หากเราต้องการติดตั้งโปรแกรมหนึ่ง

บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานได้สั่งซื้อ Office 365 ไปแล้ว แต่ไม่สามารถ Activate license ได้ โดยมักจะมีเหตุการณ์ ดังต่อไปนี้

  1. ลบโปรแกรม Microsoft Office เดิม และติดตั้ง Office 365 แต่ไม่สามารถ Activate ได้
  2. มีการปรับเปลี่ยน License บางประการแต่ไม่สามารถ Activate license ได้ทำให้เกิดปัญหาการใช้งาน
  3. ปรับเปลี่ยนจาก Office 365 Business เป็น Office 365 Proplus แต่ไม่สามารถ Activate license ได้ หรือสลับกัน

และด้วยเหตุผลอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการ Activate license เพื่อใช้งาน

ซึ่งปัญหาดังกล่าว จะมีวิธีการแก้ไขดังต่อไปนี้

วิธีที่ 1 ทำการซ่อมแซมโปรแกรม Microsoft Office 365 Business/Proplus ในส่วนของ Control Panel

1. เข้าสู่หน้า Control Panel > Program and features

2. เลือกโปรแกรม Office 365 ที่ติดตั้ง และเลือก Change ด้านบน

3. จากนั้นเลือก Quick Repair เพื่อซ่อมแซม Office 365 หลังจากเสร็จสิ้นแล้วให้ Restart เครื่อง 1 ครั้งและทดลองใช้งาน

4. หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แนะนำให้แก้ไขโดย Online Repair อีกครั้งหนึ่ง และ Restart เครื่อง 1 ชั้น และทดลองการใช้งาน
    (การแก้ไขประเภทนี้จะมีระยะเวลา นานกว่าปกติ เนื่องจากต้องดาวน์โหลดข้อมูลจาก Internet อีกครั้ง)

วิธีที่ 2 ใช้ Tools ช่วยโดยจะเป็น Tool ชื่อ Microsoft Support and Recovery Assistant

Link การ Download : //aka.ms/SARA-OfficeActivation-OF

วิธีการ

1. ดาวน์โหลดโปรแกรมตาม Link ด้านบน และเปิดโปรแกรมบนเครื่องที่มีปัญหา

2. จะมีหน้าต่างโปรแกรมแสดงขึ้น เพื่อให้เข้าสู่ระบบ ให้เข้าสู่ระบบด้วย Account ที่ต้องการ Activate license

3. จากนั้น ระบบจะทำการตรวจสอบเบื้องต้น

4. ระบบจะทำการแจ้งเตือนการดำเนินการต่างๆ ให้ทำตาม และปิดไฟล์ให้เรียบร้อย จากนั้นกด Next

5. จากนั้น ระบบจะทำการตรวจสอบ ให้ดำเนินการต่อไปได้จนกว่าขั้นตอนจะจบ และลอง Restart 1 ครั้ง

หากเรียบร้อย ระบบจะแจ้งว่า Activated และทดลองเข้าใช้งาน Microsoft Office เพื่อทดสอบ

วิธีที่ 3 ลบแบบ Complete Uninstall (ลบแบบสมบูรณ์) และติดตั้งใหม่

1. Download โปรแกรมสำหรับการช่วยลบตาม Link: //aka.ms/SaRA-officeUninstallFromPC

2. เมื่อเปิดโปรแกรมมาแล้วระบบจะทำการตรวจสอบ และจะให้เลือก Microsoft Office ที่ต้องการลบ ให้ทำการลบทุกๆ Version ที่ตรวจเจอ

3. ระบบอาจจะทำการ Restart เครื่อง 1 ครั้ง

4. รอจนขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้น และ Restart เครื่องเป็นรอบสุดท้าย หลังจากนั้น ให้ทำการติดตั้งใหม่อีกครั้ง และลอง Activate โปรแกรมดูอีกครั้งหนึ่ง

จากขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมา ถือว่าเป็นขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาที่มีเกี่ยวกับ Office 365 ได้อย่างดี แต่ถ้าหากท่านทำตามคู่มือแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ สามารถติดต่อเราผ่านช่องทางต่างๆ ได้เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

ในบทความนี้ จะมาอธิบายวิธีลบ Microsoft Office ออกไปจากเครื่องของผู้ใช้งาน ซึ่งจริงๆแล้วการลบนั้นมีหลากหลายวิธีแต่การลบที่ทางผู้เขียนแนะนำให้ใช้มากที่สุดคือ วิธีลบ โดยใช้โปรแกรมช่วยลบจากไมโครซอฟท์ คือ Microsoft Support and Recovery Assistant ซึ่งเป็นโปรแกรมของ Microsoft

หากยังไม่ได้ผลจริงๆค่อยใช้วิธีลบจาก Ccleaner เพิ่มเติมเพื่อช่วยลบไฟล์ใน registry เพิ่มเติม ส่วนการลบทั่วๆไปที่ ได้ผลน้อยสุดในการลบ license ที่ซ้อนทับกันจะเป็น วิธีลบทั่วๆไป คือ วิธีลบ โดยลบจาก control panel และ วิธีลบจาก Microsoft store วิธีดังกล่าวนี้จะไม่แนะนำให้ลบในกรณีที่คอมเราเคยใช้โปรแกรม Crack ปลอมมาก่อนครับ เพราะจะทำให้ license ปลอมยังคงฝังอยู่ อย่างไรก็ตามทางผู้เขียนจะหยิบยกทุกๆวิธีมาเล่าอธิบายเพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจหลากหลายวิธีลบครับ

สารบัญ

1.วิธีลบ โดยใช้โปรแกรมช่วยลบจากไมโครซอฟท์ (แนะนำ)
2.วิธีลบ โดยลบจาก control panel
3.วิธีลบจาก Microsoft store
4.ลบโดยใช้ Ccleaner

1.วิธีลบ โดยใช้โปรแกรมช่วยลบจากไมโครซอฟท์ (แนะนำ)

โดยปกติแล้วปัญหาที่พบบ่อยคือ หากลูกค้าเคยมีการติดตั้ง Microsoft Office ปลอมที่ต้องใช้ crack ช่วยลง หรือ เคยให้ร้านรับลงโปรแกรมทั่วๆไปช่วยลงให้ แล้วอยากจะเปลี่ยนมาใช้ของแท้ หรือ crack ปลอม ถูกไมโครซอฟท์จับได้ และ มีการแจ้งเตือนว่า “Make sure that you’re connected to your organization’s network” ทั้งๆที่เราไม่ได้มีการใช้ organization’s network และเป็นคอมใช้งานส่วนตัว ที่ขึ้นแบบนี้เพราะเวอร์ชั่นของปลอมนั้น จะมีการดัดแปลงไฟล์ license ส่วนใหญ่มาจาก organization license ซึ่งหากเราใช้คีย์แท้ลงไปเลยทันที ก็จะไม่สามารถ activate ได้

เนื่องจาก license ปลอมดังกล่าวนั้นยังคงฝังอยู่ แม้ว่าบางครั้งจะลบ โดยวิธีลบจาก control panel ก็ยังคงไม่ได้ผล รวมถึง การที่หากเราเคยใช้ license version อื่น และต้องการล้างออกลงเป็นอีก version เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา license ซ้อนทับกัน เราก็ควรใช้วิธีลบโดยใช้โปรแกรมช่วยลบจากไมโครซอฟท์ครับ

วิธีดังกล่าวนี้ จะใช้ โปรแกรมที่มีชื่อว่า Microsoft Support and Recovery Assistant

ขั้นตอน 1 ต้อง Download Software SetupProd_OffScrub.exe ลงเครื่อง หรือ คลิกที่นี่ แล้วหาดาวน์โหลด (โหลดใน Option 2)

ขั้นตอนที่ 2 ดับเบิ้ลคลิก โปรแกรมที่โหลดมา จากนั้นก็ให้คลิกที่ Run รอ เชื่อมต่อกับ Microsoft Server (พอระบบวิ่งถึง 100%) ต่อจากนั้นจึงให้คลิก I agree ครับ

ขั้นตอนที่ 3 เลือก ไปที่ Office แล้วกด Next

หลังจากนั้นโปรแกรมจะถามว่าเรามีปัญหาอะไร ให้เราเลือกว่า เรามีการติดตั้งโปรแกรม office ไว้อยู่ แต่มีปัญหาในการลบโปรแกรม “I have Office installed, but I’m having trouble uninstalling it” แล้วกด Next

ขั้นตอนที่ 4 ระบบจะ confirm ว่าเราเลือกหัวข้อดังนี้ และต้องการดำเนินการต่อ ให้กด Yes แล้ว Next ครับ

ขั้นตอนที่ 5 ระบบจะทำการ Detect Office ทั้งหมดในเครื่องของผู้ใช้แล้วแจ้งขึ้นมา ให้ติ้กโปรแกรมที่ต้องการลบให้หมดครับ แล้วกด Next

ระบบจะทำการลบโปรแกรมตามคำสั่ง รอจนดำเนินการเสร็จสิ้น หลังจากขั้นตอนนี้เสร็จระบบจะบังคับให้เรา Restart คอมหนึ่งรอบครับ ให้กด Restart

ขั้นตอนที่ 6 หลังจากการ Restart คอมเรียบร้อยแล้ว ระบบจะถามเราว่ามี โปรแกรมไหนที่อยากลงไหม ให้กด No ไปครับ รวมถึง คะแนน feedback กับทางไมโครซอฟท์ภาพล่างสุดครับ

2.วิธีลบ โดยลบจาก control panel

วิธีการลบแบบนี้ เป็นวิธีการที่ผู้ใช้งานชอบใช้ในการลบโปรแกรมทั่วๆไป แต่จากตัวอย่างที่ได้อธิบายไปข้างต้นว่าในบางครั้งจะไม่สามารถลบ license office ที่บางทีฝังในเครื่องอยู่ออกไปได้อย่างสะอาด แต่อย่างไรก็ตามสามารถนำไปลบ พวก project หรือ visio ต่างรุ่นที่ชอบ conflict กันได้ครับ

วิธีการคือการ เข้าไปที่แว่นขยายมุมซ้ายล่าง Search ว่า Control panel แล้วเลือก Uninstall a program

จากนั้นไล่หาลิส โปรแกรมไมโครซอฟท์ที่ต้องการจะลบ และ เลือก Office ที่เคยติดตั้งทั้งหมด ตามที่เราต้องการลบครับ จากนั้นให้ Restart คอมหนึ่งรอบครับ

3.วิธีลบจาก Microsoft store

ในส่วนของวิธีการนี้จะเป็นการลบโปรแกรมพวกที่ติดตั้งมาจาก app store ของไมโครซอฟท์ครับ พวก office 365 ตัวทดลองที่แถมมากับเครื่อง

โดยมีขั้นตอนดังนี้ ไปที่ Start >> Setting >> App  จากนั้นไปที่ Apps & Feature จากนั้นเลือกโปรแกรมที่เราต้องการลบ จากนั้นเลือก uninstall  ระบบก็จะทำการลบโปรแกรม แล้วให้เรารีสตาสครับ (จะเป็นด้านล่างว่ามี Office สองตัว ตัวหนึ่ง คือ Pack ภาษาก็ให้เราลบออกทั้งคู่เลยครับ)

4.ลบโดยใช้ Ccleaner

โหลดตัวทดลองใช้งานได้ฟรี 14 วัน Ccleaner

โดยติดตั้งให้เรียบร้อย แล้วจึงเข้าไปที่ tools จากนั้นเลือก Office ที่ต้องการลบ และ uninstall

ถ้าหากเราได้มีการลบโดยใช้วิธีที่ 1 เรียบร้อยแล้ว สามารถใช้ โปรแกรม Ccleaner ตัวฟรีช่วยลบ registry จากระบบได้อีกรอบ โดยการเข้าไปที่ โปรแกรม Ccleaner เลือก ต่อที่ Registry จากนั้นไปที่ Scan for issues แล้ว Fix selected Issues

จุดที่สามารถลบเพิ่มเติม

กดปุ่ม Windows + R (พร้อมกัน) จะได้หน้าต่าง Run ขึ้นมา

พิมพ์ %ProgramFiles% (ลบ Folder Microsoft Office ทั้งหมด)

พิมพ์ %ProgramFiles(x86)%  (ลบ Folder Microsoft Office ทั้งหมด)

พิมพ์ %ProgramData%\Microsoft\Office

ลบไฟล์ ClickToRunPackageLocker

กดปุ่ม Windows + R (พร้อมกัน) จะได้หน้าต่าง Run ขึ้นมา

พิมพ์ regedit กด Enter

เข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\

ลบ Folder Office

เข้าไปที่ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\

ลบ Folder Office

โดยสรุปแล้ว วิธีการลบ Microsoft Office นั้นมีมากมายหลายวิธี แต่วิธีที่ทางผู้เขียนคิดว่า ใช้งานแก้ปัญหาได้ดีที่สุดคือ วิธีที่ 1 วิธีลบ โดยใช้โปรแกรมช่วยลบจากไมโครซอฟท์  ซึ่งถ้าหากเราต้องการลบเพิ่มเติมก็สามารถใช้ Ccleaner ช่วยลบไฟล์ที่เหลือจาก Registry เพิ่มเติมได้ รวมถึงไล่ลบ folder ขยะเพิ่มเติมที่ได้กล่าวไปในหัวข้อ จุดที่สามารถลบเพิ่มเติม หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือ แจ้งปัญหาการใช้งาน สามารถติดต่อได้ที่ Line : @softvision

อ้างอิงวิธีลบเพิ่มเติม

support.microsoft.com/

itbolt.blogspot.com

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก