รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว งบ 1 แสน

โฮ้โฮ! ไม่น่าเชื่อเลยว่าทาวน์เฮาส์เก่าๆ สภาพโทรม และมีอายุมานานมากกว่า 30 ปี จะทำให้กลับกลายเป็นบ้านสวยๆ น่ารักๆ ได้ เรียกว่าพลิกโฉมและเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ใครอยากมีบ้านสไตล์อบอุ่นและใช้งบประมาณไม่ถึง 8 แสน ตามเรามาดูแนวคิดและไอเดียของเจ้าของบ้าน คุณมิม-บุษยาภรณ์ ยูโซะและคุณเค-เกื้อกูล ต่อสกุล กันเลย รับรองว่าได้แรงบันดาลใจกลับไปแน่นอน

ซื้อบ้านใหม่เพราะชั้นไม้ในครัวมันติดไม่อยู่แล้ว
อยู่ด้วยกันสองคนที่คอนโดย่านลาดพร้าว เพราะว่าใกล้ที่ทำงานทั้งคู่ แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าซื้อบ้านดีมั้ย เพราะทำครัวที่นั่นไม่ได้เลย อยากเจาะผนังแต่เจาะไม่ได้ เราเช่าเค้าอยู่ ก็ทำเท่าที่ทำได้ มันเริ่มต้นมาจากจุดนั้นจริงๆ (ฮ่าๆ) มันมีชั้นไม้ที่พยายามติดกาวกับผนังแล้วมันก็หลุด คุยกับเคว่าไม่ไหวแล้วซื้อบ้านกันมั้ย อีกอย่างหนึ่งก็คือเราอยากเลี้ยงแมวด้วย เลยคุยกับเคว่าไปหาซื้อบ้านกัน

เริ่มตระเวนหาบ้าน
ไอเดียแรก ถามแม่ก่อนว่ามีบ้านที่เค้าประกาศขายในหมู่บ้านมั้ย แล้วหาเพิ่มจากในเน็ต ทั้งหมดก็มีบ้าน 3 หลังที่เป็นตัวเลือกซึ่งตั้งใจจะไปดู เริ่มจากบ้านหลังนี้ก่อนเลยสภาพเดิมโทรมมาก มืดทึบเหมือนบ้านร้าง แล้วก็ไปดูอีกสองหลังที่เหลือ บ้านมือสองอีกหลังเป็นบ้านหลุดจำนองสภาพบ้านใหม่รีโนเวทแค่นิดเดียวก็เข้าอยู่ได้เลย แล้วก็อีกหลังเป็นบ้านใหม่เลย ดูแล้วแบบโอ้ไม่ ไม่ใช่อย่างที่เราจะซื้อ ถ้าเกิดซื้อในราคาเท่านี้เดี๋ยวเราก็ต้องทำอีกในสไตล์ที่เราอยากได้ ก็เลยบ้านใหม่ตัดทิ้งแน่นอน เหลือบ้านมือสองหลุดจำนองแล้วก็หลังนี้ เราก็วนกลับมาบ้านนี้ใหม่อีกรอบ ไม่รู้ว่าด้วยโชคหรืออะไรก็ไม่รู้เจ้าของบ้านมาพอดีโดยไม่ได้นัดกัน เรากำลังเดินสำรวจบ้านอยู่ แล้วเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามา คุยกับเค้าตัดสินใจซื้อวันนั้นเลย

ทุกอย่างลงตัว
ซื้อปุ๊บก็ได้ช่างที่อยู่ข้างบ้าน เป็นน้าที่สนิทกัน คือบ้านแม่มิมอยู่ซอย 3 มิมอยู่ซอย 4 ลูกเค้าก็รู้จักกับมิมคือสนิทกันมาตั้งนาน แม่บอกว่าเดี๋ยวให้น้าจาเนี่ยแหละทำ เราก็ลองไปเช็คราคาเจ้าอื่นแต่ก็ช่างมันละ เอาน้าจาดีกว่า ก็ได้ช่างเรียบร้อย หลายคนเค้าอาจจะหาช่างยากลำบาก แต่สำหรับเราคิดว่าโชคดีมากๆ หลังจากตกลงแล้วก็เริ่มทำ

โจทย์ที่ให้กับช่าง
มิมดู pinterest เยอะ อีกอย่างเราสองคนทำงานออกแบบทั้งคู่ มิมออกแบบแอพพลิเคชั่นสาย UX UI ดีไซน์ ส่วนเคออกแบบเกมส์ เราก็ขึ้นแบบให้เค้าเห็นภาพได้ง่าย โจทย์มีแค่ว่าเป็นไม้และสีขาว บ้านทาสีขาวทั้งหลัง พื้นเป็นไม้ ส่วนวัสดุมิมเลือกเอง สไตล์การตกแต่งเป็นแบบตัวเอง มีเหล็ก มีไม้ สีชมพูแซมนิดหน่อยให้ดูน่ารัก และก็ต้องคอยคุมธีมในการเลือกซื้อของ

ปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
ระเบียงห้องนอนทุบออก ครัวเตี้ยเราก็ยกเพดานให้สูงขึ้นแล้วก็เปลี่ยนฝ้าใหม่ เหลืออยู่ก็คือโครงปูน โครงบันได จากบันไดที่เป็นไม้สีเข้มก็เปลี่ยนลูกตั้งลูกนอน เอาราวออก เวลารีโนเวทจะทำจากบนลงล่าง ส่วนข้างหน้ารู้สึกว่าอยากให้โปร่งเราก็ทุบออกให้ช่างกระจกมาทำ โชคดีว่าเจอช่างกระจกนิสัยดี น่ารัก กลายเป็นว่าบ้านนี้ใช้กระจกเยอะเลย เพราะเราอยากได้แสงให้บ้านดูสว่าง ส่วนฟังก์ชันสำหรับชั้นล่าง แบ่งเป็นห้องนั่งเล่น มุมทำงาน มุมทานข้าว ห้องครัว

เฟอร์นิเจอร์สั่งออนไลน์เกือบทั้งหมด
มิม: ซื้อกระเบื้องก็ยังสั่งออนไลน์ เพราะว่าไม่มีรถขับกัน ออนไลน์ถูกกว่ามีโปรโมชั่นจะเซฟเรื่องราคา ที่ทำงานมิมใกล้บุญถาวรไปเดินดูแล้วกลับมานั่งกดออนไลน์เพื่อจะได้โค้ดลด ส่งฟรีด้วย เป็นอีกเทคนิคอย่างหนึ่งให้กับคนที่จะรีโนเวทบ้านเหมือนกันนะคะ
เค: แล้วก็เลือกวันได้ว่ามาส่งเมื่อไหร่ ช่างเค้าก็จะบอกเราว่าอาทิตย์นี้ต้องการกระเบื้องตรงนี้เราก็จะบอกให้เค้ามาส่งได้เลย ไม่ต้องเอาของมากองรวมกันที่บ้าน ช่วงที่ทำบ้านเดินทุกวัน ถึงเราจะสั่งออนไลน์ก็จริงแต่ก็ต้องไปดูให้เห็นของจริงก่อนด้วย

ครัวคือส่วนที่ใส่ใจเป็นพิเศษ
เป็นสไตล์ของตัวเองระดับหนึ่ง ใส่ใจตรงครัว เพราะดูน่ารักสุด เราเสิร์ชหาช่างบิลต์อินครัวเอง แต่มิมจะออกแบบหน้าตาขึ้นสเก็ตช์ไว้เรียบร้อยแล้วก็ทำตามที่เราออกแบบ ส่วนฟังก์ชันในครัวต้องมีมุมทำกาแฟ แล้วฟังก์ชันหลักๆ กำหนดไว้ว่าต้องใช้เตาแก๊ส เพราะอยู่คอนโดมามันใช้เตาแก๊สไม่ได้ รู้สึกอยากผัดกระเพรา ใฝ่ฝันมาก (ฮา) พอมีบ้านแล้วต้องทำได้ แต่ก็มีปัญหาเหมือนกันว่าแล้วถังแก๊สจะไว้ยังไง ซึ่งตอนนี้ก็ซ่อนไว้ในตู้นั่นแหละ เครื่องดูดควันก็ต้องเอาแบบแรงๆ เพราะเราทำอาหารไทย พวกของใช้ในครัวเลือกเยอะเหมือนกัน อย่างตู้กับข้าวก็สั่งออนไลน์ไม่ได้เอามาใส่กับข้าวเอาไปใส่ชามเฉยๆ ส่วนตู้เย็นก็ง่ายมากตัดทุกโจทย์ให้เหลือสีขาวอย่างเดียว มีแค่สองแบรนด์ เลือกง่าย

เกือบจะเลือกครัวปูนแล้ว
มิมชอบทำอาหารไทย ตอนแรกก็เกือบจะลงที่ครัวปูนแต่มีการชั่งน้ำหนักว่ามันจะออกมาเป็นยังไง จะวางยังไง ถ้าเป็นครัวปูนแล้วหน้าบานอีก เราก็ ไปหาเยอะมากแต่ไม่ค่อยถูกใจ ถ้าทำครัวไทยต้องเลือกเป็นกระเบื้องโมเสคสไตล์นั้น พอคำนวนราคาสุดท้ายตัดสินใจทำบิลต์อินแล้วกัน เพราะราคาก็พอๆ กัน ช่างไม่เหนื่อยมานั่งติดกระเบื้องให้อีก

สุดท้ายเลือกครัวบิลต์อิน
ทอปครัวเป็นแบบมนๆ เป็นแบบปิดผิวก็ดูแลง่ายนะคะ เหมือนเคลือบมาแล้ว แต่ถ้าน้ำท่วมก็อาจจะไปเหมือนกัน จริงๆ คิดว่าใช้ไปซักสิบปีถ้ามันเสื่อมก็เปลี่ยน เพราะราคาประมาณ 4 หมื่น อยู่ได้สิบปีก็ถือว่าคุ้ม เพราะก็จะมีคนคิดว่าเลือกก่อปูนหรือบิลต์อินดีกว่ากัน อันไหนจะอยู่ได้ยาวนาน แต่มิมคิดว่าสุดท้ายถ้าเกิดแบบอย่างที่บ้านแม่มิมใช้กระเบื้องมันแตกสุดท้ายก็ต้องรื้ออยู่ดี ถ้างั้นก็ใช้ให้เสื่อมแล้วรื้อทั้งชุดก็ดูง่ายกว่า จริงๆ ก็อยู่ที่การรักษาด้วย

ทำเพดานครัวให้สูง
มิม: มิมอยากได้หลังคาโปร่งๆ เอาหลังคาใสๆ หมดแล้วกัน ช่างบอกว่าตายแน่แกร้อนแน่ (ฮา) มิมอยู่ได้ เค้าบอกว่าอยู่ไม่ได้หรอก งั้นทำเป็นสองชั้น ชั้นล่างทึบชั้นบนขอเป็นโปร่งๆ ตอนแรกใส่แค่ 3 ช่อง รู้สึกว่าไม่พอเราเลยขออีก ก็เลยเอาทั้งหมด ถ้าอยู่ไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวค่อยให้ช่างมาเปลี่ยน แต่ก็อยู่ได้นะ ไม่ร้อน ก็เลยเป็นโปร่งหมดเลย
เค: มีแค่ตัวขอบสุดที่ทึบ เพราะมันต้องยึดเป็นหลังคาใสไม่ได้

ที่มาของกระจกบานเลื่อนในครัว
หลังบ้านเค้าเลี้ยงแมวเยอะมาก อันนี้ก็เป็นเรื่องเครียดเหมือนกัน เกือบ 20 ตัว แล้วก็มีกลิ่น ถ้าบ้านเก่าเดินเข้ามาเราก็จะได้กลิ่น เราก็คิดว่าจะทำยังไงกับตรงนี้ดี อยากให้ได้โปร่งๆ แต่ก็ไม่อยากได้กลิ่นก็มีไปคุย ไปแจ้งเค้าว่ามันส่งกลิ่นนะ เค้าก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่จำนวนแมวเยอะคุมยาก เราก็เข้าใจเพราะเราก็เลี้ยงแมวเหมือนกัน เลยคิดจะทำยังไงดี อยากให้มีช่องทั้งเปิดและปิดได้ จนมาลงตัวที่แบบนี้ ให้ช่างกระจกเจ้าเดิมนี่แหละ น้าที่เป็นช่างเค้าก็แนะนำว่าทำเป็นกระจกมั้ยล่ะ จะเปิดเมื่อไหร่ก็ได้ ปิดเมื่อไหร่ก็ได้ ก็เลยสรุปที่แบบนี้ เปิดระบายกลิ่น กันน้ำฝนได้ด้วย

บ้านเสร็จถึงกับร้องไห้
เค: มันตื้นตันกับสิ่งที่เรารอและทำมันออกมา คือมันสวยขนาดนี้เลยหรอ

รับออกแบบบ้านด้วย
มิม: ซื้อของเข้าบ้านจนเคต้องห้ามว่าบ้านตัวเองมันต้องจบได้แล้ว งั้นก็ลองทำบ้านให้คนอื่นดีกว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คิดหรอกค่ะ แต่มีพี่คนหนึ่งเค้าทักเข้ามาบอกว่าออกแบบให้พี่หน่อย เราก็ไม่รู้จะคิดยังไง เหมือนเค้าอยากให้เราออกแบบให้ ห้องเล็กๆ เหมือนห้องลูก ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เรานะ เป็นรายได้ขึ้นมานิดหนึ่ง มิมก็ไม่ได้ทำแพง หรือขนาดอินทีเรีย คือช่วยกันอยากให้ทุกคนมีบ้านที่ดูดี ในราคาประหยัด พี่เขาจะมีงบให้ประมาณไม่เกินห้าพัน มิมก็จะซื้อของในออนไลน์อะไรแบบนี้ แล้วก็เริ่มมีคนอื่นๆ ติดต่อมาเรื่อยๆ เป็นการระบายความอยากแต่งบ้านและอยากช้อปปิ้งของเรา

เพจทำบ้านแบบมิม:
//www.facebook.com/homemadebymimmim/


About wassukon

ไม่ได้จบโดยตรงด้านออกแบบ แต่ฝันอยากเป็นสถาปนิกแล้วโลกก็เหวี่ยงให้มาเขียนงานด้านออกแบบเป็นสิบปี ตอนนี้เลยมีโลกส่วนครัวมากกว่าโลกส่วนตัวไปแล้ว

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก