The Intern"โก๋เก๋ากับบอสเก๋ไก๋"
หนังฝรั่ง รีวิวสร้างโดย Belledoll, 28 พฤศจิกา 2015
คะแนนเฉลี่ย: 4.1999998092651/5,
คำบรรยาย:เมื่อชายวัยเกษียณ เบน วิทเทเกอร์ (Robert De Niro) เบื่อหน่ายชีวิตที่อยู่ไปวันๆ เขาจึงกลับเข้ามาทำงานในบริษัทเว็บไซต์ด้านแฟชั่นซึ่งก่อตั้งและบริหารโดยจูลส์ (Anne Hathaway)หญิงสาวแสนสวยไฟแรง จึงก่อเกิดเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าประทับใจขึ้นมา
แบ่งปันหน้านี้
- รายละเอียด
- รีวิว (5)
- พูดคุย (0)
คุณล่ะ? ให้กี่ดาว เลือกเลย ➜:
-
The Intern โก๋เก๋ากับบอสเก๋
พึ่งดูจบไปสดๆร้อนๆ เลยค่ะตามคาดคือเป็นหนังแนว feel good ดูสบายๆเพลินๆมีดราม่านิดหน่อย
เรื่องราวของ เบน วิทเทเกอร์ ชายวัยหลังเกษียณอายุประมาณ70กว่าๆ ที่กำลังเบื่อๆกำชีวิตว่างๆของตัวเอง
เห็นป้ายรับสมัครผู้สูงอายุฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง(ฟังดูไม่ค่อยคุ้นเลย55) ในหนังไม่แน่ใจว่ามีบอกเหตุผลหรือไม่นะคะว่าทำไมถึงรับผู้สูงอายุส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องคำแนะนำในมุมผู้ที่มีประสบการณ์จูลส์ผู้หญิงทำงานเก่งและบ้างานตามสูตรเลยค่ะ แต่เธอมีครอบครัวที่อบอุ่นทั้งสามีและลูกสาวตัวน้อยสามีของเธอเคยทำงานที่มั่นคงมาก่อนแต่ก็ลาออกจากงานเพื่อทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านที่ดีคอยเลี้ยงลูกดูแลภรรยา ทำอาหารให้ลูกและภรรยาและด้วยความบ้างานของนางเอกทำให้เธอค่อนข้างยุ่งตลอดเวลาไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกและสามีเท่าที่ควรยิ่งไปกว่านั้นแม้กระทั่งแม่ของเธอที่ดูเหมือนจะรู้ว่าลูกสาวนั้นบ้างานเป็นปกติแต่ก็ยังคอยโทรมาถามไถ่อยู่ตลอด(จนอาจทำให้เธอรำคาญบ้าง) ถึงเธอจะดูperfectในเรื่องการทำงานแต่ที่จริงแล้วเราคิดว่าจูลส์เป็นพวกที่เอาตัวเองเป็นหลักหน่อยๆนะคะและไม่ค่อยฟังความคิดเห็นของคนอื่น
ตอนแรกจูลส์ไม่ค่อยชอบใจที่เบนมาทำงานร่วมกับเธอ ไม่ให้งานลุงแกทำเลย เธอบอกด้วยนะคะว่าเบนจู้จี้ยุ่งกับเรื่องของเธอมากเกินไป(แต่เราคิดว่าเบนทำให้จูลส์นึกถงแม่ที่จู้จี้กับเธอเช่นกัน) หลังจากที่ทำงานร่วมกับเบนไปซักพักทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างลูกน้อง ที่เมื่อก่อนเป็นความสัมพันธ์ผิวเผินแบบนายจ้าง-ลูกน้อง(จูลส์ยังจำชื่อลูกน้องบางคนไม่ได้เลย)
ตอนที่จูลส์ส่งอีเมล์ให้ผิดคน ตอนนั้นกำลังนินทาแม่ตัวเองอยู่ค่ะด้วยความที่เบลอๆเลยดันไปกดส่งให้แม่ตัวเองแทน5555ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นและวิธีจัดการปัญหาที่เธอก่อขึ้นมานั้นค่อนข้างเว่อไปนิดนึงแต่ฮาดีค่ะให้อภัย5555 หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของจูลส์กับคนอื่นๆก็ดีขึ้น
การนอกใจที่เกิดขึ้นได้เพราะนิสัยจูลส์เป็นแบบนั้นไม่แปลกเลยที่สามีของเธอที่ดูเป็นชายที่perfectจะแอบนอกใจเธอได้ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยอินค่ะ ตอนที่จูลส์ปรับทุกข์กับเบนเรื่องนี้ที่โรงแรมยังทำให้เราอินมากกว่าเลย
ดูแล้วไม่ค่อยอินค่ะเรื่องครอบครัวเท่าไหร่ค่ะ คิดว่าหนังดูเน้นเรื่องนี้แต่กลับไม่ค่อยแสดงออกมากเท่าไหร่อย่างเช่นเรื่องจูลส์กับแม่ คิดว่าหนังควรพูดเรื่องนี้ให้มากกว่านี้(ขัดใจเบาๆ) แต่ชอบการแสดงในบทของเบนมากและประทับใจเวลาที่เบนอยู่กับจูลส์เป็นมิตรภาพต่างวัยที่น่ารักมากๆ
-
ข้อเด่น - แนวคิด พล็อทเรื่องที่สร้างสรรค์
ข้อด้อย - หนังไม่ได้นำเสนอศักย์ภาพของคนวัยเกษียณมากพอ ทั้งที่น่าจะเป็นแนวคิดหลักของเรื่อง
- นางเอกแสดงยังไม่โดนเรื่องนี้สิ่งที่ทำให้ผมอยากดูมี 2 ประการคือ
1. พล็อทเรื่องที่ให้คนวัยเกษียณ มาเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทที่ผู้บริหารอายุยังน้อยๆ ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่ผ่านๆมา ที่ผู้บริหารจะเป็นคนมีอายุ และเด็กฝึกงานจะเป็นคนอายุน้อย (เราถึงเรียกว่า "เด็ก"ฝึกงาน) ผมเข้าใจเอาเองว่าน่าจะต้องการสอนคนรุ่นใหม่ว่า "คนแก่ก็มีดีอยู่นะ อย่ามองข้าม"
2. นางเอกน่ารักดี
เริ่มแรกตอนที่ เบน ทำคลิป เพื่อใช้ในการสมัครงาน ก็เริ่มรู้สึกสนุกเลยครับ ชวนให้อยากดูต่อ แต่พอดูๆไป ที่ผมคาดหวังไว้ทั้ง 2 เรื่อง ก็ผิดหวังทั้ง 2 เรื่อง
เรื่องแรก ประเด็นที่เป็นปัญหาใหญ่ของนางเอก จนได้ "เบน" เด็กฝึกงานวัยเกษียณ เข้าไปมีส่วนชี้แนะ ความจริงแล้วเป็นประเด็นส่วนตัว เป็นเรื่องของครอบครัวมากกว่าเรื่องของธุรกิจ และดูเป็นเรื่องเล็กกะจิ๋วหลิว ที่แม้แต่คุณแม่ที่บ้านที่ไม่เคยทำธุรกิจอะไรมาก็สามารถให้คำแนะนำได้ ผมเลยชักสงสัยว่าผู้สร้างหนังเรื่องนี้เค้ามีความเชื่อในศักย์ภาพของคนวัยเกษียณจริงๆหรือเปล่า
ถ้าเกิดเปลี่ยนบทเป็นว่าบริษัทกำลังมีปัญหา ไม่โต หรือ โตเร็วเกินไป จนเกิดปัญหา นางเอกวัย startup หาทางออกไม่ได้ แล้ว เบน ใช้ประสบการณ์เข้าไปช่วย แบบนี้จะโดนใจผมมากกว่า
เรื่องที่สอง "นางเอกน่ารัก" ก็น่ารักจริงๆ แต่การแสดงไม่ค่อยโดน คือผมรู้สึกว่าเธอกำลังแสดง ไม่ได้รู้สึกว่าเธอคือตัวละครตัวนั้นจริงๆ บางครั้งที่ร้องไห้ก็ งง ว่าร้องทำไม เรื่องเล็กๆ มันดูเว่อๆ อารมณ์คล้ายๆ กำลังดูหนังซิทคอม
ส่วน Robert นี่แสดงดีเยี่ยม สมราคาครับ
-
"ควรดูมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
ข้อเด่น - – เนื้อเรื่องดีงาม สามารถทำให้เราอินไปได้ตลอดเวลาที่ฉาย
- ได้แรงบันดาลใจใจการใช้ชีวิตคือตั้งแต่เห็นหน้า แอนในโปรสเตอร์ก็การันตีเนื้อเรื่อง feel good ดีงามได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งพอเข้าไปดูก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เนื้อเรื่องของหนังดีงามเหมือนหลายๆเรื่อง สามารถทำให้เราอินไปได้ทุกฉากตั้งแต่ฉากขำขัน ฉากซึ้งใจ ฉากที่ทำให้เราเศร้าจนร้องไห้ ถือว่าครบรสมากๆ
นักแสดงทุกคนแสดงได้เข้าถึงบทบาทมาก ป๋าโรเบิร์ตก็เล่นเป็นคนแก่ที่น่ารักมากๆจริงๆ แอนก็ยังเป็นผู้หญิงยิ้มสวยสู้ปัญหาได้ดีเหมือนเคย ฉากที่นางร้องไห้มันให้ความรู้สึกร้องไห้ไปกับนาง
เนื้อเรื่องไม่ได้ออกแนว ความรักอะไรเท่าไหร่ แต่ชี้ให้เห็นช่องว่างระหว่างวัย ที่เกิดขึ้นและทำให้มันเกิดการแบ่งแยก และโซนความใกล้ชิดที่ห่างออกไปพร้อมถึงให้เหตุผลอะไรหลายๆอย่างที่ผู้ใหญ่มักจะทำแต่เด็กๆอย่างเรามองข้าม ทุกๆบทบาทเป็นไปอย่างไม่ได้ยัดเยียด
หลายๆตอนจะเห็นว่า หนังชี้ให้เห็นมุมมองหลายๆด้าน จากมุมของหัวหน้างานสาวที่ไฟแรง รักบริษัท สร้างสรรค์ หัวดื้อ แต่ยังอ่อนด้อยเรื่องธุรกิจ และไม่สามารถบาลาส์นเรื่องชีวิตครอบครัวได้ และมักมีอคติกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ บางครั้งการที่จะได้รับผลสำเร็จอาจจะไม่ได้วัดแค่จากเรื่องงานเพียงอย่างเดียว
หนังมีความโลกสวยอยู่พอประมาณ เกี่ยวกับทัศนคติของป๋าเบนที่ดีมากกกกก เกินกว่าผู้ใหญ่หลายๆคนจะเป็น แต่ก็ไม่ถึงกับรู้สึกผิดแปลกมากนัก
เห็นหนึ่งในหนังที่ ควรค่าแก่การชมมากๆ ซึ่งน่าเสียดายมากที่หนังไม่ได้รับการโปรโมตมากอย่างที่ควรจะเป็น แนะนำมากๆๆๆๆๆ เลยค่ะ ควรจะดูอย่างยิ่ง
-
ข้อเด่น - ให้ข้อคิดที่ดีในเรื่องของการทำงานและความสัมพันธ์ในครอบครัว
- ให้แรงบันดาลใจในการบริหารธุรกิจจูลส์ ฝ่ายหญิงที่วุ่นอยู่กับการทำธุรกิจเว็บขายเสื้อผ้าออนไลน์ และเป็นหัวหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว ในขณะที่ฝ่ายสามีอยู่บ้านและเลี้ยงดูลูกสาวเพียงคนเดียว
เบน ผู้อาวุโสซึ่งที่เบื่อเวลาว่างของตัวเอง อยากหางานทำเพื่อแก้เบื่อ จึงได้ตัดสินใจสมัครเข้าเป็นพนักงานฝึกงานที่บริษัทของจูลส์
ด้วยวัยที่ต่างกัน และความคิดที่ต่างกัน จูลส์กับเบนต่างกันอย่างสิ้นเชิง จูลส์เป็นผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับความเครียดของการจัดการบริษัท ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้ใคร และไม่ค่อยแคร์คนอื่นซักเท่าไหร่ แต่เบนกลับเป็นผู้สูงอายุที่แคร์ความคิดคนอื่น เป็นมิตร มีการเตรียมพร้อมตลอด วางตัวดี และมีความเข้าใจในชีวิตมากกว่า
จูลส์ประสบความสำเร็จในชีวิตการงาน แต่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัว จึงได้เบนมาเป็นที่ปรึกษา คอยรับฟังและช่วยคิดวิธีแก้ปัญหาให้ ทำให้จูลส์สามารถบริหารธุรกิจต่อไปได้
หลายๆคนอาจจะชอบคิดว่าผู้สูงอายุไม่เข้าใจเรา ทำให้เราไม่อยากคุยด้วย แต่ผู้สูงอายุหลายคนย่อมมีมุมมองความคิด การวางตัว และประสบการณ์ที่แตกต่างจากวัยทำงานหรือวัยรุ่น หากลองเปิดใจคุย คำชี้แนะจากประสบการณ์ที่ของพวกเขาอาจสามารถช่วยให้พ้นจากหลายๆปัญหาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นหนังที่น่ารักดีค่ะ แสดงให้เห็นถึงความต่างระหว่างวัย ความอบอุ่น แถมยังให้ความคิดดีๆอีกเพียบ มีช่วงฉากซึ้งๆมาเรียกน้ำตาบ้าง มีฉากขำจนน้ำตาเล็ดมาบ้าง นั่งดูไปอมยิ้มไปตลอดทั้งเรื่องเลย เป็นหนังที่ดีที่อยากให้ดูกันค่ะ
-
"สุดยอดหนังสร้างแรงบันดาลใจแห่งปี 2015"
ข้อเด่น - เนื้อเรื่องดี ข้อคิดเยอะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Start up ทั้งหลาย เชื่อว่าคุณจะได้พบกับแรงบันดาลใจและแง่คิดจากเรื่องนี้แน่นอน
-ภาพสวย อาจไม่ใช่มุมกล้องหวือหวา โลเคชั่นอลังการ แต่โดยรวมถือว่าภาพสวยในแบบของมันเลยทีเดียว
-การแสดงของแอนและป๋าโรเบิร์ตสื่ออารมณ์ได้สุดยอด มีความเป็นธรรมชาติและน่าหลงไหลเป็นที่สุดข้อด้อย - เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ คาดเดาได้ไม่ยาก
-เบนดูเป็นคนแก่ที่ไม่มีข้อบกพร่องเท่าไร ดูเป็น Perfect Uncle มากเกินไป ถ้าใส่มาหนังจะดูมีเสน่ห์และสมจริงมากขึ้นตอนแรกแค่เห็นชื่อนักแสดงก็นึกไปถึงหนังแนววัยรุ่นหรือ Romantic comady แบบอารมณ์คู่รักต่างวัยประมาณนั้น แต่พอได้ดูแล้วก็แบบคิดผิดถนัด กลับเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่า Start up และผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เชื่อว่าผู้หญิงที่ได้ดูเรื่องนี้เกินครึ่งชอบแน่นอน หนังสะท้อนให้เห็นความเป็นผู้หญิงเก่ง รวย แถมสวยอีกต่างหาก ดูแล้วรู้สึกเหมือนมีนางเอกเป็นไอดอลคนนึง ส่วนเบน ชายวัยเกษียณก็เรียกได้ว่าแก่แต่เก๋าจริงๆ มีคาร์แรคเตอร์ที่ชัดเจนแถมยังเป็นที่ปรึกษาที่ดีมากให้กับนางเอก แรกๆของหนังออกแนวหนังสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ แต่ช่วงท้ายของหนังก็มีการเปลี่ยนโทนเป็นแนวครอบครัวเหมือนกัน เพราะนางเอกทำงานหนัก ประสบความสำเร็จในชีวิตแต่กลับต้องพอกับ และเบนก็คอยเป็นเสมือนเพื่อนและที่พึ่งทางใจที่ทำให้นางเอกยืนหยัดได้ ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นจนอยากมีเพื่อนต่างวัยเลยหล่ะค่ะ
ข้อคิดดีๆ ที่ได้รับ
1.ประสบการณ์ชีวิตไม่เคยแก่ ยังคงสอนเราและคนอื่นๆได้เสมอ
แม้เบนจะเป็นคนรุ่นอายุ 70 ปีแล้วก็ตามแต่ยังคงเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้เด็กรุ่นใหม่เสมอ
2.เราทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
นางเอกเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต บริหารดูแลพนักงานหลักร้อยในบริษัท ทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มที่ แต่ลืมสิ่งรอบตัวและคนรอบข้างไป แม้แต่เบตตี้ เลขาของนางเอกก็ทุ่มเทการทำงานจนลืมดูแลตัวเอง
3.การวางตัวเป็นสิ่งสำคัญการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
การวางตัวของเบนถือเป็นแบบอย่างที่ดีมากๆ ที่ทำให้คนอื่นเชื่อถือ วางตัวสุภาพ รู้ว่าสิ่งไหนควรพูด ส่ิงไหนไม่ควรพูด แถมมีความตั้งใจในการทำงานอย่างมาก ไม่เคยเกี่ยงงาน หรือหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากเพื่อนร่วมงาน รวมถึงการแต่งตัวของเบนที่สุดแสนจะสุภาพ
สรุปคือชอบมาก หนังมีตลกบ้างแต่เป็นตลกแบบบางๆ ไม่ใช่ขำแบบหัวเราะกระจายแต่รับประกันว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณอมยิ้มไปตลอดเรื่อง จัดว่าเป็นหนังดีประจำปีนี้เลยก็ว่าได้
คุณล่ะ? ให้กี่ดาว เลือกเลย ➜: