นั่งเล่นคอม ตั้งแต่เช้า เพิ่งมาสังเกตุ ว่า เสียงที่เครื่อง notebook ดังแปลกๆ เหมือนพัดลม เสียงเบาๆ ดังๆ เป็นจังหวะๆ ครับ
ปกติไม่เป็นแบบนี้นะ เพิ่งมาเป็นมั่ง มันบ่งบอกถึงอาการอะไรได้บ้างอ่ะคับ protun:
อย่าชะล่าใจนะครับ ซีพียูผมไหม้ไปแล้ว เพราะคิดว่าไม่เป็นไรหรอกมั้ง :P D-N-A:
พัดลมอาจะฝึดครับ แนะนำ ว่าควร แกะออกมาเช็คดูครับ หรือไม่ ก็เปลียนใหม่ครับ :P นำร่อง ดัชนีข้อความ
เรื่องของการใช้งานโน๊ตบุ๊คแล้วมี เสียงพัดลมดัง ก็พอจะสันนิษฐานได้ว่าน่าจะมีความผิดปกติเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่ยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นอันตราย แต่เมื่อใดที่เกิดมีเสียงดังเพิ่มมากขึ้น แต่อุณหภูมิกลับไม่ได้ลดลงมากนัก อาการนี้ถือว่าเริ่มน่าเป็นห่วงไม่น้อยทีเดียว สิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญก็คือ การตรวจเช็คอย่างละเอียด เพื่อลดปัญหาที่อาจจะลุกลามได้ในภายหลัง
อย่างไรก็ดี การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นหากต้องการตัดระบบดังกล่าวให้หยุดชะงัก ก็คงต้องเข้าไปแก้กันที่ฮาร์ดแวร์หรือชุดระบายความร้อนของโน๊ตบุ๊คโดยตรง แต่ถ้ายังไม่พร้อมในการแก้ไขด้วยการแกะเครื่องหรือเปลี่ยนชุดระบายความร้อน ก็คงต้องหาวิธีอื่นในการแก้ไข
1
สิ่งแรกที่ควรต้องเข้าไปดูเสียก่อนก็คือ มีอะไรที่ทำให้ซีพียูทำงานหนักเกินไปหรือไม่ เพราะรอบพัดลมมักจะทำงานสัมพันธ์กับความเร็วซีพียู ดังนั้นหากมีเหตุที่ทำให้ซีพียูทำงานหนัก ก็ต้องเข้าไปดูว่าเกิดจากสิ่งใดหรือมีอะไรกำลังทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจเป็นได้ทั้งโปรแกรมบางตัว แอบทำงานหรือกำลังอัพเดต แต่ที่แย่ก็คือ มีไวรัสกำลังทำงาน
2
ในกรณีที่ต้องการดูโปรแกรมเหล่านั้น ก็เพียงกด Ctrl + Shift + Esc แล้วเข้าไปดูใน Process ช่องของซีพียู ให้สังเกตว่ามีสิ่งใดที่แปลกปลอมหรือกำลังใช้งานทรัพยากรซีพียูมากผิดปกติ ก็ให้ End Process นั้นออกไป แต่ถ้าให้ดีก็ต้องเช็คดูว่าโปรแกรมเหล่านั้นจำเป็นหรือไม่ แล้วจะสามารถปิดหรือหยุดการทำงานได้อย่างไรบ้าง
3
แต่ถ้าเกิดจากไวรัสที่เข้ามาแอบทำงานอยู่ใน เครื่อง ในบางครั้งก็ตรวจสอบได้ยาก แต่จะพอสัมผัสได้ว่าเครื่องมีโหลดการทำงานค่อนข้างมาก จนทำให้ช้าและมีเสียงของพัดลมในการระบายความร้อนมากขึ้น การแก้ไขมีทางเดียวคือ ใช้ติดตั้งและอัพเดตแอนตี้ไวรัสให้ทันสมัยที่สุด แล้วสแกนระบบทั้งหมดอีกครั้ง
4
การแก้ไขผ่านระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ก็เป็น ส่วนหนึ่งในการลดปัญหา แต่สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด้วนก็คือ การแก้ไขจากตัวฮาร์ดแวร์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับตัวเครื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของพัดลมและการระบายความร้อน จุดที่ต้องเข้าไปตรวจเช็คมีอยู่ด้วยกันสองส่วนคือ การทำงานของพัดลมปกติหรือไม่และซิลิโคนที่ทาเอาไว้ ยังคงมีอยู่หรือไม่
5
ในส่วนของการระบายความร้อนนั้น อาจจะต้องดูตั้งแต่พัดลมว่ามีสิ่งใดมารบกวนการทำงานจนทำให้ติดขัดหรือใบ พัดลมมีปัญหาจนทำให้เกิดเสียงดังขณะทำงาน รวมไปถึงซิลิโคนก็ควรจะต้องทำงานได้ดีหรือไม่แห้ง อันจะลดประสิทธิภาพในการระบายความร้อนลงนั่นเองๆ สิ่งเหล่านี้ควรจะต้องตรวจเช็คให้เรียบร้อย
6
แต่ถ้าในกรณีที่ยังไม่พร้อมกับการที่จะแกะเครื่อง หรือส่งซ่อม ก็อาจจะเลือกอุปกรณ์ระบายความร้อนจากภายนอก อย่างเช่น CoolingPad มาช่วยในการระบายความร้อนอีกทางหนึ่ง
Javascript ถูกปิดใช้งานในเบราว์เซอร์นี้ หน้านี้จำเป็นต้องใช้ Javascript แก้ไขค่าติดตั้งของเบราว์เซอร์ของคุณเพื่ออนุญาตให้เรียกใช้ Javascript ได้ โปรดดูเอกสารคู่มือของเบราว์เซอร์สำหรับคำสั่งเฉพาะ
{}
Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA30U5hp-support-head-portlet
กำลังโหลด...
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า HP - ฐานความรู้
Z7_41I02JG0KOLGD0QK67BGRL1004hp-contact-secondary-navigation-portlet
กำลังโหลด...
ฝ่ายบริการลูกค้า
ค้นหา
เลือกรุ่นผลิตภัณฑ์ของคุณ
HP สามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของ HP และแนะนำวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ให้ HP ช่วยค้นหาผลิตภัณฑ์ของคุณ
ค้นหา
นโยบายความเป็นส่วนตัว © Copyright 2022 HP Development Company, L.P.
Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA3014hp-share-print-widget-portlet
กำลังโหลด...
ข้อมูล
เรียนรู้วิธีอัปเกรดเป็น Windows 11
คู่มือการอัปเกรด Windows 11
- ข้อเสนอแนะ
Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA30N0hp-concentra-wrapper-portlet
กำลังโหลด...
หน้าหลักสินค้า
PC All-in-One HP - พัดลมมีเสียงดังและหมุนอยู่ตลอด (Windows)
เอกสารนี้ใช้กับ PC HP All-in-One
เมื่อพัดลมคอมพิวเตอร์หมุนเสียงดังเป็นเวลานาน อาจเกิดปัญหากับพัดลม หรือคอมพิวเตอร์มีความร้อนเกินไป ปรับการตั้งค่าพลังงาน ทำความสะอาดช่องพัดลม อัพเดตไดรเวอร์กราฟิก จากนั้นอัพเดต BIOS เพื่อช่วยลดอุณหภูิมิภายใน
บันทึกเป็นเรื่องปกติที่พัดลมจะหมุนเสียงดังเป็นเวลา 5 ถึง 20 วินาทีเมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มเปิดทำงาน
ขั้นตอนที่ 1: ปรับการตั้งค่าพลังงานคอมพิวเตอร์
ปรับการตั้งค่าพลังงานเพื่อลดการใช้พลังงาน ซึ่งสามารถช่วยให้พัดลมคงอุณหภูมิที่เหมาะสมได้สูงสุด 30°C (86°F)
เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
จาก Windows ให้ค้นหาและเปิด Control panel (แผงควบคุม)
จากช่องค้นหา Control Panel (แผงควบคุม) ให้พิมพ์ power options จากนั้นเลือก Power Options (ตัวเลือกพลังงาน) จากรายการ
คลิก Change plan settings (เปลี่ยนค่าแผนการใช้พลังงาน)
คลิก Change advanced power settings (แก้ไขค่าการจัดการพลังงานขั้นสูง)
คลิกเมนูดรอปดาวน์ Power saver (ประหยัดพลังงาน)
เลือก Sleep (สลีป) จากรายการ จากนั้นคลิก Sleep after (สลีปหลังจาก) และ Hibernate after (ไฮเบอร์เนตหลังจาก) เพื่อเปิดแต่ละการตั้งค่า
บันทึก
โหมดสลีปทำให้คอมพิวเตอร์เข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานโดยไม่ปิดแอพพลิเคชั่นที่เปิดอยู่ ขณะที่โหมดไฮเบอร์เนตบันทึกงานในแอพพลิเคชั่นที่เปิดอยู่ จากนั้นจึงจะปิดทำงานคอมพิวเตอร์
ลดเวลาแต่ละการตั้งค่าเพื่อลดการทำงานของพัดลมเมื่อคอมพิวเตอร์ไม่ได้ใช้งาน
คลิก OK (ตกลง) เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
หากยังมีปัญหาอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 2: ทำความสะอาดช่องระบายอากาศ
ฝุ่นและสิ่งสกปรกสามารถสะสมในและรอบๆ ช่องระบายอากาศเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งเป็นการปิดกั้นการถ่ายเทของอากาศ และทำให้พัดลมทำงานหนักกว่าปกติในการระบายความร้อน
ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
นำวัตถุที่อยู่ใกล้เครื่องคอมพิวเตอร์ออก
ใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดช่องด้านหลังและด้านข้างของคอมพิวเตอร์
เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
หากยังมีปัญหาอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 3: เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน
คอมพิวเตอร์จะทำงานหนักขึ้นและร้อนขึ้นเมื่อเปิดแอพพลิเคชั่นหลายตัวพร้อมกัน หรือขณะเล่นเกมที่ใช้กราฟิกเป็นอย่างมาก
ใช้เคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอมพิวเตอร์
เปลี่ยนแอพพลิเคชั่นที่จะเปิดขึ้นเมื่อเริ่ม Windows โดยใช้แท็บ Startup (การเริ่มทำงาน) ใน Task Manager (ตัวจัดการงาน)
ปิดแอพพลิเคชั่นเมื่อคุณใช้งานเสร็จแล้ว
ปิดอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์เมื่อคุณไม่ได้ใช้งาน
ลดความละเอียดของเกมและลดการตั้งค่ากราฟิกหากคอมพิวเตอร์อุ่นขึ้นขณะเล่นเกม
หากยังมีปัญหาอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 4: ใช้ Task Manager (ตัวจัดการงาน) เพื่อระบุกระบวนการที่เสียหาย
เมื่อ CPU รับภาระหนักจากกระบวนการหลายรายการ เช่นซอฟต์แวร์ที่เสียหายหรือมัลแวร์ พัดลมจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อระบายความร้อนที่เกินมา เปิด Task Manager (ตัวจัดการงาน) ของ Windows เพื่อระบุหากระบวนการเหล่านี้แล้วปิดการทำงาน
บันทึกกระบวนการทำงานที่ไม่จำเป็นหรือเสียหายอาจใช้กำลังประมวลผลของ CPU ที่ 1 - 100% แม้ว่าจะมีการใช้กำลังประมวลผลเพียง 3 - 4% ก็อาจทำให้พัดลมทำงานหนักขึ้นได้ แม้ระดับการโหลดต่ำแต่ต่อเนื่องที่ 3% ถึง 4% ก็อาจทำให้พัดลมหมุนเร็วขึ้น
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณต่ออยู่กับเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานได้
กด Ctrl, Alt, Delete จากนั้นเลือก Start Task Manager (เริ่มใช้ตัวจัดการงาน) เพื่อเปิดหน้าต่าง Task Manager (ตัวจัดการงาน) ขึ้นมา
คลิก More details (รายละเอียดเพิ่มเติม) หากจำเป็น
คลิกแท็บ Processes (กระบวนการ) จากนั้นคลิกหัวข้อคอลัมน์ CPU เพื่อเรียงการประมวลผลตามภาระของ CPU
ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลและยืนยันกระบวนการน่าสงสัยใดๆ ที่ปรากฏในรายการ
เลือกกระบวนการที่น่าสงสัย จากนั้นคลิก End task (สิ้นสุดงาน)
หากคุณไม่พบกระบวนการที่น่าสงสัยหรือยังพบปัญหาอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 5: ปรับปรุงไดร์เวอร์กราฟิก
ไดรเวอร์กราฟิกอาจเป็นรุ่นเก่า ใช้ Windows Update เพื่อค้นหาและติดตั้งข้อมูลอัพเดตไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ
บันทึกHP ไม่แนะนำให้ติดตั้งไดรเวอร์จากเว็บไซต์บุคคลที่สาม เนื่องจากอาจก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มเติม โปรดตรวจสอบว่าคุณได้สร้างการคืนค่าระบบของ Windows ก่อนเริ่มการอัพเดตหากคุณเลือกติดตั้งไดรเวอร์ที่ไม่ใช่ของ HP ไปที่ การใช้ Microsoft System Restore (Windows 10, 8) หรือ การใช้ Microsoft System Restore (Windows 7) เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม
คอมพิวเตอร์ต้องสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
บันทึก
ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่คิดค่าบริการตามปริมาณข้อมูล เช่น เครือข่ายเซลลูลาร์ คุณอาจจำเป็นต้องดาวน์โหลดอัพเดตด้วยตัวเอง
จาก Windows ให้ค้นหาและเปิด Windows Update settings (การตั้งค่า Windows Update)
คลิก Check for updates
Windows 10: ข้อมูลอัพเดตใดๆ ที่มีจะติดตั้งโดยอัตโนมัติ
Windows 7 และ 8: คลิก Install Updates (ติดตั้งข้อมูลอัพเดต) ถัดจากข้อมูลอัพเดตที่มี
หลังจากติดตั้งอัพเดต ให้รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ หากจำเป็น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ไปที่ การอัพเดตไดรเวอร์และซอฟต์แวร์โดยใช้ Windows Update
หากยังมีปัญหาอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 6: อัพเดต BIOS
BIOS ของคอมพิวเตอร์อาจเป็นรุ่นเก่า ตรวจสอบข้อมูลอัพเดต BIOS จาก HP
หมายเหตุตรวจสอบว่าคุณติดตั้งข้อมูลอัพเดต BIOS ไปยังรุ่นคอมพิวเตอร์ที่เฉพาะเจาะจง การติดตั้งข้อมูลอัพเดตที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้สูญเสียความสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอร์
ไปที่ HP Software and Drivers Downloads (การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ของ HP) จากนั้นไปยังหน้าผลิตภัณฑ์สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ
ค้นหา BIOS ในรายการ
หากไม่มีตัวเลือก หมายความว่า BIOS เป็นรุ่นล่าสุด
หากมีตัวเลือก ให้คลิก BIOS จากนั้นคลิก Download (ดาวน์โหลด) ถัดจากข้อมูลอัพเดต ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ จากนั้นรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ไปที่ การอัพเดต BIOS (ระบบ I/O พื้นฐาน).
หาก BIOS เป็นรุ่นล่าสุดหรือยังคงพบปัญหาอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 7: ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ HP
หากขั้นตอนก่อนหน้ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้ติดต่อ ฝ่ายบริการลูกค้าของ HP สำหรับการรับประกันและตัวเลือกการบริการ