้ กลเ้ คียงกบั Notebook มีคียบ์ อร์ด Hard Diskจะ
ใช้เป็น SSD (Solid-State Drive) หนา้ จอสมั ผัสแบบ Multi Touch ได้เหมอื น Tablet

Tablet PC คือ เครือ่ งคอมพิวเตอรท์ ี่ใช้งานโดยใช้นิว้ สมั ผัสหรอื ปากกาเขียนลงบนจอภาพ
ไดโ้ ดยตรงแทนการใช้เมาส์และคียบ์ อรด์ ซึง่ มีซอฟต์แวรท์ ่พี ัฒนาขน้ึ มาเป็นพิเศษเพ่อื ใช้กับเคร่อื ง
ในปจั จบุ นั มกี ารใชง้ านกนั อยา่ งแพร่หลาย และมกี ารพัฒนากนั มากเพราะมผี ูใ้ ชง้ านเพ่มิ ขึน้ อย่าง
รวดเร็ว นยิ มใช้ในการเลน่ อินเทอร์เน็ต ติดต่อส่อื สารผ่านระบบเครอื ข่าย การศึกษาและความ
บนั เทงิ

7

สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์
1. หนว่ ยรับข้อมลู (Input Unit)
2. หน่วยประมวลผลขอ้ มูล (Central Processing Unit : CPU)
3. หนว่ ยเก็บข้อมลู (Memory Unit)
4. หนว่ ยติดต่อสอ่ื สาร (Communication Unit)
5. หนว่ ยแสดงผล (Output Unit)
ส่วนประกอบภายนอกทส่ี ำคัญของคอมพิวเตอร์คือ อปุ กรณ์คอมพวิ เตอรท์ น่ี ำมาประกอบกนั แล้วจะได้

คอมพิวเตอร์ชนิดตั้งโตะ๊ ทสี่ มบรู ณ์ 1 เคร่อื ง ควรประกอบดว้ ยองค์ประกอบท่สี ำคญั หลายอยา่ ง เช่น กล่องซพี ียู แป้นพิมพ์
เมาส์ จอภาพ ลำโพง

1. กล่องซีพียู (Case) เป็นองคป์ ระกอบคอมพิวเตอรท์ ี่ภายในบรรจแุ ผงเมนบอรด์ แหล่งจา่ ยไฟและ
หนว่ ยความจำตา่ งๆ เช่น รอม (ROM) แรม (RAM) ฮารด์ ดิสก์ ดสิ กไ์ ดร์ฟ และซีดีรอม เปน็ ต้น ทีเ่ รยี กว่า กลอ่ งซีพียู
เพราะภายในเครือ่ งบรเิ วณแผงวงจรหลัก (Main board) เปน็ ท่ตี ิดต้ังซีพยี ู (CPU) ซง่ึ ถือวา่ เป็นมันสมองของเคร่ือง
คอมพิวเตอร์ ส่วนรายละเอียดจะกลา่ วถึงตอ่ ไปในเนื้อหาของบทเรียนในหน่วยน้ี

2. แป้นพมิ พ์ (Keyboard) คือ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการพมิ พ์ขอ้ มลู เข้าสู่เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ เพอ่ื ให้หน่วยประมวลผล
ขอ้ มูลกลาง (CPU) ทำการประมวล แปน้ พมิ พ์จัดเปน็ อปุ กรณ์ดา้ นหนว่ ยปอ้ นขอ้ มูล (Input Unit) ที่ทำหนา้ ที่ในการปอ้ น
ขอ้ มูลเข้าสูเ่ คร่อื งคอมพิวเตอร์

3. เมาส์ (Mouse) คอื อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการเลอื กและเล่ือนตำแหน่งลกู ศรเพือ่ สง่ั งาน ให้คอมพิวเตอรท์ ำงาน
เมาส์จัดเปน็ อุปกรณด์ ้านหน่วยป้อนขอ้ มูลเชน่ เดียวกับแปน้ พิมพ์ แตใ่ ชง้ านในลกั ษณะท่แี ตกตา่ งกัน เมาส์ในปัจจุบนั มีท้ัง
แบบมีสายและแบบไรส้ าย

4. จอภาพ (Monitor) คอื อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการแสดงผลขอ้ มูลทีผ่ ่านการประมวลผลจากซีพียูมาแล้ว เพ่ือทำให้
ผใู้ ชม้ องเหน็ ผลลพั ธ์ของขอ้ มลู และสามารถตดิ ต่อกับเคร่อื ง
คอมพิวเตอรไ์ ด้ จอภาพจดั เป็นอุปกรณ์ด้านหน่วยแสดงผล
(Output Unit)

5. ลำโพง (Speaker) คือ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการ
แปลงสญั ญาณไฟฟา้ เป็นสญั ญาณเสยี งและแสดง เสียง
ออกทางลำโพงทำให้ผ้ใู ช้ไดย้ นิ สญั ญาณเสยี งในรูปแบบ
ตา่ งๆ เช่น เสยี งเพลง และเสยี งพดู ตา่ งๆ ลำโพงจัดเป็นอุปกรณ์ ดา้ นหนว่ ยแสดงผล (Output Unit)

6. หน่วยความจำสำรอง (Secondary memory unit) หน่วยความจำสำรองเปน็ ส่วนเพิม่ หนว่ ยความจำให้มี
ขนาดใหญ่ มคี วามจมุ าก มีราคาถูก ในระบบคอมพวิ เตอรจ์ ึงมักติดตงั้ หนว่ ยความจำสำรองเพอื่ นำมาใชเ้ กบ็ ขอ้ มูลจำนวน
มาก เป็นการเพ่มิ ขีดความสามารถด้านการจดจำของคอมพวิ เตอรใ์ ห้มากยิ่งข้ึน หนว่ ยความจำสำรองมหี ลายชนิดดงั ตอ่ ไปน้ี

8

ฮารด์ ดสิ ก์ (Hard Disk)
เป็นทสี่ ำหรบั เก็บข้อมลู ขนาดใหญ่ Hard Disk จะประกอบไปด้วยจาน Disk หรือที่
เรยี กวา่ Platters หลายๆ แผน่ มารวมกัน Hard Disk สว่ นมากจะอยู่ภายในเครอ่ื ง
คอมพวิ เตอร์ ซึง่ ไม่สะดวกในการเคลอื่ นยา้ ย บางทถี กู เรยี กวา่ Fixed Disk
ในปจั จุบนั ไดม้ กี ารนำฮารด์ ดสิ ก์ของคอมพิวเตอร์ใส่ในเคสเลก็ ๆ ใช้สาย USB ใน
การเช่ือมตอ่ เข้ากับคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงทำให้สามารถจดั เกบ็ ขอ้ มูลไดม้ ากและพกพาสะดวกเปน็ ท่ี
นยิ มกนั มากในปัจจุบัน เรยี กว่า External Hard Disk
แผ่นขอ้ มูลแบบบันทึกดว้ ยแสง (Optical Disc) แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ
1. CD ROM ซีดี (Compact Disk) เปน็ ส่ือบนั ทกึ ขอ้ มูลท่มี คี วามจุสูง โครงสร้าง
เปน็ แผน่ พลาสตกิ ทรงกลมบาง ทีฉ่ าบดว้ ยโลหะ metallic หลกั การทำงานจะใช้แสงเลเซอร์
(Laser) ฉายลงไปบนพืน้ ผวิ ของแผน่ ทำให้เกดิ หลุมรหสั เป็น 0 และ 1 การอา่ นข้อมลู ก็ใช้แสง
เลเซอรก์ วาดไปบนพน้ื ผิวของแผน่ แล้วใช้แสงสะท้อนกลบั แปลงไปเปน็ ขอ้ มลู ทค่ี อมพวิ เตอร์
สามารถอ่านเข้าใจได้ มีความจุประมาณ 600 - 700 MB มกี ารเข้าถึงขอ้ มูลแบบ Random
Access มีการพฒั นาให้เขียนอา่ นไดห้ ลายๆ ครั้งเรียกวา่ Erasable Optical Disks การใชง้ านตอ้ งใช้ร่วมกบั CD-Writer มี
ราคาถกู และใชง้ านแทนซีดีรอมท่วั ไปได้
หนว่ ยความจำแฟลชประเภทการด์ (Memory Card) หน่วยความจำชนิดน้นี ยิ มใช้ในปจั จุบนั อยา่ งแพร่หลาย
เพราะสามารถนำไปใช้กับอุปกรณอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์อ่ืนๆ เพ่ือเก็บสำรองขอ้ มูลต่างๆ เช่น กล้องดิจทิ ัล, โทรศพั ทป์ ระเภท
Smartphone, เคร่อื งเลน่ MP3 แบบพกพา หรือกลอ้ งวดิ ีโอร่นุ ใหมๆ่ ชนดิ หน่วยความจำประเภทน้ี เชน่
- PC Card
- Compact Flash
- Smart Media
- Multimedia Memory Card (MMC)
- Secure Digital (SD)
- Memory Stick
ประเภทของเครอ่ื งพิมพ์
1. เครื่องพมิ พด์ อตเมตริก (Dot Matrix) เป็นเครอื่ งพิมพ์ทใี่ ชห้ ัวเข็ม
กระแทกลงไปบนผา้ หมกึ เพ่ือใหต้ ัวอกั ษรทจี่ ะพมิ พ์ไปปรากฏบนกระดาษพมิ พ์
ตวั เคร่อื งพิมพ์จะมีราคาแพงสว่ นผา้ หมึกจะมรี าคาถกู ปจั จุบนั ใชใ้ นงานพมิ พ์
เอกสารทีต่ ้องการสำเนาหลายชดุ เชน่ ใบสัง่ ซื้อ บิลเงินสด ใบเสรจ็ รับเงินหรอื ใบ
สง่ ของ เปน็ หลัก
หวั พิมพจ์ ะประกอบดว้ ยเขม็ โลหะเลม่ เล็กๆ วางเรียงกันเปน็ แถวจำนวน 9 เข็มหรอื 24 เข็ม เข็มแต่ละเล่ม
จะรับสัญญาณ ควบคุมใหพ้ งุ่ ผ่านผ้าหมึก (Ribbon) ไปตกกระทบบนกระดาษซึ่งมีลอ้ ยางรองรบั อยดู่ า้ นหลัง
ให้เรียงจดุ เป็นตัวอักษรหรอื ภาพ

9

2. เครอ่ื งพมิ พแ์ บบพน่ หมึก (InkJet Printer) เป็นเครอ่ื งพมิ พท์ ี่อาศยั หลกั การพ่นหมกึ ออกมาบนกระดาษพมิ พ์
โดยมหี วั พิมพเ์ คลอื่ นท่ีบนแกนโลหะ การทำงานของหวั พมิ พใ์ ชว้ ธิ กี ารฉีดพน่ นํ้าหมึกเป็นจดุ ขนาดเล็ก ๆ จากกลกั นา้ํ หมึกให้
เป็นตวั อกั ษรหรอื รูปภาพ แทนลงบนกระดาษ ความละเอยี ดของการพมิ พว์ ัดเปน็ จำนวนจดุ ตอ่ ตารางนิ้ว ขนาดกระดาษทีใ่ ช้
มกั เป็นขนาด A4 หรอื ขนาดที่เลก็ กว่า ความเร็วในการพมิ พน์ ับเป็นจำนวนหนา้ ต่อนาที การพิมพ์สจี ะใช้หลักการพ่นหมึก 3
สคี อื นา้ํ เงนิ แดง และเหลอื งผสมกนั

3. เครอ่ื งพมิ พเ์ ลเซอร์ (Laser Printer) มหี ลักการทำงานคลา้ ยกบั เคร่ืองถ่ายเอกสาร โดยจะทำการแปลงขอ้ มูล
จากคอมพวิ เตอรใ์ ห้เป็นรหัสแล้วใช้ลำแสงเลเซอรย์ ิงเป็นรปู ภาพตน้ แบบลงบนแทน่ พมิ พ์ทีเ่ ป็นลอ้ ยาง (Drum) แลว้ ทำการ
ใชค้ วามรอ้ นดูดผงหมกึ จากกลัก (Toner) เขา้ มาติดกับล้อยางตามแบบพมิ พ์ จากนน้ั กระดาษจะถูกรีดด้วยล้อยาง ผ่าน
แม่พมิ พ์ท่ีมีผงหมกึ ตดิ อยู่ทำใหเ้ กดิ เป็นตัวอักษรหรอื ภาพบนกระดาษ ความละเอียดของการพมิ พ์วดั เปน็ จำนวนจุดต่อ
ตารางนว้ิ (Dot Per Inch : DPI) ขนาดกระดาษท่ีใช้มักเปน็ กระดาษขนาด A4 หรือขนาดอน่ื ก็ได้ ขึน้ อย่กู บั คณุ สมบัติของ
เครื่องพมิ พ์ ความเรว็ ในการพิมพ์นบั เปน็ จำนวนหน้าตอ่ นาที คุณภาพในการพมิ พ์มคี วามคมชัดสูงกว่าเครื่องพมิ พ์ Inkjet

ซอฟแวร์ Sofeware
ซอฟต์แวร์ หมายถึง โปรแกรมหรือชดุ คำส่งั ท่ีสั่งใหค้ อมพวิ เตอร์
ทำงาน เปน็ ตวั สั่งการให้อปุ กรณ์เชอ่ื มตอ่ ทำงานได้ โดยโปรแกรมจะเขียนให้
ทำงานเป็นขั้นตอนโดยจะครอบคลุมการดำเนินการทั้งหมดว่าจะให้ผลลัพธ์
ออกมาในลกั ษณะใด โดยผูเ้ ขียนโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์จะเปน็ ผเู้ ขยี น
โปรแกรมกำหนดให้โปรแกรมรบั อะไรมาประมวลผล แล้วให้ผลลพั ธ์แสดง
ออกมาในรปู แบบใดแบง่ เป็น 2 ประเภทคอื ซอฟต์แวรร์ ะบบ และซอฟต์แวร์
ประยุกต์
ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System Software) คือ ชดุ คำสงั่ หรอื โปรแกรมทีถ่ ูกเขียนข้นึ ทำงานกับฮารด์ แวร์
เพอ่ื สัง่ การควบคมุ การทำงาน อำนวยความสะดวกให้ผใู้ ชส้ ามารถตดิ ต่อกบั เครื่องคอมพวิ เตอรแ์ ละคอมพวิ เตอร์
ทกุ เคร่ืองจะตอ้ งมรี ะบบปฏบิ ัติการ (Operating System : OS) ระบบปฏบิ ัตกิ ารที่ใช้กันทัว่ ไป เชน่ Windows XP,
Windows 7, Windows 8 สำหรบั เคร่อื ง Macintosh เชน่ ระบบปฏบิ ัตกิ าร Snow Leopard, Lion Mountain, Lion
และยังมีระบบปฏิบัตกิ ารเปดิ เช่น Linux Ubuntu เป็นต้น
ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ (Application Software) คอื ชดุ คำส่งั หรอื โปรแกรมทถ่ี ูกสร้างข้ึนใหใ้ ชง้ านด้านต่าง ๆ ให้
ไดป้ ระโยชน์สงู สดุ ตามความต้องการของผใู้ ช้งานโดยแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ
ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Package Program) หรือ ซอฟต์แวร์
ใช้งานทว่ั ไป (General Purpose Software)เป็นโปรแกรมท่ี
สามารถนำมาประยกุ ตใ์ ชก้ บั งานได้หลายๆ แบบ ท้ังงานสว่ นตวั และ
งานแบบองค์กร ในปจั จุบันมผี ู้ท่ีจัดทำซอฟต์แวร์สำเรจ็ รูปขนึ้ มา
มากมายทั้งโปรแกรมทส่ี รา้ งโดยบริษัทใหญๆ่ ท่ีสร้างขึน้ สำหรับ
จำหนา่ ย ไปจนถึงผู้ทหี่ ัดสร้างโปรแกรมสำเร็จรปู ข้ึนใช้งานแลว้ เปิด
ให้ใช้งานไดฟ้ รี ท้ังหมดน้ีถือเปน็ ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปได้ ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นกลมุ่ ต่าง ๆ ได้ 10 ประเภท

10

1. ซอฟต์แวรป์ ระมวลผลคำ (Word Processing Software) ใช้สำหรับสร้างเอกสารข้อความตัวอกั ษร ภาพ
จัดการรูปแบบไดง้ ่ายและสะดวกตอ่ การทำงาน เช่น Microsoft Word, OpenOffice Writer, WordPad เปน็ ตน้

2. ซอฟตแ์ วร์ดา้ นการคำนวณ วเิ คราะหแ์ บบตารางการทำงาน (Spreadsheet Software) ใชส้ ำหรับงานดา้ น
การคำนวณ วิเคราะหห์ าผลลพั ธ์ งานลกั ษณะท่ตี ้องสรา้ งตาราง เช่น Microsoft Excel, OpenOffice Calc, Lotus 1-2-3
เป็นต้น

3. ซอฟต์แวร์ด้านการนำเสนอข้อมูล (Presentation Software) ใชส้ ำหรบั การนำเสนอขอ้ มูลในรูปแบบตา่ งๆ
ในการประชุม สมั มนา เช่น Microsoft PowerPoint, OpenOffice Impress เป็นตน้

4. ซอฟต์แวรด์ า้ นการจดั การฐานข้อมลู (Database Management Software) ใชส้ ำหรับจดั เก็บขอ้ มูลจำนวน
มาก สามารถเรียกใช้งานได้ สร้างตัวตดิ ตอ่ กับฐานข้อมลู เพอื่ เรยี กใช้ทำงานได้ เช่น Microsoft Access, OpenOffice
Base เป็นต้น

5. ซอฟต์แวรด์ า้ นงานพมิ พ์ (Publishing Software) ใช้สำหรบั สรา้ งเอกสารสำหรับงานพมิ พแ์ ผน่ พบั หนังสือ
นามบตั ร สื่อประชาสมั พันธต์ ่าง ๆ เช่น Microsoft Publisher, Adobe InDesign เปน็ ตน้

6. ซอฟต์แวรด์ า้ นสื่อรูปภาพ (Graphic Software) ใชส้ ำหรบั ออกแบบตกแตง่ ภาพ สามารถแบ่งออกเปน็
ประเภทตา่ งๆ เช่น Adobe Photoshop, Adobe Illustrator, Paint, CorelDraw, SketchUp Pro เป็นตน้ ซอฟต์แวร์
สำหรบั ออกแบบ เขยี นแบบ 2D, 3D เช่น AutoCAD และประเภทออกแบบภาพ Diagram ต่างๆ เชน่ Microsoft Visio

7. ซอฟตแ์ วรด์ ้านส่ือผสม (Multimedia Software) เป็นโปรแกรมทีร่ วบรวมทง้ั ขอ้ ความ รปู ภาพ เสียงวิดีโอ
ภาพเคล่อื นไหว ให้สามารถทำงานรว่ มกนั ไดแ้ สดงออก เพ่มิ ความน่าสนใจของผลงาน เช่น Windows Movie Maker,
Proshow, Corel VideoStudio Pro X5, Adobe Premiere Pro เปน็ ตน้

8. ซอฟต์แวรด์ ้านการตดิ ต่อสอ่ื สาร (Telecommunication Software) เป็นโปรแกรมทใ่ี ช้ในการตดิ ต่อ พูดคยุ
แลกเปลี่ยนสื่อต่างๆ ผ่านสงั คมออนไลน์ เช่น facebook, Line, Skype เปน็ ต้น

9. ซอฟตแ์ วร์เก่ียวกับเบราวเ์ ซอร์ (Web Browser Software) ใชแ้ สดงข้อมลู ที่แสดงผ่านเครอื ข่ายต่างๆ ท่ัว
โลก เชน่ Internet Explorer, Google Chrome, Mozilla Firefox, Safari เปน็ ตน้

10. ซอฟตแ์ วรอ์ รรถประโยชน์ในการใชง้ าน (Utility Software) เป็นโปรแกรมท่สี รา้ งขึน้ เพือ่ เพม่ิ ความสะดวก
รวมไปถึงความบนั เทงิ ให้กบั ผใู้ ชง้ าน เชน่ WinRAR, Nero, Anti-Virus เปน็ ตน้

ซอฟต์แวร์เฉพาะดา้ น (Special Purpose Software)
ถงึ แมว้ ่าซอฟต์แวร์ทวั่ ไปนัน้ จะสามารถใชง้ านได้หลากหลายรปู แบบ แต่หนว่ ยงานธรุ กจิ หลายๆ ประเภทน้นั

มีข้อมูลรบั เขา้ นำออกมากเกินกวา่ ทจ่ี ะใช้งานซอฟตแ์ วรท์ ว่ั ไปในการจดั การบรหิ ารงาน และเพอ่ื ให้งานออกมาเป็นระบบมี
แบบแผนมากยงิ่ ขึน้ หนว่ ยงานก็จำเปน็ ตอ้ งสร้างงานซอฟตแ์ วร์เฉพาะธุรกิจหรือหนว่ ยงานขนึ้ เพอ่ื ใชง้ านเอง เช่น งานรบั จอง
ตั๋วเคร่ืองบิน งานโรงแรม งานธนาคาร งานบญั ชบี รษิ ัท เปน็ ต้น

11

บคุ ลากรทางคอมพิวเตอร์ (Peopleware)
องค์ประกอบสำคัญ ในความสำเร็จของระบบสารสนเทศ บุคลากรมีความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอรม์ าก

เทา่ ใด โอกาสที่จะใช้งานระบบสารสนเทศและระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้เต็มศกั ยภาพและคมุ้ ค่าย่ิงมากขึน้ เทา่ นน้ั ผูใ้ ชม้ ีโอกาส
พฒั นาความสามารถของตนเองและพัฒนาระบบงานไดเ้ องตามต้องการ บคุ ลากรทางคอมพิวเตอร์ เชน่

- นกั วเิ คราะห์ระบบ (System Analysis)
- โปรแกรมเมอร์ (Programmer)
- วศิ วกรระบบ (System Engineer)
- ผู้บรหิ ารระบบงาน (Administrator)
- พนักงานปฏบิ ตั ิการ (Operator)
- ผู้ใช้ (End-User)
ขอ้ มลู (Data)
เปน็ องคป์ ระกอบทสี่ ำคัญอกี ประการหนงึ่ ของระบบสารสนเทศ การเกบ็ ขอ้ มลู จากแหลง่ กำเนดิ ข้อมูลจะต้อง มี
ความถกู ตอ้ ง มกี ารตรวจสอบแลว้ เท่านั้นจึงจะมีประโยชน์ ขอ้ มลู จำเป็นจะตอ้ งมีมาตรฐานเม่ือใชง้ านในระดับกล่มุ หรือ
ระดบั องค์การข้อมลู ตอ้ งมีโครงสรา้ งในการจัดเกบ็ ท่ีเปน็ ระบบระเบียบเพ่อื การสบื ค้นท่ีรวดเร็วมีประสทิ ธภิ าพ
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (Procedure)
ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านของผ้ใู ช้หรอื ของบุคลากรที่เกีย่ วข้องเป็นเร่ืองสำคญั เม่ือไดพ้ ัฒนาระบบงานแลว้ ขณะที่ใช้
งานกจ็ ำเป็นตอ้ ง คำนงึ ถึงลำดบั ข้ันตอนของคนและความสัมพันธ์กับเคร่ือง ทง้ั ในกรณีปกตแิ ละกรณีฉุกเฉิน เชน่ การบนั ทึก
ข้อมูล การประมวลผล การปฏิบัตงิ านเม่อื เคร่อื งชำรดุ หรือข้อมลู สญู หาย และการทำสำเนาข้อมูลสำรองเพือ่ ความปลอดภยั
และการทำเอกสารคู่มือการใชง้ านท่ีชัดเจน
ระบบการส่ือสารขอ้ มูล (Data Communication System)
ระบบส่อื สารขอ้ มลู เป็นปัจจัยสำคัญในการเชื่อมต่อสารสนเทศ ทำใหม้ กี ารใชง้ านสารสนเทศไดม้ ีประสทิ ธิภาพ
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านนที้ ำให้ทุกภาคส่วนต้องมีการปรับตัวเพ่ือรองรับกับความเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ และ
นำมาใช้ประโยชนก์ ับองคก์ ร ระบบเครือขา่ ยและระบบโทรคมนาคมช่วยทำใหก้ ารตดิ ตอ่ ส่ือสาร การแลกเปล่ียนข้อมูลงา่ ย
สะดวก รวดเร็ว คา่ ใช้จา่ ยนอ้ ยลง เชน่ มีการใช้สัญญาน Wifi ระบบ 4G ซ่งึ กำลงั จะเปลย่ี นเป็น 5G ในไมช่ ้า อนิ เทอร์เนต็ ก็
เป็นชอ่ งทางหน่ึงท่ีมคี วามสำคญั ในการใชร้ ะบบสารสนเทศ

กจิ กรรม(ยอ่ ย)ระหวา่ งเน้อื หา

12

เน้อื หา

ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ปัจจบุ ันคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารได้สร้างประโยชน์อย่างมากต่อวงการธรุ กิจ ทำให้ทุกธุรกิจมกี ารลงทนุ ขยาย

ขอบเขตการให้บรกิ ารโดยใช้ระบบสารสนเทศกนั มาก กลไกเหล่าน้ีทำให้โอกาสในการขยายตัวของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
กว้างขวางเพมิ่ ข้ึน นอกจากนก้ี ารเชอื่ มโยงเครือขา่ ยคอมพิวเตอรท์ ำให้สังคมโลกเปน็ สังคมแบบไร้พรมแดน การใชง้ าน
เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ เชน่ อินเทอรเ์ น็ตมีอัตราการขยายตวั สูงมาก ผู้คนบนโลกสามารถติดตอ่ สอื่ สารกนั ผา่ นทางเครือข่าย
อนิ เทอรเ์ น็ตได้หมด
ผลกระทบในทางบวก

ปัจจบุ ันกำลงั กา้ วเข้าสกู่ ารปฏวิ ตั ิเพ่อื เขา้ สูย่ คุ สารสนเทศ การสอื่ สารท่ีใหข้ า่ วสารได้อยา่ งรวดเรว็ จนทำให้โลกมี
ลกั ษณะไรพ้ รมแดน สิ่งเหลา่ นจ้ี ะมีผลกระทบในทางท่ดี หี รือทางบวกต่อสงั คมโดยตรง เชน่

1. ช่วยสง่ เสริมความสะดวกสบายของมนษุ ย์ เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยทำให้มนุษยม์ ีความเป็นอย่ดู ขี นึ้ ช่วย
ส่งเสริมให้มปี ระสทิ ธภิ าพในการทำงาน มเี ครอ่ื งมือสอ่ื สารโทรคมนาคมสมยั ใหม่ ทำให้ติดตอ่ ถงึ กันได้สะดวก มรี ะบบ
คมนาคมขนสง่ ท่รี วดเรว็ สามารถใชโ้ ทรศพั ท์ในขณะเดนิ ทางไปมายังท่ตี ่างๆ มีอปุ กรณอ์ ำนวยความสะดวกทคี่ วบคุมด้วย
คอมพิวเตอร์ เช่น ลิฟต์ เคร่อื งซักผ้า เครอื่ งปรับอากาศ มีเครื่องช่วยให้เกิดการพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ เช่น วิทยุ โทรทศั น์ มีการ
แพร่กระจายสญั ญาณ โทรทัศน์ผ่านดาวเทยี ม สามารถรับรู้ขา่ วสารตา่ งๆ จากทว่ั ทุกมมุ โลก ได้อยา่ งรวดเรว็

2. ช่วยทำใหก้ ารผลิตในอุตสาหกรรมดีขึน้ ระบบการผลติ สนิ ค้าในปัจจุบันเป็นระบบทตี่ ้องการผลติ สนิ ค้าจำนวน
มาก มคี ุณภาพมาตรฐาน การผลติ ในสมัยปจั จบุ ันใช้เคร่ืองจักรทำงานอย่างอัตโนมตั ิ สามารถทำงานไดต้ ลอดยีส่ ิบสช่ี ่วั โมง
ปจั จุบันมกี ารนำหนุ่ ยนตเ์ ข้ามาชว่ ยในอตุ สาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีสารสนเทศจงึ มผี ลตอ่ การผลิตมาก

3. ช่วยส่งเสรมิ การค้นคว้าวิจยั สง่ิ ใหม่ เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และระบบสือ่ สาร เชน่ เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
ช่วยให้งานค้นคว้าวิจยั ในหอ้ งปฏบิ ัตกิ ารวจิ ัยต่างๆ มีความกา้ วหน้าย่งิ ข้นึ ปัจจุบันงานคน้ ควา้ วจิ ัยทกุ แขนงจำเปน็ ต้องใช้
คอมพิวเตอรช์ ว่ ยในการคำนวณต่างๆ นกั วิจยั นกั วทิ ยาศาสตร์ ใช้ประโยชน์จากคอมพวิ เตอรใ์ นการจำลองรูปแบบของส่ิงท่ี
มองไม่เห็นตัว ใชใ้ นการค้นหาข้อมลู ทมี่ ีจำนวนมากและแพร่กระจายอยทู่ ่วั โลก สามารถคน้ หารายงานวิจยั ทีม่ ีผเู้ คยทำไว้
แลว้ และทเี่ กบ็ ไวใ้ นหอ้ งสมุดต่างๆ ได้อย่างรวดเรว็

4. ช่วยส่งเสริมสขุ ภาพและความเป็นอยู่ให้ดขี น้ึ คอมพิวเตอร์และอปุ กรณท์ ี่เก่ยี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้
กิจการทางด้านแพทยเ์ จรญิ ก้าวหนา้ ข้นึ อีกมาก ปัจจุบนั เคร่ืองมอื เครื่องใช้ทางการแพทยล์ ว้ นแลว้ แตใ่ ช้คอมพวิ เตอรช์ ่วยใน
การดำเนนิ การ

5. ช่วยสง่ เสริมสติปญั ญาของมนษุ ย์ คอมพวิ เตอรเ์ ป็นเคร่ืองมอื ท่ชี ่วยในการเรยี นรู้ของมนุษยไ์ ดด้ ี ปัจจุบนั มี
การนำบทเรยี นมาไวใ้ นคอมพิวเตอรเ์ รียกว่า คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI)
คอมพิวเตอร์ยังเปน็ เครอ่ื งมือที่ให้นักเรยี น นสิ ิต นักศกึ ษาเชื่อมโยงติดตอ่ กันทางอนิ เทอร์เน็ต สามารถศกึ ษา ค้นควา้ ขอ้ มูล
ขา่ วสารผ่านทางเครือขา่ ย สามารถเรียนรู้การใชค้ อมพวิ เตอร์หรอื เรียนจากท่ีห่างไกลได้

6. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจรญิ รงุ่ เรือง การใชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ เรอ่ื งทจ่ี ำเปน็ ตอ่ อตุ สาหกรรม
กิจการคา้ ธุรกจิ ต่างๆ กจิ การทางดา้ นธนาคาร ชว่ ยส่งเสริมงานทางดา้ นเศรษฐกิจ ทำให้กระแสเงินหมนุ เวียนได้อยา่ ง

13

กวา้ งขวาง ผ้ผู ลติ ในสายอตุ สาหกรรมจะผลิตสนิ ค้าไดม้ าก ลดตน้ ทนุ ธุรกิจโดยรวมจำเปน็ ต้องอาศยั การแลกเปลีย่ นขอ้ มูล
ระหวา่ งกนั มกี ารส่อื สารเก่ยี วข้องกันเกิดระบบการแลกเปลีย่ นข้อมูลทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์

7. ช่วยใหเ้ กิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน การสือ่ สารโทรคมนาคมสมยั ใหม่ชว่ ยย่นยอ่ โลกให้เลก็ ลง
โลกมีสภาพไรพ้ รมแดน มีการเรยี นรวู้ ัฒนธรรมซึ่งกันและกันมากขึ้น เกดิ ความเขา้ ใจซึ่งกันและกันไดด้ ี ทำให้ลดปัญหาใน
เรอ่ื งความขัดแยง้ สังคมไร้พรมแดนทำให้มคี วามเป็นอย่แู บบรวมกลมุ่ ประเทศมากขนึ้

8. ชว่ ยส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย ในการเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรทุกครัง้ มีการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
เพ่อื กระจายขา่ วสาร เพอ่ื ให้ประชาชนไดเ้ ห็นความสำคญั ของระบบประชาธิปไตย แมแ้ ต่การเลอื กตั้งกม็ กี ารใช้คอมพิวเตอร์
รวมผลคะแนน ใชส้ อ่ื โทรทัศน์ วทิ ยุ แจ้งผลการนบั คะแนนทท่ี ำให้ทราบผลไดอ้ ยา่ งรวดเรว็
ผลกระทบในทางลบ

ตง้ั แตเ่ ทคโนโลยีสารสนเทศไดเ้ ข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากข้ึน การใชเ้ ทคโนโลยีเป็นไปอยา่ งกวา้ งขวาง
การใชเ้ ทคโนโลยีไปในดา้ นตา่ งๆ ซ่งึ แนน่ อนยอ่ มตอ้ งมที ้ังคณุ และโทษ ภาพยนตรห์ ลายเร่ืองได้สะท้อนความคดิ ของการ
นำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในทางลบ ผลกระทบในทางลบเหล่านีบ้ างอย่างเปน็ เพยี งการคาดคะเนเทา่ นั้นอาจไมไ่ ด้
เกิดขึน้ จรงิ แตอ่ ยา่ งไรก็ตามย่อมมโี อกาสเกิดข้นึ ได้ เชน่

1. ทำใหเ้ กิดอาชญากรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศสามารถนำมาใช้ในการก่อใหเ้ กดิ อาชญากรรมได้ มกี ารลักลอบ
ใชข้ ้อมูลขา่ วสาร มกี ารโจรกรรมหรอื แก้ไขตวั เลขบญั ชี การแกไ้ ขระดับคะแนนผเู้ รยี น การแกไ้ ขข้อมูลในโรงพยาบาลเพอื่ ให้
การรกั ษาพยาบาลคนไข้ผิด ซ่งึ เปน็ การทำร้ายหรือฆาตกรรม

2. ทำใหเ้ กิดความสมั พนั ธ์ของมนษุ ย์เสอื่ มถอย การใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์ส่ือสารทำให้สามารถ
ติดตอ่ สอ่ื สารกันได้โดยไม่ต้องเหน็ ตัว การใช้งานคอมพวิ เตอร์หรอื แม้แตก่ ารเลน่ เกม มลี กั ษณะการใช้งานเพยี งคนเดยี ว ทำ
ให้ความสัมพันธก์ บั ผู้อื่นลดนอ้ ยลง ผลกระทบนท้ี ำให้มีความเช่ือว่า มนุษยสัมพันธข์ อบคุ คลจะลดน้อยลง สังคมใหม่จะเป็น
สงั คมทไี่ มต่ อ้ งพงึ่ พากนั มาก

3. ทำให้เกิดความวิตกกงั วล ผลกระทบน้เี ปน็ ผลกระทบทางดา้ นจิตใจของกลุ่มบคุ คลบางกลุ่มทม่ี คี วามวติ ก
กังวลวา่ คอมพิวเตอร์อาจทำให้เกดิ การว่าจ้างงานนอ้ ยลง มกี ารนำเอาหุ่นยนตม์ าใชง้ านมากขึ้น มีระบบการผลิตทอ่ี ัตโนมตั ิ
มากขน้ึ ทำให้ผใู้ ชแ้ รงงานอาจตกงาน หรือหน่วยงานอาจเลิกว่าจา้ งได้

4. ทำใหเ้ กิดการเส่ียงภัยทางด้านธรุ กจิ ธุรกิจในปจั จุบันจำเปน็ ตอ้ งพ่ึงพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขน้ึ
ขอ้ มลู ข่าวสารทงั้ หมดของธุรกิจฝากไวใ้ นศนู ย์ข้อมูล เช่น ขอ้ มูลลกู หนก้ี ารค้า ขอ้ มูลสินค้าและบริการตา่ งๆ หากเกดิ การสูญ
หายของขอ้ มูล อนั เนอื่ งมาจากเหตอุ ุบัตภิ ัย เชน่ ไฟไหม้ นาํ้ ท่วม หรอื ดว้ ยสาเหตุใดก็ตามท่ีทำให้ขอ้ มูลสญู หายหมด ย่อมทำ
ให้เกดิ ผลกระทบตอ่ ธรุ กจิ ได้

5. ทำใหก้ ารพฒั นาอาวุธมีอำนาจทำลายสูงมากข้ึน ประเทศทเ่ี ป็นต้นตำรบั ของเทคโนโลยี สามารถนำเอา
เทคโนโลยไี ปใชใ้ นการสร้างอาวธุ ท่มี ีอานภุ าพการทำลายสูง อาจมีผลต่อสงครามท่ีมีการทำลายล้างสูงเกดิ ข้นึ ได้

6. ทำใหเ้ กิดการแพรว่ ัฒนธรรมและกระจายขา่ วสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว คอมพิวเตอร์เปน็ อปุ กรณท์ ่ี
ทำงานตามคำส่ังการนำมาใช้ในทางใดจงึ ขึ้นอยกู่ ับผ้ใู ช้ จริยธรรมการใชค้ อมพวิ เตอรซ์ ่งึ เป็นเรื่องสำคัญ ผสู้ ร้างเว็บไซต์หรือ
สรา้ งข้อมูลขา่ วสารในเรือ่ งภาพที่ไม่เหมาะสม เชน่ ภาพอนาจาร หรอื ภาพท่ีทำให้ผอู้ ่ืนเสยี หาย การดำเนนิ การเช่นนี้

14

ย่อมขน้ึ อยู่กับจรยิ ธรรมของผู้ดำเนนิ การ นอกจากน้ยี งั มีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพ่ือสง่ จดหมายถึงผู้อื่นโดยมเี จตนา
กระจายข่าวทีเ่ ปน็ เท็จ
จรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศ

จรยิ ธรรม หมายถงึ หลกั ศีลธรรมจรรยาทกี่ ำหนดข้ึนเพอื่ ใชเ้ ปน็ แนวทางปฏิบตั ิ หรอื ควบคุมการใช้ระบบ
คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศ ซึ่งเมอ่ื พิจารณาจรยิ ธรรมเกยี่ วกบั การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพวิ เตอรแ์ ลว้ สามารถ
สรุปได้ 4 ประเด็น ไดแ้ ก่

1. ความเป็นสว่ นตัว (Information Privacy)
ความเปน็ ส่วนตวั ของขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยท่ัวไปหมายถึงสทิ ธิทจ่ี ะอยตู่ ามลำพัง และเป็นสิทธทิ ่ีเจา้ ของ
สามารถท่ีจะควบคุมขอ้ มูลของตนเองในการเปดิ เผยใหก้ ับผู้อื่น ปจั จุบันมปี ระเดน็ เกี่ยวกบั การละเมดิ ความเป็นสว่ นตัวท่เี ปน็
ข้อนา่ สงั เกตดงั นี้
» การเข้าไปดขู ้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกสแ์ ละการบนั ทกึ ข้อมูลในเครื่องคอมพวิ เตอร์ รวมทง้ั การบนั ทกึ -
แลกเปลย่ี นข้อมูลทบ่ี ุคคลเข้าไปใชบ้ ริการเวบ็ ไซต์และกลมุ่ ขา่ วสาร
» การใช้เทคโนโลยีในการตดิ ตามความเคลื่อนไหวหรอื พฤตกิ รรมของบคุ คล เชน่ บรษิ ทั ใช้คอมพวิ เตอร์ในการ
ตรวจจบั หรือเฝ้าดกู ารปฏิบัตงิ าน/การใหบ้ ริการของพนักงาน
» การใชข้ อ้ มลู ของลูกคา้ จากแหลง่ ต่างๆ เพ่ือผลประโยชน์ในการขยายตลาด
» การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ทอ่ี ย่อู ีเมล์ หมายเลขบตั รเครดิต และข้อมูลส่วนตวั อื่นๆ เพือ่ นำไปสรา้ ง
ฐานขอ้ มลู ประวตั ลิ กู ค้าใหมข่ ึ้นมาแล้วนำไปขายให้กับบรษิ ทั อื่น
2. ความถูกตอ้ ง (Information Accuracy)
ในการใช้คอมพวิ เตอร์เพ่ือการรวบรวม จัดเก็บ และเรียกใชข้ ้อมูลนั้น คุณลักษณะท่ีสำคัญประการหนงึ่ คอื ความ
นา่ เชื่อถือได้ของข้อมลู ท้ังนี้ขอ้ มลู จะมคี วามน่าเช่ือถอื มากนอ้ ยเพียงใดย่อมข้ึนอยูก่ ับความถูกตอ้ งในการบนั ทกึ ขอ้ มูลด้วย
ประเด็นด้านจริยธรรมที่เกย่ี วกับความถูกต้องของข้อมูล โดยท่ัวไปจะพิจารณาว่าใครจะเปน็ ผูร้ ับผิดชอบตอ่ ความถูกตอ้ ง
ของขอ้ มลู ท่จี ัดเก็บและเผยแพร่
3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)
ในสงั คมของเทคโนโลยีสารสนเทศมักจะกล่าวถงึ การละเมิดลขิ สิทธิซ์ อฟต์แวร์ เม่ือท่านซื้อโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
ที่มีการจดลิขสิทธิ์ นัน่ หมายความวา่ ท่านจา่ ยค่าลิขสิทธิใ์ นการใชซ้ อฟต์แวร์นั้น ซ่ึงลิขสทิ ธ์ใิ นการใช้จะแตกตา่ งกนั ไปในแต่
ละสนิ ค้าและบรษิ ัท บางโปรแกรมอนุญาตให้ตดิ ต้ังได้เพียงเครื่องเดียว ในขณะที่บางโปรแกรมอนุญาตให้ใช้ได้หลายเครอ่ื ง
ตราบใดทท่ี ่านยงั เป็นบคุ คลท่ีมีสทิ ธิในโปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ่ีซ้ือมา การคัดลอกโปรแกรมให้กับบุคคลอ่นื เป็นการกระทำ
ท่ตี ้องพจิ ารณาให้รอบคอบก่อนวา่ ท่านมีสิทธิในโปรแกรมน้ันในระดับใด
4. การเขา้ ถงึ ขอ้ มลู (Data Accessibility)
คอื การป้องกนั การเข้าไปดำเนนิ การกบั ขอ้ มลู ของผใู้ ช้ที่ไมม่ สี ่วนเกย่ี วขอ้ ง และเป็นการรักษาความลับของขอ้ มูล
ตวั อย่างสิทธใิ นการใช้งานระบบ เช่น การบันทึก การแก้ไข/ปรบั ปรุง และการลบ เป็นตน้ ดงั นนั้ ในการพฒั นาระบบ
คอมพวิ เตอร์จงึ ไดม้ กี ารออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าถงึ ข้อมลู ของผู้ใช้ และการเข้าถึงข้อมลู ของผู้อื่นโดย
ไมไ่ ดร้ บั ความยนิ ยอมนัน้ ถือว่าเปน็ การผิดจรยิ ธรรมเช่นเดยี วกบั การละเมิดข้อมูลส่วนตัว ในการใชง้ านคอมพิวเตอร์และ

15

เครอื ข่ายร่วมกนั หากผู้ใชร้ ่วมใจกันปฏบิ ัติตามระเบยี บและข้อบงั คับของแตล่ ะหน่วยงานอยา่ งเครง่ ครดั แลว้ การผดิ
จริยธรรมตามประเด็นทีก่ ล่าวมาข้างตน้ กค็ งจะไมเ่ กดิ ข้นึ

จรรยาบรรณการใช้เครือข่ายสงั คมออนไลน์
1. ใหร้ ะมัดระวังการละเมิดหรือสรา้ งความเสยี หายให้ผ้อู ื่น
2. ใหแ้ หล่งที่มาของข้อความ ควรอ้างอิงแหลง่ ข่าวได้
3. ไม่กระทำการรบกวนผอู้ ่นื ดว้ ยการโฆษณาเกนิ ความจำเปน็
4. ดแู ลและแกไ้ ขหากตกเปน็ เหยือ่ จากโปรแกรมอันไมพ่ ึงประสงค์ เพอ่ื ป้องกันมใิ ห้คนอน่ื เปน็ เหยอ่ื
บัญญัติ 10 ประการ
1. ตอ้ งไม่ใช้คอมพิวเตอรท์ ำรา้ ยหรอื ละเมดิ ผู้อืน่
2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผูอ้ ื่น
3. ตอ้ งไมส่ อดแนม แกไ้ ข หรอื เปดิ ดแู ฟ้มขอ้ มูลของผู้อน่ื
4. ตอ้ งไมใ่ ช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมขอ้ มลู ข่าวสาร
5. ตอ้ งไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานทเ่ี ป็นเท็จ
6. ตอ้ งมีจรรยาบรรณการใชเ้ ครือข่ายสังคมออนไลน์
7. ให้ระมัดระวงั ในการละเมดิ หรือสร้างความเสยี หายให้ผูอ้ ่ืน
8. ให้แหลง่ ที่มาของขอ้ ความ ควรอ้างองิ แหล่งขา่ วได้
9. ไมก่ ระทำการรบกวนผอู้ น่ื ดว้ ยการโฆษณาเกินความจำเปน็
10. ดูแลและแก้ไขหากตกเปน็ เหยื่อจากโปรแกรมอันไมพ่ งึ ประสงค์ เพอ่ื ปอ้ งกนั มิใหค้ นอนื่ เปน็ เหยอื่

16

กจิ กรรม(ยอ่ ย)ระหวา่ งเนื้อหา

17

แบบทดสอบหลังเรยี น

จงเลือกคำตอบท่ีถูกท่ีสุด

1. ข้อใดไม่ใชป่ ระโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมา จ. ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์

ใช้กับการลงทะเบียนเรียนของผูเ้ รียน 6. ข้อใด ไม่ใช่ Output Unit ของระบบคอมพิวเตอร์

ก. เป็นที่นิยมใช้กับการลงทะเบียนของผ้เู รียนเพ่ือให้ผ้เู รียน ก. Touch Pad

ได้ทำการลงทะเบียนเอง ข. Printer

ข. ทำให้เปน็ คนทนั สมัย ค. Speaker

ค. สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ทันที ง. Monitor

ง. เป็นการประมวลผลข้อมลู แบบเชื่อมตรง จ. Head Phone

จ. ไม่มีข้อใดถูก 7. งบกำไรขาดทนุ เปน็ ส่วนใดของระบบสารสนเทศ

2. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ ก. เผยแพร่ข้อมลู

ก. มีรูปแบบและขนั้ ตอน ข. จัดเก็บข้อมูล

ข. มีความถูกต้อง ค. ข้อมูล

ค. มีความน่าสนใจ ง. สารสนเทศ

ง. มีความน่าเช่ือถือ จ. ประมวลผลข้อมูล

จ. รวดเร็วและตรงเวลา 8. การอบรมการใชง้ านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ถือเปน็ ส่วนใดของ

3. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศตอ่ มนษุ ยใ์ นด้านลบคือข้อ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ

ใด ก. Hardware

ก. การทำงานเปล่ียนไป ข. Peopleware

ข. การติดต่อส่อื สาร ค. Procedure

ค. การจ้างงาน ง. Software

ง. ความเสอ่ื มถอยของจริยธรรม จ. Data

จ. การบริโภคเปล่ยี นไป 9. นายเฉลิมไปอา่ น E-mail ของแพรวาเปน็ การผิดจริยธรรมด้าน

4. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศใดท่มี กี ารพฒั นาอยา่ ง ใด

รวดเร็ว ก. การเข้าถึงข้อมูล

ก. ระบบสาธารณปู โภค ข. ความเปน็ เจ้าของ

ข. ระบบ NFC ค. ความถูกต้อง

ค. ระบบการจัดเก็บข้อมูล ง. ทำผิดจริยธรรมทุกข้อ

ง. ระบบส่อื สารโทรคมนาคม จ. ความเป็นส่วนตัว

จ. ระบบการศึกษา 10. สิ่งท่ไี ม่ควรทำในการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ

5. Microsoft Office เปน็ ซอฟต์แวร์ประเภทใด ก. แก้ไขข้อมูลของผู้อ่นื โดยไม่บอกด้วยความหวังดี

ก. ซอฟต์แวร์อรรถประโยชน์ ข. ระมัดระวังในการสร้างความเสียหายให้ผู้อ่นื

ข. ซอฟต์แวร์เพอ่ื การประมวลผล ค. ต้องไม่ใช้คอมพวิ เตอร์เพ่อื การโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร

ค. ระบบปฏิบัติการ ง. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนคนอื่น

ง. ซอฟต์แวร์สำเรจ็ รูปเฉพาะด้าน จ. ให้ระมัดระวังในการละเมิดความเสียหายให้ผ้อู ่นื

18

เฉลย

ขอ้ 1 ข
ขอ้ 2 ง
ขอ้ 3 ค
ข้อ 4 ง
ข้อ 5 จ
ขอ้ 6 ก
ขอ้ 7 ง
ขอ้ 8 ค
ข้อ 9 จ
ขอ้ 10 ก

19

แนวทางในการวดั ผลและประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ระดับ ปวช. 2 ได้

กำหนดกรอบการวัด และ ประเมนิ ผลผ้เู รยี น 3 ด้านดังนี้

รายการประเมิน วธิ กี ารวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน

ดา้ นความรู้ (K) - การทดสอบ แบบประเมนิ ผล นกั เรยี นไดค้ ะแนนรอ้ ยละ

60 ขนึ้ ไป ถอื วา่ “ผา่ น”

การประเมินดา้ นทักษะ - ข้นั ตอนการทำ ลำดบั ข้ันตอน

กระบวนการ (P)

การประเมนิ ดา้ น - การสังเกต

คุณลกั ษณะ (A)

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก