น้ำยาล้างเครื่องซักผ้าใช้อะไรบ้าง

• View Larger Image

ใครจะรู้ว่าใน เครื่องซักผ้า ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำความสะอาดนั้น บางครั้งอาจจะไม่ได้สะอาดเสมอไป แม้ภายนอกตัวเครื่องที่สังเกตเห็นได้ง่ายอาจจะดูสะอาดดี แต่ภายในถังซักผ้าที่ใช้งานมาเป็นเวลานาน อาจเต็มไปด้วยคราบ และสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นก็เป็นได้

▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾

เพื่อความมั่นใจว่าเสื้อผ้า และเครื่องซักผ้าของเรานั้นสะอาด ไม่ควรที่จะละเลยการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า อย่างสม่ำเสมอ วันนี้ KACHA มีวิธี “ล้างเครื่องซักผ้า” ทั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า และเครื่องซักผ้าแบบฝาบน ให้สะอาดเอี่ยมทุกซอกทุกมุม ได้อย่างง่าย ๆ ด้วยของใกล้ตัวในบ้าน ไม่ต้องกังวลว่าจะขั้นตอนที่ยุ่งยาก ก็สามารถทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเองได้ ปลอดภัยกับระบบกลไกลของเครื่อง และยังช่วยให้เสื้อผ้าเรา สะอาดยิ่งขึ้นอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

เครื่องซักผ้ามาตรฐาน มีแบบไหนบ้าง?

เครื่องซักผ้าในปัจจุบัน มีผู้ผลิตออกมาจำหน่าย 2 ชนิด คือ

1. แบบกึ่งอัตโนมัติ (2 ถัง) จะมีถังซัก และถังปั่นแยกออกจากกัน เครื่องแบบนี้ ต้องคอยดูแลการทำงานของเครื่องเป็นระยะตลอดเวลา ในการเปิดน้ำเข้า และถ่ายน้ำทิ้ง แล้วย้ายผ้ามาปั่นแห้ง
2. แบบอัตโนมัติ (ถังเดี่ยว) จะซักและทำหน้าที่ปั่นแห้งในเครื่องเดียวกัน

เทคนิคการ ล้างเครื่องซักผ้า ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ 

• เบกกิ้งโซดา

การใช้ผู้ช่วยมือหนึ่งในการทำความสะอาดอย่าง เบกกิ้งโซดา มาขจัดคราบในถังซักผ้ากัน ซึ่งเราจะใช้เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง เทลงในเครื่องซักผ้าแบบฝาบน ที่มีน้ำเต็มถังเรียบร้อยแล้ว ส่วนเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า อาจใช้การเทลงในช่องผงซักฟอกตามปกติ หรือนำบางส่วนมาค่อย ๆ โรยลงในถัง พร้อมกับหมุนไปเรื่อย ๆ จากนั้นใช้เวลาปั่นอีกสัก 2-3 นาที จนเบกกิ้งโซดาละลาย จึงค่อยทิ้งไว้ประมาณครึ่งวันจนถึง 1 คืน และตามด้วยการใช้โปรแกรมซักผ้าตามปกติ เพื่อล้างคราบทุกอย่างออกมาอีก 1-2 รอบจนกว่าน้ำที่ออกมาจะสะอาด

• น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชู เป็นอีกอย่างที่ทุกบ้านต้องมีติดครัว ซึ่งสามารถหยิบมาทำความสะอาดถังซักผ้าได้อย่างสบาย ๆ โดยวิธีการทำความสะอาดนั้น ก็คล้ายกับการใช้เบกกิ้งโซดาเลย แค่เตรียมน้ำส้มสายชูประมาณ 2-3 แก้ว ให้เหมาะกับขนาดของถังซัก และใส่ลงไปในช่องใส่ผงซักฟอก หรือถังซักที่เปิดน้ำจนเต็มไว้เรียบร้อยแล้ว ปั่นให้ละลายรวมกับน้ำ และแช่ไว้จนน้ำส้มสายชูได้ออกฤทธิ์ ขจัดคราบ รา และกลิ่นอับ จากนั้นจึงค่อยเลือกโปรแกรมซักแบบปกติ เพื่อล้างคราบ และกลิ่น จนกว่าจะหมด

• แอมโมเนีย

แอมโมเนียที่หลาย ๆ คนต้องถอยหนีเวลาเจอกลิ่นนี่แหละ เป็นอีกอย่าง ที่สามารถนำมาทำความสะอาดเครื่องสักผ้าได้เหมือนกัน เพราะด้วยความสามารถในการกำจัดสิ่งสกปรกของแอมโมเนีย เมื่อต้องการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า สามารถนำมาเทลงผสมกับน้ำ และแช่ทิ้งไว้ ตามด้วยการซักถังเปล่าตามขั้นตอนปกติก่อน ที่จะเปิดน้ำสะอาดล้าง เพื่อไล่คราบสกปรกที่หลุดออกมารวมทั้งกลิ่นที่มีอยู่ให้หมดไป

• น้ำยาฆ่าเชื้อ

ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอย่างน้ำยาฆ่าเชื้อ มาใช้กับเครื่องซักผ้ากันบ้าง ซึ่งการใช้วิธีนี้ อาจต้องลงทุนมากว่าการใช้เบกกิ้งโซดา หรือน้ำส้มสายชูสักหน่อย แต่ก็วางใจได้ ทั้งเรื่องความสามารถในการฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งกลิ่นที่ได้ ซึ่งวิธีการทำก็ลงมือได้ตามสเต็ปเดิมตั้ง แต่การเทลงไป ผสมกับน้ำ และปั่นให้น้ำยาได้ละลาย เพื่อที่จะแทรกซึมเข้าไปยังมุมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นก็แค่รอให้น้ำยาค่อย ๆ ทำงาน จึงค่อยกดปุ่มซักเพื่อเป็นการล้างให้สะอาดในขั้นสุดท้าย

• ผงทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

การทำความสะอาดหลาย ๆ อย่างนั้น มีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปแบบเฉพาะ ซึ่งการทำความสะอาดถังซักผ้านั้น ก็มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะเหมือนกัน แต่หลาย ๆ คน อาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก เป็นเพราะส่วนใหญ่ผงทำความสะอาดเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะนี้ จะมีขายในร้านสินค้าจากญี่ปุ่น หรือร้าน 60 บาท ที่เรามักจะเรียกกันอย่างคุ้นเคยนั่นเอง ซึ่งวิธีการใช้ผงทำความสะอาดนั้น ก็ไม่ซับซ้อนเลย แค่ฉีกซองเทผสมกับน้ำ และเปิดเครื่องซักผ้าซัก พร้อมกับไล่น้ำในตอนท้ายเหมือนกัน ก็ทำให้เครื่องซักสะอาดผ้าขึ้นได้อย่างมั่นใจหายห่วง

ข้อแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า

1. ความทนทาน นอกจากรูปแบบแล้ว ต้องมีความทนทานต่อความชื้น ตัวถังทำจากวัสดุที่ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า และมีระบบป้องกันไฟฟ้ารั่วที่มั่นใจได้
2. ประสิทธิภาพของการทำงาน ควรดูขนาดความจุของถังซักผ้า ให้เหมาะสมกับจำนวนเสื้อผ้า และความถี่ในการซักของคุณ มีโปรแกรมการควบคุมที่สะดวก ใช้งานง่าย

การเลือกซื้อเครื่องซักผ้า ควรสังเกตว่าต้องมี ตัวเลข หรือเครื่องหมายที่ระบุรายละเอียดที่มองเห็นได้ชัดเจน ไม่ลบเลือนหรือหลุดได้ง่าย ดังต่อไปนี้

• ชื่อผู้ผลิต หรือเครื่องหมายการค้า
• ประเภทของเครื่องซักผ้า
• ปริมาตรภายในที่กำหนด
• รหัสรุ่น
• วงจรไฟฟ้า

นอกจากนี้ ต้องมีคู่มือแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์ควบคุมต่าง ๆ วิธีติดตั้งการบำรุง รักษาข้อควรระวังในการใช้และข้อปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ

วิธีดูแลรักษาเครื่องซักผ้าให้ใช้ได้นาน ๆ ทำได้อย่างไร?

เครื่องซักผ้า ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี เพราะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ หลายคนที่เคยมีประสบการณ์เครื่องซักผ้าเสียคงทราบดีว่าการซักผ้าเอง โดยใช้มือซักนั้น หนักหนาสาหัสแค่ไหน เหนื่อยทั้งแรงกาย เสียทั้งเวลา ที่สำคัญเรื่องของสุขอนามัยซักมือ อาจไม่สะอาดหมดจดเท่าซักเครื่อง รวมถึงถูกผงซักฟอกกัดมือเจ็บเนื้อเจ็บตัวอีกต่างหาก 

• ติดตั้งเครื่องในตำแหน่งที่ไม่ โดนแดด โดนฝน ห่างไกลสัตว์

บ้างบ้านเลือกที่จะติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้นอกตัวบ้าน ควรเลือกตำแหน่งติดตั้งที่ไม่ถูกแดด ถูกฝน รวมถึงสัตว์ประเภทสุนัข น้องแมว หนู แมลงสาบ เข้าถึงได้ง่าย เพราะปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ทำให้ตัวเครื่องภายนอกชำรุดได้ง่ายขึ้น เพราะทั้งน้ำฝน แสงแดด ปัสสาวะหมาแมว ทำให้สีเคลือบหลุดลอกเกิดสนิม รวมถึงขอบยางเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้น

• จำนวนน้ำหนักผ้าที่ซัก ห้ามเกินที่กำหนดไว้

ก่อนซื้อเครื่องซักผ้ามาใช้ ต้องคำนึงถึงปริมาณผ้าที่จะซักว่ามากน้อยแค่ไหน หากสมาชิกในบ้านมีหลายท่าน ซักแต่ละครั้งจำนวนมากแต่เลือกเครื่องความจุน้อย ทำให้เครื่องถูกใช้งานหนักเกินไปทำให้อายุการใช้งานสั้นลง

• เลือกผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้กับเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ

ผงซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่มบางประเภท ก็ทำมาสำหรับซักมือเพียงอย่างเดียว เพราะผงซักฟอกสำหรับซักมือทำให้เกิดฟองมาก หากนำมาใช้กับเครื่องซักผ้า อาจทำให้เครื่องเสียเร็ว

• เช็คระบบจ่ายน้ำ จ่ายไฟ ให้พร้อม

ระบบจ่ายไฟ-น้ำ ก็สำคัญ ระหว่างซักหากไฟตัด ไฟดับบ่อย ย่อมส่งผลเสียต่อเครื่องซักผ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด กรณีของน้ำ ควรมีเครื่องปั๊มน้ำติดตั้งก็จะเป็นการดี เพราะหากน้ำมีไม่พอใช้หรือไม่ทันใช้ อาจทำให้มอเตอร์ไหม้ได้

• เมื่อซักเสร็จไม่ควรปล่อยผ้าทิ้งไว้ในเครื่องนาน ๆ

เมื่อเครื่องทำงานเสร็จสิ้น ควรนำผ้าออกจากเครื่องทันทีอย่าทิ้งให้ตัวถังเครื่องรับน้ำหนักไว้นาน เพื่อยืดอายุการใช้งาน

• ไม่วางของหนัก หรือนั่งบนฝาเครื่อง

การวางของหนักไว้บนเครื่องซักผ้านั้น อาจจะทำให้เครื่องซักผ้าเกิดการทรุดตัวลง และเสียหายได้

• สำรวจเสื้อผ้าไม่ให้มีอุปกรณ์ตกค้างก่อนเอาเข้าเครื่อง

กรณีนี้มักพบเห็นเป็นประจำ หลายครั้งเรามักเจอเศษสตางค์ ของแข็งต่าง ๆ ตกค้างในเครื่องซักผ้า เพราะลืมเอาออกจากกระเป๋าเสื้อ หรือกางเกง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับตัวถังเครื่องซักผ้า หรืออาจเข้าไปขัดจนเครื่องหยุดทำงานเสียหายได้

• ถนอมเครื่องบ้างก็ดี

เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด แม้จะถูกทดสอบการใช้งานอย่างหนักก่อนจำหน่ายสู่ท้องตลาดมาแล้ว แต่ก็ใช่ว่าเราจะตะบี้ตะบันใช้งาน ควรกำหนดวันให้ชัดเจนว่าจะซักวันไหนให้สม่ำเสมอเป็นประจำ ไม่ใช่ซักทุกวัน แม้ผ้าจะน้อยก็ตาม รวมถึงหมั่นดูแลเช็ดทำความสะอาดทั้งภายในภายนอกอยู่เสมอ เครื่องซักผ้าหลายรุ่นมีระบบทำความสะอาดตัวเองด้วยน้ำร้อนก็ช่วยให้ตัวถังสะอาดไม่เกิดกลิ่นอับ หรือคราบตกค้างได้เป็นอย่างดี

Share This Post With Others!

Related Posts