เลซิติน คืออะไร มีประโยชน์และผลข้างเคียงหรือไม่
เลซิติน (Lecithin) คือ ไขมันชนิดหนึ่งที่สามารถอาศัยอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกายมนุษย์ โดยเลซิตินจะมีฟอสฟอรัส และวิตามินบีเป็นส่วนประกอบ
สารเลซิตินที่ว่านี้สามารพบได้ในอาหารจำพวก ถั่วเปลือกแข็ง เนย นม ข้าวโพด แครอท กะหล่ำดอก เนื้อปลา ไข่แดง ซีส Dairy Products และเนื้อสัตว์ เป็นต้น
ซึ่งจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์เป็นส่วนใหญ่ ว่ากันว่า เลซิติน มีความสำคัญต่อร่างกายของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบสมอง ตับ และหัวใจ
อย่างที่บอกว่าในเลซิตินมีฟอสฟอรัสและวิตามินบีเป็นส่วนประกอบ ซึ่งฟอสฟอรัสจะช่วยในกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต รวมถึงบรรเทาอาหารปวดกระดูกหรือข้ออักเสบ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรงด้วย
ในขณะที่วิตามินบีจะช่วยในการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยผลิตเอนไซม์ ทำให้เลือดเกิดการแข็งตัวเร็วขึ้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในปัจจุบัน สารเลซิตินจึงถูกนำมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพหลายยี่ห้อ
ประโยชน์ที่น่าสนใจของ เลซิติน
1.ช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน
อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า เลซิติน มีวิตามินบีเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ โดยวิตามินบีจะช่วยเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายสามารถเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ควรรับประทานอาหารที่มีเลซิตินหรืออาหารเสริม ควบคู่กับการออกกำลังกายด้วยเพราะจะช่วยกระตุ้นในเรื่องการเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี
2.เสริมสร้างการเรียนรู้ ด้านสมาธิและความจำ
เลซิติน เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียนหรือวัยทำงาน ล้วนแล้วแต่ต้องการเสริมสร้างการเรียนรู้ ด้านสมาธิและความจำเพื่อให้การเรียนหรือการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงผู้สูงอายุที่มักมีปัญหาด้านความจำ ชอบหลงลืม หรือเป็นโรคอัลไซเมอร์นั่นเอง
3.ช่วยในเรื่องการนอนหลับ
หากร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยลดความเมื่อยล้า หรือภาวะอ่อนเพลียได้ ส่งผลให้ระบบสมองและระบบประสาทของคุณทำงานได้ดีขึ้น และรู้หรือไม่ว่าการนอนหลับแบบสนิทนั้นยังช่วยให้เกิดกระบวนการเผาผลาญพลังงานในระหว่างนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังช่วยลดความหิวและกินจุกจิกระหว่างวันได้อีกด้วย
4.มีประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
สำหรับคุณแม่ที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปเพราะโดยส่วนมากอาหารแปรรูปมักมีการใส่วัตถุกันเสีย สารกันบูดหรือสารสารบอแรกซ์ต่างๆ หนึ่งในสารอาหารที่คุณแม่ควรได้รับคือ เลซิติน เพราะจะช่วยในเรื่องการพัฒนาระบบสมองและระบบประสาทของทารกที่อยู่ในครรภ์นั่นเอง
5.ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน
เลซิติน ช่วยปรับความสมดุลของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนเพื่อควบคุมระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย หากร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนมากหรือต่ำเกินไป ก็อาจส่งผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย นอกจากนั้นยังส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายด้วย
6.ช่วยขับล้างสารพิษในร่างกาย
ในแต่ละวันร่างกายของเราอาจได้รับสารพิษหรือสารเคมีจากการรับประทานอาหาร หรือแม้แต่เชื้อโรคและแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศ แต่ เลซิติน จะช่วยขับล้างสารเคมีหรือพิษต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายผ่านกระบวนการขับถ่ายออกมาในรูปของเสีย ช่วยให้อวัยวะอย่างลำไส้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันภาวะตับอักเสบ และบำรุงหัวใจได้อีกด้วย
7.ช่วยบำรุงผิว
อีกหนึ่งประโยชน์ที่น่าสนใจ และเหมาะกับสาวๆ คือ เลซิติน มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง กระชับ และเต่งตึงมากยิ่งขึ้น สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยความหย่อนคล้อยต่างๆ ที่บางครั้งไม่ได้เกิดจากปัจจัยการเพิ่มสูงขึ้นของอายุ แต่มาปัจจัยอื่นๆ เช่น รังสียูวีจากแสงแดดที่ทำร้ายผิวให้แห้งเสีย และเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร รวมไปถึงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือมีคาเฟอีนเป็นส่วนผสม
8.ป้องกันภาวะนิ่วในถุงน้ำดี
เนื่องจาก เลซิติน เป็นสารจากธรรมชาติที่มีกรดไขมันอย่าง ฟอสเฟต (Phosphate) และโคลีน (Choline) เป็นส่วนประกอบ โดยสารเหล่านี้จะมีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายของน้ำดี ช่วยให้น้ำดีไม่จับตัวจนเป็นก้อนนิ่วเพื่อป้องกันการอุดตันของนิ่วในถุงน้ำดีนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ คือข้อดีหรือประโยชน์ของ เลซิติน อย่างไรก็ตามควรรับประทานอย่างเหมาะสมในแต่ละวันเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายได้รับสารเลซิตินในปริมาณที่เยอะมากเกินไปอาจส่งผลเสียหรือผลข้างเคียงตามมาได้ และจะเกิดอะไรขึ้นหากร่างกายได้รับ เลซิติน
ในปริมาณมากเกิดความเหมาะสม
ผลข้างเคียงของ เลซิติน : เมื่อร่างกายได้รับ เลซิติน ในปริมาณมากจนเกินไป อาจส่งผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการท้องเสีย ปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นใส้ อาเจียน หรือบางครั้งอาจทำให้เกิดอาหารเหงื่อออก ใจสั่นได้
ในปัจจุบันคุณสามารถหาซื้ออาหารเสริมที่มี เลซิตินเป็นส่วนประกอบได้ตามร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือแม้แต่ช่องทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณภาพ สะอาดปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือหรือได้รับมาตรฐานการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่สำคัญควรศึกษารายละเอียดอ่านฉลากหรือบรรจุภัณฑ์เพื่อดูผลข้างเคียง ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทาน อย่าลืมดูวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ด้วย เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพและร่างกายของคุณ