การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนจะช่วยรักษาความปลอดภัยให้บัญชี Google ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยกำหนดให้ต้องยืนยันในขั้นตอนที่ 2 เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ นอกจากรหัสผ่านแล้ว คุณจะต้องมีรหัสที่สร้างโดยแอป Google Authenticator ในโทรศัพท์ด้วย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนได้ที่ //g.co/2step
ฟีเจอร์:
* สร้างรหัสยืนยันโดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
* Google Authenticator ใช้ได้กับผู้ให้บริการและบัญชีจำนวนมาก
* มีธีมมืดให้ใช้
* ตั้งค่าได้อัตโนมัติผ่านคิวอาร์โค้ด
* โอนบัญชีระหว่างอุปกรณ์ผ่านคิวอาร์โค้ดได้
ประกาศเกี่ยวกับสิทธิ์:
กล้องถ่ายรูป: ต้องใช้ในการเพิ่มบัญชีต่างๆ ด้วยคิวอาร์โค้ด
สำหรับช่วงนี้มีการแจ้งเตือนให้หลายคนทำการป้องกันบัญชีของ Facebook เกี่ยวกับการแจ้งเตือนของให้เข้าเกณฑ์ของ Facebook Protect หนึ่งในสามสิ่งที่หลายคนติดปัญหาก็คือการยืนยันตัวตนสองชั้น ซึ่งทาง Facebook จะมีตัวเลือกให้เลือกอยู่ 3 ตัวเลือกด้วยกันได้แก่
- ตั้งค่าการยืนยันสองชั้น
- เปลี่ยนรหัสให้ยากขึ้น
- เปิดการแจ้งเตือนเมื่อมีการเข้าสู่ระบบ
ซึ่งสิ่งที่หลายคนติดกันอยู่ก็จะเป็นการยืนยันตัวตนสองขั้น บทความนี้จะมาพูดถึงเรื่องการยืนยันตัวตนสองชั้นด้วย Google Authenticator โดยการตั้งค่าดังกล่าวนี้จำเป็นต้องมีมือถือ และดาวน์โหลดแอพของ Google Authenticator (สามารถใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS โดยให้ไปดาวน์โหลดแอพได้จาก
- Google Authenticator สำหรับ Android
- Google Authenticator สำหรับ iOS
เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วให้เข้าไปยัง facebook แล้วไปที่ การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > การตั้งค่า > รหัสผ่านและความรักษาความปลอดภัย > การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น > แอพยืนยันตัวตน และ ให้แอพของ Google Authenticator มาสแกน QR Code หรือ ให้คัดลอกรหัสไปใส่ใน Google Authenticator
หลังจากใส่รหัสหรือยืนยันรหัสแล้ว จะมีให้เรายืนยันด้วยการใส่รหัสผ่านของบัญชี Facebook อีกหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นบัญชีของ Google Authenticator กับทางเฟสบุ๊คก็จะผูกกับบัญชี Facebook แล้ว หากใช้งานผ่านบัญชีอื่น หากถามหารหัสยืนยันตัวตนก็ให้เข้าที่แอพของ Google Authenticator นี้เพื่อมาเอารหัสได้ทุกเมื่อ
*** การยืนยันด้วยแอป Authenticator จำเป็นต้องยืนยัน 2 ขั้นนอนในช่างทางอื่นเอาไว้ด้วย เพราะหากลบแอปหรือไม่สามารถเข้าเครื่องได้ อาจะไม่สามรถใช้งานบัญชีของคุณได้ การลบแอป Authenticator แตะติดตั้งใหม่ จำเป็นต้องเชื่อมโยงระหว่างบัญชีใหม่ ***
หลังจากที่เราได้เตือนภัยผู้ใช้ Google Authenticator ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าอาจจะเข้าถึงบัญชีไม่ได้หากทำเครื่องหาย หรือเครื่องพัง เนื่องจากต้องใช้รหัสยืนยันที่ถูกสร้างขึ้นบนอุปกรณ์ ซึ่งบน Google Authenticator จะไม่มีการสำรองข้อมูลขึ้นบนคลาวด์ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงรหัสยืนยันดังกล่าวบนเครื่องอื่น ๆ ได้
วันนี้เราจะมาบอกทิปส์การใช้งาน หากต้องการใช้งาน Google Authenticator ต่อไป ให้หมดห่วงเรื่องอุปกรณ์สูญหาย อุปกรณ์พัง ที่จะมีผลทำให้เข้าถึงบัญชีที่ต้องใช้รหัสยืนยันจากอุปกรณ์
ทิปที่ 1: โคลนรหัสยืนยันมาไว้บนอุปกรณ์สำรอง
สำหรับสิ่งที่ง่ายที่สุด และมีความเสี่ยงน้อยที่สุด คือ การโคลนรหัสยืนยันต่าง ๆ ที่อยู่บนแอป Google Authenticator ของอุปกรณ์์หลัก มาไว้บนอุปกรณ์อีกเครื่อง หากมีเครื่องสำรองส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต ที่ต้องมั่นใจว่าไม่มีคนอื่นสามารถเข้าถึงได้
วิธีการย้ายนั้น สามารถทำด้วยวิธีการง่าย ๆ คือ การส่งออกบัญชี หรือการ Export บัญชีจากหนึ่งเครื่อง เพื่อนำอุปกรณ์อีก 1 เครื่อง มาสแกนเพื่อโคลนข้อมูล
ทิปที่ 2: บันทึก QR Code ของบัญชีที่ส่งออกมาจากแอป Google Authenticator
สำหรับวิธีนี้ การบันทึก QR Code ออกมาเก็บไว้ด้านนอกนั้น จะค่อนข้างเพิ่มความเสี่ยงสำหรับบัญชีต่าง ๆ ขึ้นมา เนื่องจากภาพ QR Code จะมีข้อมูลทุกอย่างทีมีความอ่อนไหวเกี่ยวกับการยืนยันตัวตนของบัญชี ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องมั่นใจว่า QR Code ดังกล่าวจะต้องถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัย
สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยส่งออกบัญชีคล้ายกับวิธีการทางด้านบน แต่เปลี่ยนจากการนำอุปกรณ์อีกเครื่องมาสแกน เป็นการถ่ายภาพหน้าจอแทน
หากทำตาม 2 วิธีด้านบนนี้ จะยังมีความเสี่ยงต่อข้อมูลรั่วไหล ทำให้อาจมีการเข้าถึงบัญชีที่ไม่พึงประสงค์ในระยะยาวได้ แต่ถ้าหากต้องการเพิ่มความปลอดภัยนั้น โดยปกติแล้ว บริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, หรือ Google ก็ตาม ต่างมีการให้รหัสยืนยันตัวตนสำรองประมาณ 10 รหัส เพื่อใช้ในการเข้าสู่บัญชี หากเข้าถึงตัวสร้างรหัสยืนยันไม่ได้ ให้เลือกที่จะบันทึกรหัสยืนยันตัวตนสำรองนี้แทน เพราะจะใช้ได้เพียงรหัสละ 1 ครั้งเท่านั้น หรือวิธีการยืนยันแบบอื่น ๆ เช่น ผ่านรหัส OTP ใน SMS