ธรรมจักร : กงล้อแห่งธรรม
กีรติ : สืบศิลป์
เคยมีใครสงสัยบ้างไหมว่า ธรรมจักร ที่คุ้นตากันในศาสนาพุทธนั้นมีที่มาอย่างไร และจะมีใครรู้บ้างว่า ครั้งหนึ่งธรรมจักรกลายเป็นผลงานทางศิลปกรรมที่มีความงดงาม โดดเด่น จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของยุคสมัย มีรูปแบบที่ต่างกันออกไปมากมาย ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นยุคแรกเริ่มของวัฒนธรรมพุทธศาสนาที่เรียกกันว่า สมัยทวารวดี
สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์อย่างเด่นชัดที่สุดของอารยธรรมทวารวดีในพระพุทธศาสนานั้นคือ ‘ธรรมจักร’ โดยมีการขุดค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็น พระธรรมจักรกับกวางหมอบ–สัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา (เราสามารถพบธรรมจักรในสมัยทวารวดีได้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ซึ่งจัดแสดงหลักฐานทางโบราณคดีไว้ในห้องทวารวดี) ธรรมจักรนี้มีหลายขนาด ทั้งที่เป็นสองด้านและด้านเดียว เป็นทั้งแบบทึบและแบบโปร่ง โดยมากมักพบกวางหมอบบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ก็อยู่คู่กันกับบริเวณที่ค้นพบ ซึ่ง ‘กวาง’ นั้นหมายถึง สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่เบญจวัคคีย์ (เรียกเต็มว่า “ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร”) คือ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (ป่ากวาง)
แรกเริ่มเดิมทีนั้นธรรมจักรมีความนิยมอย่างสูงในศิลปะอินเดีย อันเป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ ในสมัยที่ยังไม่มีการสร้างพระพุทธรูปนั้นระบบสัญลักษณ์ได้ถูกนำมาใช้แทนความหมายต่างๆดังเช่น ดอกบัวแทนพระพุทธเจ้าตอนประสูติ, พระสถูปแทนการปรินิพพาน, รอยพระพุทธบาทแทนการประทับของพระพุทธองค์
และที่สำคัญ ธรรมจักรแทนความหมายการประกาศพระพุทธศาสนา ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยอินเดียโบราณ (พุทธศตวรรษที่ 3) ต่อมาในศิลปะอินเดียแบบ คุปตะ ซึ่งถือว่าเป็นยุคมีความงดงามมากที่สุดนั้นได้เข้ามามีอิทธิพลในวัฒนธรรมศาสนาของอาณาจักรทวารวดีที่ได้เจริญรุ่งเรืองในระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่เป็นที่แปลกใจเลยว่า เหตุใดทวารวดีจึงมีความนิยมสร้างธรรมจักรอย่างมากเช่นเดียวกัน
ความหมายของธรรมจักรนี้มีนัยแฝงอยู่ประการหนึ่ง จากเดิมทีเป็นสัญลักษณ์แทนการประกาศพระศาสนาของพระพุทธองค์ และเป็นสัญลักษณ์ที่คงใช้ต่อเรื่อยมา ทั้งนี้เนื่องจากธรรมจักรเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นสากล แม้ไม่มีบริบทอื่นใดประกอบเลยก็สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ต่อมาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างกว้างขวางและยิ่งใหญ่ ดังปรากฏเสาอโศก โดยมีส่วนยอดของเสาเป็นที่ประดิษฐานธรรมจักร อันมีความหมายว่าพระพุทธศาสนาได้เข้ามาถึงดินแดนนั้นๆแล้ว ซึ่งพ้องกันกับอารยธรรมทวารวดีที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่มาก และดินแดนต่างๆที่อารยธรรมทวารดีเข้าไปถึงนั้นมักจะพบหลักฐานเป็นธรรมจักรอยู่เสมอ นั่นเป็นการแสดงให้ทราบทางหนึ่งว่า บริเวณนั้นมีการนับถือศาสนาพุทธด้วยเช่นเดียวกัน •
This entry was posted on วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2006 at 7:15 pm and is filed under สืบศิลป์. You can follow any responses to this entry through the RSS 2.0 feed. You can leave a response, or trackback from your own site.
เมนูนำทาง เรื่อง
« Previous Post Next Post »ประวัติศาสตร์พุทธศิลป์ : ที่มาของ‘ธรรมจักร’ในไทย
เผยแพร่: 28 มี.ค. 2548 17:10 โดย: MGR Online
เริ่มตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์ไทย มีนักวิชาการ หลายท่านชี้ชวนให้เห็นว่าทวารวดีนี้เองที่เป็นอารยธรรมเริ่มแรกของดินแดนไทยในปัจจุบัน ด้วยความเจริญงอกงามในด้านต่างๆ ทำให้อารยธรรมนี้ขยายอาณาเขตเป็นบริเวณกว้าง เมืองสำคัญของอารยธรรมทวาราวดี คืด นครปฐม ราชบุรี และเมืองอู่ทอง
ความรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
ที่ทำให้อารยธรรมนี้ ถ่ายทอดงานศิลปกรรมมากมาย เป็นการบันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทราบลึกไปถึงรายละเอียดอย่างเช่นประวัติศาสตร์ของดินแดนในสมัยถัดมา แต่ ก็เป็นการบันทึกที่ดีอย่างหนึ่งว่า ได้มีการยอมรับนับถือพระพุทธศาสนามาแล้วจากประเทศอินเดีย ตรงกับศิลปะแบบคุปตะและหลังคุปตะ(ศิลปะแบบคุปตะเป็นศิลปะที่ยอมรับกันว่างดงามที่สุดของอินเดีย ซึ่งผู้เขียนจะนำรายละเอียดมาเสนอในโอกาส ต่อไป)
สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์อย่างเด่นชัดที่สุดของอารย-ธรรมทวารวดี ต่อพระพุทธศาสนานั้นคือ
‘พระธรรมจักร’ โดยมีการขุดค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นพระธรรมจักรกับกวางหมอบ สัญลักษณ์แห่งการ ตรัสรู้และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระธรรมจักรนี้มีหลายขนาดแตกต่างกัน ทั้งที่เป็นสองด้าน และด้านเดียว เป็นทั้งแบบทึบ และแบบโปร่ง โดยมาก มักพบกวางหมอบบริเวณใกล้เคียง ไม่ก็อยู่คู่กันกับบริเวณที่ค้นพบ ซึ่ง‘กวาง’นั้นหมายถึงสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมจักรกัปวัตนสูตร คือป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (ป่ากวาง)
เมื่อพิจารณาพระธรรมจักรที่ค้นพบก็พอสืบเค้า
โครงได้ถึงรูปแบบของศิลปกรรมที่พัฒนามาจากศิลปะอินเดียแบบคุปตะ ทั้งนี้มีเหตุผลประกอบคือเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองดินแดนมีอายุคาบเกี่ยวกัน การติดต่อกับอินเดีย รับนับถือพระพุทธศาสนานั้น จึงเป็นการรับเอารูปแบบศิลปกรรมมาโดยปริยาย โดยสิ่งที่เป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดีนั่นคือ ‘ลวดลาย’ หลายต่อหลายครั้งที่ลวดลายทำหน้าที่เสมือนจารึกที่ บอกกล่าวถึงอายุของวัตถุต่างๆ ว่าเป็นลวดลายที่เกิด ขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่เท่าไร เป็นช่วงที่อารยธรรมใดรุ่งเรืองอยู่ ประกอบกันเป็นจำนวนที่มากพอให้ได้
สรุปว่าเป็นลวดลายที่รุ่งเรืองในอารยธรรมนั้นๆ พระธรรมจักรก็เช่นกัน ลวดลายไม่เพียงให้เกิดความสมบูรณ์เกิดความงดงาม มีระเบียบ จังหวะที่ลงตัวแล้ว แต่ลวดลายดอกไม้กลม สลับกับลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนป็นสิ่งบ่งชี้ได้ดีที่กล่าวมาข้างต้นว่า อารยธรรมทวารวดี รับอิทธิพลจากอินเดียในศิลปะแบบคุปตะและหลังคุปตะ ซึ่งลายดังกล่าวพบเป็นจำนวนมากในศิลปะแบบนี้ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญประการหนึ่ง
ความหมายของพระธรรมจักรนี้มีนัยแฝงอยู่ประการหนึ่ง เดิมทีสัญลักษณ์แทนการประกาศพระศาสนาของพระพุทธองค์คือพระธรรมจักร
และเป็นสัญลักษณ์ที่คงใช้ต่อเรื่อยมา ทั้งนี้ พระธรรมจักรเป็น สัญลักษณ์ที่เข้าใจง่ายและเป็นสากล แม้ไม่มีบริบทอื่นใดประกอบเลย ก็สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ต่อมาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ได้เผย แผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างกว้างขวางและยิ่งใหญ่ ดังปรากฏเสาอโศกอันมีความหมายว่า พระพุทธ-ศาสนาได้เข้ามาถึงดินแดนนั้นแล้ว โดยส่วนยอดของ เสานั้นมีนักวิชากล่าวไว้ว่าเป็นที่ประดิษฐานพระธรรมจักร ซึ่งพ้องกันกับอารยธรรมทวารวดีที่มีอาณา เขตกว้างขวางมาก
และดินแดนที่อารยธรรมทวารดีเข้าไปถึงนั้นมักจะพบหลักฐานเป็นพระธรรมจักรอยู่เสมอ
หนังสืออ่านประกอบ
ดำรงราชานุภาพ,สมเด็จฯกรมพระยา.ตำนานพุทธเจดีย์.กรุงเทพฯ : มติชน, 2545 .
สุภัทรดิศ ดิศกุล,หม่อมเจ้า.ศิลปะในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2546.
สุภัทรดิศ ดิศกุล,หม่อมเจ้า.ศิลปอินเดีย.กรุง เทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2534.
ศักดิ์ชัย สายสิงห์.ศิลปะทวารวดี วัฒนธรรมพุทธศาสนายุคแรกเริ่มในดินแดนไทย.กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, 2547.