สิ่งที่ ต้อง เตรียม ก่อน สัมภาษณ์งาน


หลังจากที่เราผ่านด่าน Resume ไปแล้ว ถ้าคุณสมบัติครบถ้วนก็จะได้รับการติดต่อจากฝ่ายบุคคล หรือ HR ของบริษัทเพื่อทำการนัดสัมภาษณ์ โดยที่บางบริษัทอาจจะทำการสัมภาษณ์คร่าวๆทางโทรศัพท์ก่อนหรืออาจจะเรียกมาสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวเลย แล้วเราจะทำยังไงให้ประทับใจคนสัมภาษณ์? มาดูกันเลยค่ะ

เตรียม Resume และ Portfolio
ถึงแม้ว่าทางบริษัท อาจจะได้รับไฟล์ Resume และ Portfolio ไปแล้วทางออนไลน์ ในวันสัมภาษณ์ก็ควรจะพกติดตัวไปด้วยเช่นกัน เพราะหากฉุกเฉินจะได้ใช้ใบจริงที่ปรินท์มาเพื่อประกอบการแจกแจงผลงานการทำงานของเราหรือถ้ามีคนสัมภาษณ์คนอื่น ๆ เพิ่มเติมมานั่งด้วยก็จะได้ดูระหว่างการสัมภาษณ์ไปด้วย

2. เอกสารสำคัญห้ามลืม
หลังจากการนัดแนะเพื่อสัมภาษณ์บางคนอาจจะต้องเตรียมเอกสารไปให้ทีม HR ด้วย ซึ่งหลายๆครั้งเราก็ลืมเอาไป มาลองเช็คกันว่าควรพกเอกสารอะไรติดตัวไว้บ้าง
สำเนาบัตรประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้าน
ทรานส์คริปต์
ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
ผลการทดสอบวัดระดับภาษาตัวจริง (ถ้ามี)
นอกจากนั้น เราควรพกไปทั้งฉบับจริงและสำเนาเพิ่มเติมซัก1-2ฉบับ เผื่อฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องไปวิ่งไล่หาที่ถ่ายเอกสารค่ะ

3. หาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
การทำการบ้านก่อนการสัมภาษณ์เป็นตัวช่วยให้เรารู้จักบริษัทมากขึ้น จึงควรหาข้อมูล ประวัติการก่อตั้ง รายละเอียดทั่วไปที่พอจะจำได้ เพราะหากกรรมการถามขึ้นมาเราจะตอบได้ทันที อีกทั้งยังจะดูเป็นผู้สมัครที่ดูตั้งใจกับการสมัครงาน หรือจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ส่วนตัวเล็กๆน้อยๆที่มีต่อบริษัทถ้ามี เช่น สมัครเป็นพนักงานโรงแรมที่เราเคยเข้าพัก สมัครเป็นเซลล์ขายรถยี่ห้อที่เราขับ

4. การแต่งตัว
ถ้า First Impression ของเรซูเม่ คือ รูปภาพ First Impressionของวันสัมภาษณ์ก็คือการแต่งตัว
เพราะเป็นด่านแรกที่ผู้สัมภาษณ์จะเห็นเมื่อเราเดินเข้าห้องมา การเลือกใส่เสื้อผ้านอกจากควรแต่งตัวค่อนข้างเป็นทางการ ถูกต้องตามกาละเทศะแล้ว ยังควรเลือกโทนสีเสื้อผ้าเป็นโทนเรียบๆเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และดูสบายตา เช่น สีดำ
สีขาว สีฟ้า สีเทา ไม่ควรเลือกสีฉูดฉาด ส่วนรองเท้าไม่ควรใช้แบบโชว์หน้าเท้าหรือรองเท้าผ้าใบ หวีผมให้เรียบร้อย ไม่กระเซอะกระเซิงค่ะ

5. สติสำคัญที่สุด
วันสัมภาษณ์งานหลาย ๆ คนคงเกิดอารมณ์ตื่นเต้น มือสั่น ดังนั้นก่อนการสัมภาษณ์ควรปรับอารมณ์ตัวเองให้พร้อม
หายใจเข้า-ออกลึกๆ พยายามมีสติให้มากที่สุด แน่นอนว่าการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาในการใช้งานทั่วไปของเรา จำเป็นจะต้องอาศัยทักษะการฟังที่ดีเพื่อที่จะแปลความหมายของบทสนทนาให้ได้ ซึ่งถ้าหากผู้พูดพูดเร็วเกินไปเราสามารถขอให้พูดช้าลงซักเล็กน้อยโดยไม่เป็นการเสียมารยาท เช่น Could you speak a bit more slowly, please? – ช่วยพูดช้าลงอีกหน่อยได้ไหมคะ หรือ Could you repeat/say that again, please? คุณช่วยพูดมันใหม่อีกครั้งได้มั้ยคะ

