วันนี้เราจะชวนไปเดินท้องนาเก๋ๆ แถมผืนนานี้ไม่ต้องเดินทางไปไกลเพราะมันเป็นนากลางเมืองที่อยู่ชานกรุงนี่เอง หลายคนอาจจะเคยรู้จักและเคยไปเที่ยวที่ “พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” แหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรที่ยอดเยี่ยมของไทยที่ตั้งอยู่ที่ จ.ปทุมธานี อยู่แล้ว มาคราวนี้เขาเปิดโซนท่องเที่ยวใหม่ให้เราไปสนุกกับวิถีเกษตรกรรม แถมเที่ยวเก๋ๆ ชิลล์ๆ กันได้มากขึ้นด้วย
วันนี้เรามาเอาใจมิตรชาวไร่ที่รักและชื่นชอบในการท่องเที่ยวกัน ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้สร้างแอปพลิเคชันใหม่ มีชื่อว่า “ท่องเที่ยวเชิงเกษตร” ที่ได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นการยกระดับจากฟาร์มเกษตรกร หน่วยงานราชการ และแหล่งศึกษาดูงาน ด้านการเกษตรที่มีศักยภาพ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการช่วยสร้างงานสร้างรายได้แก่เกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย
ภายในแอปพลิเคชันจะแบ่งสถานที่ท่องเทียวออกเป็น 7 กลุ่ม คือ
- ภาคเหนือ จำนวน 50 แห่ง เช่น ชุมชนชีววิถีบ้านน้ำเกี๋ยน จังหวัดน่าน, แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถีและวัฒนธรรมบ้านหาดเสลา จังหวัดนครสวรรค์, ท่องเที่ยวเชิงเกษตรตำบลนางพญา จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นต้น
- ภาคใต้ จำนวน 37 แห่ง เช่น วิสาหกิจชุมชนชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนเกาะยาว จังหวัดพังงา, วิสาหกิจชุมชนล่องแก่งบ้านเขาหลัก จังหวัดตรัง, วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เลี้ยงและอนุรักษ์ควายไทยบ้านไม้ขาว (ความฮับ) จังหวัดภูเก็ต เป็นต้น
- ภาคกลาง จำนวน 27 แห่ง เช่น ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง, ตลาดน้ำคลองลัดมะยม กรุงเทพมหานคร, วิสาหกิจชุมชนท่องเทียวเชิงเกษตรบ้านมหาสอน จังหวัดลพบุรี เป็นต้น
- ภาคตะวันตก จำนวน 25 แห่ง เช่น ชุมชนท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำคลองบึง บ้านย่านซื่อ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, วิสาหกิจชุมชนสตรอว์เบอรี่วังจระเข้ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณ, ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านคลองแค จังหวัดสมุทรสาคร เป็นต้น
- ภาคตะวันออก จำนวน 25 แห่ง เช่น วิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานเพื่อความยั่งยืน “ไร่ ณ ชายแดน” จังหวัดสระแก้ว, ชุมชนเกษตรกรรมบ้านมาบเหียง จังหวัดปราจีนบุรี, ท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิสาหกิจชุมชน พีเจ ข้าวกล้องงอกบ้านพยอม จังหวัดชลบุรี เป็นต้น
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 55 แห่ง เช่น แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรศูนย์เพาะบ่มเกษตรกรรุ่นใหม่สกลนคร, ศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดหนองคาย, วิสาหกิจชุมชนท่องเทียวเชิงเกษตรปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น
- ศูนย์ปฏิบัติการ จำนวน 21 แห่ง ของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการที่เป็นแหล่งเรียนรู้และมีความพร้อมให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนเข้าชมและเรียนรู้ เช่น ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (เกษตรที่สูง), ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พืชสวน), ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (ผึ้ง) จังหวัดจันทบุรี, ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์ขยายพันธุ์พืช เป็นต้น
โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปหาข้อมูลของแต่ละภาคว่ามีสถานที่ท่องเทียวเชิงเกษตรที่ใดบ้าง เมื่อเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกใจได้แล้ว ก็สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียด โดยจะมีข้อมูลสถานที่ตั้ง เบอร์โทรศัพท์ ผู้ประสานงาน จุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยว ให้ข้อมูลความเป็นมา กิจกรรมที่สามารถทำได้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น มีบ้านพัก ห้องน้ำ ลานกางเต็นท์ ที่จอดรถ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้รวบรวมปฏิทินการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเอาไว้ด้วย เผื่อนักท่องเที่ยวยังนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวทีใดดี ก็สามารถอ้างอิงได้จาก ปฏิทินกิจกรรมที่ได้รวบรวมไว้ในแต่ละเดือนว่ามีที่ได้จัดกิจกรรมที่น่าสนใจอะไรบ้าง หรือจะกำหนดการเดินทางจากพิกัดของสถานที่ก็ได้ โดยเราสามารถเข้าไปกำหนดระยะห่างของสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเราสามารถจะกำหนดกลุ่มที่ห่างจากจุดที่เราอยู่ในระยะทางกี่กิโลเมตรก็ได้เช่นกัน
นับเป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่จะได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ เรียนรู้วิถีชีวิต หาความรู้ใหม่ ๆ รวมทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเพชรบุรี เป็นพื้นดินแห้งแล้งปนทราย ขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เพาะปลูกได้ยาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาการเกษตรตามแนวพระราชดำริแห่งแรกในภาคกลาง นั่นก็คือ โครงการชั่งหัวมัน และนอกจากนี้ก็ยังมีสถานีทดลองพืชสวนเพชรบุรี ใครที่สนใจหรือมีเวลาว่างก็อย่าลืมไปแวะชมกันนะคะ - สวนอีเดน ตั้งอยู่ซ้ายมือก่อนถึงม่อนแจ่ม 1.5 กิโลเมตร เป็นสวนองุ่นไร้เมล็ดของเกษตรกรที่ปลูกในโรงเรือนมีกิจกรรมให้เก็บองุ่นเอง และจำหน่ายองุ่นสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่น เช่น น้ำองุ่นสด องุ่นอบแห้ง เชื่อแล้วใช่มั้ยล่ะ ว่า 6 ชุมชนภาคกลางน่าเที่ยว ขับรถแป๊บเดียวก็เปรี้ยวได้ งานนี้นอกจากจะได้เที่ยวสนุกแล้ว ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ให้ชุมชนด้วยนะ แล้วจะรออะไร วันหยุดนี้ออกตะลุยกันได้เลย ชวนไปชิลใกล้กรุงเทพฯ ที่ มินิมูร่าห์ ฟาร์ม (Mini Murrah Farm) ฟาร์มควายนมเชิงท่องเที่ยวแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นฟาร์มแห่งแรกในประเทศไทยที่บุกเบิกการเลี้ยง ควายนมพันธุ์มูร่าห์ (Murrah) อีกด้วย โดยทางฟาร์มนั้นได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมบรรยากาศภายในฟาร์ม รวมถึงมีกิจกรรมสนุกๆ มากมายให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นให้อาหารควายนมมูร่าห์ หมูแคระ เป็ด ไก่ แพะ และกระต่าย ดำนาปลูกข้าว และเวิร์คช็อปทำอาหาร แล้วก็มีส่วนของร้านอาหาร และร้านขายของฝาก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมมูร่าห์ให้เราได้ช้อปกันด้วย