ริ้ว รอย ใต้ตา โบ ท็ อก ซ์ หรือ ฟิ ล เลอ ร์

บริการความงามที่ช่วยเสริมความมั่นใจ เปลี่ยนรอยยิ้มของคุณให้สดใสไร้ตีนกาด้วยการทำ โบท็อกใต้ตา ซึ่งรอยตีนกาถือเป็นอีกปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณสาว ๆ ที่จะทำให้ไม่สามารถอวดรอยยิ้มได้เต็มที่ โดยบริการฉีด โบท็อกหางตา (Botox Crow feet) จะทำให้ริ้วรอยลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลได้ทันใจ ยิ้มแล้วหน้าดูไม่แข็ง พร้อมลบเลือนรอยตีนกาบริเวณใบหน้าในราคาที่ย่อมเยาว์ ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างยาวนานให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในทุกขั้นตอน

อวดรอยยิ้มสวย ๆ พร้อมทำให้ใบหน้าดูสดใส ดูดีขึ้น ด้วยบริการฉีดโบท็อกเติมเต็มใบหน้าที่จะทำให้บริเวณดวงตาของคุณดูสดใสไร้ตีนกา ลดรอยคล้ำใต้ตา ร่องลึก หรือปัญหาถุงใต้ตาที่ทำให้หน้าตาดูหมองคล้ำ ดูโทรม พร้อมดูดีได้โดยไม่ต้องเสียเวลา Make Up เพื่อกลบริ้วรอยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้โดยตรงผ่านช่องทางการติดต่อที่หน้าเว็บไซต์

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

  • โบท็อกใต้ตาคืออะไร
  • การฉีดโบท็อกใต้ตาช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
  • Before & After
  • รีวิวจากคนไข้
  • ค่าบริการราคาเท่าไร
  • บริการนี้เหมาะกับใครบ้าง
    • ข้อจำกัดในการใช้บริการ
  • การเตรียมตัวก่อนและหลังเข้ารับบริการนี้
    • ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีด
    • ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด
  • ที่นี่ให้บริการดีอย่างไร
  • คำถามที่พบบ่อย
    • การฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาเป็นอันตรายไหม
    • ต้องฉีดซ้ำไหมและสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน
    • หลังฉีดบริเวณใต้ตาและหางตากี่วันจึงจะเห็นผล
    • เลือกใช้บริการที่ไหนดี สำหรับท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

โบท็อกใต้ตาคืออะไร

โบท็อกใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มบริเวณใต้ดวงตาหรือหางตาเพื่อลบเลือนรอยตีนกา ลดรอยคล้ำใต้ตา ร่องลึก ให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ เพราะดวงตาทำหน้าที่ในการสื่อความหมายที่อยู่ภายในตัวคุณ อีกทั้งดวงตายังเป็นจุดที่ผู้คนมองเป็นอันดับแรก ๆ บนใบหน้า เมื่อมีการพูดคุยกันก็มักจะสบตากันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นดวงตาจึงต้องทำหน้าที่ในการแสดงสีหน้า และอารมณ์อยู่เสมอวันละหลายร้อย หลายพันครั้ง และดวงตายังเป็นอวัยวะที่บอกถึงอายุได้มากที่สุดอีกด้วย โดยปัญหารอยตีนกาและถุงใต้ตาถือเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเป็นเจ้าของ แต่ผิวรอบ ๆ บริเวณดวงตากลับเป็นจุดที่มีความบอบบางที่สุด และเกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด

สำหรับปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับทั้งสาว ๆ และผู้ชาย ซึ่งสามารถเกิดริ้วรอยรอบดวงตาขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป ยิ่งใครที่ชอบยิ้มตาหยีหรือแสดงสีหน้ามาก ๆ รอยยับย่นและรอยตีนกาก็จะมาเยือนเร็วกว่า เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อย ๆ จุดใต้ตายังมีปัญหามากขึ้นให้เห็นชัดเจนทั้งความหย่อนคล้อยของใต้ดวงตาที่เป็นไปตามธรรมชาติ รอยยับเส้นใต้ตา และถุงใต้ตาที่ทำให้ตาดูตก เศร้าโทรมไม่สดใส ส่งผลให้ดูแก่กว่าวัยอันควร ส่วนวิธีที่จะช่วยทำให้ใต้ตากลับมาตึง เรียบ ไร้ริ้วรอย มีหลายวิธี เช่น การผ่าตัดถุงใต้ตา การดึงหน้าให้ตึง แต่วิธีที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการฉีดสารโบท็อกบริเวณใต้ตา โดยนวัตกรรมทางการแพทย์ในยุคนี้สามารถทำได้ไม่ยากและมีความปลอดภัยสูง

การฉีดโบท็อกใต้ตาช่วยในเรื่องอะไรบ้าง

ฉีดโบท็อกใต้ตาเป็นการใช้โบท็อกที่ได้มาจากสารโปรตีนสกัดชนิดหนึ่ง ซึ่งคุณหมอจะฉีดเข้าไปตรงบริเวณที่มีริ้วรอย ร่องลึก เช่น ใต้ตา หน้าผาก ซึ่งตัวยาจะเข้าไปทำหน้าที่ในการยับยั้งปลายประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อตรงที่ฉีดเข้าไป ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการคลายตัว ส่งผลให้ผิวหนังด้านบนของกล้ามเนื้อดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น จนทำให้รู้สึกว่าหลังฉีดริ้วรอยใต้ตาแลดูหายไป

Before & After

ภาพก่อนทำการฉีดโบ ซึ่งจะเห็นริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาได้อย่างชัดเจน และภาพหลังทำการฉีดโบท็อกใต้ตา รีวิวจากคนไข้จริงที่มีความไว้วางใจเลือกใช้บริการกับคลินิกของเรา โดยจะเห็นได้ว่าริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาแลดูจางลง และมองเห็นได้ไม่ชัดเจนเหมือนก่อนหน้านี้

รีวิวจากคนไข้

ภาพส่วนหนึ่งของรีวิวจากคนไข้จริงที่เลือกทำการฉีดโบท็อกใต้ตากับทางคลินิกของเรา โดยคนไข้ส่วนใหญ่ต่างพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกันมาก และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา ริ้วรอยหางตาหายไปเลย

ค่าบริการราคาเท่าไร

โบท็อกใต้ตา ราคาค่าบริการจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำ เพราะปัญหาของคนไข้แต่ละท่านจะมีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้วิเคราะห์อย่างละเอียดแบบ Case By Case สำหรับท่านที่สนใจก็สามารถปรึกษากับอาจารย์แพทย์ก่อนได้ เพื่อทำการประเมินก่อนเข้าใช้บริการ

บริการนี้เหมาะกับใครบ้าง

บริการนี้เหมาะสำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยรอบดวงตา ใต้ตา หางตา ตาตก คิ้วตก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แลดูแก่กว่าวัย ผิวพรรณแลดูไม่สดใส ใบหน้าดูโทรม ตาดูโทรมเหมือนคนไม่ค่อยได้พักผ่อน หลายคนจึงเลือกใช้วิธีการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดกับบริเวณรอบดวงตาให้กลับมาดูสดใสมีประกาย เวลาจะยิ้มก็ยิ้มได้เต็มที่ไม่ต้องกังวลกับริ้วรอยอีกต่อไป และยังช่วยทำให้คุณมีบุคลิกที่ดีขึ้น น่ามองมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกอย่างนั้นก็คือ เวลาที่ต้องแต่งหน้า ถ้าหากใบหน้าของเรามีริ้วรอย ถึงแม้จะทำการรองพื้นหนาขนาดไหนก็จะยังคงเห็นริ้วรอยบริเวณรอบใต้ตาได้อย่างชัดเจนอยู่ดี แต่ถ้าหากเลือกฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาถึงแม้คุณจะไม่ได้แต่งหน้าก็สามารถโชว์หน้าสดได้อย่างมั่นใจ ให้คุณแลดูหน้าเด็กและดูดีได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในการฉีดบริเวณใต้ตานอกจากจะมีข้อดีแล้ว ยังมีข้อจำกัดที่คุณควรรู้ไว้เช่นกันค่ะ

ข้อจำกัดในการใช้บริการ

ข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับบริการนี้ ขอแนะนำว่าหญิงมีครรภ์หรือคุณแม่ช่วงให้นมบุตรไม่ควรฉีด เพราะจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงที่หนังตาและใบหน้า เลือดออกง่ายผิดปกติ และผู้ที่แพ้สารโปรตีนอัลบูมิน หากมีความจำเป็นต้องฉีดทางที่ดีควรปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุด และควรแจ้งตามความจริงกับคุณหมอด้วยว่ากำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ และช่วงกำลังให้นมบุตรจะเป็นการดีและปลอดภัยสำหรับตัวคุณมากที่สุดค่ะ

การเตรียมตัวก่อนและหลังเข้ารับบริการนี้

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีด

ผู้เข้ารับบริการควรตรวจสภาพร่างกายของตัวเองว่าพร้อมหรือไม่ ดังนี้

  1. หากเป็นสตรีมีครรภ์และผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร คุณยังไม่ควรฉีดโบ
  2. บุคคลที่สามารถฉีดได้ควรมีสุขภาพเข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้ทานยาประจำ หรือถ้าหากมีการทานยาอยู่ก็ควรขอคำปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง ถ้าหากคุณทำการปิดบังข้อมูลเหล่านี้ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายในภายหลังได้
  3. หากปัจจุบันมีการทานอาหารเสริม ควรทำการหยุดทานชั่วคราวสำหรับอาหารเสริมประเภทวิตามินอี โสม น้ำมันปลา หรือสมุนไพรที่มีผลทำให้ร่างกายเกิดความร้อน ซึ่งควรทำการหยุดทานอาหารเสริมเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 วันก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกใต้ตา
  4. สำหรับท่านใดที่ทานยาแอสไพรินหรือยาแก้อักเสบ ควรงดทานก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด

  1. การนอนอย่างถูกวิธี จำเป็นต้องใช้เวลาในการทำงานและเพื่อให้เกิดการเซ็ตตัว ฉะนั้นหลังฉีดแล้วบางอย่างจึงต้องหลีกเลี่ยงหรือละเว้น และทำอย่างระมัดระวัง สำหรับการนอนนั้นใน 24 ชม. แรก มีข้อห้ามในการนอนตะแคงซึ่งควรนอนหงายและเลือกใช้หมอนหนุนหัวที่สูง รวมถึงใน 3 – 4 ชม. แรก เป็นอย่างต่ำก็อย่าเพิ่งเผลอนอนราบหรือยังไม่นอนเลยจะดีที่สุด เพราะสารที่ฉีดจะไหลไปที่อื่นได้
  2. ห้ามนวดเด็ดขาด นี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้สารโบท็อกไหลไปยังบริเวณส่วนอื่นของกล้ามเนื้อได้เช่นกัน เพราะหลังฉีดแล้วต้องจำไว้ว่าอย่านวด คลึง จับ บีบ กด ใด ๆ ทั้งสิ้น อย่างน้อยก็ต้องทิ้งระยะหลังการฉีดให้ได้มากกว่า 7 – 10 ชม. ถึงจะแน่ใจได้ดีที่สุด
  3. หลีกเลี่ยงความร้อน เรื่องนี้ควรเลี่ยงทั้งก่อนฉีดและหลังเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสัก 2 สัปดาห์ เพราะความร้อนมาก ๆ และนาน ๆ อาจทำให้สารเกิดการกระจายตัวและสลายตัวเร็วก่อนกำหนดได้นั่นเอง ซึ่งตามปกติอายุของสารโบท็อกหลังถูกฉีดเข้าไปแล้วจะคงอยู่ประมาณ 3 – 4 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณในการฉีดด้วย แต่หากเจอความร้อนมาก ๆ เข้า ใบหน้าเรียวเต่งตึงก็อาจหย่อนคล้อยได้เร็วกว่ากำหนด
  4. ประคบเย็น ไม่ว่าจะฉีดระหว่างคิ้ว หน้าผาก โหนกแก้มหรืออื่น ๆ โอกาสที่จะมีอาการบวมแดงในช่วงแรก ๆ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกคน

ที่นี่ให้บริการดีอย่างไร

สำหรับท่านที่ต้องการฉีดบริเวณใต้ตาแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือก ฉีดโบท็อกใต้ตา ที่ไหนดี ทางคลินิกของเราขอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับทุกท่านที่อยากให้ดวงตาแลดูสดใสเป็นประกายยิ่งขึ้น ให้คุณยิ้มได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องริ้วรอยอีกต่อไป มาดูเหตุผลดี ๆ เมื่อเลือกใช้บริการกับที่นี่

  1. ก่อนฉีดแพทย์จะทำการวิเคราะห์รูปหน้ารายบุคคล
  2. มีการติดตามผลหลังทำทุกเคส
  3. เน้นการฉีดที่ให้ลุคแบบธรรมชาติ (Natural looks)
  4. เนื่องจากสารชนิดนี้มีหลายยี่ห้อ โดยอาจารย์แพทย์จะเลือกใช้ชนิดที่เหมาะกับสภาพหน้าของคนไข้แต่ละคน
  5. ก่อนฉีดจะมีการสอนนวดคลึงให้ทุกเคส
  6. บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ภายหลังการฉีดที่ 3-4 สัปดาห์
  7. ก่อนฉีดคนไข้สามารถขอตรวจสอบ Serial Number ได้ทุกผลิตภัณฑ์เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทางคลินิกใช้ของแท้
  8. การันตีเห็นผลทุกเคส ไร้กังวลเรื่องจำนวนยูนิตที่ใช้
  9. เน้นให้บริการที่เป็นกันเอง
  10. คุณหมอผู้ให้บริการเป็นอาจารย์แพทย์ของบริษัทโบท็อกโดยตรง รับประกันผลิตภัณฑ์ที่ใช้ของแท้แน่นอน โดยสามารถเช็ค serial number ได้ทุกขวด

** สำหรับผลลัพธ์ของการรักษาจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

คำถามที่พบบ่อย

การฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาเป็นอันตรายไหม

สำหรับการใช้สารชนิดนี้ แพทย์ทั่วโลกได้ทำการวิจัยและศึกษาเกี่ยวกับสารตัวนี้เป็นอย่างดี ผลปรากฏว่าสารชนิดนี้จะไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายเมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และยังไม่มีรายงานฉบับใดว่าสารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับการฉีดแม้แต่เล็กน้อย แต่อาจมีโอกาสในการเกิดอันตรายได้จากการฉีดด้วยความผิดพลาด 2 กรณีดังนี้

  1. ปริมาณที่ใช้ในการฉีดมากเกินไป : ปริมาณที่ใช้สำหรับการฉีดโดยเฉพาะบริเวณใต้ตา จำเป็นที่ต้องใช้เพียงปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งส่วนมากในทางการแพทย์ทราบดีถึงปริมาณที่ควรใช้ในการฉีดให้กับคนไข้ในแต่ละท่าน เพราะรู้กันดีในสากลถึงมาตรฐานในการฉีดนี้ อีกทั้งแพทย์ผู้ทำการฉีดให้ควรจะต้องมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้วย
  2. ตำแหน่งของการฉีดผิดที่ : การฉีดในบริเวณใต้ตาถือเป็นจุดที่สำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการฉีด หากคุณเลือกเข้ารับบริการฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ ก็อาจเกิดความผิดพลาดในตำแหน่งที่ได้รับการฉีดได้ เช่น ทำให้ตาปิดไม่สนิท ตาผิดรูป ตาสองข้างไม่เท่ากัน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับใครที่ต้องการของถูก และมองว่าคงไม่มีอันตรายอะไร จึงเลือกฉีดกับหมอกระเป๋าหรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความผิดพลาดและอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้

ต้องฉีดซ้ำไหมและสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน

อายุการทำงานของสารชนิดนี้โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นก็ต้องมาทำการฉีดใหม่เพราะตัวสารจะสลายไปกับกระบวนการทางร่างกาย เราอาจมองว่าตรงนี้เป็นรายจ่ายที่สิ้นเปลืองเนื่องจากต้องเข้ารับการฉีดใหม่ทุก 4 – 6 เดือนก็จริง แต่ก็หมายความว่าสารชนิดนี้ไม่ใช่สารอันตรายหรือแปลกปลอม เพราะสามารถสลายไปในระยะเวลาหนึ่งได้โดยไม่ตกค้างหรือเป็นอันตรายแก่ร่างกายนั่นเอง

หลังฉีดบริเวณใต้ตาและหางตากี่วันจึงจะเห็นผล

หลังจากที่เข้ารับการฉีดแล้วอาจจะมีรอยช้ำ บวมเล็กน้อย แต่ก็เห็นความแตกต่างจากตอนที่ยังไม่ได้ฉีดแม้จะยังไม่ชัดเจนมากนัก หลังจากที่บริเวณใต้ตาหายจากอาการช้ำประมาณ 3 วัน ถึง 1 อาทิตย์ ก็จะมองเห็นผลของการฉีดได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และผลจะชัดเจนสมบูรณ์ภายในช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากฉีด

ปัจุบันวิธีนี้เป็นการรักษาหรือการแก้ไขริ้วรอยใต้ตา ถุงใต้ตาที่ไม่อันตรายอย่างที่คิด นอกจากนี้ยังมีความสะดวกและเกิดแผลน้อยที่สุด เพียงแค่รอยปลายเข็มนิดเดียวเท่านั้น หากเป็นการฉีดให้โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญสูงก็แทบไม่เกิดรอยช้ำใด ๆ เลย โดยใช้เวลาในการฉีดเพียง 10 – 20 นาทีเท่านั้นก็เสร็จเรียบร้อย

หลังทำการฉีดแล้ว คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ ข้อแนะนำหากคุณต้องการให้ผลลัพธ์ของการฉีดคงอยู่ได้นานตามอายุที่เหมาะสมของผลิตภัณฑ์ โดยหลังทำการฉีดในช่วงสัปดาห์แรกคุณควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอย่างแรง ๆ ด้วยการขยี้หรือการถูบริเวณใต้ตา และหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดหรือความร้อน ๆ เพราะเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดการสลายได้อย่างเร็ว ซึ่งตามปกติสารนี้จะสามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว

เลือกใช้บริการที่ไหนดี สำหรับท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

เลือกทำ โบท็อกใต้ตา ที่ไหนดี สำหรับสถานที่หรือคลินิกที่เหมาะสม ควรเลือกสถานที่ที่ได้มาตรฐาน สะอาด ทันสมัย เป็นที่ยอมรับ และมีชื่อเสียง มีผลงาน ตามที่หลาย ๆ ท่านได้รับรู้ข่าวการฉีดในราคาถูก ราคาประหยัด กับหมอกระเป๋าหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่แพทย์ การฉีดแบบนี้นับว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย และเสี่ยงต่อความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จะดีที่สุด

หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับ Botox สามารถแอด Line หรือส่งคำถามมาได้ที่ Facebook Messenger จากปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ

บทความโดยแพทย์ Doctor Mek Clinic

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก