ทั่วโลกคาดการณ์ว่าจะได้เริ่มใช้ 5G อย่างเต็มรูปแบบได้ในปี 2020 และแน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องการความเร็วของเครือข่าย และการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพสูง รวมถึงอุตสาหกรรมที่ต้องทำงานกับข้อมูลเชิงลึกจำนวนมาก Smart SME เรียบเรียงข้อมูลเรื่องนี้มาให้ดูกันว่าธุรกิจของคุณอยู่ในกลุ่มนี้หรือไม่
อุตสาหกรรมที่ 5G จะส่งผลกระทบมากที่สุด 10 อันดับแรก
1.การผลิต
5G พร้อมที่จะช่วยให้การดำเนินการผลิตมีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยและการลดต้นทุนการบำรุงรักษาให้ดีขึ้น
2.พลังงานและสาธารณูปโภค
โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างพลังงานและสาธารณูปโภคจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ซึ่งสามารถสร้างโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมมากขึ้นในการผลิตพลังงาน และรูปแบบการส่งพลังงานด้วยวิธีการใหม่ๆ เพื่อให้ประสิทธิภาพในการผลิตและบริการดีขึ้น
3.เกษตร
เกษตรกรทั่วโลกกำลังใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทางการเกษตรและการจัดการน้ำ รวมถึงความปลอดภัยในการเลี้ยงปศุสัตว์และการตรวจสอบพืชผล ซึ่ง 5G สามารถเปิดใช้งานการรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้เกษตรกรตรวจสอบติดตามและทำให้ระบบการเกษตรเป็นไปโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัย
4.ค้าปลีก
ชาวอเมริกันมากกว่า 100 ล้านคนสั่งซื้อของผ่านทางสมาร์ทโฟนของพวกเขาในปี 2018 และเหตุผลในการย้ายไปช้อปปิ้งบนมือถือนั้นเกิดขึ้นจากการมาถึงของ 4G และ LTE ซึ่งคาดการณ์ว่าความเร็วที่สูงขึ้นของ 5G จะทำให้เกิดประสบการณ์การซื้อของแบบใหม่เพิ่มมากขึ้น อุตสาหกรรมค้าปลีกจะนำเอาเทคโนโลยี VR เข้ามาใช้ได้มากขึ้นกว่าเดิม
5.การเงิน
5G จะเร่งการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่การเป็นดิจิทัลของสถาบันการเงิน โดยจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การดำเนินงานภายในไปจนถึงการบริการลูกค้า นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีความปลอดภัยและความเร็วที่เพิ่มขึ้น พร้อมรองรับการทำธุรกรรมได้มากขึ้นบนอุปกรณ์พกพาที่หลากหลายของลูกค้า
6.สื่อและความบันเทิง
5G จะนำเสนอโอกาสใหม่ๆ ในเรื่องของสื่อและการโฆษณาบนมือถือ ตลอดจนเรื่องของบริการบรอดแบนด์ในบ้าน อินเทอร์เน็ตทีวี รวมถึงการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟอย่าง AR / VR ที่จะทำให้โลกของสื่อและความบันเทิงเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด
7.การดูแลสุขภาพ
ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ 5G สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ระบบสุขภาพสามารถสร้างเครือข่ายที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับกับข้อมูลจำนวนมากที่เกี่ยวข้องในเรื่องสุขภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้ความสามารถในการใช้อุปกรณ์ตรวจสอบและรักษาจากระยะไกลทำได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
8.การขนส่ง
ระบบการขนส่งตั้งแต่รถโดยสารสาธารณะไปจนถึงรถขนส่งของเอกชน จะได้รับความสามารถในการมองเห็นและควบคุมที่เพิ่มมากขึ้นจาก 5G โดยเฉพาะเรื่องของการสื่อสารระหว่างยานพาหนะต่างๆ จะทำได้ดีขึ้น แน่นอนว่าช่วยทำให้รถยนต์ไร้คนขับมีความปลอดภัยมากขึ้น เครือข่ายเหล่านี้จะช่วยให้ทั้งเมืองเข้าสู่การเป็น Smart City ได้เร็วขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
9.AR / VR
อนาคตของ AR และ VR ขึ้นอยู่กับเครือข่าย 5G เพราะสาเหตุที่ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกจำกัดบทบาทในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการคุณภาพด้านเครือข่ายที่สูง เพื่อสามารถนำไปใช้ในวงกว้างได้ในความเร็วที่เหมาะสม เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ต้องใช้ข้อมูลและความเร็วในการประมวลผลจำนวนมาก
10.การประกันภัย
5G จะช่วยให้ตัวแทนประกันภัยทำการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากสามารถเข้าถึงข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ของลูกค้าได้อย่างไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็วในการเชื่อมต่อ และชนิดของอุปกรณ์ที่จะใช้
นี่เป็นตัวอย่างของ 10 อุตสาหกรรมที่จะถูก 5G ส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เราคงต้องคอยติดตามดูกันต่อไปว่า เมื่อมีการเริ่มใช้งานจริงสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นจะเหมือนกันหรือเปล่า
การเข้ามาของเทคโนโลยี 5G จะทำให้เกิดการเปลี่ยนโฉมรูปแบบการทำธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ สู่ธุรกิจในรูปแบบใหม่ ธุรกิจจำเป็นต้องเรียนรู้ และปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มองหาโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น เพื่อมิให้ธุรกิจจากไปพร้อมกับเทคโนโลยี 4G
การพัฒนา 5G ทำให้เกิดการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม หรืออุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติ ฉลาดขึ้นหรือมีศักยภาพมากขึ้น ประสิทธิภาพมากขึ้นแม่นยำมากขึ้น โดยใช้ต้นทุนลดลง เมื่อเทียบกับ 4G
การพัฒนา 5G ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของไทย โดยคาดว่า_5G จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อโลก 12.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 4.6 ของผลผลิตทั้งหมดทั่วโลกในปีค.ศ.2035 นอกจากนี้_5G ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย การใช้เทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมต่างๆ จะสร้างเม็ดเงินให้แก่เศรษฐกิจไทย 2,600 ล้านดอลลาร์ในปีค.ศ.2026 โดยคาดว่าเทคโนโลยี_5G จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจดังนี้
การเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจเสมือนจริง (virtualization)
เทคโนโลยี_5G จะเปลี่ยนแปลงภาคธุรกิจไปสู่ธุรกิจเสมือนจริงมากขึ้น เนื่องจากการส่งข้อมูลจำนวนมากทำได้สะดวก รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนกฎเกณฑ์ ความสัมพันธ์ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น
การดำเนินธุรกรรมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตข้ามพรมแดนมากขึ้น การผลิตจะมีลักษณะเป็นเครือข่ายการผลิต การจัดการ และการกระจายสินค้าข้ามพรมแดน ขอบเขตการดำเนินธุรกิจจะขยายจากระดับประเทศ เป็นระดับภูมิภาคและระดับโลก
การทำงานทางไกล สั่งการและควบคุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้การขายสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยคาดว่ายอดขายสินค้าออนไลน์ทั่วโลกในปีค.ศ.2015 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 8.7 ของยอดขายปลีกทั้งหมด จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 14.6 ในปีค.ศ.2020
การทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์จะกลายเป็นมาตรฐานทั่วไปของการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การโฆษณา การประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการการติดต่อธุรกิจ การสั่งซื้อสินค้าและบริการการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์การส่งมอบสินค้า การให้บริการผ่านเครือข่ายออนไลน์ การจัดการซัพพลายเชนการวิจัยและพัฒนา และการออกแบบการเข้าถึงข้อมูลและข่าวสารเพื่อสร้างนวัตกรรม
การกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจในกิจกรรมและอุตสาหกรรมต่างๆ (decentralization)
เทคโนโลยี_5G และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจะทำให้เกิดการกระจายอำนาจในกิจกรรมและอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้นเพราะทำให้เกิดการกระจายพลังทางเศรษฐกิจ จากศูนย์กลาง สู่ประชาชน และผู้เล่นรายอื่นๆในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการผลิตและแพร่กระจายข้อมูลและความรู้ใหม่ในการร่วมกันสร้างสรรค์และผลิตสินค้าและบริการ
ตัวอย่างของการกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากเทคโนโลยี 5G
การแตกออกของกิจกรรมในห่วงโซ่อุปทานจากเดิมที่ผูกขาดหรือดำเนินการโดยผู้เล่นรายเดียว เกิดผู้เล่นใหม่ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือเจาะกลุ่มลูกค้าที่เจาะจงหรือการเข้าสู่อุตสาหกรรมของผู้จัดหาเทคโนโลยี ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม หันมาทำธุรกิจธนาคารเช่น บริษัท Telenor ของนอร์เวย์ เปิดธนาคาร Banka Serbia เมื่อปี 2557
ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์หันมาทำโซเชียล แบงก์กิ้ง เช่น เฟซบุ๊กพยายามทำให้โอนเงินได้หรือ การรวมศูนย์อำนาจโดยผู้เล่นรายใหม่เช่นการเป็นผู้รวบรวมข้อมูลสินค้าและบริการของบริษัทต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบและเลือกซื้อได้เช่น เว็บไซต์ที่ให้บริการจองที่พัก โรงแรม ผู้เล่นใหม่เหล่านี้จะดึงงานบางส่วนไปจากผู้เล่นรายเดิม หรือสร้างกิจกรรมใหม่หรือคุณค่าใหม่ในห่วงโซ่อุปทาน
การสร้างคุณค่าร่วมกันของบริษัทกับลูกค้า (co-creation) เป็นการให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในสร้างประสบการณ์ที่เหมาะสมกับลูกค้า อาทิ การเปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้คนในเครือข่าย ส่งความเห็นเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่กำลังจะออกสู่ตลาดเพื่อนำกลับมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะผลิตออกขายจริง
การผลิตหรือสร้างนวัตกรรมที่มีลักษณะไม่มีใครเป็นเจ้าของ (collaborative innovation) เป็นวิธีการผลิตที่ไม่ขึ้นอยู่กับกลไกตลาด อาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ใช้ฟรีอาศัยความร่วมกันของกลุ่มคนหรือองค์กรในเครือข่ายออนไลน์มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และวัฒนธรรมของกลุ่มคนเปิดช่องให้ทุกคนเข้ามาร่วมพัฒนาได้ ตัวอย่างเช่น เช่นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ (open-source software) หรือ วิกิพีเดีย (Wikipedia) เป็นต้น
เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (sharing economy) คือ กิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดจากการที่ผู้คน แบ่งปันหรือใช้สิ่งของหรือทรัพยากรร่วมกันตัวอย่าง Uber ที่นำคนที่มีรถและเวลาว่างมาขับรถไปส่งผู้โดยสาร เป็นการสร้างรายได้เสริมให้กับเจ้าของรถการติดต่อระหว่างผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าและบริการเดียวกัน เพื่อร่วมกันซื้อหรือเช่าเช่น บริการให้เช่าจักรยานสาธารณะการเปิดบ้านให้เป็นห้องเช่าทำให้ต้นทุนการใช้สินค้าและบริการลดลงเช่น BuyCo.io เป็นรูปแบบที่ช่วยในการซื้อร่วมกัน โดยไม่ต้องมีคนกลาง
เงินดิจิทัล (digital money) ถูกพัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น บิทคอยน์สกุลเงินที่สามารถนำมาใช้ซื้อขายได้จริงในเครือข่ายของคนที่ยอมรับการโอนเงินมีความสะดวก รวดเร็วกว่า และมีค่าธรรมเนียมต่ำแต่ไม่มีดอกเบี้ยเหมือนกับเงินฝากธนาคารปัจจุบัน ธนาคารกลางของจีนกำลังพัฒนาเงินดิจิตอลของตนเองขึ้นมา คาดว่า ประชากร 1 พันล้านคนจะใช้เงินดิจิทัลในปี 2025
การระดมทุนผ่านทางอินเทอร์เน็ต (crowd funding) คือ รูปแบบการระดมทุนสำหรับผู้เริ่มต้นกิจการช่วยให้บุคคล กลุ่มคน สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้คนในเครือข่ายผู้ที่ให้เงินสนับสนุน อาจเป็น ปัจเจกบุคคล ลูกค้า ลูกจ้าง ผู้สนับสนุนบริษัทหุ้นส่วน หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซัพพลายเออร์
การเข้ามาของเทคโนโลยี_5G คือ การเปลี่ยนโฉมรูปแบบการทำธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ สู่ธุรกิจในรูปแบบใหม่ ธุรกิจจำเป็นต้องเรียนรู้ และปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มองหาโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น เพื่อมิให้ธุรกิจจากไปพร้อมกับเทคโนโลยี 4G