วิธี ทํา ให้ คอมเร็วขึ้น windows 7

วิธีคืนค่า windows 7: คุณกำลังดูกระทู้

จากครั้งที่แล้ว ทางเว็บ VarietyPC.net ได้นำเสนอวิธีการเพิ่มความเร็ว Windows 7 ไปแล้วกับระดับเบสิคหรือระดับพื้นฐาน ด้วยการช่วยเร่งความเร็วการชัตดาวน์เครื่องคอมพิวเตอร์, การเพิ่มความเร็วการแสดงผลรายการย่อยของเมนูสตาร์ท, การปิดการแจ้งเตือนพื้นที่ว่างฮาร์ดดิสก์ที่เหลือน้อย วันนี้ก็จะมาอีกสัก 1 บทความ กับการเพิ่มความเร็ว Windows 7 ให้เร็วติดจรวดแบบ Windows 7 Super Fast ! ด้วยการปิดฟีเจอร์ของระบบ Windows 7 ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือลดระดับความสำคัญที่อาจจะไม่ค่อยได้ประโยชน์ แต่จะช่วยเพิ่มความเร็วการทำงานของระบบต่างๆให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยังคงรักษาความสวยงามด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

Note. รองรับได้ทั้ง Windows 8, Windows 8.1 แต่ทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการที่กล่าวมา สำหรับบางหัวข้อจะไม่มีเหมือนในบทความที่นำเสนอด้วย Windows 7 ก็ให้ข้ามไป

ส่วน Windows 10 ดูได้จาก การเพิ่มความเร็ว Windows 10 ให้เร็วแรงแบบ Super Fast

  • 1. เพิ่งพลังการบูตระบบ Windows 7
  • 2. การปิด Visual Effects
  • 3. ปรับแต่งการแสดงผลบางส่วนใน Folder Options
  • 4. ปิดเซอร์วิสที่ไม่จำเป็นของระบบ Windows …
  • 5. ปิด Startup item ที่ไม่จำเป็น
  • 6. การปิด Sound Scheme
  • 7. จัดระเบียบไฟล์ข้อมูลด้วย Disk Defragmenter เสียบ้าง
  • 8. ปิดการทำงานของเซอร์วิส Windows Search หรือ Indexing Options
  • 9. ปิดการทำงานของ Windows Gadget Platform
  • 10. ตั้งค่า High Performance เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
  • 11. ลบไฟล์ขยะของระบบออกด้วย Disk Cleanup
  • ส่วนเสริม
  • เพิ่มเติม
  • [Update] การตั้งค่า Windows 7 ให้เหมาะสมกับ SSD | วิธีคืนค่า windows 7 – Tinhocvanphongs
  • วิธี Reset ล้างเครื่องคอมให้เหมือนใหม่ โดยไม่ต้องใช้ Flash Drive ลง Windows
  • System Restore Windows 7 | รีสโตร์ระบบวินโดว์ 7 แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์
  • How To Repair Windows 7 And Fix Corrupt Files Without CD/DVD [Tutorial]
  • Hướng Dẫn Reset/Cài Đặt Lại Windows 10 Trên Laptop
  • “รัฐเคนทักกี” พังยับเยิน พายุทอร์นาโดถล่มเหลือแต่ซาก l TNN News ข่าวเช้า l 12-12-2021

1. เพิ่งพลังการบูตระบบ Windows 7

เริ่มจากวิธีเบสิคที่มีมาให้กับทุกระบบปฏิบัติการ Windows ก็จะเป็นการนำเอาคอร์ซีพียูทั้งหมดมาช่วยในเรื่องของการเร่งประสิทธิภาพการบูตระบบ

  • โดยกดปุ่มคีย์ลัด Windows + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์คำสั่ง

    msconfig

    กด OK

  • ที่หน้าต่าง System Configuration คลิกแท็บ Boot -> Advanced options
  • ติ๊กเครื่องหมายถูกหน้าหัวข้อ Number of processors แล้วเลือกตัวเลขสูงสุดก็คือ จำนวนคอร์ในซีพียูที่เราใช้งานอยู่

2. การปิด Visual Effects

ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้หน้าตาของระบบ Windows 7 แสดงผลได้สวยงามขึ้น โดยขั้นตอนการปิดฟีเจอร์บางตัวของ Visual Effects ก็สามารถเรียกใช้งานได้โดยการกดปุ่มคีย์ลัด Windows + R เพื่อเรียกหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์คำสั่ง Sysdm.cpl -> กด OK

หน้าต่าง System Properties จะถูกเปิดขึ้นมา ให้คลิกแท็บ Advanced

ที่หัวข้อ Performance คลิกปุ่ม Settings…

ที่หน้าต่าง Performance Options เลือกหัวข้อ Custom:

แล้วเอาเครื่องหมายถูกออกหน้าหัวข้อดังต่อไปนี้

  • Animate controls and elements inside windows
  • Animate windows when minimizing and maximazing
  • Animations in the taskbar and Start Menu
  • Fade or slide menus into view
  • Fade or slide ToolTips into view
  • Fade out menu items after clicking
  • Save taskbar thumbnail previews
  • Show shadows under mouse pointer
  • Show shadows under windows
  • Show translucent selection rectangle
  • Slide open combe boxes
  • Smooth-scroll list boxes

3. ปรับแต่งการแสดงผลบางส่วนใน Folder Options

คลิกที่แท็บ View ที่รายการย่อยของหัวข้อ Advanced settings: เอาเครื่องหมายถูกออกหน้าหัวข้อดังต่อไปนี้

  • Display file size information in folder tips (แสดงผลข้อมูลขนาดไฟล์ต่างๆในโฟลเดอร์)
  • Hide extensions for known file types (ซ่อนนามสกุลประเภทของไฟล์และแฟ้มข้อมูล)
  • Show encrypted or compressed NTFS files in color (แสดงการเข้ารหัสหรือการบีบอัดไฟล์ด้วยสี เช่น สีน้ำเงินที่เราเห็นกันอยู่)
  • Show pop-up description for folder and desktop items (แสดงรายละเอียดของป๊อปอัพสำหรับโฟลเดอร์และรายการเดสก์ท็อป)

4. ปิดเซอร์วิสที่ไม่จำเป็นของระบบ Windows …

การเปิดหน้าต่าง Service เพื่อปิดการทำงานของเซอร์วิสที่ต้องการ โดยคลิก Start -> ที่ช่อง Start Search พิมพ์ services.msc (หรือจะใช้คีย์ลัด Windows + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run ก็ได้)

ด้วยการดับเบิ้ลคลิกหัวข้อเซอร์วิสที่ต้องการ จนแสดงหน้าต่างคุณสมบัติดังรูปด้านล่าง

  • ที่หัวข้อ Startup type: เลือก Disabled หรือถ้าหากไม่อยากปิดการทำงานถาวร ก็เลือกหัวข้อ Manual เพื่อให้เราสามารถเปิดให้เซอร์วิสของระบบทำงานตามที่เราต้องการด้วยตัวเอง
  • ที่หัวข้อ Service status: คลิกปุ่ม Stop เพื่อให้เซอร์วิสดังกล่าวหยุดการทำงานทันที

(เลือกปิดเซอร์วิสที่ต้องการ ด้วยการ Disabled หรือ Manual -> Stop -> Apply -> OK

รายการเซอร์วิสของระบบ Windows 7 ที่สามารถปิดการทำงานได้ ก็ได้แก่

  • Application Experience (จะทำหน้าที่ตรวจสอบและซ่อมแซมโปรแกรมที่มีปัญหา)
  • Computer Browser (ถ้าไม่ได้ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นบนระบบ Network ก็สามารถปิดได้)
  • Desktop Window Manager Session Manager (ถ้าปิดหัวข้อนี้ และมีการใช้งานธีม Windows Aero อยู่ ก็จะกลายเป็นธีม Windows Classic ทันที)
  • Diagnostic Policy Service (จะเป็นตัวที่จะทำหน้าที่วิเคราะห์และช่วยตรวจสอบปัญหาของ Services และ Components ต่างๆ ของระบบ Windows)
  • Distributed Link Tracking Client (ทำหน้าที่ ดูแลไฟล์ NTFS ของระบบ Windows และเครื่องที่อยู่ในระบบเครือข่าย)
  • IP Helper (รองรับการใช้งาน IPv6 ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร เพราะคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ยังคงใช้ IPv4)
  • Offline Files (ถ้ามีการใช้งานไฟล์ร่วมกันบนระบบ Network และเมื่อใช้งานเสร็จ จะมีการเปรียบเทียบระหว่างไฟล์ใหม่และไฟล์เก่า ระบบก็จะมีการถามว่าต้องการให้มีการเขียนไฟล์ทับกันหรือไม่ ถ้าไม่ได้ใช้งานบนระบบ Network ก็สามารถปิดได้)
  • Portable Device Enumerator Service (จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบการถ่ายโอนข้อมูลไฟล์มีเดียต่างๆระหว่าง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพา)
  • Print Spooler (ถ้ามีการใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกันกับพริ้นเตอร์ หัวข้อนี้ไม่ควรปิด)
  • Protected Storage (จะทำหน้าที่ป้องกันการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญและเป็นความลับ เช่น รหัสผ่านเพื่อป้องกันการเข้าใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต)
  • Remote Registry (ถ้าปิดส่วนนี้ จะทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในระบบ Network ไม่สามารถสั่งรีโมทระยะไกลมายังคอมพิวเตอร์เครื่องที่ปิดเซอร์วิสตัวนี้ได้)
  • Secondary Logon (จะคอยตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้โดยผู้ใช้งานอื่นให้สามารถ Log on เข้าสู่ระบบได้)
  • Security Center (แปลตามตัวเลยก็คือ ศูนย์รักษาความปลอดภัย ตรงนี้ถ้าเรามีซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส ที่มีทั้งแอนตี้ไวรัสและไฟร์วอลล์ในตัวและเป็นซอฟต์แวร์ที่ดีกว่า ก็สามารถปิดการทำงานได้ ด้วยการเลือกเป็น Manual ก็ได้)
  • Server (ถ้าคอมพิวเตอร์ของเราไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย Network ก็สามารถปิดได้ ส่วนนี้จะไม่มีผลกับการใช้งานอินเตอร์เน็ต และจะเกี่ยวข้องกันกับหัวข้อ Computer Browser โดยถ้าสั่งปิดหัวข้อนี้ Computer Browser ก็จะต้องโดนบังคับปิดด้วย)
  • Tablet PC Input Service (จะทำหน้าที่ช่วยเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ Tablet PC, Pen Drive เป็นต้น)
  • TCP/IP NetBIOS Helper (ถ้าไม่ได้ใช้งานระบบเครือข่ายภายในบ้าน ในสำนักงาน หรือเครือข่าย Workgroup Network ก็สามารถปิดได้)
  • Themes (ถ้าไม่ได้ต้องการใช้งานธีม Windows Aero ก็สามารถปิดได้ แต่ระบบทั้งหมดจะแสดงผลเป็นรูปแบบธีม Windows Classic)
  • Windows Error Reporting Service (ถ้าไม่ต้องการให้ระบบรายงาน Error ต่างๆของระบบ)
  • Windows Media Center Service Launcher (ถ้าไม่ได้ใช้งานซอฟต์แวร์ Windows Media Center ก็สามารถปิดได้
  • Windows Search (ปกติถ้าไม่ได้ใช้ระบบค้นหาด้วย Windows Search ก็สามารถปิดได้)
  • Windows Time (ถ้าไม่ต้องการให้คอมพิวเตอร์มีการอัพเดตเวลาผ่านอินเตอร์เน็ต)

5. ปิด Startup item ที่ไม่จำเป็น

ที่หน้าต่าง System Configuration ด้วยการเรียกใช้งานผ่านคำสั่ง msconfig

สังเกตได้ง่ายๆที่ Notification Area Icons มุมขวาล่างข้างนาฬิกา ซึ่งเครื่องของบางท่าน จะมีไอคอนเรียกใช้โปรแกรม และมันกำลังทำงานอยู่ หรือรอเรียกใช้งานอยู่เยอะทีเดียว

ซึ่งตรงนี้ ถ้าสังเกตให้ดีกับตอนที่เพิ่งติดตั้ง Windows เสร็จใหม่ๆ จะรู้สึกว่าระบบการบูตเข้าสู่หน้าจอ Windows จะทำได้รวดเร็วมาก แต่พอติดตั้งโปรแกรมเยอะขึ้นๆ อย่างเช่น ผู้ใช้งานทั่วไป ที่มักจะติดตั้งโปรแกรมจากความเคยชินด้วยการกด Next -> Next และ Next อย่างเดียว โดยไม่สนใจประโยคคำถามหรือข้อความแจ้งเตือน ก็จะพบว่า Startup Item ในส่วนนี้ จะมีเยอะมาก ก็จะส่งผลกระทบต่อการบูตเข้าสู่ระบบใหม่ จะทำได้ช้าลง

6. การปิด Sound Scheme

จะเป็นเสียงเริ่มต้นเข้าสู่หน้าจอ Windows ถ้าใครเคยใช้ Windows XP มาก่อน ก็คงจะคุ้นเคยกับเสียงดังกล่าวดี แต่สำหรับ Windows 7 จะมีเสียงมาแว็บเดียวเท่านั้น ตรงนี้เราก็สามารถปิดไปได้เช่นเดียวกัน เพราะไม่ค่อยมีความจำเป็นสักเท่าไร โดยเข้าไปที่ Control Panel -> คลิกหัวข้อ Sound

ที่แท็บ Sounds -> หัวข้อ Sound Scheme: เลือกตัวเลือกเป็น No Sounds

แต่วิธีในหัวข้อนี้ ส่วนใหญ่ควรใช้กับคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ใช้สำหรับเปิดดูหนัง, ฟังเพลง เพราะถ้าปิดไป จะทำให้ไม่มีเสียง

7. จัดระเบียบไฟล์ข้อมูลด้วย Disk Defragmenter เสียบ้าง

เครื่องของท่านที่ใช้งานไปนานๆจะมีไฟล์ข้อมูลกระจัดกระจายบนฮาร์ดดิสก์เต็มไปหมด เมื่อต้องการเรียกไฟล์ที่ต้องการขึ้นมาใช้งาน ฮาร์ดดิสก์ก็จะทำงานนานขึ้น

โดยเรียก Disk Defragmenter ขึ้นมา

ทำการวิเคราะห์ไฟล์, โฟลเดอร์ทั้งหมด ในไดรฟ์นั้นๆ แล้วสั่งจัดเรียงข้อมูล รวมทั้งไดรฟ์อื่นๆก็ควรจะทำด้วย

8. ปิดการทำงานของเซอร์วิส Windows Search หรือ Indexing Options

เซอร์วิส Windows Search หรือ Indexing Options จะทำหน้าที่เก็บไฟล์ข้อมูลทั้งหมดในฮาร์ดดิสต์มาเรียบเรียงให้เป็นสารบัญของระบบ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถค้นหาไฟล์ในระบบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เซอร์วิสตัวนี้จะทำงานเบื้องหลังและจัดทำสารบัญอยู่ตลอดเวลานี้ ก็เป็นข้อเสียสำหรับเครื่องของผู้ใช้ที่ใช้ฮาร์ดดิสต์ในการจัดเก็บข้อมูลในขณะใช้งาน

ลองเปิดหน้าต่าง Indexing Options ขึ้นมา

เครื่องของบางท่านอาจจะยังไม่ขึ้นสถานะ Indexing complete ตรงนี้ต้องรอให้ระบบ Windows จัดทำสารบัญให้เสร็จก่อน แต่ถ้าระบบทำสารบัญเสร็จแล้ว เราก็ไปปิดเซอร์วิสตัวนี้กัน

โดยคลิก Start -> พิมพ์คีย์เวิร์ด Services.msc เพื่อเปิดหน้าต่าง Services ขึ้นมา

เลื่อนสกอร์บาร์ลงมาด้านล่าง แล้วดับเบิ้ลคลิกเซอร์วิสที่ชื่อ Windows Search พร้อมกับตั้งค่า

Startup type: เลือก Disabled

Service status: เลือก Stopped

แล้วคลิก Apply -> OK

9. ปิดการทำงานของ Windows Gadget Platform

ตรงนี้แทบไม่มีความสำคัญอะไรต่อการใช้งานเลย แถมทำให้เครื่องหน่วงขึ้นด้วย โดยเฉพาะเวลาบูตระบบใหม่ จะสังเกตเห็นได้ชัด หรือเครื่องของบางท่านอาจจะไม่ได้โชว์ Gadget ตัวนี้เอาไว้ ก็ควรจะทำการลบออกด้วยเช่นเดียวกัน

ถ้าคลิกขวาที่ Context Menu จะพบกับหัวข้อ Gadget

ให้เปิดหน้าต่าง Programs and Features ขึ้นมา

แล้วคลิกหัวข้อ Turn Windows features on or off

แล้วเอาเครื่องหมายถูกออกหน้าหัวข้อ Windows Gadget Platform

10. ตั้งค่า High Performance เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปจะช่วยทำให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด แต่สำหรับโน๊ตบุ๊คที่ต้องใช้ทำงานนอกสถานที่จะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น

โดยเปิดหน้าต่าง Power Options ขึ้นมา

ค่ามาตรฐานจะถูกตั้งเป็น Balanced (recommended) ก็เปลี่ยนเป็น High performance แล้วคลิกหัวข้อ Change plan settings (หัวข้อนี้จะทำหรือไม่ทำก็ได้ เพราะปกติระบบจะตั้งเอาไว้ว่าถ้าไม่มีการอ่าน/เขียนข้อมูลของฮาร์ดดิสก์ภายในระยะเวลา 20 นาที ตัวฮาร์ดดิสก์จะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ฮาร์ดดิสก์นั่นเอง)

คลิกหัวข้อ Change advanced power settings

เลือกหัวข้อ Hard disk -> Turn off hard disk after -> ตั้งค่าเป็น ” ” (ศูนย์) แล้วกด Apply -> OK

11. ลบไฟล์ขยะของระบบออกด้วย Disk Cleanup

เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ไปสักระยะหนึ่ง จะมีการเก็บสะสมไฟล์ขยะเอาไว้ ทำให้กินพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์เยอะขึ้นเรื่อยๆ ไดรฟ์ที่ได้ติดตั้ง Windows 7 เอาไว้ก็จะเหลือพื้นที่ว่างลดลง การทำงานโดยรวมก็จะเริ่มช้าลง

โดยเปิดเครื่องมือ Disk Cleanup ขึ้นมา

ตรงนี้เครื่องของบางท่าน ถ้าไม่เคยลบไฟล์ขยะเลย จะใช้เวลาประมวลผลนานหน่อยนะครับ

เมื่อเปิดเข้ามา ก็ติ๊กเครื่องหมายถูกเลือกหัวข้อที่สำคัญ เช่น Downloaded Program File, Temporary Internet Files, Recycle Bin, Temporary files แล้วกด OK -> Delete Files

ตรงนี้ก็จะช่วยให้ระบบไม่มีการเก็บไฟล์ขยะค้างเอาไว้ในโฟลเดอร์ Temp เพราะเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง จะมีการลบไฟล์ขยะในโฟลเดอร์ Temp ทันที แต่ผมคงจะไม่ขอลงรายละเอียดเพิ่ม เพราะข้อมูลต่างๆอยู่ในลิงค์ดังกล่าวแล้วครับ

นอกเหนือจากตรงนี้ ถ้าหากเพื่อนๆยังติดปัญหาตรงส่วนใด ก็สามารถโพสต์ลงกล่องข้อความ Facebook Comment หรือจะใช้ Leave a Reply ทั้ง 2 ตัวด้านล่างก็ได้เช่นเดียวกันนะครับ ไว้เดี๋ยวอีกไม่นาน ผมจะเพิ่ม Recent Comment เอาไว้ที่แถบบาร์หรือ Widget ที่ขวามือของเว็บเอาไว้ให้ด้วย เผื่อท่านใดติดปัญหา แล้วโพสต์ผ่าน Leave a Reply ผมหรือเพื่อนท่านใดที่ผ่านไปมา ก็จะช่วยตอบปัญหากันได้ทันที ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมเว็บไซต์เล็กๆแห่งนี้มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ส่วนเสริม

เพิ่มเติม

[Update] การตั้งค่า Windows 7 ให้เหมาะสมกับ SSD | วิธีคืนค่า windows 7 – Tinhocvanphongs

SSD (Solid State Drives) เป็นฮาร์ดดิสก์แบบใหม่ที่เป็นการใช้ชิปหน่วยความจำเก็บข้อมูลแทนจานแม่เหล็ก พูดง่ายๆ ก็เหมือนกับ FlashDrive ที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้นั่นเอง โดยในตัวฮาร์ดิสก์แบบ SSD มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วน คือ ชิปหน่วยความจำกับชิปคอนโทรลเลอร์สำหรับควบคุมการทำงาน ในท้องตลาดที่ผลิตมา 2 แบบ แบ่งตามชนิดของชิปหน่วยความจำ ซึ่งในที่นี่ขอแนะนำแต่ละแบบเป็นพอสังเขป คือ

1.NOR Flash จะเป็นแบบที่หน่วยความจำแต่ละชิปจะถูกเชื่อมต่อกันแบบขนาน ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างอิสระและอ่านข้อมูลได้รวดเร็วมาก แต่มีความจุต่ำและราคาแพงมากกว่าอีกแบบที่จะกล่าวถึง
2.NAND Flash จะเป็นแบบเข้าถึงข้อมูลทีละบล็อกทำให้มีความจุสูงราคาถูก เอาให้เห็นภาพก็ FlashDrive ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ล่ะเป็นแบบ NAND Flash เพราะราคาถูกกว่า ซึ่งยังแบ่งเป็นอีก 2 ประเภท

  • Single-Level Cell (SLC) – ในแต่ละเซลเก็บข้อมูลได้ 1 บิต ทำงานเร็วกินพลังน้อย และมีอายุการใช้งานนาน (เขียนได้ 1 แสนครั้งโดยประมาณ) แต่ราคาสูง
  • Multi-Level Cell (MLC) ? ใน 1 เซลเก็บข้อมูลได้มากกว่า 1 บิต (ปัจจุบัน 1 เซลเก็บได้ 2 บิต และอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้เก็บได้มากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วต่ำกว่า ใช้พลังงานมากกว่า SLC เขียนได้ ไม่เกิน 1 หมื่นครั้ง แต่ก็มีราคาถูก

ข้อดีข้อเสียของ SSD

ข้อดี

  • ใช้เวลาเข้าถึงข้อมูลน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์เพราะไม่มีหัวอ่าน ไม่มีจานแม่เหล็ก ไม่ต้องหมุน สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เลย
  • เงียบเพราะไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้เหมือนฮาร์ดดิสก์
  • ทนแรงกระแทก การสั่นสะเทือน และอุณหภูมิที่สูงกว่า
  • น้ำหนักเบา
  • ความร้อนเกิดจากการทำงานน้อยมาก
  • ปัญหาเรื่องการกระจายของไฟล์ (File Fragmentation) ไม่มีผลต่อ ความเร็วของ SSD อีก

ข้อเสีย

  • ราคาแพง เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์ (แต่ตอนนี้ถูกลงมากแล้วนะ)
  • ความจุต่ำ
  • ความคงทนในการใช้งาน อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า เขียนได้แบบจำกัดจำนวนครั้งต่อ 1 บล๊อก ส่วนอ่านไม่มีปัญหา
  • การใช้งาน SSD ให้มีประสิทธิภาพ ต้องปรับค่า SATA เป็น AHCI Mode เท่านั้น ถ้าหากปรับเป็น IDE Mode จะทำให้ความเร็วไม่ต่างกับการใช้ HDD
  • ห้ามทำการ Defrag เพราะถือเป็นการไปกระตุ้นให้เขียนข้อมูลซ้ำในจุดเดิมๆ บ่อยขึ้นไปอีก

เมื่อทราบพอสังเขปแล้วว่า SSD คืออะไรและมีดีมีเสียอย่างไร คราวนี้ก็มาถึงการลงวินโดว์ที่ใช้กับ SSD จากเอกสารของไมโครซอฟท์ได้แนะนำวินโดวส์ที่เหมาะสมกับ SSD ก็คือ Windows 7 ขึ้นไป เพราะว่าเป็นวินโดวส์ที่ได้ออกแบบให้รองรับ SSD ได้สมบูรณ์แบบกว่า Windows XP และ Vista ซึ่ง 2 เวอร์ชันที่กล่าวนี้มีการออกแบบที่ขัดแย้งกลับการทำงานของ SSD พอสมควร ยกตัวอย่างเช่น Windows XP มีการทำงานที่เริ่มต้นบันทึกพาร์ทิชันของระบบไว้ที่ Sector 126 เป็นต้นไป ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวนี้ จะไปอยู่ระหว่างกลางของ Pages ใน SSD พอดี ทำให้บันทึกข้อมูลในหลายๆ ไฟล์ลงไปได้เพียงได้แค่ครึ่งเดียวของ Pages เท่านั้นจนส่งผลให้มีกระบวนการอ่านเขียนข้อมูลที่ไม่จำเป็นตามมา ข้อมูลของไมโครซอฟท์ กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้การทำงานของระบบโดยรวมช้าลงไปได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว (วิธีแก้ไขปัญหาWindows XP และ Vista ก็สามารถทำได้ แต่ขั้นตอนมีมาก ผมขอผ่านไม่อธิบายนะครับ)

ตามที่กล่าวมาแล้วว่า Windows 7 นั้นเหมาะสมกับ SSD แต่ก็ใช่ว่าจะลง Windows 7 แล้วใช้ได้ตามปกติสักทีเดียว เพราะ การทำงานปกติของวินโดวส์ก็มีบางอย่างไม่เอื้ออำนวยในการทำให้ SSD ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะ SSD ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์จานหมุนที่เป็นจานแม่เหล็ก การเขียนข้อมูลย่อมไม่เหมือนกัน วิธีการทำงานของวินโดวส์แบบปกติจะไปทำลายประสิทธิภาพและอายุงานของ SSD

ตั้งค่า Windows 7 ให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับ SSD

ปิดการใช้งาน Task Scheduler

ปกติวินโดวส์จะมีการทำงานอัตโนมัติในฟีเจอร์บางตัวเป็นค่าดีฟอลต์ โดยมีการตั้งค่าให้ทำงานไว้ที่ Task Scheduler ฉะนั้นควรจะปิดการทำงานบางอย่างของวินโดวส์ที่ไปขัดแย้งหรือไปลดประสิทธิภาพของ SSD โดยเรียก Task Scheduler ขึ้นมาตามนี้

1.คลิกขวาที่ไอคอน Computer คลิก Manage

?

2.ที่หน้าต่าง Computer Management ให้คลิก System Tools > Task Scheduler > Task Scheduler Library > Microsoft > Windows > Defrag

3.ที่กลางหน้าต่างให้คลิกขวาที่ ScheduledDefrag เลือกคำสั่ง Disable

?

4.จากนั้นเลื่อนลงมาคลิกที่ Offline Files แล้วคลิกขวาที่รายการที่กลางหน้าต่าง เลือก Disable ทั้งสองรายการ

5.จากนั้นเลื่อนลงมาคลิกที่ WindowsBackup แล้วคลิกขวาที่รายการที่กลางหน้าต่าง เลือก Disable

?

?ปิดการใช้งาน Services บางตัว

Services ก็เป็นอีกนึงการทำงานของวินโดวส์ที่มีค่าดีฟอลต์ให้ทำงานอัตโนมัติ เราก็ควรปิดในบาง Services ที่ไม่ควรใช้กับ SSD

1.ยังอยู่ที่หน้าต่าง Computer Management แต่ให้คลิก Services and Applications > Services

2. Services แรกที่ต้องปิดคือ Disk Defragmenter วิธีปิด Services ทำได้โดยดับเบิลที่ Services จะมีหน้าต่าง Properties ของ Services เปิดออกมาที่ Startup type จะมีค่าการทำงานของ Service ขณะนั้นอยู่ให้เลือกเป็น Disabled แล้วคลิกปุ่ม Start เพื่อให้สถานะการทำงานอยู่ในโหมด Disable (ปิดการทำงาน)

นอกจากจาก Disk Defragmenter ยังต้องไปตาม Disable ตัว Services อื่นๆ อีก ดังนี้ Offline Files, Superfetch, Windows Backup และ ?Windows Search วิธีการก็ลักษณะเดียวกับ Disk Defragmenter

ปิด System Restore

System Restore เป็นฟีเจอร์ของวินโดวส์ที่จะเก็บจุดคืนกลับของวินโดวส์เป็นระยะๆ และกินพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ซึ่งพื้นที่แต่ละ byte ของ SSD นั้นแพงมากเมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์จานหมุน ฉะนั้นปิดซะ เอาพื้นที่มาเก็บข้อมูลอื่นๆ ดีกว่า

1.คลิกขวาที่ไอคอน Computer เลือดคำสั่ง Properties

2.ที่หน้าต่าง System ให้คลิก System protection

?

3.ที่หน้าต่าง System Properties ให้คลิกที่ไดร์ฟ C: แล้วคลิกที่ Configure..

4.ต่อมาให้คลิกเลือกทำเครื่องหมายจุดที่ Turn off system protection และที่ Disk Space Usage รายการ Max Usage ให้เลื่อนสไลด์บาร์มาด้านซ้ายมือสุดคลิก Delete

5.จะมีคำเตือนจากวินโดวส์ว่าระบบจะไม่สามารถย้อนกลับคืนค่าเก่าได้พร้อมทั้งจะลบ Restore point ที่มีอยู่ก่อนหน้า ให้คลิก Continue

ย้าย Page file ไปไดร์ฟอื่น

Page file คือ หน่วยความจำเสมือนที่ทำหน้าที่คล้าย RAM (Random Access Memory) แต่ใช้เนื้อที่ของฮาร์ดดิสก์แทน โดยใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลช้ากว่า Page file นี้มีมาตั้งแต่สมัย? Windows 3.11 ซึ่งขนาดของมัน ถ้าหากไม่ได้ตั้งค่าอะไรเองก็จะถูกกำหนดโดยวินโดวส์โดยคำนวณจากหน่วยความจำ (RAM) ที่เครื่องมีอยู่ สำหรับ SSD ที่ลงวินโดวส์ไม่ควรมี Page file เพราะจะมีการเขียนข้อมูลซ้ำบ่อย ทำให้มีผลต่ออายุการใช้งาน สมควรย้ายออกไปอยู่ที่ไดร์ฟอื่นที่ไม่ใช่ SSD

1.จากขั้นตอน ปิด System Restoreที่ผ่านมาเรายังอยู่ที่หน้าต่าง System Properties ให้คลิกที่แท็บ Advanced แล้วคลิกที่ Settings ภายใต้หัวข้อ Performance

2.จะมาที่หน้าต่าง Performance Options ให้คลิกที่แท็บ Advanced ที่หัวข้อ Virtual memory ให้คลิกที่ Change..

3.ทำการยกเลิก Page file ในไดร์ฟ C โดยคลิกเลือกที่ C แล้วคลิกเลือกทำเครื่องหมายจุดที No paging file แล้วคลิกที่ ?Set

4.ทำการย้าย Page file ไปไว้ที่ไดร์ฟอื่น ที่เป็นฮาร์ดดิสก์ทั่วไป โดยคลิกเลือกไดร์ฟที่ต้องการ ในรูปจะเป็น D แล้วคลิกทำเครื่องหมายจุดที่ System managed size แล้วคลิกที่ Set ?เพื่อให้วินโดวส์กำหนดขนาดของ Page file เอง แต่ถ้าจะกำหนดเองก็ได้ โดยเลือกที่ Custom size แล้วใส่ค่าใน Initial size และ Maximum size โดยค่าที่กำหนด ให้ดูจากหัวข้อ Total paging file size for all drives ในส่วนของ Recommended ดูว่าวินโดวส์ต้องการไฟล์ขนาดเท่าไหร่ โดยมีหลักคำนวณคร่าว ๆ ของค่า Maximum size จะเป็น 1.5 เท่า ของแรม (RAM) ที่มีอยู่ ยกตัวอย่าง เช่น

มีแรมอยู่ 4GB ก็จะเป็น 6144 ?(4 x 1.5 x 1024) และค่า Initial size จะเป็นค่าแรม (4 x 1024)

จัดการย้าย Temp files

Temp files คือ ไฟล์ข้อมูลที่สร้างขึ้นในหน่วยความจำหรือในฮาร์ดดิสก์โดยวินโดวส์หรือโปรแกรมอื่นๆ เพื่อใช้ในระหว่างการทำงาน เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็จะลบไป แต่มักจะลบไม่หมดเหลือเป็นซากไฟล์ขยะในฮาร์ดดิสก์? Temp files ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่สมควรอยู่ใน SSD

1.เสร็จจาก ย้าย Page fileกลับมาที่หน้าต่าง System Properties ไปที่แท็บ Advanced คลิกที่ Environment Variables

2.ทำการเปลี่ยนที่เก็บ Temp file ที่ User variables for? xxxx โดยเลือกคลิกที่ TEMP และ TMP แล้วคลิก Edit

3.เปลี่ยนที่เก็บไฟล์ในช่อง Variable value ให้เป็นไดร์ฟอื่น เช่น D:\Temp และ D:\TMP

?

ยกเลิก Hibernate
Hibernate เป็นฟีเจอร์ของวินโดวส์ที่จะปิดเครื่องแล้ว เมื่อเปิดมาใหม่วินโดวส์จะเรียกไฟล์หรือโปรแกรมต่างๆ ที่เปิดค้างไว้เมื่อตอนปิดเครื่องครั้งก่อนขึ้นทำงานทันที ช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วขึ้น แต่ก็ต้องเสียพื้นที่ใน SSD อันมีค่าประกอบกับ SSD มีการทำงานที่เร็วมากในการเรียกโปรแกรมมาใช้งาน เราก็ไม่จำเป็นใช้งาน Hibernate ในแบบฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนอีก

1.คลิกปุ่ม Start เลือก All Programs เลือกไปที่ Accessories ?คลิกขวาที่ Command Prompt เลือก Run as administrator

?

2.หน้าต่าง Command Prompt จะเปิดออกมา ให้พิมพ์คำสั่ง powercfg -h off? แล้ว Enter
ไฟล์ hiberfil.sys (ไฟล์ของ Hibernate )ใน C จะถูกลบและการใช้งาน Hibernate จะถูกยกเลิก

?

?ปิด Sleep Mode

Sleep Mode สำหรับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ก็เป็นสิ่งที่ควรทำเพราะเมื่อวินโดวส์ไม่มีการใช้งานเป็นระยะเวลานึ่ง ระบบก็จะสั่งให้ฮาร์ดดิสก์หยุดทำงานเพื่อประหยัดพลังงานและช่วยยืดอายุการใช้งานของฮาร์ดดิสก์ (ไม่ต้องหมุนตลอดเวลา) แต่ SSD ไม่มีส่วนใดที่เคลื่อนไหวกินพลังงานก็น้อยมาก เมื่อไม่ได้ใช้งานก็ยิ่งน้อยเข้าไปอีก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ฟีเจอร์นี้ ในส่วนของฮาร์ดดิสก์

1.คลิกปุ่ม Start พิมพ์ power options ลงในช่องว่าง Search แล้ว Enter

?

2, ที่หน้าต่าง Power Options ให้คลิกที่ Change plan settings ใน Power plan ที่ใช้งานอยู่

3.ต่อมาคลิก Change advanced power settings

?4.คลิกเลือกที่ Hard disk จะมีรายการ Turn off hard disk after

  • สำหรับ Computer (PC)
    ในรายการย่อย Setting (Minutes) ให้ใส่เลข 0 ลงไป
  • สำหรับ Laptop
    ในรายการย่อย On battery (Minutes) และ Plugged in (Minutes) ให้ใส่เลข ลงไป

?

ปิด Index files (ดัชนีในการค้นหาข้อมูล)

Index files ?คือการตรวจสอบไฟล์ทั้งหมดที่อยู่บนฮาร์ดดิสก์และมาทำเป็นดัชนี เพื่อการค้นหาไฟล์ในระบบที่รวดเร็ว แต่นั้นก็ต้องแลกด้วยทรัพยากรของเครื่องอย่าง เช่น แรม และพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ที่เก็บไฟล์ Index และจะมีการเขียนข้อมูลซ้ำๆ เกิดขึ้นเกินความจำเป็นสำหรับ SSD

1.ให้คลิกขวาที่ไอคอนของไดร์ฟ C เลือกคำสั่ง Properties

2.คลิกเอาเครื่องหมายถูกออกจาก Allow files on this drive to have contents indexed in addition to file properties? คลิกApply

?

3.ต่อมาให้คลิกทำเครื่องหมายจุดที่ Apply changes to drive C:\, subfolders and files แล้วคลิก OK

?

4.ถ้ามีหน้าต่างเตือนขึ้นมา ให้คลิกที่ Ignore All

?

?จบแล้วครับยาวสักหน่อยนะครับ สำหรับบทความนี้ สำหรับท่านที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ที่เป็น SSD ถ้าคุณปรับแต่งให้ได้ตามนี้ คุณจะมีวินโดวส์ที่ทำงานร่วมกับ SSD ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของ SSD และยังเป็นการยึดอายุการใช้งาน SSD ให้อยู่กับคุณได้นานขึ้น

วิธี Reset ล้างเครื่องคอมให้เหมือนใหม่ โดยไม่ต้องใช้ Flash Drive ลง Windows

เวลาอยากจะ Reset ล้างเครื่องคอมใหม่ หลายคนอาจจะได้วิธีการลง Windows ใหม่ผ่านแฟลชไดร์ ซึ่งถือว่าสะดวกและรวดเร็ว แต่ถ้าหากไม่มีแฟลชไดร์ละทำยังไง ปกติแล้วตัว Windows 10 เองก็สามารถ Reset ล้างเครื่องให้เหมือนใหม่ได้เพียงไม่กี่ขั้นตอน และใช้เวลาแทบไม่ต่างกับลงใหม่ โดยจะมีขั้นตอนการทำยังไงบ้างมาดูกันครับ

ฝากกดติดตามและเข้ากรุ๊ป \”คอมคร้าบ\” กันได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลยครับ
Facbook Group : //www.facebook.com/groups/2594751244112180
Fanbook Fanpage : //www.facebook.com/comcraft.ds

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

System Restore Windows 7 | รีสโตร์ระบบวินโดว์ 7 แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์

System Restore Windows 7 | รีสโตร์ระบบวินโดว์ 7 แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ เป็นการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะตัดสินใจลงวินโดว์ใหม่ ทำให้ง่ายต่อการแก้ปัญหา สามารถทำได้ง่ายๆ
//www.youtube.com/user/sp8929
google + | //plus.google.com/u/0/100624573219262546844/posts
facebook | //www.facebook.com/profile.php?id=100000462450753
ID Line : thee_phat

How To Repair Windows 7 And Fix Corrupt Files Without CD/DVD [Tutorial]

Repair Windows 7 startup using a builtin utility in Windows.
Topics addressed in this tutorial:
repair Windows 7 without CD
repair windows 7 using command prompt
repair Windows 7 boot
repair Windows 7 without using CD
repair windows 7 boot error 0xc00000e9
repair Windows 7 using automatic repair
repair Windows 7 command prompt
repair Windows 7 using USB
repair Windows 7 startup
repair windows 7
repair Windows 7 after changing motherboard
repair Windows 7 after failed update
repair Windows 7 after replacing motherboard
repair windows 7 ASUS
repair Windows 7 after new motherboard
repair windows 7 command line
repair Windows 7 corrupted files
repair Windows 7 CMD
how to repair Windows 7 without CD
Startup Repair or Automatic Repair in Windows 8, 8.1, and Reset in Windows 10 will try to automatically repair computers that are unbootable because of any of a number of reasons.
Startup Issues this guide can help with :
Has your Registry become corrupted?
Are there missing or damaged system and driver files?
Are you experiencing Disk metadata corruption like MBR, partition table, and boot sector or file system metadata corruption?
Having issues installing problem or incompatible drivers?
Installation of Windows service packs and patches coming back with incompatible errors?
Corrupt boot configuration data?
Bad memory and hard disk hardware errors?
You will want to run a Startup Repair when you are experiencing these issues, but while its early enough that no other issues have been caused as a knock on effect.
This tutorial will apply for computers, laptops, desktops, and tablets running the Windows 10, Windows 8/8.1, Windows 7 operating systems. Works for all major computer manufactures (Dell, HP, Acer, Asus, Toshiba, Lenovo, Samsung).

Hướng Dẫn Reset/Cài Đặt Lại Windows 10 Trên Laptop

Bạn Sẽ PHẢI LÀM Việc Này Trước Khi Bán Laptop! 💥 | Hướng Dẫn Reset Windows 10 Trên Laptop
Mỗi khi chiếc máy tính của chúng ta gặp trục trặc, có thể đó là những lỗi xung đột phần mềm hoặc phần cứng. Đó cũng có thể do các cài đặt bạn điều chỉnh trong hệ thống không hợp lý dẫn đến lỗi. Và giải pháp bạn nghĩ ngay đến lúc này đó là: Cài lại win laptop. Bạn bắt đầu lên mạng tìm kiếm các hướng dẫn cài win cho laptop, pc. Nhưng có thể bạn chưa biết, việc cài đặt lại hoàn toàn windows trên laptop vừa mất thời gian, vừa không tối ưu bằng phần mềm được cài đặt sẵn trong máy.
Bên cạnh đó, nếu bạn muốn bán laptop cũ đã sử dụng của mình cho người lạ, hay đem cho tặng bạn bè hoặc người thân, thì việc xoá dữ liệu cũng như cài đặt lại laptop cũng là việc cần làm. Vậy làm điều đó như thế nào? Hướng dẫn cách reset windows trên laptop ra sao? Mời các bạn cùng theo dõi trong video hôm nay nhé!
Windows10 Reset_Laptop TNCChannel

💥💥💥 BẠN MUỐN TÌM HIỂU CÁC MẪU LAPTOP 2021 GIÁ TỐT NHẤT? XEM NGAY LINK DƯỚI:
💻 GAMING LAPTOP
👉 //www.tncstore.vn/gaminglaptop.html
💻 LAPTOP VĂN PHÒNG
👉 //www.tncstore.vn/Laptopvanphong.html

Tham gia ngay group Hội những người đam mê build PC để cùng chém gió tất tần tật về PC với Sơn Râu và đội ngũ TNC Channel tại đây nhé anh em: //goo.gl/XVToc1

Hãy để TNC gần các bạn hơn nhé:
►YouTube: //metub.net/tncchannel
►Fanpage FB: //www.facebook.com/tncstore/
►Website: //www.tncstore.vn/
►Instagram: //www.instagram.com/tncstore_vn/

🏢 Showroom: 172 Lê Thanh Nghị Hai Bà Trưng Hà Nội
☎ Tel: (024) 36288790 36230369
🏪 Hỗ trợ tư vấn Online 24/07
✈️ Ship hàng toàn quốc Ship hàng miễn phí trong nội thành Hà Nội
🔎 Website: www.tncstore.vn

© Bản quyền thuộc về TNC Channel
© Copyright by TNC Channel☞ Do not Reup

“รัฐเคนทักกี” พังยับเยิน พายุทอร์นาโดถล่มเหลือแต่ซาก l TNN News ข่าวเช้า l 12-12-2021

เปิดภาพความเสียหายมุมสูงที่น่าตกใจจากพลังมหาศาลของพายุทอร์นาโดที่พัดถล่มรัฐเคนทักกี หลายพื้นที่เสียหายยับเยิน อาคารบ้านเรือนและรถยนต์ถูกทำลายเหลือแต่ซาก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน สูญหายอีกกว่า 70 คน
ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16
//www.tnnthailand.com
//tv.trueid.net/live/tnn16
//www.youtube.com/c/tnn16
//www.facebook.com/TNNthailand/
//www.facebook.com/TNN16LIVE/
//twitter.com/tnnthailand
//www.instagram.com/tnn_online/
//www.tiktok.com/@tnnonline
Line @TNNONLINE หรือคลิก //lin.ee/4fP2tltIo
ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆTech

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ วิธีคืนค่า windows 7

ทำยังไงให้คอมเร็วขึ้น

10 วิธีในการเพิ่มความเร็วให้กับ PC ระบบ Windows 10.
1. ตรวจสอบข้อมูลอัพเดตล่าสุด ... .
2. รีสตาร์ท PC. ... .
3. การปิดโปรแกรมที่เริ่มทำงานเมื่อเปิดเครื่อง ... .
4. Disk Cleanup. ... .
5. ลบซอฟต์แวร์เก่า ... .
6. ปิดใช้งานเอฟเฟกต์พิเศษ ... .
7. ปิดใช้งานเอฟเฟกต์โปร่งแสง ... .
8. เรียกใช้ฟังก์ชั่นดูแลรักษาระบบ.

Setting window 7 อยู่ตรงไหน

จากหน้าจอ Desktop. เลื่อนเมาส์ของคุณไปยังมุมขวาบนหรือมุมขวาล่างของหน้าจอเดสก์ทอปของคุณ เมื่อแถบหน้าจอของเมนูปรากฏขึ้น ให้คลิกที่ Settings.

อัพเดท Windows 7 ยังไง

Windows 7. เลือกเริ่ม>แผงควบคุม>และความปลอดภัยของ> Windows Update.

ทำยังไงให้โน๊ตบุ๊คเร็วขึ้น

เทคนิคทำให้คอมพิวเตอร์พีซีหรือโน๊ตบุ๊ค ทำงานได้เร็วขึ้น.
จำกัดโปรแกรมที่ทำงานเบื้องหลังตั้งแต่เปิดเครื่อง.
UNINSTALL โปรแกรมที่ไม่ใช้งาน.
ลบไฟล์ขยะออกไปจากเครื่อง.
ใช้ Ready boost ในการเพิ่มความเร็ว คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คของคุณ.
ไม่ควรเปิดโปรแกรมทำงานพร้อมกันเป็นจำนวนมาก.
ปิดการทำงาน visual effects..

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก