นักเรียน เรียน รู้ งานช่างพื้นฐาน เพื่อ จุด ประสงค์ ใดเป็น หลัก

35 thoughts on “แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 งานช่างในบ้าน ม.2

  1. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น

    ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้

    ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป

    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น

    ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้

    1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

    2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย

    3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้

    4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้

    5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ

    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

    7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน

    8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง

  2. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ

    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างด้านต่างๆ ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถซ่อมแซม
    บำรุงรักษา ดัดแปลงเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และนำประสบการณ์ที่ได้จากการเรียน
    วิชาช่างพื้นฐาน ไปใช้ในการปฏิบัติงานช่างภายในบ้านอย่างจริงจัง ทำให้เครื่องใช้ในบ้านมีความคงทน และมีอายุการใช้งานยาวนานและประหยัดค่าใช้จ่าย

  3. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์ของงานช่างพื้นฐาน
    ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้
    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    1. งานไฟฟ้า
    งานไฟฟ้ามีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาขนในปัจจุบันเป็นอย่างมากไม่ว่าจะ
    เป็นการนำมาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในบ้าน หรือเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ดังนั้นการมีความรู้เกี่ยวกับหลักการ วิธีการ วัสดุอุปกรณ์และความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
    1.1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับไฟฟ้า
    กระแสไฟฟ้า เกิดจากการเคลื่อนที่ของอิเล็คตรอนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งภายใน
    ตัวนำไฟฟ้า
    ชนิดของกระแสไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
    1. ไฟฟ้ากระแสตรง ได้แก่ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี
    2. ไฟฟ้ากระแสสลับ ได้แก่ ไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านเรือน
    1.2 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า
    วงจรไฟฟ้า หมายถึง ทางเดินของกระแสไฟฟ้าซึ่งไหลมาจากแหล่งกำเนิดผ่านไปยังตัวนำและเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือโหลด ( ) แล้วไหลกลับไปยังแหล่งกำเนิด การต่อวงจรไฟฟ้าเราสามารถต่อได้หลายวิธี ดังนี้
    1. การต่อไฟฟ้าแบบอนุกรม เป็นการนำเอาตัวต้านทานแต่ละตัวมาต่อกันโดยเอาปลายด้านหนึ่งต่อกับปลายอีกด้านหนึ่งต่อเรียงไปเรื่อยๆ การต่อไฟฟ้าแบบอนุกรมส่วนใหญ่จะไม่นิยมใช้ในการต่อวงจรทั่วไป
    2. การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน การนำเอาตัวต้านทานแต่ละตัวมาต่อคร่อมกันไปเรื่อยๆ จนครบวงจร การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนานเป็นการต่อวงจรที่ใช้ทั่วไปกับไฟฟ้าแสงสว่างและเครื่องใชไฟฟ้าภายในบ้าน
    3. การต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม โดยการนำแบบอนุกรมและขนานต่อรวมเข้าในวงจรเดียวกัน การต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสมนิยมใช้กับวงจรอิเล็กทรอนิกส์

    1.3 วัสดุอุปกรณ์
    วัสดุและอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเรือน มีดังนี้
    1. สายไฟฟ้า เป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าจนครบวงจร สายไฟฟ้าแบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ สายเปลือย และสายหุ้มฉนวน
    การเลือกใช้ขนาดสายไฟฟ้าในบ้าน
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    1. เครื่องมือสำหรับวัดระยะ ใช้วัดความก้วาง ความยาว และความสูงของวัสดุ เช่น ไม้บรรทัด ไม้เมตร สายวัด ตลับเมตร เป็นต้น
    2. เครื่องมือสำหรับตัด ใช้ตัด หรือผ่าวัสดุให้แยกออกจากกัน เช่น กรรไกร มีด เลื่อย คีมตัดลวด ขวาน เป็นต้น
    3. เครื่องมือสำหรับเจาะ ใช้เจาะวัสดุให้เป็นรู เช่น สิ่ว สว่านไฟฟ้า สว่านมือ เป็นต้น
    4. เครื่องมือสำหรับตอก ใช้ตอก ทุบ หรือตีวัสดุต่าง ๆ เช่น ค้อนหัวกลม ค้อนหัวแบน ค้อ
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    1. กล้าเสี่ยง
    อาชีพอิสระเป็นการประกอบธุรกิจส่วนตัว จึงต้องมีการลงทุนในขณะที่ถ้าเป็นลูกจ้างไม่ต้องลงทุนอะไร ซึ่งการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเพราะไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร ดังนั้น ก่อนที่จะตกลงใจประกอบอาชีพใดจึงต้องพิจารณา วิเคราะห์ และไตร่ตรองอย่างดีเสียก่อน

    2. ความคิดสร้างสรรค์
    การประกอบอาชีพอิสระมิได้ยึดติดกับรูปแบบใดๆ เนื่องจากผู้ประกอบอาชีพอิสระต้องเป็นนายของตนเอง ดังนั้น ในการปรับปรุงสินค้าหรือบริการสามารถทำได้อย่างมีอิสระเพื่อให้ได้มาซึ่งกำไรในการดำเนินธุรกิจ

    3. ความเชื่อมั่นในตนเอง
    ผู้ประกอบอาชีพอิสระ จะต้องมีความเชื่อมั่นในการดำเนินกิจการของตนเองให้อยู่รอดและฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นได้

    4. ความอดทน
    การดำเนินธุรกิจย่อมมีกำไรและขาดทุน โดยเฉพาะเมื่อเริ่มประกอบการอาจต้องประสบปัญหาและอุปสรรคบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา ผู้ประกอบการจึงต้องพร้อมที่จะยอมรับข้อผิดพลาดและนำมาแก้ไขด้วยความอดทนไม่ท้อถอย

    5. มีวินัยในตนเอง
    การประสบความสำเร็จในอาชีพซึ่งเราเป็นเจ้าของกิจการเอง จำเป็นต้องมีวินัย มีกฎระเบียบ การทำงานสม่ำเสมอ มิเช่นนั้นอาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ

    6. มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ
    ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานที่มีเกียรติหรือไม่ ผู้ประกอบอาชีพอิสระจะต้องรักในงานที่ทำและให้เกียรติกับงานนั้นๆ เสมอ

    7. มีความรอบรู้
    การประกอบอาชีพอิสระจะต้องรับรู้ข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ประโยชน์ของการรับรู้ข่าวสารจะทำให้สามารถปรับปรุงธุรกิจของตนเองให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ผลที่ได้คือกำไรนั่นเอง

    8. มีมนุษย์สัมพันธ์
    การประกอบอาชีพอิสระจะต้องเป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์อันดี เพื่อผลประโยชน์ในธุรกิจของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า บุคคลรอบข้างหรือคู่แข่งขันก็ตาม เพราะการมีมนุษย์สัมพันธ์อันดีจะทำให้มีความคล่องตัวในการดำเนินงานอย่างยิ่ง

    9. มีความซื่อสัตย์
    ผู้ประกอบอาชีพอิสระจะต้องมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า การบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจในการขายสันค้าหรือบริการและกลับมาใช้บริการอีกเป็นหัวใจสูงสุดเพื่อผลประโยชน์ต่อธุรกิจและต่อตนเองในที่สุด

    10. มีความรู้พื้นฐานในการเริ่มทำธุรกิจ
    การที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เราควรได้รู้จักสิ่งที่ทำอย่างน้อยให้รู้ว่าทำจากอะไร ซื้อวัตถุดิบจากไหน ตลาดอยู่แหล่งใด และหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมจะหาได้จากที่ไหน

    11. มีการพัฒนาตนเองให้มีคุณลักษณะเหมาะสมกับการประกอบอาชีพอิสระ
    เมื่อมีความรู้พื้นฐานในการประกอบอาชีพอิสระแล้ว อีกทั้งยังต้องพัฒนาตนเองให้มีคุณลักษณะเหมาะสมกับการประกอบอาชีพนั้นๆ เช่น หากเป็นช่างเสริมสวยก็ต้องพัฒนาตนเองให้ดูสวยงาม เมื่อลูกค้าเห็นจะได้ดูน่าเชื่อถือหรือหากเลือกที่จะขายอาหาร ผู้ขายก็ควรแต่งตัวให้ดูสะอาด ไม่สูบบุหรี่ขณะทำอาหาร เป็นต้น

  4. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ช่าง หมายถึง ผู้ชำนาญในการฝีมือ หรือศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง

    งานช่าง หมายถึง การทำงาน หรือสิ่งที่เกิดจากการทำงานของช่าง ซึ่งมีหลายประเภทหลายสาขา ผู้เป็นช่างจึงมักมีคำต่อท้าย เพื่อบอกประเภทหรือสาขาของงานที่ทำ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างไม้ ช่างปูน ช่างโลหะ ช่างเขียน ช่างผม ช่างเสริมสวย เป็นต้น

    ช่างที่ดีนอกจากจะมีความรู้ในงานของตนแล้ว ยังต้องมีฝีมือหรือศิลปะในการทำงานด้วย ความรู้เกี่ยวกับงานช่างอาจได้จากการบอกเล่าสืบต่อกันมา หรือจากการศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม ประสบการณ์ในการทำงานของช่าง นอกจากจะสร้างเสริมความรู้ของช่างแล้ว ยังช่วยให้มีความชำนาญในฝีมือการทำงาน

    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง งานช่างพื้นฐานส่วนใหญ่จึงเป็นงานเกี่ยวกับงานซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุดเสียหาย เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนนัก เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การต่อท่อประปา การซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว กันสาด ผนังและถนนหรือทางเดินเท้าภายในบ้าน เป็นต้น
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดี

    Good Technicians
    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย
    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี
    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ
    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด
    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย
    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์ของงานช่างพื้นฐาน
    ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ลักษณะของงานช่างพื้นฐาน

    งานช่างพื้นฐานแต่ละงาน มีลักษณะต่าง ๆ กัน ดังนี้

    งานไฟฟ้า
    สภาพความเจริญของโลกในปัจจุบัน มีผลทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ ต้องเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมายไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ให้ความสุขสบาย ทำให้มาตรฐานการดำรงชีวิตของมนุษย์ดีขึ้น ทำให้โลกสวยงามน่าอยู่มากขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่มีคุณมีประโยชน์เหล่านี้ หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงในเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ ในการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของพลังแสงสว่าง พลังความร้อน และพลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ และการเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    2. งานช่างประปา

    น้ำเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้น้ำปรากฏว่า คนในชนบทใช้น้ำ 150 ลิตรต่อคนต่อวัน คนในเมืองใช้น้ำ 440 ลิตรต่อคนต่อวัน น้ำจึงมีความสำคัญต่อมนุษย์มาก ระบบการประปาได้แก่ การนำน้ำเข้ามาใช้ การระบายน้ำโสโครกภายในอาคารบ้านเรือนออกไป เป็นสิ่งจำเป็นและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากที่สุด ระบบประปาที่ดีมีประสิทธิภาพ จึงหมายถึงความสะดวกสบาย สุขภาพและพลานามัยของผู้อยู่อาศัย ดังนั้นความรู้เรื่องระบบน้ำประปา ระบบการระบายน้ำโสโครก สุขภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนวิธีการจัดระบบการประปา การซ่อมบำรุงรักษา จึงเป็นสิ่งจำเป็น สามารถศึกษาและปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง
    3. งานช่างไม้

    งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์เป็นของเล่นของใช้ได้อย่างเหมาะสม ทั้งที่จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและกระบวนการในการใช้ จึงจะสามารถทำงาน ไม้ได้อย่างสวยงาม เรียบร้อย มีประสิทธิภาพในการใช้เครื่องมือและใช้วัสดุ ปัจจุบันไม้มีคุณค่ามาก หายาก เพราะป่าไม้ถูกทำลายไปเกือบหมด จนต้องใช้วัสดุอื่น ๆ มาทดแทนไม้ เช่น พลาสติก โลหะ งานช่างไม้ในงานช่างพื้นฐานเป็นงานช่างไม้เบื้องต้น สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีการใช้วัสดุ และการเก็บรักษา การซ่อมบำรุงสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ ส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น
    4. งานช่างปูน

    ปัจจุบันอาคารบ้านเรือน อาคารสำนักงาน และถนนหนทางล้วนสร้างด้วยปูน ไม้ และโลหะเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น ทั้งนี้เพราะการก่อสร้างด้วยปูน มีความคงทนถาวรมากกว่าไม้ ราคาถูกกว่า หาง่ายกว่า และการดูแลรักษาน้อยกว่า งานช่างปูนจึงมีความสำคัญ เป็นงานอาชีพ และเป็นงานที่ผู้ครองเรือนควรต้องศึกษา เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานช่างปูนภายในบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เช่น การซ่อม สร้างบำรุงรักษา ส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่ทำด้วยปูน ต้องรู้จักและเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ การจัดหาวัสดุนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม
    5. งานช่างโลหะ

    ส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะหรือมีโลหะ เป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหาย ต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้อย่างสวยงาม งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีต เทคนิค และวิธีการ จำเป็นที่จะต้องศึกษารู้จักเครื่องมือ วิธีใช้ การดูแลรักษา และสามารถจัดหาวัสดุนำมาใช้งาน ได้อย่างเหมาะสม
    6. งานช่างสี

    งานช่างสี เป็นงานช่างขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เพื่อตกแต่งงานที่จัดทำสำเร็จแล้ว ให้ดูเรียบร้อยสวยงาม งานช่างสีนอกจากจะทำให้เกิดความสวยงามเรียบร้อยแล้ว ยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุ การใช้งานให้ยาวนานขึ้น งานช่างสีมีหลักวิธีการ เครื่องมือเครื่องใช้และวัสดุที่ต้องศึกษา จึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานช่างสีเป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    งานไฟฟ้า เพราะ มันอันตรายเสี่ยงต่อการโดนไฟดูด

    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์เป็นของเล่นของใช้ได้อย่างเหมาะสม

  5. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ช่าง หมายถึง ผู้ชำนาญในการฝีมือ หรือศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง

    งานช่าง หมายถึง การทำงาน หรือสิ่งที่เกิดจากการทำงานของช่าง ซึ่งมีหลายประเภทหลายสาขา ผู้เป็นช่างจึงมักมีคำต่อท้าย เพื่อบอกประเภทหรือสาขาของงานที่ทำ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างไม้ ช่างปูน ช่างโลหะ ช่างเขียน ช่างผม ช่างเสริมสวย เป็นต้น

    ช่างที่ดีนอกจากจะมีความรู้ในงานของตนแล้ว ยังต้องมีฝีมือหรือศิลปะในการทำงานด้วย ความรู้เกี่ยวกับงานช่างอาจได้จากการบอกเล่าสืบต่อกันมา หรือจากการศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม ประสบการณ์ในการทำงานของช่าง นอกจากจะสร้างเสริมความรู้ของช่างแล้ว ยังช่วยให้มีความชำนาญในฝีมือการทำงาน

    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง งานช่างพื้นฐานส่วนใหญ่จึงเป็นงานเกี่ยวกับงานซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุดเสียหาย เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนนัก เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การต่อท่อประปา การซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว กันสาด ผนังและถนนหรือทางเดินเท้าภายในบ้าน เป็นต้น
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดี

    Good Technicians
    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย
    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี
    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ
    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด
    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย
    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์ของงานช่างพื้นฐาน
    ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ลักษณะของงานช่างพื้นฐาน

    งานช่างพื้นฐานแต่ละงาน มีลักษณะต่าง ๆ กัน ดังนี้

    งานไฟฟ้า
    สภาพความเจริญของโลกในปัจจุบัน มีผลทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ ต้องเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมายไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ให้ความสุขสบาย ทำให้มาตรฐานการดำรงชีวิตของมนุษย์ดีขึ้น ทำให้โลกสวยงามน่าอยู่มากขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่มีคุณมีประโยชน์เหล่านี้ หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงในเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ ในการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของพลังแสงสว่าง พลังความร้อน และพลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ และการเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    2. งานช่างประปา

    น้ำเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้น้ำปรากฏว่า คนในชนบทใช้น้ำ 150 ลิตรต่อคนต่อวัน คนในเมืองใช้น้ำ 440 ลิตรต่อคนต่อวัน น้ำจึงมีความสำคัญต่อมนุษย์มาก ระบบการประปาได้แก่ การนำน้ำเข้ามาใช้ การระบายน้ำโสโครกภายในอาคารบ้านเรือนออกไป เป็นสิ่งจำเป็นและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากที่สุด ระบบประปาที่ดีมีประสิทธิภาพ จึงหมายถึงความสะดวกสบาย สุขภาพและพลานามัยของผู้อยู่อาศัย ดังนั้นความรู้เรื่องระบบน้ำประปา ระบบการระบายน้ำโสโครก สุขภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนวิธีการจัดระบบการประปา การซ่อมบำรุงรักษา จึงเป็นสิ่งจำเป็น สามารถศึกษาและปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง
    3. งานช่างไม้

    งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์เป็นของเล่นของใช้ได้อย่างเหมาะสม ทั้งที่จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและกระบวนการในการใช้ จึงจะสามารถทำงาน ไม้ได้อย่างสวยงาม เรียบร้อย มีประสิทธิภาพในการใช้เครื่องมือและใช้วัสดุ ปัจจุบันไม้มีคุณค่ามาก หายาก เพราะป่าไม้ถูกทำลายไปเกือบหมด จนต้องใช้วัสดุอื่น ๆ มาทดแทนไม้ เช่น พลาสติก โลหะ งานช่างไม้ในงานช่างพื้นฐานเป็นงานช่างไม้เบื้องต้น สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีการใช้วัสดุ และการเก็บรักษา การซ่อมบำรุงสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ ส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น
    4. งานช่างปูน

    ปัจจุบันอาคารบ้านเรือน อาคารสำนักงาน และถนนหนทางล้วนสร้างด้วยปูน ไม้ และโลหะเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น ทั้งนี้เพราะการก่อสร้างด้วยปูน มีความคงทนถาวรมากกว่าไม้ ราคาถูกกว่า หาง่ายกว่า และการดูแลรักษาน้อยกว่า งานช่างปูนจึงมีความสำคัญ เป็นงานอาชีพ และเป็นงานที่ผู้ครองเรือนควรต้องศึกษา เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานช่างปูนภายในบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เช่น การซ่อม สร้างบำรุงรักษา ส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่ทำด้วยปูน ต้องรู้จักและเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ การจัดหาวัสดุนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม
    5. งานช่างโลหะ

    ส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะหรือมีโลหะ เป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหาย ต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้อย่างสวยงาม งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีต เทคนิค และวิธีการ จำเป็นที่จะต้องศึกษารู้จักเครื่องมือ วิธีใช้ การดูแลรักษา และสามารถจัดหาวัสดุนำมาใช้งาน ได้อย่างเหมาะสม
    6. งานช่างสี

    งานช่างสี เป็นงานช่างขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เพื่อตกแต่งงานที่จัดทำสำเร็จแล้ว ให้ดูเรียบร้อยสวยงาม งานช่างสีนอกจากจะทำให้เกิดความสวยงามเรียบร้อยแล้ว ยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุ การใช้งานให้ยาวนานขึ้น งานช่างสีมีหลักวิธีการ เครื่องมือเครื่องใช้และวัสดุที่ต้องศึกษา จึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานช่างสีเป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    งานไฟฟ้า เพราะ มันอันตรายเสี่ยงต่อการโดนไฟดูด

    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์เป็นของเล่นของใช้ได้อย่างเหมาะสม

  6. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้ 1. งานเขียนแบบเป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษรูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น
    2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้
    4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้
    5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ
    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน 7.) งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้การเทปูนทางเดิน 8.) งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง
    (2).คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ=คุณสมบัติของช่างที่ดีตรงต่อเวลา รักษาวินัยเอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคีมีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพรีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัดหัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัยใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม
    (3).ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป
    (4)งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ตอบ=ช่าง หมายถึง ผู้ชำนาญในการฝีมือ หรือศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง
    งานช่าง หมายถึง การทำงาน หรือสิ่งที่เกิดจากการทำงานของช่าง ซึ่งมีหลายประเภทหลายสาขา ผู้เป็นช่างจึงมักมีคำต่อท้าย เพื่อบอกประเภทหรือสาขาของงานที่ทำ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างไม้ ช่างปูน ช่างโลหะ ช่างเขียน ช่างผม ช่างเสริมสวย เป็นต้น
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ตอบ=ช่าง หมายถึง ผู้ชำนาญในการฝีมือ หรือศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง
    งานช่าง หมายถึง การทำงาน หรือสิ่งที่เกิดจากการทำงานของช่าง ซึ่งมีหลายประเภทหลายสาขา ผู้เป็นช่างจึงมักมีคำต่อท้าย เพื่อบอกประเภทหรือสาขาของงานที่ทำ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างไม้ ช่างปูน ช่างโลหะ ช่างเขียน ช่างผม ช่างเสริมสวย เป็นต้น
    ช่างที่ดีนอกจากจะมีความรู้ในงานของตนแล้ว ยังต้องมีฝีมือหรือศิลปะในการทำงานด้วย ความรู้เกี่ยวกับงานช่างอาจได้จากการบอกเล่าสืบต่อกันมา หรือจากการศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม ประสบการณ์ในการทำงานของช่าง นอกจากจะสร้างเสริมความรู้ของช่างแล้ว ยังช่วยให้มีความชำนาญในฝีมือการทำงาน
    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง งานช่างพื้นฐานส่วนใหญ่จึงเป็นงานเกี่ยวกับงานซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุดเสียหาย เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนนัก เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การต่อท่อประปา การซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว กันสาด ผนังและถนนหรือทางเดินเท้าภายในบ้าน เป็นต้น
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ตอบ=ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้
    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม

  7. ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้ ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้ 1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น 2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย 3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ 4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้ 5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ 6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น 7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน 8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้ ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้ 1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น 2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย 3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ 4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้ 5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ 6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น 7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน 8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้ ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้ 1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น 2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย 3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ 4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในยุคการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม และสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาในด้านนี้ที่จะขาดเสียไม่ได้อย่างหนึ่งคือ ช่างที่ดี ทั้งนี้เพราะช่างนั้นมีมากมายหลายสาขา แต่เราจะหาช่างที่มีคุณสมบัติเป็นช่างที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบนั้นหาได้ยากยิ่ง ฉะนั้น บุคคลที่สมควรจะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรจะมีคุณสมบัติ 10 ประการ ดังต่อไปนี้ 1. ความสามารถ ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดี ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความสามารถในงานด้านช่างของตนอย่างดี รู้อย่างชนิดที่เรียกว่า รู้ซึ้งถึงรากฐานถึงแก่นของงานนั้น ๆ รู้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฎิบัติ ไม่ใช่รู้แบบผิวเผิน แต่ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรรู้ต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องทำอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้จึงใช้ไม่ได้ ต้องรู้ซึ้งถึงแก่นถึงเหตุถึงผลที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นตลอดเวลาที่ทำงานควรจะมีคำถามถาม ตัวเองว่าทำไมเราจึงต้องทำอย่างนี้ ทำอย่างอื่นหรือวิธีอื่นไม่ได้หรือ ซึ่งคำถามอย่างนี้จะทำให้มีคำตอบที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลติดตามมาทีหลัง นอกจากนี้แล้วผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพของตน เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ความก้าวหน้าทางด้านอุตสาห- กรรม ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือทางด้านเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ นั้น ก้าวไปอย่างรวดเร็วและไม่มีวันจะหยุดยั้ง ดังนั้น ควรหาความรู้เพิ่มเติมหรือค้นคว้าจากตำราใหม่ ๆ เท่านั้น ที่จะทำให้เราติดตามโลกทางด้านอุตสาหกรรมได้ทัน 2. ความมีประสิทธิภาพ ช่างที่ดีต้องตระหนักถึงความสำคัญของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก สำหรับลูกค้า นายจ้าง หรือผู้บังคับบัญชา ลูกค้าหรือผู้บังคับบัญชา ต้องการให้งานของเขาเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ส่วนนายจ้างก็เช่นเดียวกัน ไม่มีนายจ้างคนไหนที่คิดว่างานชิ้นนั้น ๆ จะเสร็จภายในระยะเวลากี่เดือนก็ได้ ทั้งนี้เพราะงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้นจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ จะต้องต่อสู้เอาชนะตนเองและคู่แข่งขันอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะดำรงกิจการอยู่ไม่ได้ ดังนั้น ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นมากที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. ความตั้งใจ ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของตนด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ต่องานนั้น ๆอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณภาพของงานที่ได้ออกมาไม่ดีพอ นอกจากนั้นแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเสียหายร้ายแรงขึ้นก็ได้ ดังนั้นงานทุกอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนไม่ว่า งานหนักงานเบา งานยากหรือลำบากแค่ไหน พยายามเข้าสู้ทั้งนั้น เพราะมีช่างประเภท “หนัก ก็ไม่เอา เบาก็อู้” ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาของ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างทั้งหลาย แต่บุคคลที่เอาใจใส่ในหน้าที่การงานดี มีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจเท่านั้น ที่ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างต้องการ 4. มีแบบแผน การทำงานอย่างมีแบบ­แผนว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว พวกวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้มีการจัดเป็นหมวดหมู่ วางเป็นพวกเป็นชนิด มิให้ปะปนกัน เครื่องมือชิ้นไหนที่ต้องใช้งานบ่อยก็ควรวางอยู่ในที่หยิบออกมาใช้ได้ง่าย การจัดโรงงานวางเครื่องมือ ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ ถูกต้องตาม หลักวิชาการ ส่วนการซ่อมหรือการถอดประกอบ หรือการผลิตก็เช่นเดียวกัน เพราะการทำงานอย่างมีแบบแผน มีหลักการ มีหลักวิชาที่ดีเท่านั้น ที่จะทำให้งานต่าง ๆ สำเร็จ ลุล่วงลงได้ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงพอ 5. มีมนุษยสัมพันธ์ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำงานหรือการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราอยู่ในแวดวงสังคมที่กว้างใหญ่ ต้องเผชิญหน้ากับคนหลายระดับชั้นการศึกษา ช่างที่ดีต้องมีความรู้ถึงจิตวิทยาทาง ด้านต่าง ๆ ต้องรู้จักการวางตัว การปกครอง การผูกมิตร ฯลฯ และสามารถนำมาใช้ถูกต้อง เหมาะสมกับกาลเทศะ เพราะปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ในวงงานเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก งานแต่ละอย่างมักจะมีความผูกพันกันดุจดังลูกโซ่ และเป็นที่แน่นอนว่างานแต่ละอย่าง แต่ละประเภทนั้นย่อมมีผู้ปฏิบัติงาน ผู้เข้าร่วมงานอยู่หลายฐานะหลายระดับ ซึ่งงานแต่ละอย่างจะเสร็จได้ก็ต้องมีความสามัคคีกลมเกลียวเข้าใจซึ่งกัน และกัน ถ้าความสัมพันธ์ในระหว่างหมู่คณะหรือระหว่างผู้ร่วมงาน ลูกน้องใต้บังคับบัญชาไม่ประสานกันดี แต่ละคนมีความขัดแย้งกันไม่เข้าใจกัน งานต่าง ๆ จะบรรลุผลดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องคำนึงถึงข้อนี้ไว้ให้มากตลอดระยะเวลาของการทำงาน พยายามนำเอาจิตวิทยาในด้านต่าง ๆ มาใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา 6. ความสะอาด ความสะอาดเป็นสิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปเสียไม่ได้ในงานช่าง เพราะงานบางอย่างบางชิ้นหรือการถอดประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ต้องระวังเรื่องความสะอาดมาก เป็นต้นว่างานประกอบแบริ่งหรือประกอบลูกสูบต่าง ๆ ถ้ามีผงฝุ่นหรือความสะอาดไม่พอแล้วอายุการใช้งานนั้นก็จะไม่ดีเท่าที่ควร นอก จากความสะอาดแล้ว เสื้อผ้าหรือบริเวณโรงเรียนก็เช่นเดียวกัน ควรให้มีความสะอาดพอเหมาะสมสภาพ ไม่ใช่ว่าถ้าพวกช่างเดินไปทางไหนแล้ว คนอื่น ๆ ที่พบเห็นจะพากันหลบหลีกกันหมด เพราะกลัวว่าเสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของเขาจะพลอยเปื้อนหรือสกปรกไปด้วย นอกจากนี้แล้ว ถ้าความสะอาดไม่ดีพอ อาจจะทำ ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นช่างที่ดีควรรักษาความสะอาดให้เป็นนิสัยสมกับสภาพของงานที่ทำ 7. มีความร่าเริง ทั้งนี้เพราะความสดชื่นร่าเริงเบิกบาน เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ร่วมงานพลอยมีชีวิตชีวาไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผลของการปฏิบัติงานต่าง ๆ ดีขึ้น เพราะถ้าทุกคนมีความร่าเริงแจ่มใสกระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะทำงานด้วยความเบิกบาน หรือไม่มีอารมณ์หงุดหงิดแล้ว จะมีความตั้งใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่และเต็มใจ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าผลงานที่ออกมาต้องมีคุณภาพที่ดีเสมอ 8. ความปลอดภัย ช่างที่ดีต้องรู้ถึงกฎความปลอดภัยของโรงงานและของการทำ งานต่าง ๆ ว่า มีข้อควรป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้อย่างไร เพราะงานทุกชนิดถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังหรือตามกฎเกณฑ์ที่โรงงานหรือหน่วยงานตั้งไว้ หรือทำงานโดยประมาทแล้ว ย่อมเกิดอันตรายและอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ดังนั้นในขณะปฏิบัติงานช่างที่ดีควรระลึกถึงความปลอดภัยในการทำงานอยู่เสมอ 9. พลานามัยสมบูรณ์ดี สุขภาพร่างกายของคนเรามีความสำคัญมากต่อการทำงานด้านต่าง ๆ เพราะนอกจากจะต้องใช้สมองในการวินิจฉัยไตร่ตรองแก้ไขในการปฎิบัติงานแล้ว ยังต้องใช้กำลังกายในการปฏิบติงานควบคู่กันไปด้วย ฉะนั้นช่างที่ดีนั้นควรจะต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ควรงดเว้นสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพให้เสื่อมโทรม เช่น การดื่มสุรา หรือเสพยาเสพย์ติดประเภทต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำลายร่างกายให้ สื่อมโทรมแล้ว ยังทำให้การปฏิบัติงานไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรอีกด้วย ควรรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ 10. มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทใดก็ตาม สิ่งที่จะทำให้หน่วย งานนั้นก้าวหน้าไปได้ก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ร่วมงานทุกคน ดังมีคำเปรียบเทียบไว้ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ไม่มีนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาคนใดที่ต้องการลูกน้องที่ไม่ซื่อสัตย์ การที่เป็นช่างที่ไม่ซื่อสัตย์ นอกจากจะไม่เป็นที่ต้องการของโรงงานหรือหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการทำลายอนาคตความก้าวหน้าในอาชีพของตนเองอีกด้วย ดังนั้นช่างที่ดีต้องเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงาน ต่อเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้เป็นนายจ้าง ผู้บังคับบัญชา ยอมรับการผิดพลาดในการปฎิบัติงานของตนด้วยความเต็มใจและด้วยความบริสุทธิ์ใจ บัญญัติ 10 ประการ ของช่างที่ดี ที่กล่าวมาแล้วนั้น หากนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ภายในหน่วยงานหรือกิจการใด ๆ ก็ตาม ก็จะทำให้กิจการนั้น ๆ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้การพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ของประเทศมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ได้ 5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ 6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น 7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน 8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง 2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในยุคการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม และสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาในด้านนี้ที่จะขาดเสียไม่ได้อย่างหนึ่งคือ ช่างที่ดี ทั้งนี้เพราะช่างนั้นมีมากมายหลายสาขา แต่เราจะหาช่างที่มีคุณสมบัติเป็นช่างที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบนั้นหาได้ยากยิ่ง ฉะนั้น บุคคลที่สมควรจะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรจะมีคุณสมบัติ 10 ประการ ดังต่อไปนี้ 1. ความสามารถ ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดี ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความสามารถในงานด้านช่างของตนอย่างดี รู้อย่างชนิดที่เรียกว่า รู้ซึ้งถึงรากฐานถึงแก่นของงานนั้น ๆ รู้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฎิบัติ ไม่ใช่รู้แบบผิวเผิน แต่ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรรู้ต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องทำอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้จึงใช้ไม่ได้ ต้องรู้ซึ้งถึงแก่นถึงเหตุถึงผลที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นตลอดเวลาที่ทำงานควรจะมีคำถามถาม ตัวเองว่าทำไมเราจึงต้องทำอย่างนี้ ทำอย่างอื่นหรือวิธีอื่นไม่ได้หรือ ซึ่งคำถามอย่างนี้จะทำให้มีคำตอบที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลติดตามมาทีหลัง นอกจากนี้แล้วผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพของตน เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ความก้าวหน้าทางด้านอุตสาห- กรรม ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือทางด้านเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ นั้น ก้าวไปอย่างรวดเร็วและไม่มีวันจะหยุดยั้ง ดังนั้น ควรหาความรู้เพิ่มเติมหรือค้นคว้าจากตำราใหม่ ๆ เท่านั้น ที่จะทำให้เราติดตามโลกทางด้านอุตสาหกรรมได้ทัน 2. ความมีประสิทธิภาพ ช่างที่ดีต้องตระหนักถึงความสำคัญของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก สำหรับลูกค้า นายจ้าง หรือผู้บังคับบัญชา ลูกค้าหรือผู้บังคับบัญชา ต้องการให้งานของเขาเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ส่วนนายจ้างก็เช่นเดียวกัน ไม่มีนายจ้างคนไหนที่คิดว่างานชิ้นนั้น ๆ จะเสร็จภายในระยะเวลากี่เดือนก็ได้ ทั้งนี้เพราะงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้นจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ จะต้องต่อสู้เอาชนะตนเองและคู่แข่งขันอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะดำรงกิจการอยู่ไม่ได้ ดังนั้น ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นมากที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. ความตั้งใจ ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของตนด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ต่องานนั้น ๆอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณภาพของงานที่ได้ออกมาไม่ดีพอ นอกจากนั้นแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเสียหายร�

  8. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ เป็นงานที่่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ ตรงต่อเวลา รักษาวินัยมีความรู้ความเข้าใจ

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ มีความรู้

  9. 1..ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

  10. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้

    1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

    2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย

    3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้

    4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้

    5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ

    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

    7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน

    8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    งานไฟฟ้า
    งานไฟฟ้ามีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาขนในปัจจุบันเป็นอย่างมากไม่ว่าจะ
    เป็นการนำมาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในบ้าน หรือเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ดังนั้นการมีความรู้เกี่ยวกับหลักการ วิธีการ วัสดุอุปกรณ์และความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
    งานประปา
    ระบบประปาในอาคารบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัย
    ช่างประปาจึงต้องมีความเข้าใจในการอ่านแบบ วิธีการต่อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
    งานไม้
    งานไม้เป็นงานที่สำคัญอีกประเภทหนึ่งภายในบ้าน ใช้ซ่อมแซมและดัดแปลงอุปกรณ์
    เครื่องใช้ หรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน เป็นการประหยัดรายจ่ายภายในครอบครัว
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    1. กล้าเสี่ยง
    อาชีพอิสระเป็นการประกอบธุรกิจส่วนตัว จึงต้องมีการลงทุนในขณะที่ถ้าเป็นลูกจ้างไม่ต้องลงทุนอะไร ซึ่งการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเพราะไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร ดังนั้น ก่อนที่จะตกลงใจประกอบอาชีพใดจึงต้องพิจารณา วิเคราะห์ และไตร่ตรองอย่างดีเสียก่อน

    2. ความคิดสร้างสรรค์
    การประกอบอาชีพอิสระมิได้ยึดติดกับรูปแบบใดๆ เนื่องจากผู้ประกอบอาชีพอิสระต้องเป็นนายของตนเอง ดังนั้น ในการปรับปรุงสินค้าหรือบริการสามารถทำได้อย่างมีอิสระเพื่อให้ได้มาซึ่งกำไรในการดำเนินธุรกิจ

    3. ความเชื่อมั่นในตนเอง
    ผู้ประกอบอาชีพอิสระ จะต้องมีความเชื่อมั่นในการดำเนินกิจการของตนเองให้อยู่รอดและฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นได้

    4. ความอดทน
    การดำเนินธุรกิจย่อมมีกำไรและขาดทุน โดยเฉพาะเมื่อเริ่มประกอบการอาจต้องประสบปัญหาและอุปสรรคบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา ผู้ประกอบการจึงต้องพร้อมที่จะยอมรับข้อผิดพลาดและนำมาแก้ไขด้วยความอดทนไม่ท้อถอย

    5. มีวินัยในตนเอง
    การประสบความสำเร็จในอาชีพซึ่งเราเป็นเจ้าของกิจการเอง จำเป็นต้องมีวินัย มีกฎระเบียบ การทำงานสม่ำเสมอ มิเช่นนั้นอาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ

    6. มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ
    ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานที่มีเกียรติหรือไม่ ผู้ประกอบอาชีพอิสระจะต้องรักในงานที่ทำและให้เกียรติกับงานนั้นๆ เสมอ

    7. มีความรอบรู้
    การประกอบอาชีพอิสระจะต้องรับรู้ข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ประโยชน์ของการรับรู้ข่าวสารจะทำให้สามารถปรับปรุงธุรกิจของตนเองให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ผลที่ได้คือกำไรนั่นเอง

    8. มีมนุษย์สัมพันธ์
    การประกอบอาชีพอิสระจะต้องเป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์อันดี เพื่อผลประโยชน์ในธุรกิจของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า บุคคลรอบข้างหรือคู่แข่งขันก็ตาม เพราะการมีมนุษย์สัมพันธ์อันดีจะทำให้มีความคล่องตัวในการดำเนินงานอย่างยิ่ง

    9. มีความซื่อสัตย์
    ผู้ประกอบอาชีพอิสระจะต้องมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า การบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจในการขายสันค้าหรือบริการและกลับมาใช้บริการอีกเป็นหัวใจสูงสุดเพื่อผลประโยชน์ต่อธุรกิจและต่อตนเองในที่สุด

    10. มีความรู้พื้นฐานในการเริ่มทำธุรกิจ
    การที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เราควรได้รู้จักสิ่งที่ทำอย่างน้อยให้รู้ว่าทำจากอะไร ซื้อวัตถุดิบจากไหน ตลาดอยู่แหล่งใด และหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมจะหาได้จากที่ไหน

    11. มีการพัฒนาตนเองให้มีคุณลักษณะเหมาะสมกับการประกอบอาชีพอิสระ
    เมื่อมีความรู้พื้นฐานในการประกอบอาชีพอิสระแล้ว อีกทั้งยังต้องพัฒนาตนเองให้มีคุณลักษณะเหมาะสมกับการประกอบอาชีพนั้นๆ เช่น หากเป็นช่างเสริมสวยก็ต้องพัฒนาตนเองให้ดูสวยงาม เมื่อลูกค้าเห็นจะได้ดูน่าเชื่อถือหรือหากเลือกที่จะขายอาหาร ผู้ขายก็ควรแต่งตัวให้ดูสะอาด ไม่สูบบุหรี่ขณะทำอาหาร เป็นต้น

  11. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ= ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้
    1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น
    2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้
    4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้
    5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ
    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น
    7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน
    8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ= -ตรงต่อเวลา รักษาวินัย -เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี -มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ -รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด -หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย -ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้
    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ตอบ= 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ตอบ=งานไฟฟ้า
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ตอบ=ทักษะ

  12. 1. .ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    เป้สสสก
    ตอบ=เป็นงานที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
    2..คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม
    3..ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=การงานที่ดีทำงต้องมีขั้นตอนจากการนเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจทำงานและปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ตอบ=1 การเปลี่ยนลูกบิดประตู
    2 การซ่อมปูนยาแนวกระเบื้อง
    3 การเปลี่ยนก๊อกน้ำ
    4 การซ่อมดวงโคมส่องสว่าง
    5 การซ่อมเก้าอี้
    6 การซ่อมสีชั้นวางถ้วยชาม
    5. นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ตอบ= 1. การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน

    2. การเปลี่ยนก๊อกน้ำปะปา

    3. แก้ไขปรับปรุงคอมพิวเตอร์

    4. ซ่อมแซมถนนเข้าบ้าน
    6. คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ตอบ= 1. ขยัน อดทน รับผิดชอบสูง

    2. มีความรู้เกี่ยวกับชนิด ประเภทของไม้

    3. ใช้เครื่องมือได้ทุกประเภท

    4. มีความคิดสร้างสรรค์

  13. 3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ จุดมุ่งหมายความสำคัญของงานวิจัย; ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา; วิธีการและ เทคนิค; เทคนิคการเขียนความสำคัญของการ … ผู้วิจัยต้องแสดงให้เห็นว่า มีความรู้พื้นฐาน และเข้าใจในปัญหา … ความจำเป็น คุณค่าและประโยชน์ที่จะได้รับอย่างมีเหตุผล ระบุ เป็นไป ตามคาดหมาย … อย่างชัดเจน จะทำให้ทราบถึงชนิดของตัวแปรและจำนวนของตัวแปรที่

  14. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด

    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด

    ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่าง
    งานช่างพื้นฐานเป็นงานช่างง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง และเกี่ยวข้อง

    กับชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นเรื่องง่าย ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม สิ่งของ
    เครื่องใช้ในบ้านเล็กน้อย ๆ เช่น ซ่อมโต๊ะ-เก้าอี้ เปลี่ยนก๊อกน้ำ ต่อวงจรไฟฟ้าแสงสว่าง
    ซึ่งมีประโยชน์คือ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ลดค่าใช้จ่ายและช่วยแก้ปัญหาในครอบครัว
    ได้…

    ลักษณะของงานช่างพื้นฐาน
    หากจะแบ่งตามลักษณะของงาน สามารถแบ่งงานช่างพื้นฐานออกได้เป็น 7 งาน ดังนี้
    1. งานออกแบบ
    2. งานไฟฟ้า
    3. งานประปา
    4. งานไม้
    5. งานปูน
    6. งานโลหะ
    7. งานสี

    ซึ่งงานช่างพื้นฐานแต่ละงานมีลักษณะของงานที่แตกต่างกัน พอสรุปได้ดังนี

    งานออกแบบ
    งานออกแบบเป็นการถ่ายทอดความคิด จินตนาการของผู้ออกแบบเพื่อสร้างสรรค์ความคิด
    ออกมาเป็นรูปภาพด้วยการใช้เส้นแบบต่าง ๆ เช่นเส้นตรง เส้นโค้งหรือจุด เพื่อสร้างแบบภาพ
    สื่อความหมายให้ผู้ปฏิบัติได้เข้าใจตรงกันกับผู้ออกแบบ โดยมีการกำหนดเป็นสัญลักษณ์หรือ
    รูปภาพต่าง ๆ เพื่ออธิบายความหมายของแบบให้เข้าใจ เช่นสมชายเขียนแบบเก้าอี้ที่เขาต้องการ
    สร้าง โดยใช้เส้นต่าง ๆ ประกอบกันเป็นแบบของเก้าอี้ แต่สมชายไม่มีความถนัดในงานช่างไม้
    เขาจึงนำแบบที่เขาเขียนไปให้ช่างไม้เป็นคนจัดทำเก้าอี้ให้ เป็นต้น ลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของ
    งานออกแบบคือ แบบที่คิดขึ้นนี้อาจเป็นแบบที่นำไปสร้างเป็นชิ้นงานได้จริง หรือเป็นเพียงแบบ
    ในจินตนาการก็ได้

    งานไฟฟ้า
    งานไฟฟ้า เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการอ่านแบบวงจรไฟฟ้า เรียนรู้ถึงลักษณะและหน้าที่ของ
    อุปกรณ์ไฟฟ้าในวงจร การต่อวงจรไฟฟ้าแบบต่าง ๆ รวมถึงการตรวจซ่อมวงจรไฟฟ้าในบ้าน
    เบื้องต้น ซึ่งผู้ปฏิบัติต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะไฟฟ้าถึงจะมีคุณอนันต์ แต่ถ้า
    หากใช้ไม่ถูกต้อง หรือประมาทเลินเล่อ ผู้ปฏิบัติก็อาจจะได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ ฉะนันจึงต้อง
    มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อมงความปลอดภัยในการปฏิบัติงานไฟฟ้าด้วย

    งานประปา
    งานประปา ในบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้งานช่างประเภทอื่น ๆ เพราะชีวิตประจำวันของเราต้อง
    เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำเพื่ออุปโภค หรือบริโภค ซึ่งงานประปาจะเกี่ยวข้องกับการอ่านแบบประปา
    การวางแผนในการต่อท่อ วิธีการต่อท่อแบบต่าง ๆ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในงานประปา ถ้า
    ผู้ปฏิบัติมีความรู้และทักษะในงานประปาดีแล้ว ย่อมทำให้ประหยัดทั้้งเงินและเวลาในการซ่อม
    บำรุงหรือขยายระบบประปาภายในบ้านได้

    งานปูน
    งานปูนเป็นงานที่ทุกคนควรศึกษา และสามารถพัฒนาทักษะเป็นงานอาชีพได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ปฏิบัติ
    งานปูนพื้นฐานสามารถที่จะปฏิบัติเองได้ เช่น การซ่อม สร้างหรือบำรุงรักษาส่วนต่าง ๆ ของบ้าน
    ที่ทำมาจากปูนได้ ต้องอาศัยความรู้และเข้าใจในเรื่องของปูน เลือกใช้เครื่องมือได้ถูกต้อง และ
    สามารถจัดหาวัสดุและนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม

    งานโลหะ
    งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัย ทักษะ แรงกาย และความอดทน ความประณีตรวมถึงทักษะ เทคนิค
    และวิธีการ ประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง งานที่ทำจึงจะมีคุณภาพดีและเกิดความปลอดภัย
    ในการทำงาน
    ปัจจุบัน ส่วนประกอบต่าง ๆ ของอาคารบ้านเรือน ล้วนแต่ประกอบด้วยโลหะ การเรียนรู้เรื่องโลหะ
    จึงมีความจำเป็นเพื่อที่ผู้ปฏิบัติจะสามารถสร้างดัดแปลง ซ่อมแซมส่วนประกอบหรือเครื่องใช้ที่เป็น
    โลหะได้อย่างสวยงานและเหมาะสม

    งานสี
    เป็นงานขั้นตอนสุดท้ายของงานช่าง เพราะงานสีเป็นงานที่ช่วยเสริมสร้างอารมณ์ความรู้สึกเกิดขึ้น
    กับผู้ใช้เครื่องใช้นั้น และยังช่วยยึดอายุการใช้งานของชิ้นงานนั้น ๆ ได้ด้วย แต่ผู้ปฏิบัติก็ควรที่จะมี
    ความรู้และเข้าใจในชนิดและประเภทของสี เพื่อสามารถเลือกใช้สีได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนเลือก
    ใช้เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับงานสีได้อย่างเหมาะสมด้วย จึงจะทำให้การปฏิบัติงานสีนั้นเกิดประสิทธิภาพ
    ซึ่งงานสีนี้ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง

    2 ศึกษาทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึก ในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมเพื่อการดำรงชีวิตและครอบครัว เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิ่งของเครื่องใช้ หรือวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคมสิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในการจัดการเทคโนโลยีที่ยั่งยืน เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูล การเรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทำงาน และอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีคุณธรรมเข้าใจ มีทักษะที่จำเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอาชีพ มีคุณธรรม และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ

    3 ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี

    4 หากจะแบ่งตามลักษณะของงาน สามารถแบ่งงานช่างพื้นฐานออกได้เป็น 7 งาน ดังนี้
    1. งานออกแบบ
    2. งานไฟฟ้า
    3. งานประปา
    4. งานไม้
    5. งานปูน
    6. งานโลหะ
    7. งานสี

    5 งานโลหะ
    งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัย ทักษะ แรงกาย และความอดทน ความประณีตรวมถึงทักษะ เทคนิค
    และวิธีการ ประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง งานที่ทำจึงจะมีคุณภาพดีและเกิดความปลอดภัย
    ในการทำงาน
    ปัจจุบัน ส่วนประกอบต่าง ๆ ของอาคารบ้านเรือน ล้วนแต่ประกอบด้วยโลหะ การเรียนรู้เรื่องโลหะ
    จึงมีความจำเป็นเพื่อที่ผู้ปฏิบัติจะสามารถสร้างดัดแปลง ซ่อมแซมส่วนประกอบหรือเครื่องใช้ที่เป็น
    โลหะได้อย่างสวยงานและเหมาะสม

    6 เพราะไม้ยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของบ้าน รวมทั้งเครื่องเรือนเครื่องมือเครื่องใช้ ตลอกจนวัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่ทำมาจากไม้และงานช่างไม้ยังเป็นพื้นฐานของงานช่างสาขาอื่นๆอีกด้วย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

  15. 1. .ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    เป้สสสก
    ตอบ=เป็นงานที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
    2..คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม
    3..ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ==การงานที่ดีทำงต้องมีขั้นตอนจากการนเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจทำงานและปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ตอบ=1 การเปลี่ยนลูกบิดประตู
    2 การซ่อมปูนยาแนวกระเบื้อง
    3 การเปลี่ยนก๊อกน้ำ
    4 การซ่อมดวงโคมส่องสว่าง
    5 การซ่อมเก้าอี้
    6 การซ่อมสีชั้นวางถ้วยชาม
    5. นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ตอบ= 1. การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน

    2. การเปลี่ยนก๊อกน้ำปะปา

    3. แก้ไขปรับปรุงคอมพิวเตอร์

    4. ซ่อมแซมถนนเข้าบ้าน
    6. คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ตอบ= 1. ขยัน อดทน รับผิดชอบสูง

    2. มีความรู้เกี่ยวกับชนิด ประเภทของไม้

    3. ใช้เครื่องมือได้ทุกประเภท

    4. มีความคิดสร้างสรรค์

  16. 4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง

    ปัจจุบันภายในครอบครัวมีเครื่องใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งการติดตั้งการดูแลรักษา และการซ่อมแซม จะต้องอาศัยความรู้ ทักษะ ดังนั้นผู้ใช้จะต้องรู้จักส่วนประกอบและการใช้อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ เครื่องใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัยรายละเอียดสาระการเรียนรู้

  17. 2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ

    ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อ

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง

    ตอบ=8ประเภท
    1. งานเขียนแบบ
    2. งานไฟฟ้า
    3. งานช่างยนต์
    4. งานโลหะ
    5. งานประปา
    6. งานไม้
    7. งานปูน
    8. งานสี
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด

    งานปูน
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด

    ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

  18. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ

    ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง

    1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น
    2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้
    4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้
    5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ
    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น
    7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน
    8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด

    งานช่างไฟฟ้า

    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด

    งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

  19. ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้

    1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ มีความรุ้ ความเข้าใจ ความปลอดภัย
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือช่างเเละวิธีใช้
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ตอบ งานซ่อมเเซม งานบำรุงรักษา งานติดตั้ง งานประกอบเป็นต้น
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ตอบ งานคอนกรีต งานไฟฟ้า
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่
    ตอบ การวางเเผน ขั้นตอนการทำงาน

  20. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ

    ตอบ มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก หรือเพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการทำงานพื้นฐานของงานแต่ละสาขา
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ เป็นการฝึกฝนการเรียนรู้เพื่อเป็นช่างฝีมือในอนาคต 4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้า ตอบ 3งาน 1การซ่อมแซม2 งานบำรุงรักษา3งานติดตั้งหรืองานประกอบ

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด

    ตอบ งานซ่อมแซม 6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด

    ตอบ ต้องยึดหลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

  21. 5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด

    ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนมากนัก
    ใช้เวลานานในการซ่อมแซม

    มีความชำนาญมาก

    นำไปใช้ในการประกอบอาชีพ
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ความสามารถ ความมีประสิทธิภาพ ความตั้งใจ มีแบบแผน

  22. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานงานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

    งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

    งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

  23. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=งานช่างเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง งานช่างพื้นฐานส่วนใหญ่จึงเป็นงานเกี่ยวกับงานซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุดเสียหาย เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนนัก เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การต่อท่อประปา การซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว กันสาด ผนังและถนนหรือทางเดินเท้าภายในบ้าน
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง

    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ

    ตอบ= ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง

    ตอบ=จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
    งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น
    งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
    งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่างเป็นกระบวนการ เพื่อวางแผนการปฏิบัติงาน ให้ได้ผลผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการ เช่นโรงงานผลิตยางรถยนต์

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด

    ตอบ=งานช่างพื้นฐานเกี่ยวกับโลหะ

    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด

    ตอบ=
    ความสำคัญของงานช่างไม้ มีความสอดคล้องกับความสำคัญของไม้ที่ใช้ในงานก่อสร้าง เนื่องจากไม้ เป็นวัสดุก่อสร้างที่หาได้ยาก และมีราคางานไม้ที่แพงกว่าวัสดุทดแทนประเภทอื่น แต่ถึงกระนั้น ไม้ยังคงเป็นที่ต้องการในงานประเภท เช่น วงกบไม้ ประตูไม้ หน้าต่างไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ งานแกะสลักไม้ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการตกแต่งบ้าน ช่างไม้มืออาชีพจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน ช่างไม้ที่ดีต้องมีทักษะและความชำนาญงานในหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี มีใจรักในหน้าที่ มีความคิดสร้างสรรงานไม้ให้ออกมาสวยงาม มีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังต้องมีความรับผิดชอบสูง สามารถใช้งานไม้ได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถแบ่งประเภทของงานช่างไม้ออกเป็น 4 ประเภทคือ งานช่างไม้ก่อสร้าง งานช่างไม้ครุภัณฑ์ งานช่างไม้ออกแบบ และงานช่างไม้แกะสลัก

  24. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้ ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้ 1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น 2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย 3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ 4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้ 5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ 6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น 7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน 8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง 2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในยุคการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม และสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาในด้านนี้ที่จะขาดเสียไม่ได้อย่างหนึ่งคือ ช่างที่ดี ทั้งนี้เพราะช่างนั้นมีมากมายหลายสาขา แต่เราจะหาช่างที่มีคุณสมบัติเป็นช่างที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบนั้นหาได้ยากยิ่ง ฉะนั้น บุคคลที่สมควรจะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรจะมีคุณสมบัติ 10 ประการ ดังต่อไปนี้ 1. ความสามารถ ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดี ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความสามารถในงานด้านช่างของตนอย่างดี รู้อย่างชนิดที่เรียกว่า รู้ซึ้งถึงรากฐานถึงแก่นของงานนั้น ๆ รู้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฎิบัติ ไม่ใช่รู้แบบผิวเผิน แต่ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรรู้ต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องทำอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้จึงใช้ไม่ได้ ต้องรู้ซึ้งถึงแก่นถึงเหตุถึงผลที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นตลอดเวลาที่ทำงานควรจะมีคำถามถาม ตัวเองว่าทำไมเราจึงต้องทำอย่างนี้ ทำอย่างอื่นหรือวิธีอื่นไม่ได้หรือ ซึ่งคำถามอย่างนี้จะทำให้มีคำตอบที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลติดตามมาทีหลัง นอกจากนี้แล้วผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพของตน เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ความก้าวหน้าทางด้านอุตสาห- กรรม ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือทางด้านเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ นั้น ก้าวไปอย่างรวดเร็วและไม่มีวันจะหยุดยั้ง ดังนั้น ควรหาความรู้เพิ่มเติมหรือค้นคว้าจากตำราใหม่ ๆ เท่านั้น ที่จะทำให้เราติดตามโลกทางด้านอุตสาหกรรมได้ทัน 2. ความมีประสิทธิภาพ ช่างที่ดีต้องตระหนักถึงความสำคัญของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก สำหรับลูกค้า นายจ้าง หรือผู้บังคับบัญชา ลูกค้าหรือผู้บังคับบัญชา ต้องการให้งานของเขาเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ส่วนนายจ้างก็เช่นเดียวกัน ไม่มีนายจ้างคนไหนที่คิดว่างานชิ้นนั้น ๆ จะเสร็จภายในระยะเวลากี่เดือนก็ได้ ทั้งนี้เพราะงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้นจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ จะต้องต่อสู้เอาชนะตนเองและคู่แข่งขันอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะดำรงกิจการอยู่ไม่ได้ ดังนั้น ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นมากที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. ความตั้งใจ ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของตนด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ต่องานนั้น ๆอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณภาพของงานที่ได้ออกมาไม่ดีพอ นอกจากนั้นแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเสียหายร้ายแรงขึ้นก็ได้ ดังนั้นงานทุกอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนไม่ว่า งานหนักงานเบา งานยากหรือลำบากแค่ไหน พยายามเข้าสู้ทั้งนั้น เพราะมีช่างประเภท “หนัก ก็ไม่เอา เบาก็อู้” ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาของ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างทั้งหลาย แต่บุคคลที่เอาใจใส่ในหน้าที่การงานดี มีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจเท่านั้น ที่ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างต้องการ 4. มีแบบแผน การทำงานอย่างมีแบบ­แผนว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว พวกวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้มีการจัดเป็นหมวดหมู่ วางเป็นพวกเป็นชนิด มิให้ปะปนกัน เครื่องมือชิ้นไหนที่ต้องใช้งานบ่อยก็ควรวางอยู่ในที่หยิบออกมาใช้ได้ง่าย การจัดโรงงานวางเครื่องมือ ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ ถูกต้องตาม หลักวิชาการ ส่วนการซ่อมหรือการถอดประกอบ หรือการผลิตก็เช่นเดียวกัน เพราะการทำงานอย่างมีแบบแผน มีหลักการ มีหลักวิชาที่ดีเท่านั้น ที่จะทำให้งานต่าง ๆ สำเร็จ ลุล่วงลงได้ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงพอ 5. มีมนุษยสัมพันธ์ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำงานหรือการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราอยู่ในแวดวงสังคมที่กว้างใหญ่ ต้องเผชิญหน้ากับคนหลายระดับชั้นการศึกษา ช่างที่ดีต้องมีความรู้ถึงจิตวิทยาทาง ด้านต่าง ๆ ต้องรู้จักการวางตัว การปกครอง การผูกมิตร ฯลฯ และสามารถนำมาใช้ถูกต้อง เหมาะสมกับกาลเทศะ เพราะปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ในวงงานเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก งานแต่ละอย่างมักจะมีความผูกพันกันดุจดังลูกโซ่ และเป็นที่แน่นอนว่างานแต่ละอย่าง แต่ละประเภทนั้นย่อมมีผู้ปฏิบัติงาน ผู้เข้าร่วมงานอยู่หลายฐานะหลายระดับ ซึ่งงานแต่ละอย่างจะเสร็จได้ก็ต้องมีความสามัคคีกลมเกลียวเข้าใจซึ่งกัน และกัน ถ้าความสัมพันธ์ในระหว่างหมู่คณะหรือระหว่างผู้ร่วมงาน ลูกน้องใต้บังคับบัญชาไม่ประสานกันดี แต่ละคนมีความขัดแย้งกันไม่เข้าใจกัน งานต่าง ๆ จะบรรลุผลดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องคำนึงถึงข้อนี้ไว้ให้มากตลอดระยะเวลาของการทำงาน พยายามนำเอาจิตวิทยาในด้านต่าง ๆ มาใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา 6. ความสะอาด ความสะอาดเป็นสิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปเสียไม่ได้ในงานช่าง เพราะงานบางอย่างบางชิ้นหรือการถอดประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ต้องระวังเรื่องความสะอาดมาก เป็นต้นว่างานประกอบแบริ่งหรือประกอบลูกสูบต่าง ๆ ถ้ามีผงฝุ่นหรือความสะอาดไม่พอแล้วอายุการใช้งานนั้นก็จะไม่ดีเท่าที่ควร นอก จากความสะอาดแล้ว เสื้อผ้าหรือบริเวณโรงเรียนก็เช่นเดียวกัน ควรให้มีความสะอาดพอเหมาะสมสภาพ ไม่ใช่ว่าถ้าพวกช่างเดินไปทางไหนแล้ว คนอื่น ๆ ที่พบเห็นจะพากันหลบหลีกกันหมด เพราะกลัวว่าเสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของเขาจะพลอยเปื้อนหรือสกปรกไปด้วย นอกจากนี้แล้ว ถ้าความสะอาดไม่ดีพอ อาจจะทำ ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นช่างที่ดีควรรักษาความสะอาดให้เป็นนิสัยสมกับสภาพของงานที่ทำ 7. มีความร่าเริง ทั้งนี้เพราะความสดชื่นร่าเริงเบิกบาน เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ร่วมงานพลอยมีชีวิตชีวาไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผลของการปฏิบัติงานต่าง ๆ ดีขึ้น เพราะถ้าทุกคนมีความร่าเริงแจ่มใสกระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะทำงานด้วยความเบิกบาน หรือไม่มีอารมณ์หงุดหงิดแล้ว จะมีความตั้งใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่และเต็มใจ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าผลงานที่ออกมาต้องมีคุณภาพที่ดีเสมอ 8. ความปลอดภัย ช่างที่ดีต้องรู้ถึงกฎความปลอดภัยของโรงงานและของการทำ งานต่าง ๆ ว่า มีข้อควรป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้อย่างไร เพราะงานทุกชนิดถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังหรือตามกฎเกณฑ์ที่โรงงานหรือหน่วยงานตั้งไว้ หรือทำงานโดยประมาทแล้ว ย่อมเกิดอันตรายและอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ดังนั้นในขณะปฏิบัติงานช่างที่ดีควรระลึกถึงความปลอดภัยในการทำงานอยู่เสมอ 9. พลานามัยสมบูรณ์ดี สุขภาพร่างกายของคนเรามีความสำคัญมากต่อการทำงานด้านต่าง ๆ เพราะนอกจากจะต้องใช้สมองในการวินิจฉัยไตร่ตรองแก้ไขในการปฎิบัติงานแล้ว ยังต้องใช้กำลังกายในการปฏิบติงานควบคู่กันไปด้วย ฉะนั้นช่างที่ดีนั้นควรจะต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ควรงดเว้นสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพให้เสื่อมโทรม เช่น การดื่มสุรา หรือเสพยาเสพย์ติดประเภทต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำลายร่างกายให้ สื่อมโทรมแล้ว ยังทำให้การปฏิบัติงานไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรอีกด้วย ควรรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ 10. มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทใดก็ตาม สิ่งที่จะทำให้หน่วย งานนั้นก้าวหน้าไปได้ก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ร่วมงานทุกคน ดังมีคำเปรียบเทียบไว้ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ไม่มีนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาคนใดที่ต้องการลูกน้องที่ไม่ซื่อสัตย์ การที่เป็นช่างที่ไม่ซื่อสัตย์ นอกจากจะไม่เป็นที่ต้องการของโรงงานหรือหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการทำลายอนาคตความก้าวหน้าในอาชีพของตนเองอีกด้วย ดังนั้นช่างที่ดีต้องเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงาน ต่อเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้เป็นนายจ้าง ผู้บังคับบัญชา ยอมรับการผิดพลาดในการปฎิบัติงานของตนด้วยความเต็มใจและด้วยความบริสุทธิ์ใจ บัญญัติ 10 ประการ ของช่างที่ดี ที่กล่าวมาแล้วนั้น หากนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ภายในหน่วยงานหรือกิจการใด ๆ ก็ตาม ก็จะทำให้กิจการนั้น ๆ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้การพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ของประเทศมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ได้ 3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ ประโยชน์ของงานช่างพื้นฐาน ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้ ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี 4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่าง 5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย 6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด ทักษะในการทำงาน 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้ ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้ 1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น 2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย 3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ 4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้ 5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ 6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น 7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน 8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง 2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในยุคการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม และสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาในด้านนี้ที่จะขาดเสียไม่ได้อย่างหนึ่งคือ ช่างที่ดี ทั้งนี้เพราะช่างนั้นมีมากมายหลายสาขา แต่เราจะหาช่างที่มีคุณสมบัติเป็นช่างที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบนั้นหาได้ยากยิ่ง ฉะนั้น บุคคลที่สมควรจะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรจะมีคุณสมบัติ 10 ประการ ดังต่อไปนี้ 1. ความสามารถ ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดี ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความสามารถในงานด้านช่างของตนอย่างดี รู้อย่างชนิดที่เรียกว่า รู้ซึ้งถึงรากฐานถึงแก่นของงานนั้น ๆ รู้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฎิบัติ ไม่ใช่รู้แบบผิวเผิน แต่ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรรู้ต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องทำอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้จึงใช้ไม่ได้ ต้องรู้ซึ้งถึงแก่นถึงเหตุถึงผลที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นตลอดเวลาที่ทำงานควรจะมีคำถามถาม ตัวเองว่าทำไมเราจึงต้องทำอย่างนี้ ทำอย่างอื่นหรือวิธีอื่นไม่ได้หรือ ซึ่งคำถามอย่างนี้จะทำให้มีคำตอบที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลติดตามมาทีหลัง นอกจากนี้แล้วผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพของตน เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ความก้าวหน้าทางด้านอุตสาห- กรรม ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือทางด้านเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ นั้น ก้าวไปอย่างรวดเร็วและไม่มีวันจะหยุดยั้ง ดังนั้น ควรหาความรู้เพิ่มเติมหรือค้นคว้าจากตำราใหม่ ๆ เท่านั้น ที่จะทำให้เราติดตามโลกทางด้านอุตสาหกรรมได้ทัน 2. ความมีประสิทธิภาพ ช่างที่ดีต้องตระหนักถึงความสำคัญของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก สำหรับลูกค้า นายจ้าง หรือผู้บังคับบัญชา ลูกค้าหรือผู้บังคับบัญชา ต้องการให้งานของเขาเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ส่วนนายจ้างก็เช่นเดียวกัน ไม่มีนายจ้างคนไหนที่คิดว่างานชิ้นนั้น ๆ จะเสร็จภายในระยะเวลากี่เดือนก็ได้ ทั้งนี้เพราะงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้นจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ จะต้องต่อสู้เอาชนะตนเองและคู่แข่งขันอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะดำรงกิจการอยู่ไม่ได้ ดังนั้น ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นมากที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. ความตั้งใจ ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของตนด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ต่องานนั้น ๆอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณภาพของงานที่ได้ออกมาไม่ดีพอ นอกจากนั้นแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเสียหายร้ายแรงขึ้นก็ได้ ดังนั้นงานทุกอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนไม่ว่า งานหนักงานเบา งานยากหรือลำบากแค่ไหน พยายามเข้าสู้ทั้งนั้น เพราะมีช่างประเภท “หนัก ก็ไม่เอา เบาก็อู้” ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาของ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างทั้งหลาย แต่บุคคลที่เอาใจใส่ในหน้าที่การงานดี มีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจเท่านั้น ที่ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างต้องการ 4. มีแบบแผน การทำงานอย่างมีแบบ­แผนว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว พวกวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้มีการจัดเป็นหมวดหมู่ วางเป็นพวกเป็นชนิด มิให้ปะปนกัน เครื่องมือชิ้นไหนที่ต้องใช้งานบ่อยก็ควรวางอยู่ในที่หยิบออกมาใช้ได้ง่าย การจัดโรงงานวางเครื่องมือ ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ ถูกต้องตาม หลักวิชาการ ส่วนการซ่อมหรือการถอดประกอบ หรือการผลิตก็เช่นเดียวกัน เพราะการทำงานอย่างมีแบบแผน มีหลักการ มีหลักวิชาที่ดีเท่านั้น ที่จะทำให้งานต่าง ๆ สำเร็จ ลุล่วงลงได้ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงพอ 5. มีมนุษยสัมพันธ์ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำงานหรือการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราอยู่ในแวดวงสังคมที่กว้างใหญ่ ต้องเผชิญหน้ากับคนหลายระดับชั้นการศึกษา ช่างที่ดีต้องมีความรู้ถึงจิตวิทยาทาง ด้านต่าง ๆ ต้องรู้จักการวางตัว การปกครอง การผูกมิตร ฯลฯ และสามารถนำมาใช้ถูกต้อง เหมาะสมกับกาลเทศะ เพราะปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ในวงงานเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก งานแต่ละอย่างมักจะมีความผูกพันกันดุจดังลูกโซ่ และเป็นที่แน่นอนว่างานแต่ละอย่าง แต่ละประเภทนั้นย่อมมีผู้ปฏิบัติงาน ผู้เข้าร่วมงานอยู่หลายฐานะหลายระดับ ซึ่งงานแต่ละอย่างจะเสร็จได้ก็ต้องมีความสามัคคีกลมเกลียวเข้าใจซึ่งกัน และกัน ถ้าความสัมพันธ์ในระหว่างหมู่คณะหรือระหว่างผู้ร่วมงาน ลูกน้องใต้บังคับบัญชาไม่ประสานกันดี แต่ละคนมีความขัดแย้งกันไม่เข้าใจกัน งานต่าง ๆ จะบรรลุผลดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องคำนึงถึงข้อนี้ไว้ให้มากตลอดระยะเวล

  25. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย
    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี
    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ
    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด
    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย
    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้
    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
    งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น
    งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
    งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่างเป็นกระบวนการ เพื่อวางแผนการปฏิบัติงาน ให้ได้ผลผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการ เช่นโรงงานผลิตยางรถยนต์ เป็นต้น

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    1. การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน
    2. การเปลี่ยนก๊อกน้ำประปา
    3. แก้ไขปรับปรุงคอมพิวเตอร์
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    คืองานที่ต้องอาศัยทักษะ การคิดวิเคราะห์ การลงมือแก้ไข ลักษะ
    คาว ช่าง งาน อย่างไร บ้าง ทักษะ ลงมือ วิเคราะห์.

    ตอบ

    ตอ

  26. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น

    ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้

    ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป

    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น

    ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้

    1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

    2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย

    3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้

    4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้

    5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ

    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

    7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน

    8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในยุคการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม และสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาในด้านนี้ที่จะขาดเสียไม่ได้อย่างหนึ่งคือ ช่างที่ดี ทั้งนี้เพราะช่างนั้นมีมากมายหลายสาขา แต่เราจะหาช่างที่มีคุณสมบัติเป็นช่างที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบนั้นหาได้ยากยิ่ง

    ฉะนั้น บุคคลที่สมควรจะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรจะมีคุณสมบัติ 10 ประการ ดังต่อไปนี้

    1. ความสามารถ ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดี ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความสามารถในงานด้านช่างของตนอย่างดี รู้อย่างชนิดที่เรียกว่า รู้ซึ้งถึงรากฐานถึงแก่นของงานนั้น ๆ รู้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฎิบัติ ไม่ใช่รู้แบบผิวเผิน แต่ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรรู้ต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องทำอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้จึงใช้ไม่ได้ ต้องรู้ซึ้งถึงแก่นถึงเหตุถึงผลที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นตลอดเวลาที่ทำงานควรจะมีคำถามถาม ตัวเองว่าทำไมเราจึงต้องทำอย่างนี้ ทำอย่างอื่นหรือวิธีอื่นไม่ได้หรือ ซึ่งคำถามอย่างนี้จะทำให้มีคำตอบที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลติดตามมาทีหลัง นอกจากนี้แล้วผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพของตน เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ความก้าวหน้าทางด้านอุตสาห- กรรม ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือทางด้านเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ นั้น ก้าวไปอย่างรวดเร็วและไม่มีวันจะหยุดยั้ง ดังนั้น ควรหาความรู้เพิ่มเติมหรือค้นคว้าจากตำราใหม่ ๆ เท่านั้น ที่จะทำให้เราติดตามโลกทางด้านอุตสาหกรรมได้ทัน

    2. ความมีประสิทธิภาพ ช่างที่ดีต้องตระหนักถึงความสำคัญของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก สำหรับลูกค้า นายจ้าง หรือผู้บังคับบัญชา ลูกค้าหรือผู้บังคับบัญชา ต้องการให้งานของเขาเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ส่วนนายจ้างก็เช่นเดียวกัน ไม่มีนายจ้างคนไหนที่คิดว่างานชิ้นนั้น ๆ จะเสร็จภายในระยะเวลากี่เดือนก็ได้ ทั้งนี้เพราะงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้นจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ จะต้องต่อสู้เอาชนะตนเองและคู่แข่งขันอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะดำรงกิจการอยู่ไม่ได้

    ดังนั้น ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นมากที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

    3. ความตั้งใจ ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของตนด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ต่องานนั้น ๆอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณภาพของงานที่ได้ออกมาไม่ดีพอ นอกจากนั้นแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเสียหายร้ายแรงขึ้นก็ได้ ดังนั้นงานทุกอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนไม่ว่า งานหนักงานเบา งานยากหรือลำบากแค่ไหน พยายามเข้าสู้ทั้งนั้น เพราะมีช่างประเภท “หนัก ก็ไม่เอา เบาก็อู้” ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาของ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างทั้งหลาย แต่บุคคลที่เอาใจใส่ในหน้าที่การงานดี มีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจเท่านั้น ที่ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างต้องการ

    4. มีแบบแผน การทำงานอย่างมีแบบ­แผนว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว พวกวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้มีการจัดเป็นหมวดหมู่ วางเป็นพวกเป็นชนิด มิให้ปะปนกัน เครื่องมือชิ้นไหนที่ต้องใช้งานบ่อยก็ควรวางอยู่ในที่หยิบออกมาใช้ได้ง่าย การจัดโรงงานวางเครื่องมือ ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ ถูกต้องตาม หลักวิชาการ ส่วนการซ่อมหรือการถอดประกอบ หรือการผลิตก็เช่นเดียวกัน เพราะการทำงานอย่างมีแบบแผน มีหลักการ มีหลักวิชาที่ดีเท่านั้น ที่จะทำให้งานต่าง ๆ สำเร็จ ลุล่วงลงได้ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงพอ

    5. มีมนุษยสัมพันธ์ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำงานหรือการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราอยู่ในแวดวงสังคมที่กว้างใหญ่ ต้องเผชิญหน้ากับคนหลายระดับชั้นการศึกษา ช่างที่ดีต้องมีความรู้ถึงจิตวิทยาทาง ด้านต่าง ๆ ต้องรู้จักการวางตัว การปกครอง การผูกมิตร ฯลฯ และสามารถนำมาใช้ถูกต้อง เหมาะสมกับกาลเทศะ เพราะปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ในวงงานเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก งานแต่ละอย่างมักจะมีความผูกพันกันดุจดังลูกโซ่ และเป็นที่แน่นอนว่างานแต่ละอย่าง แต่ละประเภทนั้นย่อมมีผู้ปฏิบัติงาน ผู้เข้าร่วมงานอยู่หลายฐานะหลายระดับ ซึ่งงานแต่ละอย่างจะเสร็จได้ก็ต้องมีความสามัคคีกลมเกลียวเข้าใจซึ่งกัน

    และกัน ถ้าความสัมพันธ์ในระหว่างหมู่คณะหรือระหว่างผู้ร่วมงาน ลูกน้องใต้บังคับบัญชาไม่ประสานกันดี แต่ละคนมีความขัดแย้งกันไม่เข้าใจกัน งานต่าง ๆ จะบรรลุผลดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องคำนึงถึงข้อนี้ไว้ให้มากตลอดระยะเวลาของการทำงาน พยายามนำเอาจิตวิทยาในด้านต่าง ๆ มาใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา

    6. ความสะอาด ความสะอาดเป็นสิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปเสียไม่ได้ในงานช่าง เพราะงานบางอย่างบางชิ้นหรือการถอดประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ต้องระวังเรื่องความสะอาดมาก เป็นต้นว่างานประกอบแบริ่งหรือประกอบลูกสูบต่าง ๆ ถ้ามีผงฝุ่นหรือความสะอาดไม่พอแล้วอายุการใช้งานนั้นก็จะไม่ดีเท่าที่ควร นอก จากความสะอาดแล้ว เสื้อผ้าหรือบริเวณโรงเรียนก็เช่นเดียวกัน ควรให้มีความสะอาดพอเหมาะสมสภาพ ไม่ใช่ว่าถ้าพวกช่างเดินไปทางไหนแล้ว คนอื่น ๆ ที่พบเห็นจะพากันหลบหลีกกันหมด เพราะกลัวว่าเสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของเขาจะพลอยเปื้อนหรือสกปรกไปด้วย นอกจากนี้แล้ว ถ้าความสะอาดไม่ดีพอ อาจจะทำ ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นช่างที่ดีควรรักษาความสะอาดให้เป็นนิสัยสมกับสภาพของงานที่ทำ

    7. มีความร่าเริง ทั้งนี้เพราะความสดชื่นร่าเริงเบิกบาน เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ร่วมงานพลอยมีชีวิตชีวาไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผลของการปฏิบัติงานต่าง ๆ ดีขึ้น เพราะถ้าทุกคนมีความร่าเริงแจ่มใสกระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะทำงานด้วยความเบิกบาน หรือไม่มีอารมณ์หงุดหงิดแล้ว จะมีความตั้งใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่และเต็มใจ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าผลงานที่ออกมาต้องมีคุณภาพที่ดีเสมอ

    8. ความปลอดภัย ช่างที่ดีต้องรู้ถึงกฎความปลอดภัยของโรงงานและของการทำ งานต่าง ๆ ว่า มีข้อควรป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้อย่างไร เพราะงานทุกชนิดถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังหรือตามกฎเกณฑ์ที่โรงงานหรือหน่วยงานตั้งไว้ หรือทำงานโดยประมาทแล้ว ย่อมเกิดอันตรายและอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ดังนั้นในขณะปฏิบัติงานช่างที่ดีควรระลึกถึงความปลอดภัยในการทำงานอยู่เสมอ

    9. พลานามัยสมบูรณ์ดี สุขภาพร่างกายของคนเรามีความสำคัญมากต่อการทำงานด้านต่าง ๆ เพราะนอกจากจะต้องใช้สมองในการวินิจฉัยไตร่ตรองแก้ไขในการปฎิบัติงานแล้ว ยังต้องใช้กำลังกายในการปฏิบติงานควบคู่กันไปด้วย ฉะนั้นช่างที่ดีนั้นควรจะต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ควรงดเว้นสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพให้เสื่อมโทรม เช่น การดื่มสุรา หรือเสพยาเสพย์ติดประเภทต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำลายร่างกายให้ สื่อมโทรมแล้ว ยังทำให้การปฏิบัติงานไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรอีกด้วย ควรรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ

    10. มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทใดก็ตาม สิ่งที่จะทำให้หน่วย งานนั้นก้าวหน้าไปได้ก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ร่วมงานทุกคน ดังมีคำเปรียบเทียบไว้ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ไม่มีนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาคนใดที่ต้องการลูกน้องที่ไม่ซื่อสัตย์ การที่เป็นช่างที่ไม่ซื่อสัตย์ นอกจากจะไม่เป็นที่ต้องการของโรงงานหรือหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการทำลายอนาคตความก้าวหน้าในอาชีพของตนเองอีกด้วย ดังนั้นช่างที่ดีต้องเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงาน ต่อเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้เป็นนายจ้าง ผู้บังคับบัญชา ยอมรับการผิดพลาดในการปฎิบัติงานของตนด้วยความเต็มใจและด้วยความบริสุทธิ์ใจ

    บัญญัติ 10 ประการ ของช่างที่ดี ที่กล่าวมาแล้วนั้น หากนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ภายในหน่วยงานหรือกิจการใด ๆ ก็ตาม ก็จะทำให้กิจการนั้น ๆ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้การพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ของประเทศมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ได้
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์ของงานช่างพื้นฐาน
    ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
    งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น
    งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
    งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่าง
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ทักษะในการทำงาน

  27. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น

    ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้

    ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป

    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น

    ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้

    1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

    2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย

    3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้

    4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้

    5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ

    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

    7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน

    8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในยุคการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม และสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาในด้านนี้ที่จะขาดเสียไม่ได้อย่างหนึ่งคือ ช่างที่ดี ทั้งนี้เพราะช่างนั้นมีมากมายหลายสาขา แต่เราจะหาช่างที่มีคุณสมบัติเป็นช่างที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบนั้นหาได้ยากยิ่ง

    ฉะนั้น บุคคลที่สมควรจะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรจะมีคุณสมบัติ 10 ประการ ดังต่อไปนี้

    1. ความสามารถ ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดี ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความสามารถในงานด้านช่างของตนอย่างดี รู้อย่างชนิดที่เรียกว่า รู้ซึ้งถึงรากฐานถึงแก่นของงานนั้น ๆ รู้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฎิบัติ ไม่ใช่รู้แบบผิวเผิน แต่ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรรู้ต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องทำอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้จึงใช้ไม่ได้ ต้องรู้ซึ้งถึงแก่นถึงเหตุถึงผลที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นตลอดเวลาที่ทำงานควรจะมีคำถามถาม ตัวเองว่าทำไมเราจึงต้องทำอย่างนี้ ทำอย่างอื่นหรือวิธีอื่นไม่ได้หรือ ซึ่งคำถามอย่างนี้จะทำให้มีคำตอบที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลติดตามมาทีหลัง นอกจากนี้แล้วผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพของตน เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ความก้าวหน้าทางด้านอุตสาห- กรรม ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือทางด้านเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ นั้น ก้าวไปอย่างรวดเร็วและไม่มีวันจะหยุดยั้ง ดังนั้น ควรหาความรู้เพิ่มเติมหรือค้นคว้าจากตำราใหม่ ๆ เท่านั้น ที่จะทำให้เราติดตามโลกทางด้านอุตสาหกรรมได้ทัน

    2. ความมีประสิทธิภาพ ช่างที่ดีต้องตระหนักถึงความสำคัญของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก สำหรับลูกค้า นายจ้าง หรือผู้บังคับบัญชา ลูกค้าหรือผู้บังคับบัญชา ต้องการให้งานของเขาเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ส่วนนายจ้างก็เช่นเดียวกัน ไม่มีนายจ้างคนไหนที่คิดว่างานชิ้นนั้น ๆ จะเสร็จภายในระยะเวลากี่เดือนก็ได้ ทั้งนี้เพราะงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้นจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ จะต้องต่อสู้เอาชนะตนเองและคู่แข่งขันอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะดำรงกิจการอยู่ไม่ได้

    ดังนั้น ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นมากที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

    3. ความตั้งใจ ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของตนด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ต่องานนั้น ๆอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณภาพของงานที่ได้ออกมาไม่ดีพอ นอกจากนั้นแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเสียหายร้ายแรงขึ้นก็ได้ ดังนั้นงานทุกอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนไม่ว่า งานหนักงานเบา งานยากหรือลำบากแค่ไหน พยายามเข้าสู้ทั้งนั้น เพราะมีช่างประเภท “หนัก ก็ไม่เอา เบาก็อู้” ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาของ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างทั้งหลาย แต่บุคคลที่เอาใจใส่ในหน้าที่การงานดี มีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจเท่านั้น ที่ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างต้องการ

    4. มีแบบแผน การทำงานอย่างมีแบบ­แผนว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว พวกวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้มีการจัดเป็นหมวดหมู่ วางเป็นพวกเป็นชนิด มิให้ปะปนกัน เครื่องมือชิ้นไหนที่ต้องใช้งานบ่อยก็ควรวางอยู่ในที่หยิบออกมาใช้ได้ง่าย การจัดโรงงานวางเครื่องมือ ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ ถูกต้องตาม หลักวิชาการ ส่วนการซ่อมหรือการถอดประกอบ หรือการผลิตก็เช่นเดียวกัน เพราะการทำงานอย่างมีแบบแผน มีหลักการ มีหลักวิชาที่ดีเท่านั้น ที่จะทำให้งานต่าง ๆ สำเร็จ ลุล่วงลงได้ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงพอ

    5. มีมนุษยสัมพันธ์ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำงานหรือการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราอยู่ในแวดวงสังคมที่กว้างใหญ่ ต้องเผชิญหน้ากับคนหลายระดับชั้นการศึกษา ช่างที่ดีต้องมีความรู้ถึงจิตวิทยาทาง ด้านต่าง ๆ ต้องรู้จักการวางตัว การปกครอง การผูกมิตร ฯลฯ และสามารถนำมาใช้ถูกต้อง เหมาะสมกับกาลเทศะ เพราะปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ในวงงานเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก งานแต่ละอย่างมักจะมีความผูกพันกันดุจดังลูกโซ่ และเป็นที่แน่นอนว่างานแต่ละอย่าง แต่ละประเภทนั้นย่อมมีผู้ปฏิบัติงาน ผู้เข้าร่วมงานอยู่หลายฐานะหลายระดับ ซึ่งงานแต่ละอย่างจะเสร็จได้ก็ต้องมีความสามัคคีกลมเกลียวเข้าใจซึ่งกัน

    และกัน ถ้าความสัมพันธ์ในระหว่างหมู่คณะหรือระหว่างผู้ร่วมงาน ลูกน้องใต้บังคับบัญชาไม่ประสานกันดี แต่ละคนมีความขัดแย้งกันไม่เข้าใจกัน งานต่าง ๆ จะบรรลุผลดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องคำนึงถึงข้อนี้ไว้ให้มากตลอดระยะเวลาของการทำงาน พยายามนำเอาจิตวิทยาในด้านต่าง ๆ มาใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา

    6. ความสะอาด ความสะอาดเป็นสิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปเสียไม่ได้ในงานช่าง เพราะงานบางอย่างบางชิ้นหรือการถอดประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ต้องระวังเรื่องความสะอาดมาก เป็นต้นว่างานประกอบแบริ่งหรือประกอบลูกสูบต่าง ๆ ถ้ามีผงฝุ่นหรือความสะอาดไม่พอแล้วอายุการใช้งานนั้นก็จะไม่ดีเท่าที่ควร นอก จากความสะอาดแล้ว เสื้อผ้าหรือบริเวณโรงเรียนก็เช่นเดียวกัน ควรให้มีความสะอาดพอเหมาะสมสภาพ ไม่ใช่ว่าถ้าพวกช่างเดินไปทางไหนแล้ว คนอื่น ๆ ที่พบเห็นจะพากันหลบหลีกกันหมด เพราะกลัวว่าเสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของเขาจะพลอยเปื้อนหรือสกปรกไปด้วย นอกจากนี้แล้ว ถ้าความสะอาดไม่ดีพอ อาจจะทำ ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นช่างที่ดีควรรักษาความสะอาดให้เป็นนิสัยสมกับสภาพของงานที่ทำ

    7. มีความร่าเริง ทั้งนี้เพราะความสดชื่นร่าเริงเบิกบาน เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ร่วมงานพลอยมีชีวิตชีวาไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผลของการปฏิบัติงานต่าง ๆ ดีขึ้น เพราะถ้าทุกคนมีความร่าเริงแจ่มใสกระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะทำงานด้วยความเบิกบาน หรือไม่มีอารมณ์หงุดหงิดแล้ว จะมีความตั้งใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่และเต็มใจ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าผลงานที่ออกมาต้องมีคุณภาพที่ดีเสมอ

    8. ความปลอดภัย ช่างที่ดีต้องรู้ถึงกฎความปลอดภัยของโรงงานและของการทำ งานต่าง ๆ ว่า มีข้อควรป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้อย่างไร เพราะงานทุกชนิดถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังหรือตามกฎเกณฑ์ที่โรงงานหรือหน่วยงานตั้งไว้ หรือทำงานโดยประมาทแล้ว ย่อมเกิดอันตรายและอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ดังนั้นในขณะปฏิบัติงานช่างที่ดีควรระลึกถึงความปลอดภัยในการทำงานอยู่เสมอ

    9. พลานามัยสมบูรณ์ดี สุขภาพร่างกายของคนเรามีความสำคัญมากต่อการทำงานด้านต่าง ๆ เพราะนอกจากจะต้องใช้สมองในการวินิจฉัยไตร่ตรองแก้ไขในการปฎิบัติงานแล้ว ยังต้องใช้กำลังกายในการปฏิบติงานควบคู่กันไปด้วย ฉะนั้นช่างที่ดีนั้นควรจะต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ควรงดเว้นสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพให้เสื่อมโทรม เช่น การดื่มสุรา หรือเสพยาเสพย์ติดประเภทต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำลายร่างกายให้ สื่อมโทรมแล้ว ยังทำให้การปฏิบัติงานไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรอีกด้วย ควรรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ

    10. มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทใดก็ตาม สิ่งที่จะทำให้หน่วย งานนั้นก้าวหน้าไปได้ก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ร่วมงานทุกคน ดังมีคำเปรียบเทียบไว้ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ไม่มีนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาคนใดที่ต้องการลูกน้องที่ไม่ซื่อสัตย์ การที่เป็นช่างที่ไม่ซื่อสัตย์ นอกจากจะไม่เป็นที่ต้องการของโรงงานหรือหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการทำลายอนาคตความก้าวหน้าในอาชีพของตนเองอีกด้วย ดังนั้นช่างที่ดีต้องเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงาน ต่อเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้เป็นนายจ้าง ผู้บังคับบัญชา ยอมรับการผิดพลาดในการปฎิบัติงานของตนด้วยความเต็มใจและด้วยความบริสุทธิ์ใจ

    บัญญัติ 10 ประการ ของช่างที่ดี ที่กล่าวมาแล้วนั้น หากนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ภายในหน่วยงานหรือกิจการใด ๆ ก็ตาม ก็จะทำให้กิจการนั้น ๆ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้การพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ของประเทศมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ได้
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์ของงานช่างพื้นฐาน
    ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
    งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น
    งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
    งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่าง
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ทักษะในการทำงาน

  28. 2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง

    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย
    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น

    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

  29. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ช่าง หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และชำนาญในงานหรือในศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง และงานช่าง หมายถึง สิ่งที่เป็นผลเกิดจากการทำงานของช่าง งานช่างแบ่งออกได้หลายสาขา เช่น งานไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างยนต์ ช่างประปา เป็นต้น

    ความสำคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อมโต๊ะ เก้าอี้ ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมผนังรั้ว เป็นต้น หากได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญก็สามารถ นำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพต่อไปได้

    ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป

    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น

    ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้

    1. งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

    2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย

    3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้

    4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้

    5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ

    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

    7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน

    8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในยุคการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม และสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาในด้านนี้ที่จะขาดเสียไม่ได้อย่างหนึ่งคือ ช่างที่ดี ทั้งนี้เพราะช่างนั้นมีมากมายหลายสาขา แต่เราจะหาช่างที่มีคุณสมบัติเป็นช่างที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบนั้นหาได้ยากยิ่ง

    ฉะนั้น บุคคลที่สมควรจะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรจะมีคุณสมบัติ 10 ประการ ดังต่อไปนี้

    1. ความสามารถ ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดี ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความสามารถในงานด้านช่างของตนอย่างดี รู้อย่างชนิดที่เรียกว่า รู้ซึ้งถึงรากฐานถึงแก่นของงานนั้น ๆ รู้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฎิบัติ ไม่ใช่รู้แบบผิวเผิน แต่ผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีนั้น ควรรู้ต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องทำอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้จึงใช้ไม่ได้ ต้องรู้ซึ้งถึงแก่นถึงเหตุถึงผลที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นตลอดเวลาที่ทำงานควรจะมีคำถามถาม ตัวเองว่าทำไมเราจึงต้องทำอย่างนี้ ทำอย่างอื่นหรือวิธีอื่นไม่ได้หรือ ซึ่งคำถามอย่างนี้จะทำให้มีคำตอบที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลติดตามมาทีหลัง นอกจากนี้แล้วผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้ในวิชาชีพของตน เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ความก้าวหน้าทางด้านอุตสาห- กรรม ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือทางด้านเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ นั้น ก้าวไปอย่างรวดเร็วและไม่มีวันจะหยุดยั้ง ดังนั้น ควรหาความรู้เพิ่มเติมหรือค้นคว้าจากตำราใหม่ ๆ เท่านั้น ที่จะทำให้เราติดตามโลกทางด้านอุตสาหกรรมได้ทัน

    2. ความมีประสิทธิภาพ ช่างที่ดีต้องตระหนักถึงความสำคัญของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก สำหรับลูกค้า นายจ้าง หรือผู้บังคับบัญชา ลูกค้าหรือผู้บังคับบัญชา ต้องการให้งานของเขาเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ส่วนนายจ้างก็เช่นเดียวกัน ไม่มีนายจ้างคนไหนที่คิดว่างานชิ้นนั้น ๆ จะเสร็จภายในระยะเวลากี่เดือนก็ได้ ทั้งนี้เพราะงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้นจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ จะต้องต่อสู้เอาชนะตนเองและคู่แข่งขันอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะดำรงกิจการอยู่ไม่ได้

    ดังนั้น ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นมากที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

    3. ความตั้งใจ ช่างที่ดีต้องเป็นผู้ที่ทำงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของตนด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ต่องานนั้น ๆอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณภาพของงานที่ได้ออกมาไม่ดีพอ นอกจากนั้นแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเสียหายร้ายแรงขึ้นก็ได้ ดังนั้นงานทุกอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนไม่ว่า งานหนักงานเบา งานยากหรือลำบากแค่ไหน พยายามเข้าสู้ทั้งนั้น เพราะมีช่างประเภท “หนัก ก็ไม่เอา เบาก็อู้” ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาของ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างทั้งหลาย แต่บุคคลที่เอาใจใส่ในหน้าที่การงานดี มีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจเท่านั้น ที่ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างต้องการ

    4. มีแบบแผน การทำงานอย่างมีแบบ­แผนว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว พวกวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้มีการจัดเป็นหมวดหมู่ วางเป็นพวกเป็นชนิด มิให้ปะปนกัน เครื่องมือชิ้นไหนที่ต้องใช้งานบ่อยก็ควรวางอยู่ในที่หยิบออกมาใช้ได้ง่าย การจัดโรงงานวางเครื่องมือ ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ ถูกต้องตาม หลักวิชาการ ส่วนการซ่อมหรือการถอดประกอบ หรือการผลิตก็เช่นเดียวกัน เพราะการทำงานอย่างมีแบบแผน มีหลักการ มีหลักวิชาที่ดีเท่านั้น ที่จะทำให้งานต่าง ๆ สำเร็จ ลุล่วงลงได้ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงพอ

    5. มีมนุษยสัมพันธ์ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำงานหรือการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราอยู่ในแวดวงสังคมที่กว้างใหญ่ ต้องเผชิญหน้ากับคนหลายระดับชั้นการศึกษา ช่างที่ดีต้องมีความรู้ถึงจิตวิทยาทาง ด้านต่าง ๆ ต้องรู้จักการวางตัว การปกครอง การผูกมิตร ฯลฯ และสามารถนำมาใช้ถูกต้อง เหมาะสมกับกาลเทศะ เพราะปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ในวงงานเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก งานแต่ละอย่างมักจะมีความผูกพันกันดุจดังลูกโซ่ และเป็นที่แน่นอนว่างานแต่ละอย่าง แต่ละประเภทนั้นย่อมมีผู้ปฏิบัติงาน ผู้เข้าร่วมงานอยู่หลายฐานะหลายระดับ ซึ่งงานแต่ละอย่างจะเสร็จได้ก็ต้องมีความสามัคคีกลมเกลียวเข้าใจซึ่งกัน

    และกัน ถ้าความสัมพันธ์ในระหว่างหมู่คณะหรือระหว่างผู้ร่วมงาน ลูกน้องใต้บังคับบัญชาไม่ประสานกันดี แต่ละคนมีความขัดแย้งกันไม่เข้าใจกัน งานต่าง ๆ จะบรรลุผลดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่จะเป็นช่างที่ดีต้องคำนึงถึงข้อนี้ไว้ให้มากตลอดระยะเวลาของการทำงาน พยายามนำเอาจิตวิทยาในด้านต่าง ๆ มาใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา

    6. ความสะอาด ความสะอาดเป็นสิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปเสียไม่ได้ในงานช่าง เพราะงานบางอย่างบางชิ้นหรือการถอดประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ต้องระวังเรื่องความสะอาดมาก เป็นต้นว่างานประกอบแบริ่งหรือประกอบลูกสูบต่าง ๆ ถ้ามีผงฝุ่นหรือความสะอาดไม่พอแล้วอายุการใช้งานนั้นก็จะไม่ดีเท่าที่ควร นอก จากความสะอาดแล้ว เสื้อผ้าหรือบริเวณโรงเรียนก็เช่นเดียวกัน ควรให้มีความสะอาดพอเหมาะสมสภาพ ไม่ใช่ว่าถ้าพวกช่างเดินไปทางไหนแล้ว คนอื่น ๆ ที่พบเห็นจะพากันหลบหลีกกันหมด เพราะกลัวว่าเสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของเขาจะพลอยเปื้อนหรือสกปรกไปด้วย นอกจากนี้แล้ว ถ้าความสะอาดไม่ดีพอ อาจจะทำ ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นช่างที่ดีควรรักษาความสะอาดให้เป็นนิสัยสมกับสภาพของงานที่ทำ

    7. มีความร่าเริง ทั้งนี้เพราะความสดชื่นร่าเริงเบิกบาน เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ร่วมงานพลอยมีชีวิตชีวาไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผลของการปฏิบัติงานต่าง ๆ ดีขึ้น เพราะถ้าทุกคนมีความร่าเริงแจ่มใสกระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะทำงานด้วยความเบิกบาน หรือไม่มีอารมณ์หงุดหงิดแล้ว จะมีความตั้งใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่และเต็มใจ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าผลงานที่ออกมาต้องมีคุณภาพที่ดีเสมอ

    8. ความปลอดภัย ช่างที่ดีต้องรู้ถึงกฎความปลอดภัยของโรงงานและของการทำ งานต่าง ๆ ว่า มีข้อควรป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้อย่างไร เพราะงานทุกชนิดถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังหรือตามกฎเกณฑ์ที่โรงงานหรือหน่วยงานตั้งไว้ หรือทำงานโดยประมาทแล้ว ย่อมเกิดอันตรายและอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ดังนั้นในขณะปฏิบัติงานช่างที่ดีควรระลึกถึงความปลอดภัยในการทำงานอยู่เสมอ

    9. พลานามัยสมบูรณ์ดี สุขภาพร่างกายของคนเรามีความสำคัญมากต่อการทำงานด้านต่าง ๆ เพราะนอกจากจะต้องใช้สมองในการวินิจฉัยไตร่ตรองแก้ไขในการปฎิบัติงานแล้ว ยังต้องใช้กำลังกายในการปฏิบติงานควบคู่กันไปด้วย ฉะนั้นช่างที่ดีนั้นควรจะต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ควรงดเว้นสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพให้เสื่อมโทรม เช่น การดื่มสุรา หรือเสพยาเสพย์ติดประเภทต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำลายร่างกายให้ สื่อมโทรมแล้ว ยังทำให้การปฏิบัติงานไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรอีกด้วย ควรรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ

    10. มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทใดก็ตาม สิ่งที่จะทำให้หน่วย งานนั้นก้าวหน้าไปได้ก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ร่วมงานทุกคน ดังมีคำเปรียบเทียบไว้ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ไม่มีนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาคนใดที่ต้องการลูกน้องที่ไม่ซื่อสัตย์ การที่เป็นช่างที่ไม่ซื่อสัตย์ นอกจากจะไม่เป็นที่ต้องการของโรงงานหรือหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการทำลายอนาคตความก้าวหน้าในอาชีพของตนเองอีกด้วย ดังนั้นช่างที่ดีต้องเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงาน ต่อเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้เป็นนายจ้าง ผู้บังคับบัญชา ยอมรับการผิดพลาดในการปฎิบัติงานของตนด้วยความเต็มใจและด้วยความบริสุทธิ์ใจ

    บัญญัติ 10 ประการ ของช่างที่ดี ที่กล่าวมาแล้วนั้น หากนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ภายในหน่วยงานหรือกิจการใด ๆ ก็ตาม ก็จะทำให้กิจการนั้น ๆ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้การพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ของประเทศมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ได้
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์ของงานช่างพื้นฐาน
    ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
    งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น
    งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
    งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่าง
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ความระวังในการทำงาน

  30. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้
    1.งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น 2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย 3. งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ 4. งานโลหะ งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้ 5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ
    6. งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น 7. งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน 8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย -เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี -มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ
    -รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด -หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย -ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม
    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ= คือ สามารถใช้เครื่องมือเครื่องใช้สอยได้อย่างถูกต้องเข้าใจคุณสมบัติของวัสดุช่วยทำให้เกิดความประหยัดทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไขข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ตอบ= 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ตอบ=งานไฟฟ้า
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ตอบ=ทักษะ

  31. 4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้างปัจจุบันภายในครอบครัวมีเครื่องใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งการติดตั้งการดูแลรักษา และการซ่อมแซม จะต้องอาศัยความรู้ ทักษะ ดังนั้นผู้ใช้จะต้องรู้จักส่วนประกอบและการใช้อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ เครื่องใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัยรายละเอียดสาระการเรียนรู้
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนมากนัก
    ใช้เวลานานในการซ่อมแซม

  32. 6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุดข้อควรจำ
    *ให้คัดคลองเลื่อยก่อน แล้วจึงตะไบคมฟันเลื่อย

    *การคัดคลองเลื่อย ต้องคัดคลองเลื่อยทั้งซ้ายและขวาให้เท่ากันตลอดปื้น

  33. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    งานช่างเบื้องต้นทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ที่ส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุด เสียหาย หรือสร้างสิ่งของง่ายๆ เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การต่อประปา ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว ผนัง ถนน ทางเท้าในบ้าน เป็นต้น

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย
    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี
    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ
    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด
    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย
    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้
    ประโยชน์โดยอ้อม เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การซ่อมหรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานอดิเรกอื่น ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทำงาน ยังทำให้เกิดความรู้ความชำนาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ ช่างอาชีพได้ แม้ไม่ต้องทำเป็นอาชีพโดยตรง ก็อาจทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
    งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น
    งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
    งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่างเป็นกระบวนการ เพื่อวางแผนการปฏิบัติงาน ให้ได้ผลผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการ เช่นโรงงานผลิตยางรถยนต์ เป็นต้น

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    1. การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน
    2. การเปลี่ยนก๊อกน้ำประปา
    3. แก้ไขปรับปรุงคอมพิวเตอร์
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    คืองานที่ต้องอาศัยทักษะ การคิดวิเคราะห์ การลงมือแก้ไข ลักษะ
    คาว ช่าง งาน อย่างไร บ้าง ทักษะ ลงมือ วิเคราะห์.

  34. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=งานช่างเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง งานช่างพื้นฐานส่วนใหญ่จึงเป็นงานเกี่ยวกับงานซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุดเสียหาย เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนนัก เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การต่อท่อประปา การซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว กันสาด ผนังและถนนหรือทางเดินเท้าภายในบ้าน
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง

    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ

    ตอบ= ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง

    ตอบ=จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
    งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น
    งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
    งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่างเป็นกระบวนการ เพื่อวางแผนการปฏิบัติงาน ให้ได้ผลผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการ เช่นโรงงานผลิตยางรถยนต์

    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด

    ตอบ=งานช่างพื้นฐานเกี่ยวกับโลหะ

    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด

    ตอบ=
    ความสำคัญของงานช่างไม้ มีความสอดคล้องกับความสำคัญของไม้ที่ใช้ในงานก่อสร้าง เนื่องจากไม้ เป็นวัสดุก่อสร้างที่หาได้ยาก และมีราคางานไม้ที่แพงกว่าวัสดุทดแทนประเภทอื่น แต่ถึงกระนั้น ไม้ยังคงเป็นที่ต้องการในงานประเภท เช่น วงกบไม้ ประตูไม้ หน้าต่างไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ งานแกะสลักไม้ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการตกแต่งบ้าน ช่างไม้มืออาชีพจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน ช่างไม้ที่ดีต้องมีทักษะและความชำนาญงานในหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี มีใจรักในหน้าที่ มีความคิดสร้างสรรงานไม้ให้ออกมาสวยงาม มีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังต้องมีความรับผิดชอบสูง สามารถใช้งานไม้ได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถแบ่งประเภทของงานช่างไม้ออกเป็น 4 ประเภทคือ งานช่างไม้ก่อสร้าง งานช่างไม้ครุภัณฑ์ งานช่างไม้ออกแบบ และงานช่างไม้แกะสลัก

    1. .ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    เป้สสส

    ตอบ=เป็นงานที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
    2..คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม
    3..ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=การงานที่ดีทำงต้องมีขั้นตอนจากการนเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจทำงานและปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ตอบ=1 การเปลี่ยนลูกบิดประตู
    2 การซ่อมปูนยาแนวกระเบื้อง
    3 การเปลี่ยนก๊อกน้ำ
    4 การซ่อมดวงโคมส่องสว่าง
    5 การซ่อมเก้าอี้
    6 การซ่อมสีชั้นวางถ้วยชาม
    5. นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ตอบ= 1. การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน

    2. การเปลี่ยนก๊อกน้ำปะปา

    3. แก้ไขปรับปรุงคอมพิวเตอร์

    4. ซ่อมแซมถนนเข้าบ้าน
    6. คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ตอบ= 1. ขยัน อดทน รับผิดชอบสูง

    2. มีความรู้เกี่ยวกับชนิด ประเภทของไม้

    3. ใช้เครื่องมือได้ทุกประเภท

    4. มีความคิดสร้างสรรค์

    1. .ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    เป้สสสก
    ตอบ=เป็นงานที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
    2..คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม
    3..ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ==การงานที่ดีทำงต้องมีขั้นตอนจากการนเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจทำงานและปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม
    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    ตอบ=1 การเปลี่ยนลูกบิดประตู
    2 การซ่อมปูนยาแนวกระเบื้อง
    3 การเปลี่ยนก๊อกน้ำ
    4 การซ่อมดวงโคมส่องสว่าง
    5 การซ่อมเก้าอี้
    6 การซ่อมสีชั้นวางถ้วยชาม
    5. นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ตอบ= 1. การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน

    2. การเปลี่ยนก๊อกน้ำปะปา

    3. แก้ไขปรับปรุงคอมพิวเตอร์

    4. ซ่อมแซมถนนเข้าบ้าน
    6. คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    ตอบ= 1. ขยัน อดทน รับผิดชอบสูง

    2. มีความรู้เกี่ยวกับชนิด ประเภทของไม้

    3. ใช้เครื่องมือได้ทุกประเภท

    4. มีความคิดสร้างสรรค์

    ตอบกลับ
    ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ
    Enter your comment here…
    1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=งานช่างเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง งานช่างพื้นฐานส่วนใหญ่จึงเป็นงานเกี่ยวกับงานซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุดเสียหาย เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนนัก เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การต่อท่อประปา การซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว กันสาด ผนังและถนนหรือทางเดินเท้าภายในบ้าน
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง

    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ

    ตอบ= ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

    1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    ตอบ=งานช่างเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง งานช่างพื้นฐานส่วนใหญ่จึงเป็นงานเกี่ยวกับงานซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่ชำรุดเสียหาย เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือสร้างสิ่งของเครื่องใช้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนนัก เช่น การเดินสายไฟฟ้าในบ้าน การเดินสายโทรศัพท์ การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การต่อท่อประปา การซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ รั้ว กันสาด ผนังและถนนหรือทางเดินเท้าภายในบ้าน
    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง

    ตอบ=ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ

    ตอบ= ประโยชน์โดยตรง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานช่างเป็นการประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ้างช่างอาชีพแล้วยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชีพได้ หรือแม้ว่าจะต้องว่าจ้างช่างอาชีพก็สามารถควบคุมดูแลการทำงาน ผลงาน ไม่ให้ช่างเอารัดเอาเปรียบได้

  35. 1.ลักษณะสำคัญของงานช่างพื้นฐานคือ
    งานช่างพื้นฐาน หมายถึง งานช่างด้านต่างๆ ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถซ่อมแซม
    บำรุงรักษา ดัดแปลงเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และนำประสบการณ์ที่ได้จากการเรียน
    วิชาช่างพื้นฐาน ไปใช้ในการปฏิบัติงานช่างภายในบ้านอย่างจริงจัง ทำให้เครื่องใช้ในบ้านมีความคงทน และมีอายุการใช้งานยาวนานและประหยัดค่าใช้จ่าย

    2.คุณสมบัติของช่างที่ดีจะต้องมีอะไรบ้าง
    ตรงต่อเวลา รักษาวินัย

    เอาใจใส่หน้าที่ สมานสามัคคี

    มีความอดทน หมั่นฝึกฝนอาชีพ

    รีบหาความรู้ใหม่ ใช้วัสดุประหยัด

    หัดรักษาเครื่องมือ ถือกฎความปลอดภัย

    ใฝ่คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นคุณธรรม

    3.ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนจากการมีความรู้งาน ช่างพื้นฐานคือ
    ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยทำให้เกิดความประหยัด ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ เครื่องใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จนเกิดความชำนาญ ก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักเพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป

    4.งานช่างพื้นฐานในบ้านอาจแยกออกได้กี่งานอะไรบ้าง
    จำแนกได้ 4 ประเภท คือ งานบำรุงรักษา งานซ่อมแซม งานติดตั้ง งานผลิต
    งานบำรุงรักษา เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการ วิธีการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน เพื่อให้เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประเภทของงานบำรุงรักษา เช่น ช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
    งานซ่อมแซม เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยผู้ปฏิบัติจะต้องนำหลักการของวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือมาใช้ เพื่อตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ชำรุดหรืเสียหายให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย เช่นช่างซ่อมพัดลม เตารีด เป็นต้น
    งานติดตั้ง เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ในบ้าน โดยผู้ปฏิบัติสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อติดตั้งเครื่องใช้ให้สามารถใช้งานและอำนวยประโยชน์ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย เช่น ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
    งานผลิต เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเกี่ยวกับการคิด วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบและผลิตชิ้นงาน โดยผู้ปฏิบัติต้องสามารถเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวิธีทำงานช่างอย่างเป็นกระบวนการ เพื่อวางแผนการปฏิบัติงาน ให้ได้ผลผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการ เช่นโรงงานผลิตยางรถยนต์ เป็นต้น
    5.นักเรียนคิดว่างานช่างพื้นฐานข้อใดที่มีความยุ่งยากซับ ซับซ้อนมากที่สุด
    ช่างไฟฟ้า
    6.คุณสมบัติที่ดีของช่างไม้อะไรสำคัญที่สุด
    1. มีความขยัน
    2. มีความอดทน
    3. มีความพยายาม
    4. มีความละเอียด ประณีต
    5. มีความคิดสร้างสรรค์

ใส่ความเห็น

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก