ทัศนคติที่ดีในการทํางาน มีอะไรบ้าง

องค์กรจะก้าวหน้าและไปได้ดี หัวใจสำคัญนอกเหนือไปจากประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว ก็คือความสามารถในการบริหารคนในองค์กร เพื่อให้ความสัมพันธ์ของพนักงานทุกฝ่ายเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ติดขัด เพราะเมื่อองค์กรสามารถทำให้การสื่อสารระหว่างกันเกิดขึ้นได้อย่างเข้าใจ ไม่ว่าจะกี่ปัญหาก็สามารถผ่านไปได้อย่างง่าย ๆ

วิธีที่ง่ายที่สุดที่สามารถเริ่มได้เลยก็คือการเปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง และในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร จะมีวิธีเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงทัศนคติในการบริหารลูกน้องได้อย่างไร ? 

วันนี้ HR NOTE ขอแนะเทคนิคจากบางส่วนของหนังสือ วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน โดยคุณ ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ มาสรุปให้อ่านกัน

Contents

  • 1) Hire The Best
  • 2) Start From The Ground
  • 3) เป็นคนฉายไฟ
  • 4) Review and Revert
  • 5) ใช้ Post-it สั่งงาน ดีกว่าใช้ E-mail
  • 6) ให้คนในทีมได้ทำในสิ่งที่ถนัด
  • 7) ให้อิสระในวิธีการคิดและการทำงาน
  • 8) กินข้าวร่วมกัน

1) Hire The Best

เริ่มต้นที่การจ้างงาน ควรจะเลือกจ้างคนที่ดีที่สุดเท่าที่หาได้ทุกครั้งในทุกตำแหน่งงาน ไม่ควรเลือกจ้างใครก็ได้เพื่อให้มาทำงานที่ไม่มีใครอยากทำด้วยค่าแรงที่น้อยที่สุดหรือจ้างตามอัตราตลาด เพราะคนที่เก่งย่อมไม่อยู่นิ่งและมองหาโอกาสเสมอ ซึ่งค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อหรือได้มากกว่านั้น ย่อมได้ผลงานที่ออกมาดีกว่า โดยให้มองพนักงานว่าเป็นเครื่องมือในการช่วยหารายได้เข้าองค์กร ไม่ใช่ภาระขององค์กร เพราะการจ้างคนคือการหาคนมาทำงานให้เรา เพราะฉะนั้นจงมอบอำนาจในการตัดสินใจให้เขาเยอะ ๆ ผลที่ได้คือผลงานที่ออกมาอย่างรวดเร็วและความเก่งที่ซ่อนอยู่ซึ่งคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนด้วย

สูตรในการจ้างงาน ทำน้อยให้ได้มาก 20:20:20

  • ให้เงินเดือนพื้นฐานสูงกว่าอัตราตลาด 20%
  • ให้พนักงานมีเวลาการทำงานน้อยกว่าปกติ 20%
  • ให้พนักงานมีผลงานหรือ Output ดีกว่ามาตรฐาน 20%

คุณกำลังมองหาพนักงานที่ใช่อยู่หรือเปล่า?

SourcedOut แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เชื่อมบริษัทกับนักสรรหามืออาชีพโดยตรง

ช่วยลดต้นทุนในการสรรหากว่า 30% – 50% เมื่อเทียบกับบริษัทจัดหางานทั่วไป

ไม่มีการจ้างงานเพิ่ม ไม่มีค่าธรรมเนียม และไม่มีความเสี่ยง!

คลิกด้านล่างเพื่อประกาศหางานกับ SourcedOut ได้เลย!

2) Start From The Ground

ลองคิดว่าตัวเองเป็นลุกน้องดูบ้าง และลองทำในส่วนที่ลูกน้องทำ เพราะการสอนงานด้วยการทำให้ดูนั้นมีพลังมากกว่าการสอนด้วยปาก และถ้าสามารถทำได้ ลูกน้องจะเกิดความ trust รู้สึกศรัทธาและให้คุณหมดทั้งใจ การลงไปทำงานจริงยังช่วยทำให้มองเห็นภาพรวมของทั้งหมด มองเห็นต้นตอและเข้าใจปัญหาได้ดีที่สุดอีกด้วย

3) เป็นคนฉายไฟ

หน้าที่ของคนเป็นหัวหน้าคือหาเวทีให้ลูกน้องได้แสดงออก ช่วยฉายไฟเวลาที่ลูกน้องกำลังแสดงอย่างโดดเด่น ช่วยหลบไฟเวลาที่แสดงผิดพลาด ซึ่งหลบไฟในที่นี้ หมายถึง การช่วยออกโรงปกป้องไม่ให้ลูกน้องโดนต่อว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการช่วยกันปิดบังความผิด และที่สำคัญคือให้พื้นที่ตัวสำรองลงสนามบ้าง

เพราะในทุก ๆ ทีมเวิร์คจะมีคนเด่นและคนรองเสมอ การเปิดโอกาสให้ตัวสำรองได้แสดงฝีมือบ้าง จะทำให้หัวหน้าเห็นความสำคัญของทีมโดยทั่วถึงกัน และเป็นการพัฒนาความสามารถของตัวสำรองด้วย

สิ่งสำคัญคือยึดติดในหน้าที่ไม่ใช่ตัวบุคคล และสร้างวัฒนธรรมและความเชื่อเดียวให้ทีมรู้ว่าทุกคนสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัยหัวหน้าคนนี้คนเดียว ความเชื่อนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนพัฒนาตัวเองและเอาตัวรอด กล้าตัดสินใจด้วยตัวเองเมื่อปัญหามาถึง

4) Review and Revert

ให้ Feedback งานอย่างรวดเร็วเวลาลูกน้องทำงานมาให้ว่าต้องแก้อะไรบ้าง ซึ่งถือเป็นการปรับสไตล์ในการทำงานและเรียนรู้ร่วมกัน และลองชมให้บ่อย และบ่นให้น้อยลงเพราะคำชมเป็นสิ่งสร้างพลังบวกให้ทุกคนในทีมและควรเป็นคำชมแบบเต็มใจ ให้ทั้งทีมรับรู้เพื่อสร้างความรู้สึกบวกร่วมกัน ส่วนเวลาที่จะบ่นหรือดุนั้นควรทำตามลำพัง ที่สำคัญคือเมื่อดุแล้วต้องทำให้ดีกว่าลูกน้องด้วย

5) ใช้ Post-it สั่งงาน ดีกว่าใช้ E-mail

การสั่งงานด้วย Post-It ไปแปะที่โต๊ะทำงานด้วยลายมือตัวเองนั้นได้ผลกว่าการสั่งงานด้วย E-mail หลายเท่า เพราะมันแสดงให้เห็นว่างานนั้นเป็นงานที่สำคัญที่คุณถึงกับต้องเขียนด้วยลายมือตัวเองและเดินมาถึงโต๊ะลูกน้องเพื่อสั่งงาน ลูกน้องจะมีความรู้สึกอยากทำงานนั้นก่อนเป็นอันดับแรกเพราะเป็น Assignment ที่โดดเด่นและแตกต่างจากงานที่ได้รับมอบหมายอื่น ๆ

6) ให้คนในทีมได้ทำในสิ่งที่ถนัด

คำกล่าวของไอน์สไตน์ที่ว่า “ถ้าคุณวัดความสามารถของปลาโดยใช้มันปีนต้นไม้ มันคงใช้เวลาทั้งชีวิต” ในฐานะหัวหน้า คุณต้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งและธรรมชาติของทุกคนในทีม และให้ทุกคนได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ส่วนที่เหลือคือให้เขาตัดสินใจเอาเองว่าจะออกแบบชีวิต และรูปแบบการทำงานอย่างไร เพื่อให้ทีมของคุณมีส่วนผสมที่ลงตัว และมีความหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น มีตำแหน่งนักคิด นักทำ นักเจรจา นักนำเสนอ รวมไปถึงนักระแวดระวัง เป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิด Synergy ในทีม

7) ให้อิสระในวิธีการคิดและการทำงาน

ในยุคสมัยใหม่ คนรุ่นใหม่มีสไตล์การทำงานที่ต่างจากคนรุ่นเก่าค่อนข้างมาก ค่อนข้างมีความคิดแบบ Ownership และไม่ยึดติดคุณค่าของตัวเองกับระบบเดิมๆแบบ Hierarchy อีกต่อไป ดังนั้นเจ้านายยุคใหม่ต้องเข้าใจและตามให้ทัน ต้องปล่อยให้เขามีอิสระในการคิด และมีสิทธิ์ในการออกแบบชีวิตของตัวเอง รวมไปการรับผิดชอบตัวเองในการพัฒนาความสามารถอยู่เสมอ

8) กินข้าวร่วมกัน

วางเรื่องงานไว้ที่ทำงานและลองออกไปหาอะไรกินด้วยกันอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่ออยู่ในบทบาทที่ต่างออกไปบ้าง เพื่อซักถามสารทุกข์สุขดิบและชีวิตส่วนตัวกันบ้าง สิ่งนี้ช่วยให้ทราบถึงสถานการณ์ชีวิตของแต่ละคน เพราะแต่ละสถานการณ์ย่อมส่งผลต่อการทำงานในช่วงนั้น ๆ ของแต่ละคนอย่างปฏิเสธไม่ได้ คนเป็นเจ้านายจำเป็นต้องรู้ความเป็นไปของชีวิตลูกน้องในระดับพื้นฐาน

การบริหารคนก็เป็นเหมือนการบริหารชีวิตและความก้าวหน้าของคนคนหนึ่ง ซึ่งในฐานะหัวหน้างานถือเป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องบริหารคนในองค์กรทุกคนไปพร้อมกัน ซึ่งทั้ง 8 ข้อนี้เป็นเพียงเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำได้ง่าย แต่เกิดผลอย่างมากมายมหาศาล

หากคุณลองนำไปใช้ อาจจะเห็นความแตกต่างมากมายจนน่าแปลกใจเลยทีเดียว

คุณมีปัญหาหรือคำถามที่ต้องการคำตอบใช่หรือเปล่า?

หากคุณรู้สึกว่าได้รับเทคนิคดี ๆ จากบทความนี้และอยากได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก

สามารถตั้งคำถามได้ในชุมชนของเรา ! แล้วคุณจะได้รับคำตอบมืออาชีพจากผู้เชี่ยวชาญ

ที่มา

  • วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน โดย คุณ ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์

นักอยากเขียนผู้รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ เชื่อมั่นในการเรียนรู้และรู้ว่าตัวเองยังไม่รู้อะไรอีกมาก จึงพยายามหาโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้มากขึ้นในทุกๆวัน

ทัศนคติสำคัญต่อการทำงานในองค์การอย่างไร

ทัศนคตินั้นมีทั้งที่เป็นบวก และทัศนคติที่เป็นลบ ซึ่งจะมีผลต่อองค์การเป็นอย่างมาก เพราะทัศนคตินั้นมีอิทธิพลต่อการกระทำต่าง ๆ ของบุคคลในองค์การ ถ้าพนักงานในองค์การนั้นมีทัศนคติที่เป็นบวกในการทำงานนั้น พนักงานจะเกิดความพอใจในการทำงาน เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน ซึ่งพนักงานจะสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ๆ ให้กับองค์การ และจะ ...

ทัศนคติดี สําคัญอย่างไร

ว่ากันง่ายๆ แล้ว ทัศนคติคือสิ่งที่สร้างความคาดหวังของชีวิตให้กับตัวเราเอง แน่นอนว่ามันคือการชี้ทิศทางชีวิตของเราด้วยเช่นกันว่าจะทะยานขึ้นไปสู่ข้างบน หรือจะก้มดิ่งลงสู่ด้านล่าง นอกจากนี้แล้ว ทัศนคตินี้เองที่กลายเป็นบรรทัดฐานให้ตัวเราเองในการมองสิ่งรอบข้างว่าน่าพึงพอใจหรือไม่น่าพึงพอใจ ถ้าคุณตั้งทัศนคติอยู่ในแง่ลบ ...

ข้อใดคือการสร้างทัศนคติที่ดีในการทำงานร่วมกับเพื่อน

การมีทัศนคติที่ดี เริ่มต้นจากการมองโลกในแง่ดี เช่น มองทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาว่าเป็นเพียงเรื่องปกติสามัญทั่วไป การคิดและมองโลกในรูปแบบง่ายๆนี้ จะช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี น่าคบหา และมีรอยยิ้มที่สดใสตลอดวัน และที่สำคัญ เมื่อสุขภาพจิตดี ย่อมส่งผลไปถึงสุขภาพที่ดีได้อีกด้วย

ทัศนคติคืออะไร มีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการทํางานอย่างไร

ทัศนคติเป็นการกำหนดของพฤติกรรมเพราะว่าเกี่ยวพันกับการรับรู้ บุคลิกภาพ และการจูงใจ ทัศนคติเป็นความรู้สึกทั้งทั้งในทางบวกและในทางลบ เป็นภาวะจิตใจของการเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้และถูกปรับตัว ให้เข้ากับองค์การ โดยประสบการณ์ที่ใช้อิทธิพล ที่มีลักษณะเฉพาะต่อการตอบสนอง ของบุคคลไปสู่บุคคล สิ่งของ และสถานการณ์ของแต่ละบุคคล หรือ ...

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก