Photo Credit : Apple Insider
เรียกได้ว่าเป็นความลงตัวที่สุดแห่งยุคก็ว่าได้สำหรับ iPad Air 4 จาก Apple เพราะมีการรีดีไซน์ครั้งใหญ่ โดยโครงสร้างหลักเป็นวัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ขอบด้านข้างแบนราบและบางเฉียบ 6.1 มิลลิเมตร งานประกอบสวยงามประณีตตามแบบฉบับของ Apple ไอแพดแอร์ 4 ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่ แรงแบบขั้นสุด ซึ่งรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรก 23 กันยายน 2020 ราคาเปิดตัว 19,900 บาท ถือเป็นรุ่นที่เปลี่ยนมาใช้ USB Type-C แล้ว เห็นแบบนี้ชักอยากจะรู้รายละเอียดแล้วสิ งั้นก็ไปอ่านพร้อม ๆ กันเลย
iPad Air 4 รีวิวสี แต่ละสีเป็นอย่างไร ?
iPad Air 4 มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่บางเบาและมีสีที่สวยงามให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ สีโรสโกลด์ สีเขียว และสีสกายบลู ดูรีวิวกันว่าแต่ละสีเป็นอย่างไร
- สีเงิน : สีคลาสสิกที่หลายคนเลือกใช้มากที่สุดเพราะเป็นสีโทนสว่าง เรียบง่ายแต่ดูหรู สีเงินยังสามารถพรางรอยนิ้วมือและรอยฝุ่นได้อีกด้วย
- สีเทาสเปซเกรย์ : สีโทนเข้มเรียบ ๆ ได้ลุคสุขุม มองกี่ทีก็ไม่เบื่อ แต่เมื่อจับถือนาน ๆ อาจทิ้งร่องรอยลายนิ้วมือไว้ได้
- สีโรสโกลด์ : สีชมพูประกายทองสวยงาม ลุคหวาน ๆ มีชีวิตชีวา แต่ก็คงความเรียบหรู
- สีเขียว : ถือว่าเป็นสีน้องใหม่ในวงการไอแพด สีเขียวออกโทนเย็นอ่อน ๆ สบายตา เหมาะกับคนที่เบื่อสีธรรมดา ๆ
- สีสกายบลู : สีฟ้าให้ความรู้สึกเบาสบายตา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการใส่สีสันให้กับไอแพด
ส่วนตัวเครื่องก็มีการออกแบบที่สวยหรู ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ขนาดวัดรอบด้านได้ 247.6 x 178.5 x 6.1 มม. น้ำหนักรุ่น Wi-Fi 458 กรัม และรุ่น Wi-Fi + Cellular 460 กรัม เห็นได้ว่าทั้งบางเฉียบและเบาสมชื่อ ด้านหลังดีไซน์เรียบ ๆ มีโลโก้ Apple โดดเด่นตรงกลาง มุมบนซ้ายมีกล้องตัวหลัก ถัดลงมาเป็นรูไมโครโฟน ล่างสุดมีวงกลม 3 จุด เป็นตำแหน่งของ Smart Connector สำหรับเชื่อมต่อ Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio
ด้านข้างมีขอบแบนราบบาง 6.1 มิลลิเมตร มาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียง ตรงกลางเป็นช่องต่อแบบแม่เหล็ก สำหรับแนบติดกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ซึ่งจะติดอยู่ที่ด้านข้างโดยใช้แม่เหล็กเพื่อให้ง่ายต่อการจับคู่ ชาร์จ และจัดเก็บ และถ้าเป็นเวอร์ชั่น Wi‑Fi + Cellular จะพบถาดใส่ซิมการ์ดอยู่ที่ส่วนล่าง รองรับขนาด Nano-SIM ด้านล่างมีลำโพงคู่ ตรงกลางเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ด้านบนจะพบกับลำโพงคู่เช่นกัน และไมโครโฟน ส่วนตรงมุมเป็นปุ่ม Power แบบ Touch ID
iPad Air 4 หน้าจอขนาดเท่าไหร่ ?
สำหรับหน้าจอ iPad Air 4 ก็มีดีไซน์โฉมใหม่ที่มาพร้อมกับจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ภาพดูสวยงามน่าทึ่ง ให้คุณได้ลงปากกาวาดลวดลายได้สมจริง เหมาะสำหรับงานจดบันทึก และตรวจเอกสารทางอีเมลที่ต้องอ่านเต็มจอ มีความละเอียด 3.8 ล้านพิกเซล และเทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย เช่น กระบวนการ Full Lamination, การรองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3, การแสดงผลแบบ True Tone และการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนเพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์การรับชม
จอภาพแสดงผลได้อย่างเต็มที่ทุกด้าน พื้นที่ขอบจอด้านบนกับด้านล่างแคบลงและไม่มีปุ่มโฮม ทำให้พื้นที่หน้าจอกว้างเต็มตามากขึ้น มีเซ็นเซอร์ Touch ID รุ่นใหม่รวมไว้ในปุ่มด้านบน โดยยังคงให้ผู้ใช้งานสามารถปลดล็อค iPad Air 4, ลงชื่อเข้าใช้แอพ หรือใช้ Apple Pay ได้สะดวกรวดเร็วและปลอดภัยเหมือนเช่นเคย
iPad Air 4 สเปคการทำงาน ดีไหม ?
Apple iPad Air 4 (2020) มีประสิทธิภาพการทำงานโดดเด่นด้านไหนบ้าง มาดูกันเลย
ชิปเซ็ต
ไอแพดรุ่นนี้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นหลายเท่าตัวด้วยชิพ A14 Bionic สุดล้ำของ Apple ชิพ A14 Bionic ประมวลผลได้แม้กระทั่งแอพที่ใช้ทรัพยากรเครื่องอย่างหนัก ทำให้ผู้ใช้ตัดต่อวิดีโอ 4K, สร้างสรรค์งานศิลปะอันสวยงาม, เล่นเกมสุดสมจริง และอื่น ๆ ได้อย่างสบาย ๆ นอกจากนี้ ชิพ A14 Bionic ยังมีตัวเร่งความเร็วด้านการเรียนรู้ของระบบรุ่นที่ 2 ใน CPU เพื่อการคำนวณที่รวดเร็วขึ้นถึง 10 เท่า ทำให้ระบบต่างๆ ในอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการรู้จำภาพ การเรียนรู้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ การวิเคราะห์การเคลื่อนไหว เป็นต้น
ความจุ
iPad Air 4 ทั้งรุ่น Wi-Fi และ Wi-Fi + Cellular มีวางจำหน่ายในขนาดความจุ 64GB และ 256GB สำหรับความจุ 64GB นั้นเหมาะกับการใช้งานเบา ๆ ที่ไม่ต้องจัดเก็บไฟล์เยอะ ดังนั้นสายกราฟิกที่ต้องเซฟไฟล์ใหญ่หรือโหลดโปรแกรมเยอะจึงควรเลือก 256GB ไปเลยเพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
ใช้งานหรือเล่นเกมไม่สะดุด
เนื่องจากมีชิพตระกูล A ที่ใช้แกนประมวลผลแบบ 6-core เพิ่มความสามารถด้านกราฟิกได้เร็วขึ้น 30% ทำให้การทำงานกราฟิกของไอแพดแอร์ 4 รุ่นนี้ เช่น แต่งภาพ เล่นเกม และตัดต่อวิดีโอ สามารถทำได้เร็วขึ้น 30% เทียบกับ iPad Air รุ่นก่อน เห็นตัวอย่างได้จากภาพกราฟิกจากการเล่นเกมที่สวยขึ้น ไม่ว่าคุณจะใช้ iPad Air 4 ทำงาน วาดภาพ เล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลง ก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
แบตเตอรี่อึด
ตัวเครื่อง iPad Air 4 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 7,606mAh ที่อยู่ได้นานถึง 9 ชั่วโมง เมื่อใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบเซลลูลาร์ และ 10 ชั่วโมง เมื่อใช้งานผ่าน Wi-Fi เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง 28.6 วัตต์ต่อชั่วโมง
iPad Air 4 กล้องสวยไหม ?
กล้องของ iPad Air 4 มีการพัฒนากล้องให้ถ่ายภาพได้ชัดขึ้น กล้องหน้าความละเอียด 7MP สำหรับการโทร FaceTime HD ตอนนี้มาพร้อมกับกล้องหลัง 12MP แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro เพื่อการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้น และการถ่ายวิดีโอระดับ 4K แถมมีลำโพงสเตอริโอในโหมดแนวนอน ซึ่งยกระดับประสบการณ์เสียงยิ่งขึ้น ผู้ใช้จะได้รับฟังเสียงสเตอริโอที่มีมิติเสียงกว้างขึ้นขณะชมวิดีโอ ตอนนี้ตัวเครื่องใช้พอร์ต USB-C ที่รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 5Gbps ซึ่งเร็วกว่าเดิม 10 เท่าแล้ว สำหรับการเชื่อมต่อกล้อง ฮาร์ดไดรฟ์ และจอภาพภายนอกจะมีความละเอียดสูงสุดระดับ 4K ด้วยประสิทธิภาพของ Wi-Fi 6 และการเชื่อมต่อ LTE ที่เร็วขึ้น 60 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งชิพ A14 Bionic นี้จึงเป็น iPad Air ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา อัพเกรดแรงของจริง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลจัดเต็มเกี่ยวกับ iPad Air 4 ทั้งสเปคและจุดเด่นที่ขนกันมาเพียบ คราวนี้ก็ไปช้อปกันเถอะ ถ้าอยากได้สินค้าคุณภาพดี มีหลากหลายรายการให้ได้เลือกสรร บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนหากคุณมาช้อปที่ iPrice Thailand เพราะเราได้รวบรวม iPad Air 4 ราคาสุดพิเศษจากร้านค้าออนไลน์ชั้นนำจากทั่วประเทศไทยมาให้คุณเลือกกันแบบจุใจ เรามีให้คุณเลือกเช็คราคา เปรียบเทียบราคากันก่อนตัดสินใจซื้อได้ง่ายเพียงไม่กี่ขั้นตอน ช้อปง่ายมาก หากคุณกำลังมองหา iPad รุ่นสุดคุ้ม ทางเราขอแนะนำเลย เพราะนอกจากตัวเลือกที่หลากหลายแล้ว เรายังมอบส่วนลด และโปรโมชั่นมากมายให้คุณอีกด้วย ให้การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุด เปรียบเทียบราคาไอแพดแอร์ 4 ช้อป iPad Air 4 ราคาล่าสุดที่ดีที่สุด ต้องที่ iPrice Thailand ที่เดียวเท่านั้น