โดย.. เป็ดปุ๊ยชวนดู
หวีดร้องหนักมากกกก สำหรับหนังเฟรนไชส์ความรักอีโรติก-ระทึกขวัญ อย่าง Fifty Shades ที่กลับมาอีกครั้งในภาคสุดท้าย Fifty Shades Freed (ฟิฟตี้ เชดส์ ฟรีด) บทสรุปของความสัมพันธ์ระหว่าง คริสเตียน เกรย์ และ แอนัสตาเซีย สตีล เซอร์วิสแฟนๆให้ฟินเช่นเคย
ยังคงสร้างความเสียวซ่านต่อเนื่อง เป็นอีกเรื่องที่คนดูอย่างเราไม่ควรคาดหวังอะไร ชวนคนรักรู้ใจหรือใครก็ได้อายุ 20+ เข้าไปดูมาฟินพระนางเข้าคู่อวดเรือนร่างเซ็กซี่ ลีลาเซ็กซ์เร้าร้อน ที่จัดเต็มแบบถี่ยิบเช่นเคย รวมถึงไปดูภาพสวยๆ เพลงดีๆ
ดูเพลินกับสองนักแสดงหนักที่ขนเสน่ห์มาแบบล้นจอเช่นเคย มิสซิสเกรย์นี่แหละ ชีวิตที่ผู้หญิงหลายคนฝันอยากจะเป็น... สวย เก่ง ชีวิตแสนสบาย วาสนาดี สามีหล่อรวยฯ
Fifty Shades Freed เล่าถึงชีวิตหลังแต่งงานของ คริสเตียน เกรย์ และ แอนัสตาเซีย สตีล ดื่มด่ำชีวิตที่เพอร์เฟกต์ของทั้งคู่ ฉากชวนฝันพาฟินไปกับการฮันนีมูนที่ไม่รวยจริงทำไม่ได้ มีการปองร้ายไล่ล่าจากหัวหน้าเก่าให้พอระทึก รวมถึงเน้นการครองคู่ที่ต้องใช้ความเข้าใจ มีช่องว่างระหว่างกัน ต้องมาดูว่าเขาทั้งคู่จะทำให้รักครั้งนี้ไปถึงฝั่งได้หรือไม่ หรือต้องมีใครออกไปจากชีวิตกลางคัน
เพลินมากกกกกกกกกกกกก ถึงแม้ตัวบทจะไม่ต่างจากละครทีวีไทยสามีภรรยาปัญหาชู้รัก หึงหวง การตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อมต่างๆ แต่โปรดักชั่นงานภาพแสงสีมุมกล้องดูดีมีระดับ เพลงประกอบที่ใส่เข้ามาถูกจังหวะทำให้มันดูแพงน่าสนใจไม่ไก่กา ฉากเซ็กซ์ที่หลายคนรอดูก็เดิมๆเพิ่มเติมอุปกรณ์ใหม่ๆใช้ให้หมดห้องแดง แถมยังพาไปลองกันนอกสถานที่สร้างความตื่นเต้นอีกขั้น ซี๊ดอูยยยยยย ฉันอยากทานไอศกรีม
บอกไว้เลยว่า นักแสดงทั้งคู่ชูรักชูรส ให้หนังเรื่องนี้น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ดาโกต้า จอห์นสัน จะสวยเป๊ะอะไรขนาดนี้แถมวางมาดคุณนายได้น่าหมั่้นไส้ ผัวข้าใครอย่าแตะ!! ส่วน เจมี่ ดอร์แนน งานดีหุ่นฟิตเฟิร์มไม่เปลี่ยนละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ อยากหวีดดดดดดดดร้องปลดกระดุมให้สักเม็ดสองเม็ด ปล.บอดี้การ์ดหล่อมากหล่อแย่งซีน
ส่วนตัวแล้วชอบภาคนี้มากกว่าภาคสองรวมๆดี แต่ชอบภาคแรกที่สุด ดูเพลินไม่วุ่นวายเพราะไม่มีอะไร จากข้อตกลงที่พํนธการด้วยเซ็กซ์พิสดารสู่ความรักที่ไม่อยากแยกจากกัน ปล.หนังจบอย่าเพิ่งรีบลุก..เพราะมันยังมีต่อ
วันนี้ในโรงภาพยนตร์ เรื่องนี้เรตติ้ง20+ ตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าชมและซื้อบัตรภาพยนตร์
ล้วงลึกอีก ภาคต่อ Fifty Shades ภาค 2-3
เซ็กส์สุดเร่าร้อน นักแสดงต้องทำการบ้านแค่ไหน?
ในขณะที่ Fifty Shades of Grey แนะนำผู้ชมให้รู้จักกับมหาเศรษฐีพันล้าน คริสเตียน เกรย์และนักศึกษาสาวผู้ใคร่รู้ แอนัสเตเซีย สตีล อีกสองภาคถัดมาจะท้าทายทุกสิ่งที่ผู้ชมคาดหวังจากคู่รักที่ยุติความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนจบภาคแรก วิสซิดี้อธิบายว่า ในขณะที่ภาคแรกเป็นจุดเริ่มต้น อีกสองภาคจะล้วงลึกเข้าไปในแรงจูงใจและโลกของตัวละคร “ตัวละครของดาโกต้าใน Darker จะต้องประเมินว่าอะไรที่ทำให้เธอปรารถนาในตัวคริสเตียน ไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นคนหน้าตาดีเท่านั้น แต่เธอเริ่มอยากจะอยู่ในห้องแดงกับเขาจริงๆ เพื่อสัมผัสกับเรื่องทางเพศที่เธอไม่มั่นใจในภาคแรก ตอนนี้ เธอต้องหาคำตอบว่าอะไรในตัวเธอที่เป็นแรงขับดันของเธอ ว่าเธออยากจะมีส่วนร่วมในแบบเดียวกับที่คริสเตียนอยากให้เธอมีส่วนร่วมรึเปล่า”
สำหรับจอห์นสัน ผู้เตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในกองถ่ายด้วยการอ่านหนังสือภาคสองและสามก่อนหน้าการถ่ายทำจะเริ่มต้นขึ้น “Darker เป็นการล้วงลึกเข้าไปในทั้งสองคนมากยิ่งขึ้น” นักแสดงหญิงเผย “มันให้ความรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาอยู่บนเส้นทางที่ขรุขระและวกวน และพวกเขาก็ไม่ใช่ตัวละครที่เรียบง่าย มันไม่ใช่เรื่องราวรักกุ๊กกิ๊กหวานชื่น แต่มันมืดมิดกว่า เราไม่ได้ใส่ความหวานเข้าไปให้กับเรื่องจริงๆ ที่ยุ่งยากในความสัมพันธ์นี้ ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จะดำเนินไปในรูปแบบไหน แต่มันก็มีความเป็นสากลในความยุ่งยากพวกนี้ ไม่นับรวมถึงเรื่องเฉพาะบางอย่างในความสัมพันธ์ของทั้งคู่นะคะ”
จอห์นสันยังได้กล่าวยกย่องอีกเพียงคนเดียวในโลกที่รู้ว่าเธอต้องเผชิญกับอะไรว่าทำให้เธอสามารถผ่านงานนี้มาได้ “ฉันไว้ใจเจมีด้วยชีวิตค่ะ” เธอเล่า “เขาเป็นคนที่ทรงเกียรติ วิเศษสุด ตลกและมีพรสวรรค์ มิตรภาพของเราเกิดขึ้นจากความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เรารู้จักกันจากความจริงที่ว่าฉันต้องการให้เขาหวงแหนฉัน ฉันอยากให้เขาสามารถบอกได้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันรู้สึกอึดอัดและต้องออกโรง หรือในตอนที่สิ่งต่างๆ เกินเลยออกไป สะเทือนอารมณ์เกินไป จนฉันรับมันไม่ไหว ฉันอยากให้เขาสามารถมองเห็นมันจากสีหน้าของฉันและคุ้มครองฉันแบบนั้น เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับกันและกันอย่างมากและฉันก็ไว้ใจเขามากด้วยค่ะ”
ดอร์แนนเองก็ชื่นชมเธอ พลางอธิบายว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะยังคงอยู่ “เราทำตัวเป็นธรรมชาติต่อกันแล้วครับในตอนนี้ หลังจากที่ผ่านหนังภาคแรกและความกดดันและความคาดหวังทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาด้วยกัน สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับดาโกต้าคือมีแต่เธอที่รู้ว่าผมเจอกับอะไรมาบ้าง และมีแต่ผมที่รู้ว่าเธอเจอกับอะไรมาบ้าง เราต่างก็ต้องการกันและกันระหว่างกระบวนการนี้ มันมีบางวันที่ไม่ง่ายเลย ในตอนที่เราต้องถ่ายทำหลายเทค โดยเฉพาะสำหรับเธอ ในแง่ของการใช้ร่างกาย และปกติแล้ว เธอจะใส่น้อยชิ้นกว่าผมครับ คุณต้องมีคนที่เข้าใจและอยู่กับมันตั้งแต่วันแรกกับคุณครับ”
นักแสดงทั้งสองต่างก็รู้สึกชื่นชอบที่ได้สำรวจสิ่งที่หลายคนเชื่อว่าเป็นประเด็นสำคัญของแฟรนไชส์นี้ ดอร์แนนกล่าวถึงเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปใน Darker ว่า “หลายคนพูดถึงไอเดียที่ว่าหนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเซ็กส์ล้วนๆ โดยไม่รู้จักมันจริงๆ หรือก็แค่ฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากหนังสือภาคแรกแล้วเอาไปพูดต่อ ถึงผมจะต้องยอมรับว่าเซ็กส์เป็นส่วนสำคัญของมัน แต่ Darker กลับเดินไปอีกทาง และสำหรับนักแสดง มันก็เป็นเรื่องน่ายินดีครับ มันเป็นเรื่องเยี่ยมที่รู้ว่าเรามีเวลาอีกสองภาคให้พัฒนาแง่มุมอื่นๆ ของเรื่องราวและนำเสนอสิ่งที่เราไม่มีเวลาจะทำในภาคแรก แน่นอนครับว่าเราต้องทำอะไรมากขึ้น แต่นั่นก็เป็นความสนุกส่วนหนึ่งของมันด้วย”
ในตอนที่คริสเตียนเปิดใจให้แอนามากขึ้น เราได้เห็นว่าเขามีบาดแผลจากวัยเด็กของเขา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่สามารถรู้สึกผูกพันกับใครๆ ได้ เขาไม่ใช่คนที่เข้าถึงได้ง่ายๆ และเขาก็ไม่รู้ว่าจะมีความสัมพันธ์ “ปกติ” ได้ยังไง ไม่ว่าเขาจะต้องการยังไงก็ตาม อย่างไรก็ดี เขาก็ตกลงที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อแอนา เขาอยากเป็นผู้ชายที่เธอรู้ว่าเขาเป็น ซึ่งเป็นเรื่องลำบากอย่างเหลือเชื่อสำหรับเขา เพราะเรื่องเลวร้ายทั้งหลายที่เขาเคยทนมาในวัยเด็ก ตามที่อี แอล เจมส์ได้เผยด้วยการแนะนำเอเลนา ผู้เป็นปริศนาว่า ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น
ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคริสเตียน ในแง่ของความปรารถนาที่จะครอบงำและควบคุมคู่รักของเขา คือมันเกิดจากบาดแผลทางจิตใจที่ทิ้งร่องรอยให้กับตัวเขา “มันมีการบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาอาจจะซาดิสต์” ดอร์แนนอธิบาย “มีฉากหนึ่งในห้องแดงที่เขาบอกว่าเขาไม่ได้ซาดิสต์ บางที เขาอาจจะปฏิเสธความจริงก็ได้ แต่มาถึงตอนนี้ ผมคิดว่าเขากำลังยอมรับว่ามีบางสิ่งผิดปกติกับเขา และนั่นก็เป็นเรื่องที่เกินขอบเขต การเป็นคนที่ชอบควบคุมก็เรื่องหนึ่ง แต่การเป็นคนซาดิสต์เป็นเรื่องที่แอนาไม่โอเคด้วย ตอนนี้ เขาต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเองเพื่อที่เขาจะเปลี่ยนแปลงได้”