6. ตอบคำถามตรงไปตรงมา
การตอบคำถามที่ดีจะเกิดขึ้นหลังจากเราเข้าใจคำถาม เมื่อถึงเวลาตอบคำถามเราควรพูดจาฉะฉาน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสำเนียงที่เพอร์เฟ็กต์เหมือนชาวต่างชาติมาเอง แต่ตอบอย่างมั่นใจ ไม่กระอักกระอ่วน พยายามอย่าหลบตากรรมการ และตอบตามความจริงเพราะหากเราโกหกออกไปแล้วโดนถามเกี่ยวกับสิ่งนั้นลึกขึ้น จะทำให้เกิดความลำบากการตอบมากขึ้น ไม่ควรโอ้อวดจนเกินงามและควรมีข้อมูลที่สามารถยกมาพูดเพื่อสนับสนุนตัวเอง และอย่าลืมตอบคำถามอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยนะคะ

7. นำเสนอตัวเอง
การนำเสนอตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ บางคนจะรอให้กรรมการถามก่อนจึงจะตอบ ถามเท่านี้ก็ตอบเท่านี้ ไม่ถามก็เงียบรออย่างเดียว ซึ่งหากเรานำเสนอตัวเองได้ มั่นใจในตัวเอง สามารถบอกเพิ่มเติมว่าเราทำอะไรได้บ้าง ถนัดงานด้านนี้เพราะอะไร หรือมีประสบการณ์ที่อยากแชร์ จะทำให้บรรยากาศการสัมภาษณ์ไม่ดูตึงเครียดหรือเงียบจนเกินไปนะคะ

8. ขอบคุณ
เมื่อผ่านคำถามสัมภาษณ์มาทั้งหมดแล้วก่อนจะจบลงให้ลองพูดขอบคุณกรรมการผู้สัมภาษณ์ซักเล็กน้อยเป็นทิ้งท้ายความประทับใจ เช่น I really appreciate the chance to have an interview with you today. Thank you so much. ขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์วันนี้นะคะ
จะทำให้เราดูน่ารักขึ้นมาอีก สองเท่าเลยล่ะ

อย่าลืมนะคะ การสัมภาษณ์งานเริ่มต้นด้วยทักษะภาษาที่ดี เตรียมพร้อมในทุก ๆ ตอนทั้งก่อนการทำงานและระหว่างการทำงานกับ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เหมาะกับวัยทำงานมากที่สุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

1. ข้อมูลส่วนตัว เป็นสิ่ง ที่คุณจะมองข้ามไม่ได้ แม้ว่า มันเป็นเรื่องของคุณเอง ก็ตามเถอะ เพราะ บางคำถามใน การสัมภาษณ์อาจเป็นการ ให้คุณเล่า เกี่ยวกับ ตัวคุณ เอง พรสวรรค์ที่คุณมี และเป้าหมาย ในชีวิตของคุณ ซึ่งสิ่ง เหล่านี้ จะช่วยสะท้อน ความเป็นตัวคุณ ให้ปรากฏแก่ นายจ้าง

2. ข้อมูลบริษัทที่จะไปสัมภาษณ์ ก็จะช่วยคุณได้เหมือนกันว่าคุณมีความความสนใจ แค่ไหน เกี่ยวกับบริษัทของเขา เพราะบางทีคุณอาจจะ เจอคำถาม เช่นว่า คุณรู้จักบริษัทนี้อย่างไรบ้าง ทำไม คุณถึงอยาก ทำงานที่นี่ ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นไปได้คุณก็ควรจะรู้ว่าบริษัทนั้น ทำธุรกิจ เกี่ยวกับอะไร ทำมานานแค่ไหน ผลิตภัณฑ์ของ บริษัทคืออะไร และมีชื่อเสียงแค่ไหน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ อาจได้มา จากการโทรสอบถามประชาสัมพันธ์ของบริษัท หรือสอบถาม จากพนักงานที่โทรมานัดสัมภาษณ์ หรือจาก ประกาศรับสมัครงาน ในหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งปัจจุบัน หลายบริษัทมักจะแสดงรายละเอียดของบริษัทไว้ และใน บางกรณี บริษัทใหญ่ๆ ก็จะมีเว็บไซต์ เป็นของตัวเอง ซึ่งคุณสามารถ เข้าไปหาข้อมูลนั้นได้เลย

3. เตรียมตัวสำหรับคำถามที่อาจถูกถาม การได้ทดลองตั้งและตอบคำถาม จะช่วย คุณได้มากทีเดียว เมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์จริง เพราะในความเป็นจริงเมื่อถึง เวลานั้น คุณอาจตื่นเต้นจน ไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี คุณอาจ ฝึกฝน กับเพื่อนก็ได้ แต่ขอแนะนำ ว่าไม่ควรท่องจำ เพราะ จะดูเป็นการตอบ ที่ไม่จริงใจไป

