เรียนภาษาอังกฤษระยะสั้น สิงคโปร์

เรียนภาษาอังกฤษที่สิงคโปร์ ดีหรือไม่ ควรเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศไหน ทำไมต้องไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ

วันนี้จะขอมาพูดคุยเพิ่มเติม เกี่ยวกับเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศสิงคโปร์ในฐานะที่ตัวเนตรเองได้ไปสำผัสการศึกษาที่สิงคโปร์มาเป็นเวลาหลายปีค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอเป็นอีกแรงสนับสนุน สำหรับคนที่สนใจและพร้อมที่จะไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าค่ะ  เราได้เปิดโอกาสดีๆให้กับชีวิตตัวเอง ที่สำคัญที่สุดคือ การเรียนรู้ของเราไม่ได้จบลงไปพร้อมกับกระดิ่งที่ดังขึ้นห้องเรียน ทุกๆนาทีที่เราอยู่ต่างประเทศเราจะได้มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษในทุกๆก้าวที่เราเดิน ซึ่งจะบังคับตัวเราเองให้เราได้ฝึกฝนสิ่งที่เราเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิงคโปร์แม้จะเป็นประเทศที่เล็ก แต่ก็มีความมั่นคงสูง เป็นประเทศที่คนจากหลากหลายเชื้อชาติมารวมตัวกัน ประกอบไปด้วยคนเชื้อชาติจีน คนมาเลย์ คนอิเดีย และคน Eurasian ( mix Europen - asian ) หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม"ลูกครึ่ง "ซึ่งคนทั้ง 4 กลุ่มนี้ ถือ สัญชาติ สิงคโปร์ และมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ

รัฐบาลของสิงคโปร์ให้ความสำคัญและทุ่มเทกับการศึกษาของเค้าเป็นอย่างมากเพราะสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กแทบจะไม่มีทรัพยากรธรรมชาติรองรับบุคลากรของเค้าเลยด้วยซ้ำ รัฐบาลเห็นว่านักเรียนสิงคโปร์ทุกคนมีค่ามากเพราะเป็นอนาคตของชาติเค้า ดังนั้นเค้าจึงให้ความสำคัญและทุ่มเททางด้านการศึกอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การศึกษาของสิงคโปร์ได้ครองเเชมป์เป็นที่หนึ่งทางด้านการศึกษามาโดยตลอดในกลุ่มประเทศอาเซียน นั่นคือการศึกษาโดยภาพรวมไม่ได้เจาะจงแค่เฉพาะการศึกษาด้านภาษาอังกฤษค่ะ

ประเทศสิงคโปร์จะเป็นประเทศที่เหมาะสำหรับเราหรือไม่นั้น เราต้องดูที่ความต้องการของเราเป็นหลักค่ะ ว่าเราอยากได้อะไรกลับมา การที่จะเลือกไปเรียนที่สิงคโปร์มีข้อดีมากมายซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ให้หลายๆคนได้ แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์ให้กับทุกคน

จุดเด่นของการเรียนภาษาที่สิงคโปร์คือ
1. เป็นประเทศที่มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ ดังนั้นเราได้มีโอกาสใช้ภาษานอกห้องเรียนแน่ๆค่ะ
2. เนื่องจากคนสิงคโปร์เป็นคนจีนมากกว่าครึ่งประเทศ ดังนั้นสถาบันสอนภาษาที่นั่นจะมีการสอนภาษาจีนด้วย นักเรียนที่สนใจสามารถลงเรียนภาษาอังกฤษภาคเช้าได้ และก็ลงเรียนภาษาจีนคาบบ่ายได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว ไปทั้งทีก็ไปให้คุ้ม และเรายังได้มีโอกาสได้ฝึกภาษาจีนนอกห้องเรียนด้วย เพราะร้านค้าที่โน่นก็พูดอังกฤษปนๆกันจีนกับเราเหมือนกัน
3. อยู่ใกล้กับประเทศไทยมาก บินแค่ 2 ชม. ก็ถึงแล้วค่ะ เนตรเคยต้องกลับไปทำฟัน (พอดีช่วงนั้นดัดฟันอยู่) ไปเช้าเย็นกลับก็ทำมาแล้วค่ะ
4. เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ตำรวจของเค้าเคารพกฏหมายบ้านเมืองของเค้าอย่างเคร่งครัด เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ปกครองได้ สมัยที่เรียนอยู่ที่นั่น คืนไหนที่นอนไม่หลับ เคยออกไปขี่จักรยานเล่นตอนตี 3 ที่ East Coast park ค่ะ เพราะเเถวนั้นมีร้านอาหารที่เปิดตลอดคืนเยอะดี ขี่ไปขี่มาเริ่มง่วง เลยไปพักงีบไปที่เก้าอี้ม้าหินที่ park ตื่นมาอีกทีก็สว่างแล้วค่ะ ตัวเราปลอดภัยไม่มีแม้ยุงมากัดและจักรยานยังจอดอยู่ข้างๆ ไม่หายไปไหน ปลอดภัยจริงๆค่ะเพราะเค้ามีตำรวจคอยตระเวรอยู่เรื่อยๆ  
5. ด้านอาหารการกิน ที่สิงคโปร์ก็มีอาหารที่หลากหลายให้ชิมให้ลอง มีร้านอาหารเปิดถึงดึกๆ สามารถตอบสนองชีวิตคนไทยได้อย่างลงตัว ( ตอนที่เนตรย้ายไปอยู่ที่ออสใหม่ๆ ปรับตัวไม่ทันค่ะ เพราะห้างที่ออสปิด 5 โมงเย็น แรกๆเราก้ไม่ชินเพราะต่างจากสิงคโปร์หรือเมืองไทยโดยสิ้นเชิงที่ห้างปิด 4-5 ทุ่ม)

แต่ทุกอย่างที่มีข้อดีย่อมมีข้อด้อยมาคู่กัน ( ขอใช้คำว่าข้อด้อย แทนคำว่าข้อเสียนะคะ) อันนี้เนตรขอชี้แนะในฐานะที่เนตรได้เห็นมาแล้วกับนักเรียนหลายคนที่ไปแล้วผิดหวังกลับมาเพราะเหตุนี้

อย่างแรกเลยคือ สำเนียงที่นักเรียนจะได้จากการไปอยู่ที่สิงคโปร์จะเป็นลักษณะ Singlish ซึ่งย่อมาจาก Singapore English ไม่ใช่สไตล์ฝรั่งค่ะ การพูดภาษาอังกฤษของคนสิงคโปร์จะออกไปทางจีนๆค่ะ สำหรับใครที่นึกภาพไมออกให้ลองไปดู utube คลิ๊ปนี้ค่ะ //www.youtube.com/watch?v=Ddqw1AFJqUk
คนสิงคโปร์เค้าพูดกันอย่างงี้จริงๆค่ะ เราไปอยู่ประเทศเค้าเราก็ต้องพูดตามเค้าค่ะ ไม่งั้นเค้าก็จะฟังเราลำบาก ดามสุภาษิตที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ขนาดฝรั่งเวลาอยู่ในบ้านเราก็ยังติดสำเนียงไทยเลย เช่น ครูฝรั่งจะพูดว่า "Don't forget to do your homework na"
แต่นั่นก็เป็นเพียงภาษาพูดเท่านั้นนะคะ ภาษาเขียนจะต่างกันโดยสิ้นเชิง ส่วนใหญ่แล้วคนสิงคโปร์จะเขียนได้ถูกต้องตามหลักแกรมม่าค่ะ

ข้อสองคือ ค่าครองชีพที่สิงคโปร์ก็ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะที่พัก ค่าเช่าที่พักที่สิงคโปร์จะเเพงเกือบเท่ากับของที่ออสหรือนิวซีแลนด์หรืออเมริกาค่ะ  การที่สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กมีพื้นที่จำกัด นักเรียนส่วนใหญ่ที่ไปจะอยู่ลักษณะ แชร์ 2 คนต่อ 1 ห้อง ประมาณอาทิตย์ละ $170  ถ้าใครมีงบเยอะหน่อยก็อาจจะอยากอยู่ห้องเดี่ยว ราคาตกประมาณอาทิตย์ละ $250-$400 แล้วแต่ว่าเราจะเลือกอยู่แบบไหน (เมื่อก่อนคุณพ่อคุณแม่ เช่าห้องให้เนตรอยู่กันเองกะพี่น้อง ค่าเช่าเดือนและ SG$1,900 เป็น apartment 3 ห้องนอนค่ะ )

ข้อที่สามคือ ค่าเรียนที่สิงคโปร์ค่อนข้างแพงค่ะ บางสถาบันแพงกว่าประเทศอื่นด้วยซ้ำ การที่มาตรฐานการศึกษาของประเทศเค้าสูงทำให้ราคาค่าหลักสูตรของเค้าก็สูงไปด้วยค่ะ

ข้อสุดท้ายคือ ค่าแรงที่สิงคโปร์ค่อนข้างต่ำถ้าเทียบกับค่าแรงที่ประเทศอื่น ( ยกตัวอย่างเช่น พนักงานทำ mc donald ที่ สิงคโปร์ได้ค่าแรง SG$5-6/ชม.ไม่มี OT แต่พนักงาน mc donald ที่ ออสจะได้ประมาณ AU$15/ชม. มี OT เพิ่มด้วย)  ถ้าเป็นผู้ใหญ่เเล้วอยากจะหางานพิเศษทำหลังเลิกเรียนอาจจะยากหน่อยค่ะถ้าไปที่สิงคโปร์ เพราะประเทศเค้าเล็กการแข่งขันด้านการหางานก็จะมีมากขึ้น อีกทั้งคนสิงคโปร์โดยทั่วไปแล้วเป็นคนขยันและทำงานเร็ว ( สไตล์คนจีน) เพราะฉะนั้นแน่นอนว่านายจ้างจะเลือกคนของประเทศเค้าก่อนที่จะโอกาสจะตกมาถึงเรา ในทางกลับกันถ้าเราไปอยู่ที่เมืองฝรั่ง โอกาสได้งานจะมากกว่าค่ะ เพราะฝรั่งส่วนใหญ่จะเป็นคนลักษณะชิลๆไม่ค่อยขยันทำงานเท่าไหร่ ผิดกับคนเอเซียที่หนักเอาเบาสู้ ดังนั้นนายจ้างฝรั่งมักจะเปิดโอกาสรับเด็กเอเซียทำงานค่ะ

ไปเรียนประเทศไทนดี ประเทศไหนที่จะเหมาะกับเราก็ต้องดูที่เราเป็นอย่างแรกค่ะว่าเราต้องการอะไร ถ้าใครมีแผนที่จะต้องทำธุรกิจกับประเทศ ASEAN ในอนาคต ประเทศสิงคโปร์จะเหมาะมากค่ะ เพราะการที่เราเคยไปใชิชีวิตในประเทศเค้าจะทำให้เค้าเปิดใจอยากร่วมงานกับเราง่ายขึ้น หรือถ้าใครที่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับไทยบ่อยๆระหว่างที่เรียน ควรที่จะเลือกเรียนที่สิงคโปร์เช่นกันค่ะ แต่ถ้าใครที่อยากจะไปเพื่อได้เรียนรู้ภาษาเร็วขึ้น และต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการอ่าน เขียน ฟัง พูด อาจจะลองดูประเทศอื่นไว้ด้วยให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ

การไปเรียนต่อในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเพียงเรียนภาษาคอร์สสั้น๐ ไม่กี่อาทิตย์ หรือการไปเรียนในระยะยาว เป็นการเปิดโอกาสที่ดีให้กับชีวิตเพราะนอกจากจะได้เพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาโดยตรงแล้ว ยังเป็นการเรียนรู้โลกกล้างผ่านประสบการณ์ชีวิตจริงอีกด้วย
ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ตัวเนตรเองได้มีโอกาสไปเรียนที่ อเมริกา สิงคโปร์ ออส นิวซ์ มาแล้ว อีกทั้งยังได้มีโอกาสสำผัสการเรียนที่อังกฤษอีกด้วย ถ้าใครสงสัย ไม่แน่ใจว่าควรเลือกประเทศไหนดี หรือ สถาบันไหนถึงจะเหมาะกับเรา ก็หลังไมค์ มาก็ได้ค่ะ หรือ อีเมล์มาพูดคุยกันก็ได้ค่ะ เผื่อเนตรจะพอช่วยแนะนำให้เพิ่มติมได้อีกทางค่ะ

email: ค่ะ
Edit : video link

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก