ชื่อเรื่อง: | พระราชกรณียกิจของพ่อขุนรามคำแหงในการก่อตั้งสถาบันการปกครองของชาติไทย |
ผู้แต่ง: | สุทัศน์ สิริสวย |
ผู้ควบคุมงานวิจัย: | ชุบ กาญจนประกร, อาจารย์ที่ปรึกษา |
ชื่อปริญญา: | รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต |
ระดับปริญญา: | ปริญญาโท |
สาขาวิชา: | รัฐประศาสนศาสตร์ |
คณะ/หน่วยงาน: | คณะรัฐประศาสนศาสตร์ |
หน่วยงานที่ประสาทปริญญา: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
วันที่เผยแพร่: | 2509 |
หน่วยงานที่เผยแพร่: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
บทคัดย่อ/เนื้อเรื่องย่อ: | วัตถุประสงค์ของวิทยานิพนธ์นี้เพื่อศึกษาพระราชกรณียกิจของพ่อขุนรามคำแหงในแง่ของการบริหารโดยศึกษาถึงกระบวนการต่าง ๆ ที่จะรักษาเอกราช ด้วยการสร้างสถาบันทางการปกครองขึ้นมาจนประชาชาติไทยมีลักษณะเป็นประเทศไทยโดยสมบูรณ์ |
รายละเอียดเพิ่มเติม: | วิทยานิพนธ์ (รป.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2509. |
หัวเรื่องมาตรฐาน: | ไทย-- ประวัติศาสตร์-- กรุงสุโขทัย-- พ่อขุนรามคำแหงมหาราช, 1821-1860. |
ประเภททรัพยากร: | วิทยานิพนธ์ |
ความยาว: | 141 หน้า. |
ชนิดของสื่อ: | Text |
รูปแบบแฟ้มข้อมูล: | application/pdf |
ภาษา: | tha |
สิทธิในการใช้งาน: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | //repository.nida.ac.th/handle/662723737/1168 |
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์กับพระนางเสือง ทรงมีพระนามเดิมว่า ราม พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๓ ของอาณาจักรสุโขทัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๑๘๒๒ ต่อจากพ่อขุนบานเมือง ซึ่งเป็นพระเชษฐา(พี่ชาย)
อนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ที่มาภาพ : //ktw.ac.th/project/2/พ่อขุนรามคำแหง.html
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่มีพระปรีชาสามารถในด้านการทำศึกสงครามตั้งแต่ยังไม่ได้ครองราชย์ ดังจะเห็นได้จากเมื่อพระองค์มีพระชนมายุ ๑๙ พรรษา พระองค์ได้เสด็จตามพระราชบิดาไปทำสงครามแย่งชิงเมืองตาก กับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด และรบชนะขุนสามชน พระบิดาจึงเฉลิมพระนามให้ว่า รามคำแหง
อาณาจักรสุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เนื่องมาจากพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ ของพระองค์ ดังนี้
๑. ด้านการเมืองการปกครอง พระองค์ทรงใช้รูปแบบการปกครองแบบ พ่อปกครองลูก กล่าวคือ
พระองค์ทรงดูแลเอาใจใส่ในทุกข์สุขของราษฎร์เหมือนพระองค์เป็นพ่อ ส่วนราษฎรหรือไพร่ฟ้าคือลูก เมื่อราษฎรมีเรื่องเดือดร้อนก็ให้มาสั่นกระดิ่งที่หน้าประตูวัง แล้วพระองค์ก็จะเสด็จออกมารับฟังเรื่องราว เพื่อทรงตัดสินปัญหาด้วยพระองค์เอง
นอกจากนี้ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงทำสงครามขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางมากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในสมัยสุโขทัย
๒. ด้านเศรษฐกิจ พระองค์ทรงโปรดให้สร้างทำนบกักเก็บน้ำที่เรียกว่า ทำนบาพระร่วง หรือสรีดภงค์ เพื่อใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง นอกจากนี้ พระองค์ทรงให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการค้าขายได้อย่างมีอิสระเสรี ไม่มีการเก็บภาษีผ่านด่านจาการาษฎร ที่เรียกว่า จกอบ ทำให้การค้าขายขยายออกไปอย่างกว้างขวาง และทรงโปรดให้สร้างเตาเผาเครื่องสังคโลกเป็นจำนวนมาก
เพื่อผลิตสินค้าออกไปขายยังดินแดนใกล้เคียง
๓. ด้านศิลปวัฒนธรรม นอกจากจะได้ทรงขยายอาณาเขตของไทย ทางปกครองทำนุบำรุงบ้านเมือง และจัดระบบการปกครองที่เป็นระเบียบเรียบร้อยดังกล่าวแล้ว พระเจ้ารามคำแหงยังได้ทรงสร้างสิ่งที่คนไทยจะลืมเสียมิได้อีกอย่างหนึ่ง สิ่งนั้น ได้แก่ การประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นอันเป็นรากฐานของหนังสือไทยที่เราได้ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
ตามหลักฐานปรากฎว่าพระองค์ได้ทรงคิดอักษรไทยขึ้นใช้เมื่อปี พ.ศ. ๑๘๒๖ กล่าวกันว่าได้ดัดแปลงมาจากอักษรคฤนถ์อันเป็นอักษรที่ใช้กันอยู่ในอินเดียฝ่ายใต้
ตัวอักษรไทยซึ่งพระเจ้ารามคำแหงคิดขึ้นใช้ในสมัยนั้นตัวพยัญชนะ
สระและวรรณยุกต์จึงอยู่เรียงในบรรทัดเดียวกันหมด ดังจะดูได้จากแผ่นศิลาจารึกในสมัยพระเจ้ารามคำแหง ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ต่อมาจึงได้มีผู้ค่อยคิดดัดแปลงให้วัฒนาในทางดี และสะดวกในการเขียนมากขึ้น เป็นลำดับ จนกระทั่งถึงอักษรไทยที่เราได้ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นผู้นำในการสร้างศรัทธาให้ประชาชนเลื่อมใสในพระพุทธศานา พระองค์ทรงนิมนต์พระสงฆ์นิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ จากเมืองนครศรีธรรมราชที่กลับมาจากลังกา มาเผยแผ่คำสอนทางพระพุทธศาสนาแก่ราษฎร ซึ่งทำให้ชาวสุโขทัยเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และแสดงออกมาในรูปแบบศิลปกรรมด้านต่าง ๆ เช่น การสร้างพระพุทธรูป วัด เจดีย์ เป็นต้น ทำให้พระพุทธศาสนาวางรากฐานมั่นคงในอาณาจักรสุโขทัย จนกระทั่งกลายเป็นศาสนาประจำชาติไทยมาจนถึงปัจจุบัน
//guru.sanook.com/9342/