10เหตุผลที่ทำให้มือถือคุณทำงานช้าลง เมื่อใช้มือถือเป็นระยะเวลานาน โดยหากคุณใช้สมาร์ทโฟน Android ตั้งแต่เริ่มใช้เครื่องใหม่มา จะรู้สึกว่าทำงานดีลื่นไหล เร็วฉบับไว แต่พอใช้มาหลายเดือนมาจนถึง 1 ปีจะเห็นความต่างว่าการทำงานของมือถือที่เราใช้บ่อยๆนั้นช้าลงเรื่อยๆ กระตุกมากขึ้น กินแบตเตอรี่มากขึ้น ใช้เวลาการโหลดนานมากขึ้น ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้มีผลทั้งบน Android
และ iOS
iT24Hrs-S- การอัปเดตระบบปฏิบัติการ ข้อมูลจำเพาะของฮาร์ดแวร์ได้รับการปรับปรุงอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มคุณสมบัตมากมายให้กับทั้ง iOS และ Android ทั้งนี้การอัปเกรด หรือการอัปเดต ยากต่อการเพิกเฉย และเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัย ดังนั้นการอัปเดตเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณวางแผนที่จะข้ามจาก Android KitKat ซึ่งเป็นรุ่นเก่ามากแล้ว ไปเป็น Android 10 จะยากลำบากมาก
- การอัปเดตแอป นักพัฒนากำลังผลักดันการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง การอัปเดตใหม่ทุกครั้งจะนำเสนอคุณลักษณะใหม่ ๆ ซึ่งจบลงด้วยการกิน RAM และ CPU จำนวนมาก เมื่อคุณรู้สึกว่าแอปบวม
สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้คือแทนที่ด้วยแอปน้ำหนักเบาอื่นๆ หรือคุณสามารถล้างแคชและข้อมูลของแอพ
- แอปที่แอบทำงานเบื้องหลัง หรือแอปพื้นหลัง คือแอปที่แอบทำงานอยู่แม้เราไม่ได้เปิดใช้งานก็ตาม เช่นบริการอีเมล แอพส่งข้อความที่เปิดใช้งานตลอดเวลา ซึ่งแอปเหล่านี้ใช้ CPU และ RAM ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของโทรศัพท์มือถือของคุณ ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปิดการใช้งานหรือถอนการติดตั้งแอพที่ใช้ RAM และ CPU จำนวนมาก รวมถึงการปิดการเคลื่อนไหวของ Wallpaper
ด้วย
- หน่วยความจำเสื่อม โดยหน่วยความจำจะช้าลงเมื่อข้อมูลเต็ม สิ่งที่ดีที่สุดคือใช้เต็มที่ 75% หากเกินกว่านั้นจะเริ่มช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
- พื้นที่เก็บข้อมูลเต็ม ระบบจัดเก็บข้อมูลใน Android จะช้าลงเมื่อคุณกรอกข้อมูล จนเต็มไม่มีที่เก็บข้อมูล ดังนั้นการเขียนไปยังระบบไฟล์อาจช้ามากหากใช้เกือบเต็ม คุณสามารถตรวจสอบที่เก็บข้อมูลของคุณได้ตลอดเวลาโดยไปที่เมนู การตั้งค่า เลือก พื้นที่เก็บข้อมูล
- Bloatware เป็นแอพที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟน Android ของคุณ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมักจะติดตั้งแอพบางตัวที่เราไม่ต้องการ Bloatware เหล่านี้ไม่ทำอะไรเลยและทำงานอยู่เบื้องหลังอย่างเงียบๆ ดังนั้น คุณควรลบ bloatware ออกจาก Android ของคุณทันที
- Launchers สำหรับ Androidที่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์หน้าตาของสมาร์ทโฟน Android ของคุณได้ แต่ก็สามารถทำให้โทรศัพท์ของคุณช้าลงได้เช่นกัน เพราะ
Launcher สำหรับ Android ทำงานในพื้นหลังอย่างต่อเนื่องและคอยตรวจสอบการอัปเดตแอปอยู่เสมอ สิ่งนี้จะใช้ข้อมูลมือถือค่อนข้างเร็ว และนี่คือสาเหตุที่โทรศัพท์ของเราทำงานช้าลง
- การใช้ Task Killertask โดยจะ Kill แอปทั้งหมดที่จัดเก็บไว้ในหน่วยความจำของ Android อย่างไรก็ตามปัญหาคือ Android เก็บแอปไว้ใน RAM ของคุณ เพื่อให้สามารถสลับไปใช้ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องโหลดแอปใหม่ ทำให้การรันแอปนี้ต้องเริ่มต้นใหม่หมด
- การใช้เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่
จาก Third Party โดยแอปเหล่านี้ จะ ปิดแอปที่จัดเก็บไว้ในหน่วยความจำของ Android ดังนั้น ครั้งหน้าเมื่อคุณเปิดแอป ระบบจะทำงานอีกครั้งเพื่อจัดเก็บแอปเหล่านั้นไว้ในหน่วยความจำอีก นำไปสู่การใช้พลังงานแบตเตอรี่และความร้อนสูง
- ความคาดหวังที่สูงขึ้น บางครั้ง หลังจากที่ดูสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์หลายรุ่น ที่ดูแล้วทำงานไวกว่าเรา จนเรารู้สึกว่าโทรศัพท์ของเราทำงานช้าลง นี่เป็นจิตวิทยาปกติของมนุษย์ที่แสวงหารุ่นใหม่มากขึ้น
อย่างคุณไม่สามารถเปรียบเทียบ Galaxy S3 กับ Galaxy S10
และทั้งหมดนี้คือ 10 เหตุผลที่ทำให้สมาร์ทโฟนของคุณช้าลง
อ้างอิง Techviral cover iT24Hrs-MS
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
10เหตุผลที่ทำให้มือถือคุณทำงานช้าลง เมื่อใช้มือถือยาวนาน
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
8 วิธี ที่จะทำให้สมาร์ตโฟน Android ของคุณกลับมาทำงานได้เร็วขึ้น!! แก้ปัญหาเครื่องอืด ทำงานช้า
หากเพื่อน ๆ เป็นอีกคนที่ใช้สมาร์ตโฟนตกรุ่นสเปกไม่แรง หรือใช้สมาร์ตโฟน Android เรือธงแต่เครื่องทำงานได้ช้า และกำลังเครียดกับปัญหาเหล่านี้อยู่ วันนี้ทางทีมงานมีบทความดี ๆ จากเว็บชื่อดังในแวดวงมือถือสมาร์ตโฟนมาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาสมาร์ตโฟน Android ทำงานช้า ให้กลับมาลื่นไหล ใช้งานได้แบบเพลิน ๆ มาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยครับ
1. อัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ๆ อยู่เสมอ: การอัปเดตระบบปฏิบัติการถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานควรที่จะรีบทำการอัปเดต เพราะในแต่ละเวอร์ชันที่มีการปล่อยออกมานั้น จะเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพของสมาร์ตโฟนให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
2. เคลียร์หน้า Home Screen : การเคลียร์หน้า Home Screen
ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำคัญ เพราะในช่วงระหว่างวันเชื่อว่าหลายคนคงเปิดเข้าใช้งานแอปฯ ต่าง ๆ โดยไม่ได้ทำการเคลียร์หน้าจอ หรือมี Widget เยอะจนเกินไป บวกกับภาพ Wallpaper ที่อาจทำให้สมาร์ตโฟนทำงานหนักจนเกินไป เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรเคลียร์ Widget ที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างก็ดี
3. ปิด Interface / ให้ GPU ช่วยประมวลผล : เข้าไปที่ > Settings > กดที่เลขเวอร์ชัน (Build Number) ติดกัน 7 ครั้ง > Developer Options แล้วก็ปิดได้เลย
เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการช่วยลดการทำงานของเครื่องให้น้อยลง นอกจากนั้นใน Developer Options ยังสามารถปรับให้ GPU ช่วยประมวลผลแทนซอฟแวร์ และจะทำให้การแสดงผลภาพเคลื่อนไหวทำงานได้ลื่นไหลขึ้นอีกด้วย
4. เปิดโหมดประหยัดเน็ตใน Google Chrome : หากต้องการเพิ่มความเร็วในการท่องเว็บให้ลองเปิดใช้งานโหมดประหยัดอินเทอร์เน็ตใน Google Chrome ซึ่งจะทำให้มีการบีบอัดหน้าเว็บเพื่อให้สามารถใช้งานข้อมูลได้น้อยลง และโหลดข้อมูลเร็วขึ้นได้
5. ล้างของมูลในแคช : ไปที่ App info > Storage > Clear Cache จะช่วยให้การทำงานเร็วยิ่งขึ้น
6. ปิดการซิงค์อัตโนมัติ : หากคุณใช้งานสมาร์ตโฟนที่มีสเปกดีในระดับหนึ่ง ตัวเครื่องอาจตั้งค่าการซิงค์อัตโนมัติกับแอปฯ ไว้ ซึ่งอาจจะมีบ้างบางแอปฯ ฉะนั้นให้ทำการปิดการซิงค์อัตโนมัตินั้น
โดยจะทำให้ประหยัดเน็ต ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ และทำให้เครื่องทำงานเร็วขึ้นอีกด้วย
7. ไม่ควรใช้ Task Killer : ซึ่งการใช้ Task Killer จะเป็นการปิดแอปฯ ออกจากการใช้งาน ซึ่งเมื่อเวลาที่เราต้องการจะเข้าไปใช้งานแอปฯ ที่ได้ปิดไปแล้วนั้น จะต้องทำการโหลดใหม่ ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าปกติ
8. รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน: ก่อนที่จะทำการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ควรทำการสำรองข้อมูลไว้ก่อน หรือนำข้อมูลสำคัญ ๆ
ไปเก็บไว้ที่อุปกรณ์อื่นก่อนแล้วค่อยทำการรีเซ็ต ซึ่งจะเป็นการล้างข้อมูลออกแทบทั้งหมด และทำให้เครื่องทำงานได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ก็ลองทำตามทั้ง 8 วิธีนี้กันดูนะครับ เผื่อจะช่วยให้สมาร์ตโฟนในระบบ Android ที่ใช้อยู่ทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถ้าหากทางทีมงานไปเจอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ เพิ่มเติมอีก จะรีบนำมารายงานให้ทราบโดยเร็วครับ ท้ายที่สุดนี้ก็ขอฝากให้เพื่อน ๆ ทุกท่านเข้าไปติดตามข้อมูลข่าวสารจากพวกเรา
www.ninethaiphone.com ด้วยนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.androidauthority.com
ทำอย่างไรให้โทรศัพท์ไม่ค้าง
รีสตาร์ทโทรศัพท์ตามปกติและตรวจสอบแอป
รีสตาร์ทโทรศัพท์ นำแอปที่ดาวน์โหลดมาล่าสุดออกทีละแอป ดูวิธีลบแอป หลังจากที่นำแอปออกในแต่ละครั้ง ให้รีสตาร์ทโทรศัพท์ตามปกติ ดูว่าการนำแอปนั้นออกช่วยแก้ปัญหาหรือไม่ หลังจากนำแอปที่ก่อให้เกิดปัญหาออกไปแล้ว คุณเพิ่มแอปอื่นๆ ที่นำออกไปกลับเข้ามาใหม่ได้ ดูวิธีติดตั้งแอปอีกครั้ง
ทํายังไงให้มือถือเร็วขึ้น
วันที่ : 9/2/2565..
เคลียร์พื้นที่ภายในบ้าง ... .
ลบแอปที่ไม่ได้ใช้ออกบ้าง ... .
ปรับเปลี่ยนความเร็วในการแสดงผลแอนิเมชัน ... .
รีสตาร์ทสมาร์ทโฟนสักครั้ง ... .
ใช้แอปประเภท Lite..
โทรศัพท์ทำงานช้าแก้อย่างไร
มือถือช้า เกิดจากอะไร แก้ไขยังไงดี.
1. อัปเดตระบบปฏิบัติการ ... .
2. ลบแอปฯ ที่ไม่ใช้ ... .
3. ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น ... .
4. Wipe Cache Partition (เคลียร์แคช) ... .
5. ใช้ microSD ความเร็วสูง ... .
6. Factory Reset (ล้างเครื่อง).
ทำไมแอนดรอยช้า
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ทำให้ Android ดูช้ากว่า iOS ก็คือความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ เพราะต้องไม่ลืมว่ามือถือ Android นั้นไม่ได้มีเพียงแค่รุ่นสองรุ่น แถมแต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกันออกไปในเรื่องของ ขนาดหน้าจอ, ชิปเซ็ตประมวลผล, RAM และเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ ซึ่งหากมีการเขียนแอปพลิเคชันออกมาไม่ซัพพอร์ตดีพอ ก็อาจทำให้ทำงานได้ ...