ข้าวเหนียวเขี้ยวงู มีที่มาจากไหน มีประโยชน์อะไรบ้าง ทำไมถึงเรียกว่าเขี้ยวงู แล้ววิธีหุงข้าวเหนียวเขี้ยวงูให้เด็ดฟินนั้นทำอย่างไร หาคำตอบได้ที่นี่ที่เดียว!
นอกจากข้าวสวยร้อน ๆ ที่คนไทยชอบกินเป็นอาหารหลักแล้ว อาหารอีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้เลยเห็นจะเป็น “ข้าวเหนียว” หรือ “ข้าวเหนียวเขี้ยวงู” เนื้อสัมผัสหนึบหนับเพิ่มความอิ่มท้องได้ดี ยิ่งนึ่งเสร็จตอนร้อน ๆ มันหอมนุ่มน่าหม่ำเป็นที่สุด ใคร ๆ ต่างก็อยากกิน แต่มีใครรู้บ้างว่าข้าวเหนียวเขี้ยวงูนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร เราเริ่มกินกันตอนไหน แล้วมีประโยชน์เหมือนกับข้าวสวยไหม บทความนี้มีทุกคำตอบค่า!
การกิน ‘ข้าวเหนียวเขี้ยวงู’ ในประเทศไทย?
ราว 16,000 - 13,000 ปีที่แล้ว จากหลักฐานการขุดค้นพบ มนุษย์ได้รู้จักกับข้าวโบราณชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘ข้าวป่า’ และเริ่มสะสมข้าวป่าเพื่อเป็นอาหารมาโดยตลอด และเมื่อปี พ.ศ. 2536 มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ประเทศจีน คือ แหล่งกำเนิดของการปลูกข้าว จากการขุดค้นพบของนาย Richard S. Macheish นักโบราณคดีชาวอเมริกัน ได้พบหลักฐานข้าวไหม้ที่ติดอยู่กับเศษภาชนะ และเศษต้นข้าวที่ขุดได้จากถ้ำในเมืองหนานชาง อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ส่วนในประเทศไทยนั้นได้จากหลักฐานการค้นพบแกลบข้าวเหนียวเมล็ดใหญ่ที่ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง และเมล็ดข้าวเหนียวที่ขุดพบที่ถ้ำปุงฮุง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้ทราบว่ามุนษย์เรากินข้าวเหนียวมานานกว่าหลายพันปีแล้ว
ประโยชน์ของ ‘ข้าวเหนียวเขี้ยวงู’
ข้าวเหนียวเขี้ยวงูอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินอี ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และยังมีสารแกมมา (g–oryzanol)
ซึ่งเป็นสารช่วยลดการเกิดปฏิกิริยา oxidation ที่ทำให้เซลส์ต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการอักเสบ และอาจเป็นอันตรายต่อเซลส์ต่าง ๆ ในหลอดเลือด อีกทั้งสายพันธุ์ข้าวเหนียวเขี้ยวงูยังเป็นข้าวเหนียวที่มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ที่ช่วยลด คอเลสเตอรอล ไขมันในเส้นเลือด และป้องกันการเกิดมะเร็ง แต่ด้วยปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูงในข้าวเหนียว อาจทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล ต้องระมัดระวังปริมาณในการกินต่อครั้ง
แหล่งปลูก “ข้าวเหนียวเขี้ยวงู” ที่ดีที่สุด!!
เนื่องจากข้าวเหนียวเขี้ยวงู เป็นข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองที่ไวต่อแสงและสภาพอากาศ ทำให้แหล่งเพาะปลูกที่เหมาะสมต้องมีสภาพอากาศค่อนข้างสบาย มีความชื้นสูง สภาพดินดีมีแร่ธาตุ ด้วยเหตุนี้อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จึงเป็นแหล่งปลูก “ข้าวเหนียวเขี้ยวงู” ที่ดีที่สุด เพราะด้วยสภาพอากาศและสภาพดินที่เหมาะสม ทำให้ได้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูที่มีคุณภาพ ข้าวมีเมล็ดเรียวยาว กลิ่นหอม สีขาวเลื่อมมันวาว เมื่อหุงสุกจะเรียงเม็ดสวย นุ่มเหนียวแต่ไม่เละนั่นเอง!
ทำไมต้องเป็นข้าวเหนียวเขี้ยวงู “งูน้ำเงิน”
ข้าวเหนียวเขี้ยวงูนิยมปลูกทางตอนเหนือถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งข้าวเหนียว” ด้วยลักษณะเด่นของพันธุ์นี้คือมีเมล็ดเรียวเล็กคล้ายเขี้ยวงู เมื่อหุงแล้วจะขึ้นหม้อ สีขาวมันวาว มีรสสัมผัสนุ่มและหอมมากกว่าพันธุ์อื่น ทำให้โรงสีเลี่ยงกี้ อ.พาน จ.เชียงราย ได้คัดสรรข้าวเหนียวพันธ์กข.6แท้ เน้นข้าวเกี่ยวมือ จากเกษตรกรในพื้นที่ และใช้การตาดแดดลดความชื้นด้วยวิธีธรรมชาติ แล้วจึงเก็บในยุ้งฉาง บรรจุจำหน่ายในกระสอบป่านขนาด 100 กก. และกระสอบสานนาด 49 กก. ในชื่อ “งูน้ำเงิน” ขายมากว่า 70 ปีจนเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และกลายมาเป็นข้าวเหนียวเขี้ยวงู “งูน้ำเงิน” บรรจุในแพ็คสุญญากาศขนาด 1 กก. ให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในปัจจุบัน
รู้หรือไม่ทำไมถึงเรียก ‘ข้าวเหนียว’ ?
สาเหตุที่มันถูกเรียกว่าข้าวเหนียว เป็นเพราะข้าวเหนียวมีโมเลกุลที่เรียกว่า “อะมิโลเพคติน” (amylopectin) ทำให้ข้าวเหนียวเกิดความเหนียวนุ่มและรวมกันเป็นก้อน และข้าวเหนียวเป็นแป้งที่ทานต่อการย่อย (Resistant starch) ทำให้เมื่อเรากินข้าวเหนียวจะอยู่ท้องและอิ่มนาน
How to หุง ‘ข้าวเหนียวเขี้ยวงู’ แบบอีซี่!
แต่ดั้งเดิมเราจะหุงข้าวเหนียวด้วยการนึ่งกับหวด ทำให้เสียเวลาและยากต่อการรับประทาน แต่ปัจจุบันนี้! เราสามารถหุงข้าวเหนียวด้วยหม้อหุงข้าวและไมโครเวฟ ได้กินภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที ซึ่งแน่นอนว่าเรามีเคล็ดลับการหุงมาฝากทุกคนแน่นอนอยู่แล้วค่า และที่สำคัญนอกจากข้าวเหนียวจะทำเมนูอาหารคาวสุดอร่อยได้แล้ว ยังทำเมนูสุดครีเอทได้อีกหลายเมนูเลยนะคะ ไปดูวิธีการหุงข้าวแบบอีซี่กันค่า
- ทำเสร็จแล้วกินได้ : 4 คน
- เวลาเตรียม : 3 นาที
- เวลาทำ : 15 นาที
- เวลาทั้งหมด : 18 นาที
- แคลอรี : 97 kcal.
วัตถุดิบ
- ข้าวสารเหนียว 1 ถ้วยตวง
- น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- นำข้าวสารเหนียว มาซาวด้วยน้ำให้สะอาด แล้วเติมน้ำให้สูงกว่าเมล็ดข้าว ประมาณ 1 ซม.
- นำเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟแรงสุด ตั้งเวลา 5 นาที เมื่อครบเวลานำข้าวเหนียวออกมาคลุกเคล้า กลับเอาด้านบนลงล่าง ด้านล่างขึ้นบน แล้วเข้าไมโครเวฟด้วยไฟแรงสุด ตั้งเวลา 3 นาที อีก 1 รอบ
- เมื่อครบเวลา นำข้าวเหนียวออกมาคลุมด้วยพลาสติกแรปสักครู่ เพื่อให้ไอน้ำทำให้ข้าวระอุเป็นเม็ดเรียงสวย จะนำมากินกับไก่ย่าง ส้มตำ หมูฝอย หมูปิ้ง จิ้มแจ่วก็แซ๊บแซ่บ!
เมนูทำง่ายสุดว้าวจาก ‘ข้าวเหนียวเขี้ยวงู’
ข้าวเหนียวเขี้ยวงูนั้น สามารถทำได้ทั้งอาหารคาวและขนมหวานเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น...
เปาะเปี๊ยะข้าวเหนียวมะม่วง
วัตถุดิบ
- แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ 5 แผ่น
- ข้าวเหนียวมูน 150 กรัม
- มะม่วงสุก 1 ลูก
- น้ำกะทิสำหรับราด 2 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วทองคั่ว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ห่อข้าวเหนียวมูน มะม่วงสุกด้วยแป้งเปาะเปี๊ยะให้เป็นทรงกระบอก
- นำลงทอดให้พอเหลือง
- หั่นชิ้นพร้อมจัดเสิร์ฟบนภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นราดน้ำกะทิ โรยถั่วทองคั่วก็เป็นอันเสร็จ
ข้าวเหนียวมูนสังขยาหน้ากุ้ง
วัตถุดิบ
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ตรางูน้ำเงิน นึ่งสุก 500 กรัม
- น้ำกะทิ 250 มิลลิลิตร
- น้ำตาล 50 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ใบเตย 2 ใบ
- สังขยา (ตามชอบ)
- หน้ากุ้ง (ตามชอบ)
วิธีทำ
- ทำน้ำกะทิ โดยการนำกะทิตั้งไฟใส่ใบเตย ปรุงรสน้ำตาลและเกลือ
- นำข้าวเหนียวเขี้ยวงู ตรางูน้ำเงิน หุงสุกคลุกเคล้ากับน้ำกะทิปรุงรส แล้วมูนข้าวเหนียวให้ดูดน้ำกะทิจนหมด แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- จัดเสิร์ฟข้าวเหนียวมูนเคียงสังขยา และหน้ากุ้ง
ข้าวเหนียวผัด เสิร์ฟเคียงคอหมูย่าง
วัตถุดิบ
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ตรางูน้ำเงิน นึ่งสุก 200 กรัม
- กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- คอหมูย่าง 1 ชิ้น
- น้ำจิ้มแจ่ว 1 ถ้วยเล็ก
วิธีทำ
- ผัดกระเทียมให้สุกหอม จากนั้นนำข้าวเหนียวเขี้ยวงูตรางูมีน้ำเงินนึ่งสุกลงไปผัด ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส
- จัดเสิร์ฟเคียงคอหมูย่าง ราดน้ำจิ้มแจ่วก่อนกิน แกล้มด้วยผักสด
ข้าวจี่สอดไส้หมูปลาร้า
วัตถุดิบ
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ตรางูน้ำเงิน นึ่งสุก 300 กรัม
- น้ำพริกปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ
- หมูหมักปลาร้า 3 ชิ้น
- ไข่แดง 1 ฟอง
- เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำ
- นำข้าวเหนียวเขี้ยวงู ตรางูน้ำเงิน ห่อหมูหมักปลาร้าและน้ำพริกปลาร้า ปั้นให้เป็นก้อนกลม
- นำย่างไฟ แล้วค่อยๆทาไข่แดง สลับกับโรยเกลือจนสุกเหลืองน่ารับประทาน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ สำหรับความรู้คู่ครัวเรื่องข้าวเหนียว และวิธีการทำเมนูต่าง ๆ ที่แสนจะ ง๊ายง่าย เพียงแค่มี “ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ตรางูน้ำเงิน” ติดครัวไว้ ความอร่อยแบบจุใจก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่า หาซื้อได้ง่าย ๆ หลากหลายช่องทาง ทั้งช่องทาง Line@ หรือ เฟซบุ๊ก อย่าลืมไปซื้อ “ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ตรางูน้ำเงิน” มาไว้น้าาา