4. เตรียมเส้นทางการเดินทาง เป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่ทราบดีว่า การ จราจร ของบ้านเมืองเรานั้น ไม่แน่นอนเลยจริงๆ ดังนั้นคุณจึงควรวางแผน ในเรื่อง ของ เดินทางให้ดี สอบถามให้แน่ชัดในเรื่องของ ที่ตั้งบริษัท สายรถเมล์ หรือรถไฟฟ้า ที่ผ่าน และถ้าไม่แน่ใจก็ ขอให้ เขาแฟกซ์ แผนที่มาก็ได้ และเพื่อความ ไม่ประมาท คุณอาจลองเดินทาง ล่วงหน้าก่อนวันจริงเพื่อกะระยะ เวลาการเดินทาง ไว้ล่วงหน้า โดยเมื่อถึงวันจริงคุณควร ไปก่อนเวลานัดอย่างน้อย 10 นาที และถ้าหาก จำเป็น ต้องไปช้าหรือไปไม่ได้ ก็ควรจะรีบโทร ไปขอเลื่อน นัด การสัมภาษณ์ออกไป

5. เตรียมในเรื่องของการแต่งกาย เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้เช่นกัน เพราะการแต่งกายก็ถือเป็นการแสดงออกถึงการให้เกียรติเขาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นคุณควรจะเลือกใส่ชุดที่สุภาพ สะอาด และดูดี เช่น คุณผู้ชายอาจใส่เสื้อเชิ้ตสีพื้น สอดเสื้อไว้ในกางเกง และใส่รองเท้าหุ้มส้น ส่วนคุณผู้หญิงก็อาจใส่ชุด ทำงานที่ดูเรียบร้อย ขอแนะนำว่าใส่ประโปรงจะดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ส่วนน้องๆ ที่เพิ่งจบออกมาก็จะควรจะใส่ชุดทำงานด้วย เพื่อเป็นการฝึกการแต่งกาย ไปด้วยในตัว

การเตรียมการสัมภาษณ์มี 4 ขั้นตอนคือข้อใดบ้าง

1. การเตรียมการสัมภาษณ์ การเลือกกลุ่มตัวอย่าง (ใคร จำนวน) ... .
2. การเริ่มสัมภาษณ์ แนะนำตนเอง ... .
3. การสัมภาษณ์ ใช้แนวคำถาม (Interview Guide) ที่เตรียมมา (แนวคำถาม คือรายการหัวข้อและคำถามที่นักวิจัยสร้างขึ้นและจัดลำดับไว้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสัมภาษณ์) ... .
4. การบันทึกข้อมูลและการสิ้นสุดการสัมภาษณ์.

วิธีการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานอย่างไรให้ได้งาน

10 เทคนิค สำหรับสัมภาษณ์งานทางโทรศัพท์ อย่างมืออาชีพ.
ตั้งสติ และซ้อมพูดออกเสียง ... .
เตรียมเรซูเม่ไว้ข้างตัว ... .
หาสถานที่ที่ไม่มีเสียงรบกวน ... .
พูดชัดถ้อยชัดคำ แสดงความมั่นใจ ... .
เลือกใช้ระดับภาษาให้เหมาะสม ... .
ไม่แสดงทัศนคติที่ไม่ดีต่อที่ทำงานเก่า ... .
พูดความจริง ไม่สร้างเรื่องโกหก ... .
เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด.

สิ่งแรกที่ผู้เข้าสัมภาษณ์ต้องทำเมื่อต้องไปสัมภาษณ์คืออะไร

7 สิ่งที่ต้องเตรียม เมื่อถูกเรียกไป “สัมภาษณ์งาน”.
1. ข้อมูลบริษัท ... .
2. ข้อมูลตำแหน่งงาน ... .
3. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเอง ... .
4. เตรียมการตอบคำถาม และทดสอบความสามารถ ... .
5. เตรียมเอกสารการสมัครงาน ... .
6. เตรียมการโต้ตอบกลับ ... .
7. เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม.

ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของการเตรียมตัวก่อนสมัครงาน

1. ก่อนไปสัมภาษณ์งาน - หาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่สมัคร, บริษัทที่สมัคร , ลักษณะธุรกิจ และแนวโน้มเศรษฐกิจ - เตรียมอุปกรณ์ เรซูเม่ ผลงานการทำงานเด่นๆ หรือ save ลง smart phone ที่เกี่ยวข้องที่ควรนำติดตัวไปด้วย และสามารถนำเสนอได้หากมีการถาม แต่ต้องระวังว่าไม่ใช่งานที่ต้องเป็นความลับของที่ทำงานเดิม

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก