ข้อเข่าเสื่อม ห้าม กินอะไร

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมากขึ้น และหลายคนคงมีอาการปวดตามข้อเวลาออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาประเภทที่ต้องกระโดด หรือวิ่งมาก ๆ เป็นเวลานาน และอาจรู้สึกปวดตามข้อ หรือในเวลาที่อากาศเย็นขึ้น บุคคลประเภทนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรคข้ออักเสบ โรคข้ออักเสบ (Arhritis) เป็นชื่อเรียกโดยรวมของโรคกลุ่มนี้ซึ่งแยกออกมาได้กว่า 200 ชนิดที่พบบ่อยมีอยู่ 2 ชนิด คือ โรคข้อเสื่อมหรือข้ออักเสบเรื้อรัง (Osteoarthritis) และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือปวดข้อรูมาตอยด์ (The Rumatoid Arthritis) ทั้ง 2 ชนิด มีสาเหตุของโรคต่างกันคือ โรคข้อเสื่อม เกิดจากความทรุดโทรมของกระดูกอ่อนที่หุ้มข้อกระดูกค่อย ๆ หายไป ทำให้ข้อกระดูกเสียดสีกันเวลาเคลื่อนไหว จนเกิดอาการข้อยึด ส่งผลให้ปวดบริเวณข้อ โดยเฉพาะเวลาอากาศเย็น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่สาเหตุที่พบบ่อยคือ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ เกิดการทำลายข้อต่อกระดูกของตนเอง และโรคนี่ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย โดยเฉพาะช่วยอายุระหว่าง 22 – 55 ปี และเพศหญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคได้มากกว่าเพศชายถึง 3 เท่า ทั้งยังเป็นโรคเรื้อรัง ที่มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ ไปตลอด แต่ในผู้ป่วยบางชนิดก็เป็นไปได้เช่นกัน ส่วนผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคข้ออักเสบนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ปกติ หรือแม้แต่นักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรงก็มีสิทธิ์เป็นได้นักกรีฑา นักวิ่ง นักกระโดดสูงล้วนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เพราะจำเป็นต้องใช้ข้อต่อต่าง ๆ โดยเฉพาะที่หัวเข่าและข้อเท้ามากเป็นพิเศษ ในการวิ่งหรือกระโดด ทำให้เกิดแรงกดที่ข้อกระดูก เหมือนคนที่มีน้ำหนักมากเช่นกัน อาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคนี้ ส่วนใหญ่แล้วแนะนำให้บริโภคอาหารลักษณะเดียวกับผู้ควบคุมน้ำหนัก ซึ่งเน้นเป็นอาหารไขมันต่ำ และเน้นให้ทานผักผลไม้เป็นหลัก เพราะคนอ้วนหรือคนที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบ แพทย์แนะนำให้พยายามควบคุมน้ำหนัก ควบคู่กับการรักษาโรคด้วยยา โดยเน้นไปที่อาหารกลุ่มธัญพืชที่มีการขัดสีน้อย เช่น ข้าวกล้อง แป้งไม่ขัดขาว และผักใบเขียวต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน แคลเซียม โดเลต เหล็ก วิตามินซี ควรกินให้ได้ทุกวัน วันละนิดก็ได้ แต่ควรให้รับสม่ำเสมอ นอกจากอาหารควบคุมน้ำหนักต่าง ๆ แล้ว ผู้ป่วยโรคนี้ควรบริโภคปลาที่มีน้ำมันปลาด้วย เพราะมีหลักฐานว่า กรดไขมันโอเมก้า-3 ที่อยู่ในกฎไขมันไม่อิ่มตัวในปลา มีคุณสมบัติยับยั้งการอักเสบของข้อกระดูก จึงแนะนำให้บริโภคเฉลี่ย 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรืออาจกินในรูปของแคปซูลน้ำมันปลา แต่ต้องกินตามคำแนะนำบนฉลาก ไม่ควรกินเกินกว่าที่กำหนดไว้ นอกจากน้ำมันปลาแล้ว น้ำมันจากดอกอีฟนิ่งพริมโรสก็มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบได้เช่นกัน ก่อนกินควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่า สามารถกินได้หรือไม่ สำหรับอาหารที่ควรพิจารณาเข้าไว้เป็นประจำ ก็คือ

  • ปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 มาก เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลากระบอก ปลาทู ปลาดุก ปลาช่อน เป็นต้น โดยเฉพาะผู้เป็นโรคข้ออักเสบรูมาดอยด์
  • ธัญพืชที่ไม่ขัดสีมากนัก เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮสวีด จมูกข้าวสาลี ถั่วต่าง ๆ สำหรับถั่วไม่ควรกินมาก เพราะมีแคลอรี่สูง
  • ผักผลไม้ เช่น ผักใบเขียวต่าง ๆ กล้วยที่เป็นแหล่งโพแทสเซียม และใยอาหารควรกินอย่างน้อยให้ได้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แม้กระทั่งขิงก็พบว่ามีสารช่วยลดอาการอักเสบได้เช่นกัน จึงควรกินอย่างน้อย 5 กรัม สัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวมไปถึงขึ้นฉ่าย ฝรั่ง หรือเซเลอรีนั้น ก็มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเสื่อม


ผู้ป่วยที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ควรบริโภคถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้จากน้ำนมถั่วเหลือง เป็นต้น ส่วนอาหารที่ควรงดไปเลย หรือกินเพียงเล็กน้อย คือ อาหารที่ผ่านกรรมวิธีขัดสีจนขาว และอาหารรสเค็มจัด หรือหวานจัด ลดอาหารที่มีกรดไขมันอิ่มตัว เช่น เนย เนยแข็ง น้ำมันมะพร้าว

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

โรคข้อเข่าเสื่อมนั้นเป็นต้นเหตุของอาการปวดเข่า โรคข้อเข่าเสื่อมหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า โรคข้ออักเสบจากการสึกหรอ เป็นภาวะที่ชิ้นส่วนกันกระแทกตามธรรมชาติหรือกระดูกอ่อน ระหว่างข้อต่อสึกหรอไป ทำให้กระดูกของข้อต่อเสียดสีกันมากขึ้น โดยที่กระดูกอ่อนดูดซับแรงกระแทกได้น้อยลง ผลการเสียดสีส่งผลให้เกิดอาการปวดบวมตึง จนทำให้ความสามารถในการขยับเข่าลดลง แล้วปวดเข่ามากขึ้น ในบทความนี้จะมาแนะนำรู้ถึงสาเหตุของการปวดเข่า ปวดเข่าห้ามกินอะไร อาหารใดที่ควรกินสำหรับผู้ปวดเข่า รวมถึงแนะนำอาหารเสริมที่ช่วยเรื่องปวดเข่า ข้อมูลสำคัญๆ และช่องทางการจำหน่าย

ทำไมปวดเข่า ? ปวดเข่าห้ามกินอะไร ? และปวดเข่าต้องกินอะไร ?

เกร็ดสุขภาพ : ส่วนใหญ่จะพบอาการปวดเข่าในผู้สูงวัย ดังนั้น อายุจึงเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่ง คนเราเกือบทุกคนจะพัฒนาอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมขึ้นมาในระดับหนึ่งเสมอ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นอีกหลายประการที่ไปเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ ได้แก่ กิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ต้องใช้ข้อเข่า กรรมพันธุ์ การบาดเจ็บ การติดเชื้อ และน้ำหนักตัวมากเกิน นอกจากนี้ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่าผู้ชาย รวมถึงหมอนรองกระดูกทับเส้นด้วย

Image Credit : freepik.com

อาหาร 8 ชนิดเป็นข้อห้ามสำหรับผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

อาหาร 8 ชนิดต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับการอักเสบที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม มาดูกันว่าปวดเข่าห้ามกินอะไร

น้ำตาล

น้ำตาลถูกนำไปที่เติมในอาหารแปรรูปหลายชนิด เช่น ขนมอบ เครื่องดื่มที่มีรสหวาน ลูกอม เครื่องปรุงรสเช่น ซอสบาร์บีคิวก็มีน้ำตาลปะปนอยู่มาก น้ำตาลจึงเป็นสิ่งแรกของปวดเข่าห้ามกินอะไร เพราะผลการวิจัยได้เชื่อมโยงการบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปกับการอักเสบที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปสร้างโอกาสที่จะเป็นโรคอ้วน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพข้อต่ออีกด้วย

เกลือ

เกลือเป็นส่วนสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพเพราะช่วยรักษาสมดุลของของเหลวโดยการดึงน้ำเข้าไปและกักเก็บของเหลวไว้ แต่เกลือเป็นอาหารต้องห้ามของปวดเข่าห้ามกินอะไร เพราะเมื่อบริโภคเกลือมากเกินไป ของเหลวส่วนเกินจะถูกกักไว้ซึ่งอาจทำให้ข้อต่ออักเสบและบวมเพิ่มขึ้น

ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์

อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเกี่ยวข้องกับการอักเสบที่เพิ่มขึ้น อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ได้แก่ เนย เนื้อแดง เนื้อสัตว์แปรรูป ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันเต็ม อาหารจานด่วน อาหารทอด คือสิ่งที่ปวดเข่าห้ามกินอะไร ส่วนกรดไขมันทรานส์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัส รสชาติ และอายุการเก็บรักษาของอาหารนั้น จะไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีและมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการอักเสบของร่างกาย

คาร์โบไฮเดรตขัดขาว

ในระหว่างการขัดขาว ใยอาหารและสารอาหารหลายชนิดถูกกำจัดออกจากเมล็ดธัญพืช ดังนั้นคุณค่าทางโภชนาการส่วนใหญ่จึงมาจากแป้งที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ซึ่งย่อยและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายกว่า ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นและเป็นอาหารที่คนปวดเข่าห้ามกินอะไร ตัวอย่างของอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตขัดขาว เช่น ธัญพืชอาหารเช้า ขนมอบ ขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน ซึ่งอุดมไปด้วยน้ำตาล เกลือ และไขมัน

กรดไขมันโอเมก้า 6

กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 2 ชนิดในอาหาร ได้แก่ กรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 ซึ่งแต่ละชนิดมีผลต่อร่างกายต่างกัน กรดไขมันโอเมก้า 3 มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ในขณะที่กรดไขมันโอเมก้า 6 มีส่วนช่วยในการอักเสบจึงเป็นอาหารที่คนปวดเข่าห้ามกินอะไร แหล่งของโอเมก้า 6 ได้แก่ ถั่วเหลือง ข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันคาโนลา เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ถั่ว และเมล็ดพืช

ผลิตภัณฑ์นม

ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันเต็มจะมีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูงและเกี่ยวข้องกับระดับการอักเสบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงครีมและเนยด้วย ผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิด เช่น ไอศกรีม และนมช็อกโกแลตก็มีน้ำตาลสูงเช่นกัน การรวมกันของไขมันและน้ำตาลสูงทำให้ผลิตภัณฑ์นมประเภทนี้เป็นอาหารอีกชนิดที่คนปวดเข่าห้ามกินอะไรเพราะจะก่ออาการอักเสบมากขึ้น

แอลกอฮอล์

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณอย่างต่อเนื่องเกี่ยวข้องกับการอักเสบของอวัยวะและทำร้ายร่างกายผู้ดื่มเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นคนปวดเข่าห้ามกินอะไร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นอาหารต้องห้ามอีกชนิดหนึ่ง และหากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีน้ำตาลสูง ก็จะเพิ่มการอักเสบมากขึ้นด้วย

ผงชูรส

โมโนโซเดียมกลูตาเมตหรือผงชูรสเป็นสารเคมีที่ใช้ปรุงแต่งรส มักใช้ในอาหารหลากหลายชนิด มีงานวิจัยบางชิ้นได้แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ระหว่างผงชูรสกับผลกระทบด้านสุขภาพเชิงลบ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ และการอักเสบ สำหรับคนปวดเข่าห้ามกินอะไร ให้จำกัดผงชูรสในอาหารเพื่อควบคุมการอักเสบของเข่า

อาหาร 8 ชนิดที่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

การเปลี่ยนแปลงอาหารสามารถช่วยรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมได้ ซึ่งรวมถึงความเจ็บปวด อาการตึง และอาการบวม การบริโภคอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงสูตรอาหารบำรุงกระดูก สามารถช่วยป้องกันความเสียหายต่อข้อต่อได้

ปลาติดมัน

ปลาหลายชนิดมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมควรรับประทานปลาที่มีน้ำมันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ปลาดังกล่าว ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาแซลมอน ปลาทูน่า

น้ำมันพืชบางชนิด

น้ำมันพืชบางชนิดสามารถลดการอักเสบได้ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีโอลีโอแคนทัลในระดับสูง ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกับยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) รวมถึงน้ำมันจากอะโวคาโดและดอกคำฝอยก็เป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพและอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลได้

โยเกิร์ตและเนยแข็ง

โยเกิร์ตและเนยแข็งอุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินดี จึงเป็นอาหารเสริมบำรุงกระดูกได้ดีเพราะสารอาหารเหล่านี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก ซึ่งช่วยให้อาการเจ็บปวดบรรเทาลง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์จากนมดังกล่าวยังมีโปรตีนที่สามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ผู้ที่ปวดเข่าและต้องการควบคุมน้ำหนักสามารถใช้เป็นตัวเลือกได้

ผักใบเขียวเข้ม

ผักใบเขียวเข้มอุดมไปด้วยวิตามินดีและสารเคมีพืชที่ต่อสู้กับความเครียดและสารต้านอนุมูลอิสระ โดยวิตามินดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูดซึมแคลเซียมและยังช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อ ผักใบเขียวเข้ม ได้แก่ ผักโขม ผักคะน้า ผักชาร์ดกระหล่ำปลี

บรอกโคลี

บรอกโคลีมีสารประกอบที่เรียกว่า ซัลโฟราเฟน ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าสามารถชะลอการลุกลามของโรคข้อเข่าเสื่อมได้ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินเค วิตามินซี และแคลเซียมที่เสริมสร้างกระดูก

ชาเขียว

ชาเขียวมีสารโพลีฟีนอลสูง โพลีฟีนอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสามารถลดการอักเสบและชะลออัตราความเสียหายของกระดูกอ่อนได้

กระเทียม

สารประกอบที่เรียกว่า ไดอัลลิลไดซัลไฟด์ ที่เกิดขึ้นในกระเทียมสามารถยับยั้งการเอนไซม์ในร่างกายที่ทำลายกระดูกอ่อนได้

ถั่วและนัท

ถั่วและนัทมีประโยชน์ต่อหัวใจและยังมีมีแคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี วิตามินอี และใยอาหารสูง นอกจากนี้กรดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA) ในอาหารนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

แนะนำวิตามิน-อาหารเสริม

นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงอาหารที่คนปวดเข่าห้ามกินอะไรแล้ว วิตามิน-อาหารเสริมบำรุงกระดูกก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้มีอาการปวดเข่า

1. อาหารเสริมบำรุงเข่าข้อ AstaGlucan

Image Credit : lazada.co.th

อาหารเสริมนี้นำเอาสุดยอดสารอาหาร 2 ชนิดมารวมกันคือ แอนต้าแซนทิน และเบต้ากลูแคน แล้วบรรจุลงในแคปซูลลิแคป (Licaps)  แอสต้ากลูแคนจึงเสริมภูมิต้านทาน ต้านการอักเสบภายใน บำรุงข้อต่อ ​ลดความเสื่อมของข้อต่อ ลดอาการปวดตามข้อ ฟื้นฟูการทำงานของข้อ รวมถึงบำรุงสายตา ป้องกันและฟื้นฟูจอตาที่เสื่อม บรรเทาอาการ​ตาแห้ง ตาพร่า แสบตา และ​วุ้นในตาเสื่อม

วิธีกิน :วันละ 1 เม็ด หลังอาหารเย็น

ขนาดบรรจุ :30 เม็ด/กระปุก

ราคาโดยประมาณ :1,350 บาท

2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียม แอล-ทรีโอเนท ของ OVOCAL

Image Credit : lazada.co.th

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้ประกอบด้วย แคลเซียม แอล-ทรีโอเนท 950 มก. ผงไข่ขาว 500 มก. สารสกัดจากสตรอเบอร์รี่ 40 มก. สารสกัดจากเมล็ดงา 10 มก. และอื่นๆ 50 มก. โดยมีน้ำหนักสุทธิต่อ 1 เม็ดคือ 1,550 มก. เมื่อเทียบกับแคลเซียมคาร์บอเนตในผลิตภัณฑ์อื่นๆ แล้ว แคลเซียม แอล-ทรีโอเนท ใน OVOCAL จะแตกต่างกันชัดเจน เพราะร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานเสริมสร้างกระดูกได้ดีกว่า 9 เท่า และละลายในน้ำได้ดี กินแล้วปราศจากอาการท้องอืด ท้องผูก และไม่สะสมจนก่อให้เกิดนิ่ว จึงปลอดภัยเมื่อทานต่อเนื่องระยะยาว หากเริ่มมีเสียงในบางท่าของการเคลื่อนไหวข้อเข่า การรับประทาน OVOCAL จะไปช่วยเพิ่มน้ำเลี้ยงข้อเข่า ทำให้การเสียดสีดังกล่าวลดลง เสียงก๊อบแก๊บจึงลดลงไปด้วย

วิธีกิน :วันละ 1 เม็ด เพื่อการป้องกัน หรือถ้าปวดจนเดินไม่ไหวให้กินวันละ 3 เม็ด หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น ต่อเนื่องจนอาการปวดหายแล้ว จึงลดลงเหลือวันละ 1 เม็ด

ขนาดบรรจุ :30 เม็ด/กล่อง

ราคาโดยประมาณ :1,750 บาท

3. แอสโตรฟอร์ต คอมเพล็กซ์

Image Credit : lazada.co.th

แอสโตรฟอร์ต คอมเพล็กซ์ มีส่วนผสมของ glucosamine sulfate 750 มก. และ chondroitin sulfate Na 600 มก. ตามปกติสารหล่อลื่นให้ข้อเข่าทำงานได้ดี จะประกอบด้วย glucosamine sulfate เป็นส่วนสำคัญของเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนที่หุ้มรอบส่วนปลายของข้อกระดูก และกระตุ้นการสังเคราะห์สารโปรติโอไกลแคนอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบในโครงสร้างกระดูกอ่อน ส่วน chondroitin เป็นส่วนประกอบอีกชนิดหนึ่งในเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน ทำหน้าที่สังเคราะห์เนื้อเยื่อกระดูกอ่อน ลดการสร้างเอนไซม์ที่ทำลายกระดูกอ่อน และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

วิธีกิน :วันละ 2 ซอง เช้าและเย็น ก่อนอาหาร 15 นาที

ขนาดบรรจุ :30 ซอง/กล่อง

ราคาโดยประมาณ :730 บาท

4. ไวอาทริล เอส

Image Credit : lazada.co.th

ไวอาทริล เอส อาหารเสริมบำรุงกระดูก มีส่วนประกอบสำคัญคือ Glucosamine Sulfate 1,500 มก. เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเสื่อมอักเสบ ปัญหาปวดข้อรูมาตอยด์ เสริมสร้างการสร้างกระดูกอ่อน ช่วยการหล่อลื่นข้อ ทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวก โดยเพิ่มความหนืดของน้ำเลี้ยงข้อและเพิ่มการผลิตน้ำเลี้ยงข้อเข่า

วิธีกิน :ละลายน้ำดื่มวันละ 1 ซอง ก่อนอาหารเช้า 15 นาที ควรกินต่อเนื่องนาน 1-6 เดือน จึงจะประสบความสำเร็จในการรักษา

ขนาดบรรจุ :30 ซอง/กล่อง

ราคาโดยประมาณ :1,031 บาท

5. เฟล็กซ์ซา 1500 ของ MEGA WE CARE

Image Credit : lazada.co.th

เฟล็กซ์ซา 1500 เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีปัญหาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยเฉพาะ เสริมสร้างข้อต่อให้แข็งแรง ช่วยให้การเคลื่อนไหวมั่นคงขึ้น รับแรงกระแทกได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้น้ำไขข้อมีความหล่อลื่นขึ้น ทำให้ข้อต่อยืดหยุ่นมากขึ้น ลดอาการปวด ส่วนประกอบที่สำคัญในอาหารเสริมบำรุงกระดูกยี่ห้อนี้ ได้แก่คริสตัลไลน์ กลูโคซามีน ซัลเฟต โปตัสเซียม คลอไรด์ เทียบเท่า กลูโคซามีน ซัลเฟต 1,500 มิลลิกรัม

วิธีกิน :วันละ 1 ซอง โดยผสมน้ำ 1 แก้ว กินพร้อมอาหาร และใช้ต่อเนื่อง อย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป

ขนาดบรรจุ :31 ซอง/กล่อง

ราคาโดยประมาณ :885 บาท

ถึงแม้ว่าอาการปวดเข่าจะมีสาเหตุหลักๆ มาจากอายุที่เพิ่มมาขึ้น แต่การได้ทราบว่าปวดเข่าห้ามกินอะไรนั้น ก็จะช่วยให้อาการปวดเข่าอันเนื่องมาจากโรคข้อเข่าเสื่อมทุเลาลงได้ระดับหนึ่ง หรือลองท่าบริหารเข่าเสื่อม ตลอดจนการใช้อาหารเสริมเพื่อช่วยดูแลข้อเข่าก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีอาหารเสริมหลายหลายยี่ห้อที่ให้คุณสมบัติในการรักษาได้แตกต่างกันตามระดับของอาการปวดข้อเข่าอีกด้วย

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mayoclinic.org, medicalnewstoday.com, verywellhealth.com

Featured Image Credit : freepik.com/psodaz

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

pueasukkapab ปวดเข่าห้ามกินอะไร อาหารเสริมบำรุงกระดูก เพื่อสุขภาพ

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ เพื่อสุขภาพดอทคอม (www.pueasukkapab.com)

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก